บทที่ 3 เผชิญหน้าอีกครั้ง
“ ไม่นึกว่าจะได้เจอแกอีกครั้ง "
ผมจำมันได้ดี ร่างดำทมิฬ กรงเล็บที่แหลมคม และหางตรงยาวที่เหมือนดาบเหล็กกล้า
มันเป็นศัตรูตัวแรกที่ทำให้ผมกลัวจนขาสั่น มันช่างยาวนานมากหลังจากการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากมันครั้งนั้น
ผทคิดว่ามันเองก็คงจำผมได้เป็นอย่างดี พวกเราทั้งคู่ต่างหยุดนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ต่างดูท่าทีของอีกฝ่าย
ผมเองยังไม่มั่นใจว่าจะโค่นมันลงไหว เพราะผมเองยังมีบาดแผลจากการต่อสู้กับเจ้ายักษ์นั้นอยู่
“จ๋อม.!! "
เสียงปลาในน้ำกระโดดขึ้นมาเหมือนเป็นเสียงระฆังให้เปิดฉากการต่อสู้ มันกระโจนข้ามลำธารมาทางผม
ผมหมุนตัวแล้ววิ่งหนีไปทางป่าที่ผมมา เพราะผมจำได้ว่าทิ้งหินแหลมไว้ตรงที่ผมได้ต่อสู้กับเจ้ายักษ์
ผมพยามวิ่งซิกแซกไปมาเพื่อให้มันสับสน แต่ใครจะคิดว่ามันไม่ได้ตามจังหวะผมเลย
มันตัดต้นไม้ทุกต้นที่ขวางทางของมัน สัญชาตญาณนักล่าของมันยังน่ากลัวเหมือนเดิม เหมือนกับครั้งแรกที่เจอ
ผมวิ่งมาจนถึงอาวุธของผมแล้วหมุนตัวคว้าหินแหลมขึ้นมากันอย่างไว เพระาผมพอที่จะเดาการโจมตีแรกของมันได้
ใช่มันกระโจนใส่ผมพร้อมกรงเล็บของมัน ผมใช้หินแหลมเลี่ยงแนวกรงเล็บของมันไปทางขวาแทนที่จะรับตรง ๆ เพราะมันไม่คุ้มเลยที่จะรับการโจมตีของกรงเล็บ มันหนักหน่วงและรวดเร็ว มันใช้กรงเล็บของมันใส่ผมไม่หยุดยั้ง ตัวผมได้แต่ป้องกันการโจมตีของมัน ไม่มีช่องว่างให้สวนกลับเลย มันโจมตีและผมตั้งรับอยู่สักพัก มันคงรู้ว่าผมอ่านทางกรงเล็บมันออก มันเลิกใช่กรงเล็บแล้วเหวี่ยงหางของมันมาทางด้านซ้าย ผมพยามตั้งรับ แต่ก็สู้แรงหางของมันไม่ได้ตัวของผมกระเด็นไปไกล แขนของผมเขียวแสดงให้เห็นถึงรอยช้ำเพราะหางของมัน ถ้าผมโดนหางของมันอีกทีแขนของผมคงหักลงแน่ ๆ ผมคิดไม่ออกเลยว่าจะสู้กับมันยังไง ผมไม่มีอาวุธอะไรที่ยาวพอจะสวนกลับและทนแรงกระแทกหางของมันได้
“ โอ๊ย ๆ แกจะมาตายตรงนี้ได้ไงเนี่ย คุ คุ "
“ ใครหนะ?? "
เสียงดังขึ้นในหัวของผม ผมไม่รู้เสียงนั้นมาจากทางไหน
“ อยากจะไปช่วยน้องของแกไม่ใช่รึ คุ คุ "
“ แล้วจะให้ทำยังไงล่ะไอ้บ้าเอ้ย ผมมีแค่หินแหลมอันเดียวจะไปสู้กับมันได้ไง "
“ พลังของข้าไงล่ะ แกลองนึกภาพอาวุธที่แกอยากได้ในหัวของแกดูสิ ใช้หัวหน่อยสิเจ้าหนู คุ คุ
พลังที่ข้าให้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์หน่อย คุ คุ "
“ พลังอะไร แลัวนึกภาพในหัว พูดง่ายไปแล้ว สถานการณ์แบบนี้ใครจะนึกออก "
