ถ้าพูดถึงย่านธุรกิจกลางเมือง หลายๆ คนก็อาจนึกถึงย่านถนนสีลม ที่เต็มไปด้วยออฟฟิศจำนวนมาก
ในย่านนี้ มีถนนธนิยะ ซึ่งถูกจัดว่าเป็นย่านกินดื่มหลักของนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นก็ว่าได้ ซึ่งนอกจากบาร์ญี่ปุ่นแล้ว ถนนธนิยะ ยังมีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่อีกมาก
ผมเองทำงานในพื้นที่แถวๆ นี้มาเกือบๆ 20 ปี จึงมีร้านประจำเวลาอยากกินซูชิอยู่บ้าง
ถ้าเป็นเวลาที่อยากกินซูชิหลากหลาย ในราคาไม่แพง ผมจะเลือกร้าน "Kozo Sushi"
ร้านนี้ อยู่บนชั้น 3 อาคารธนิยะพลาซ่า (ใครชอบเล่นกอล์ฟ ตึกนี้ร้านขายอุปกรณ์กอล์ฟเพียบ)
ทำไมถึงบอกว่าจะเลือกร้านนี้ในเวลาที่อยากกินในราคาที่ไม่แพง เพราะร้านนี้ เป็นร้านซูชิสายพาน ที่มื้อกลางวัน จะจัดเป็นบุฟเฟต์ ในราคา 325 บาท
ค่าชาเขียวรีฟิล (ร้อนหรือเย็นก็ได้) อีก 40 บาท
รวมแล้ว มื้อหนึ่งจ่าย 365 บาท อิ่มได้เต็มที่
ไปดูกัน ว่าวันนี้กินอะไรไปบ้าง
ก่อนอื่น เริ่มกันที่ ซุปฟรี เติมได้ (วันนี้เป็นมิโสะ บางวันเป็นซุปใส)
จานแรก ซูชิแซลมอน วันนี้ปลาสดดี
จานที่สอง ซูชิปลาทราย ซึ่งเป็นซูชิที่หาร้านอื่นไม่ค่อยได้
ซูชิปลาทรายของที่นี่ จะโรยต้นหอมสับ และบีบมะนาว ให้รสเปรี้ยวนิดๆ
จานที่สาม ทูน่า เนื้อแดง สด แต่ไม่ใช่เนื้อส่วนที่มีมันเยอะ แต่บางวันก็ได้เนื้อปลาแบบมีลายบั้งๆ บ้างนะ
จานที่สี่ ลูกชิ้นปลาชิคุวะทอด ซอสของทอดมีใส่เป็นขวดวางไว้ให้บนเคาน์เตอร์
จานที่ห้า ปลาทอดเนย ชุบแป้งบางๆ มีซอสมายองเนสสีเขียว เข้าใจว่าน่าจะใส่ผักบางอย่างคล้ายๆ ซอสเพสโต้
จานที่หก ไข่ตุ๋น มีเนื้อไก่ เนื้อปลา และลูกชิ้นปลาอยู่ข้างใน
จานที่เจ็ด ซูชิแซลมอนลนไฟ เมนูนี้เพิ่งมีเพิ่มเข้ามาในช่วงสัก 2-3 ปีหลังนี่เอง
จานที่แปด กุนกันมากิสลัดมันฝรั่ง ผสมไข่กุ้ง กับแตงกวา
จานที่เก้า สลัดมันฝรั่ง
จานที่สิบ ซูชิปลาหมึก น่าเสียดายที่ไม่ได้บั้งเนื้อปลาหมึกสักหน่อย ออกเหนียวนิดๆ
จานที่สิบเอ็ด อันนี้เบิ้ลปลาทราย จับสองจานมารวมกัน จริงๆ แล้วที่นี่มีอีกอย่างที่หากินยาก คือ ซูชิปลาอาจิ แต่วันนี้ปลาอาจิไม่มี
จานที่สิบสอง กุ้งเทมปุระ ตัวใหญ่ยาวล้นจาน กับเทมปุระฟักทองวางมาข้างล่าง
จานที่สิบสาม ปิดท้ายที่ของหวาน คัสตาร์ด... ของหวานในไลน์บุฟเฟต์ นอกจากคัสตาร์ด ก็ยังมีผลไม้ แตงโม สัปปะรด ด้วย
จริงๆ แล้ว มี ปลาซาบะย่างซีอิ้ว (ชิ้นขนาด 1/6 ตัว คือ แล่เป็น 2 ข้าง แล้วหั่นข้างละ 3 ชิ้นโดยประมาณ) ซูชิซาบะดอง ซูชิกุ้ง กับ ซูชิปลาหมึกยักษ์ ที่ไม่ได้ถ่าย และมีซูชิปลาไหลที่ออกมาตอนกำลังกินคัสตาร์ตและเริ่มอิ่มแล้ว
ของที่ปกติจะกิน แต่วันนี้ไม่ได้ออกมาบนไลน์ หรือไม่ก็หยิบไม่ทันคนอื่น คือ ซูชิปลาอาจิ ซูชิปลากะพง
นอกจากพวกซูชิ ก็ยังมีอาหารครัวร้อนอีกหลายอย่าง เช่น ไก่ทอด หมูย่างซีอิ้ว หัวปลาต้มซีอิ๊ว พวกผักนึ่ง เต้าหู้ราดซอสมะเขือเทศหมูสับ ที่ไม่ได้หยิบกินวันนี้
ร้านนี้ ช่วงหลังๆ มานี่ บางครั้งไปแล้วลูกค้าน้อย บางวันมีลูกค้ามื้อกลางวันแค่ 3 คน แต่วันนี้ลูกค้าเต็มร้าน
อยากให้ร้านนี้อยู่ไปได้นานๆ...
.
.
.
.
.
แต่.
.
.
.
.
คุณพี่สาวหัวหน้าพนักงาน แอบกระซิบว่า
"ร้านจะปิดสิ้นเดือนนี้แล้ว"
เจ้าของร้านก็ยังไม่ได้บอกพนักงาน ว่า วันสุดท้ายจะเป็นวันไหน แต่สำหรับผม... เดือนนี้คงหาโอกาสไปสั่งลาอีกสักครั้ง
บุฟเฟต์ซูชิ กลางเมือง คุณภาพสมราคา ที่เคยกินมาหลายปี
ในย่านนี้ มีถนนธนิยะ ซึ่งถูกจัดว่าเป็นย่านกินดื่มหลักของนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นก็ว่าได้ ซึ่งนอกจากบาร์ญี่ปุ่นแล้ว ถนนธนิยะ ยังมีร้านอาหารญี่ปุ่นอยู่อีกมาก
ผมเองทำงานในพื้นที่แถวๆ นี้มาเกือบๆ 20 ปี จึงมีร้านประจำเวลาอยากกินซูชิอยู่บ้าง
ถ้าเป็นเวลาที่อยากกินซูชิหลากหลาย ในราคาไม่แพง ผมจะเลือกร้าน "Kozo Sushi"
ร้านนี้ อยู่บนชั้น 3 อาคารธนิยะพลาซ่า (ใครชอบเล่นกอล์ฟ ตึกนี้ร้านขายอุปกรณ์กอล์ฟเพียบ)
ทำไมถึงบอกว่าจะเลือกร้านนี้ในเวลาที่อยากกินในราคาที่ไม่แพง เพราะร้านนี้ เป็นร้านซูชิสายพาน ที่มื้อกลางวัน จะจัดเป็นบุฟเฟต์ ในราคา 325 บาท
ค่าชาเขียวรีฟิล (ร้อนหรือเย็นก็ได้) อีก 40 บาท
รวมแล้ว มื้อหนึ่งจ่าย 365 บาท อิ่มได้เต็มที่
ไปดูกัน ว่าวันนี้กินอะไรไปบ้าง
ก่อนอื่น เริ่มกันที่ ซุปฟรี เติมได้ (วันนี้เป็นมิโสะ บางวันเป็นซุปใส)
จานแรก ซูชิแซลมอน วันนี้ปลาสดดี
จานที่สอง ซูชิปลาทราย ซึ่งเป็นซูชิที่หาร้านอื่นไม่ค่อยได้
ซูชิปลาทรายของที่นี่ จะโรยต้นหอมสับ และบีบมะนาว ให้รสเปรี้ยวนิดๆ
จานที่สาม ทูน่า เนื้อแดง สด แต่ไม่ใช่เนื้อส่วนที่มีมันเยอะ แต่บางวันก็ได้เนื้อปลาแบบมีลายบั้งๆ บ้างนะ
จานที่สี่ ลูกชิ้นปลาชิคุวะทอด ซอสของทอดมีใส่เป็นขวดวางไว้ให้บนเคาน์เตอร์
จานที่ห้า ปลาทอดเนย ชุบแป้งบางๆ มีซอสมายองเนสสีเขียว เข้าใจว่าน่าจะใส่ผักบางอย่างคล้ายๆ ซอสเพสโต้
จานที่หก ไข่ตุ๋น มีเนื้อไก่ เนื้อปลา และลูกชิ้นปลาอยู่ข้างใน
จานที่เจ็ด ซูชิแซลมอนลนไฟ เมนูนี้เพิ่งมีเพิ่มเข้ามาในช่วงสัก 2-3 ปีหลังนี่เอง
จานที่แปด กุนกันมากิสลัดมันฝรั่ง ผสมไข่กุ้ง กับแตงกวา
จานที่เก้า สลัดมันฝรั่ง
จานที่สิบ ซูชิปลาหมึก น่าเสียดายที่ไม่ได้บั้งเนื้อปลาหมึกสักหน่อย ออกเหนียวนิดๆ
จานที่สิบเอ็ด อันนี้เบิ้ลปลาทราย จับสองจานมารวมกัน จริงๆ แล้วที่นี่มีอีกอย่างที่หากินยาก คือ ซูชิปลาอาจิ แต่วันนี้ปลาอาจิไม่มี
จานที่สิบสอง กุ้งเทมปุระ ตัวใหญ่ยาวล้นจาน กับเทมปุระฟักทองวางมาข้างล่าง
จานที่สิบสาม ปิดท้ายที่ของหวาน คัสตาร์ด... ของหวานในไลน์บุฟเฟต์ นอกจากคัสตาร์ด ก็ยังมีผลไม้ แตงโม สัปปะรด ด้วย
จริงๆ แล้ว มี ปลาซาบะย่างซีอิ้ว (ชิ้นขนาด 1/6 ตัว คือ แล่เป็น 2 ข้าง แล้วหั่นข้างละ 3 ชิ้นโดยประมาณ) ซูชิซาบะดอง ซูชิกุ้ง กับ ซูชิปลาหมึกยักษ์ ที่ไม่ได้ถ่าย และมีซูชิปลาไหลที่ออกมาตอนกำลังกินคัสตาร์ตและเริ่มอิ่มแล้ว
ของที่ปกติจะกิน แต่วันนี้ไม่ได้ออกมาบนไลน์ หรือไม่ก็หยิบไม่ทันคนอื่น คือ ซูชิปลาอาจิ ซูชิปลากะพง
นอกจากพวกซูชิ ก็ยังมีอาหารครัวร้อนอีกหลายอย่าง เช่น ไก่ทอด หมูย่างซีอิ้ว หัวปลาต้มซีอิ๊ว พวกผักนึ่ง เต้าหู้ราดซอสมะเขือเทศหมูสับ ที่ไม่ได้หยิบกินวันนี้
ร้านนี้ ช่วงหลังๆ มานี่ บางครั้งไปแล้วลูกค้าน้อย บางวันมีลูกค้ามื้อกลางวันแค่ 3 คน แต่วันนี้ลูกค้าเต็มร้าน
อยากให้ร้านนี้อยู่ไปได้นานๆ...
.
.
.
.
.
แต่.
.
.
.
.
คุณพี่สาวหัวหน้าพนักงาน แอบกระซิบว่า
"ร้านจะปิดสิ้นเดือนนี้แล้ว"
เจ้าของร้านก็ยังไม่ได้บอกพนักงาน ว่า วันสุดท้ายจะเป็นวันไหน แต่สำหรับผม... เดือนนี้คงหาโอกาสไปสั่งลาอีกสักครั้ง