“ ข้าบอกให้นึกก็นึกเหอะน่า มั่วแต่เสียเวลา ตายไม่รู้ด้วยนะ คุ คุ "
“ อาวุธที่จะสู้กับมันงั้นหรอ "
“ อาวุธที่สามารถป้องกัน และสามารถสวนการโจมตีในทันที ”
จู่ๆ ก็มีแสงสว่างที่รอยสักของผม มันสว่างจนผมและเจ้าสัตว์ป่านั้นแทบมองไม่เห็น มันกระโดดออกห่างด้วยความตกใจ แขนขวาของผมมันค่อยๆ ร้อนขึ้น หินแหลมที่ใช้ล่าสัตว์ของผมมันค่อยๆละลายหลอมเข้ากับแขนของผม
“ อ๊าก.!! "
ผมร้องเพราะแขนขวาของผมมันร้อนมาก
เมื่อแสงที่แขนขวาหายไป เผยให้เห็นว่าแขนขวาผมมันเปลี่ยนไป ผมล้มลงเพราะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันกลายเป็นโล่ขนาดใหญ่สีดำสนิทและมีดาบแหลมที่ปลายของโล่ มันมีน้ำหนักที่เบามาก ผมสามารถเหวี่ยงมันไปมาได้อย่างสบาย
“ ถ้าเป็นอย่างนี้ผมสู้ได้แน่ "
ยังไม่ทันได้เชยชมอาวุธใหม่ของผม เจ้านั่นก็กระโจนเข้ามาหาผมและเหวี่ยงกรงเล็บของมันใส่ผม ผมยกอาวุธใหม่ของผมขึ้นป้องกัน กรงเล็บของมันแทบจะไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้กับโล่ได้เลย มันกระโดดกลับไป มันคงรู้ว่ากรงเล็บคงทำอะไรผมไม่ได้ มันเปลี่ยนมาใช้หางแทน ผมยกแขนขวาผมที่มีอาวุธใหม่ติดอยู่ ป้องกันอีกที หางของมันกระเด็นกลับไป เหมือนกับโดนสะท้อน
สุดยอดมันสามารถรับแรงกระแทก และสามารถสะท้อนการโจมตีได้ด้วย
“ คราวนี้ถึงตาผมสวนกลับแล้วละไอ้หมาโง่ "
ผมกระโจนและใช้ดาบเหล็กปลายโล่มุงตรงไปทางตัวมัน มันหมุนตัวแล้วพยามใช้หางปัดการโจมตี ผมใช้เท้าของผมเตะพื้นแล้วกระโดดลอยตัวขึ้น ไปกลางอากาศเลยไปข้างหลังของมันแล้วกระโดดเข้าหามันอีกที มันไม่ทันตั้งตัว ผมใช้ดาบปลายโล่ของผมฟันเข้าที่ขาของมันเข้าเต็มๆ ขาของมันขาดลง เลือดไหลออกจากขาทั้งสี่ข้างไม่หยุด มันไม่สามารถลุกหนีไปไหนได้แล้ว มันพยามใช้หางของมันพยุงตัวหนี
แต่ผมไม่ลังเลที่จะฆ่ามัน ใช้ดาบปลายโล่ฟันเข้าไปที่กลางคอของมัน กระเด็นออกไป เลือดของมันไหลพุ่งไปทั่วบริเวณโดยรอบ
หลังจบการต่อสู้อาวุธของผมก็ค่อย ๆ หดลงกลับกลายเป็นหินแหลมเหมือนเดิม
“ จบสักที ฮันน่าพี่แข็งแกร่งพอที่จะไปช่วยเธอหรือยัง "
แทนที่ผมจะดีใจกับชัยชนะครั้งนี้ ผมกับร้องไห้ที่ไม่สามารถช่วยน้องสาวผมให้ไวกว่านี้ ถ้าผมมีพลังนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะเกิด
ผมค่อยๆ เดินจากไป ผมไม่มีเวลามานั่งพัก น้องของผมยังรอให้ผมไปช่วยอยู่
ผมเดินไปเรื่อย ๆ พร้อมกับร่างกายที่เหนื่อยล้าและมีแต่รอยเลือดของเจ้าสัตว์ป่านั่น ผมเดินไปโดยไม่รู้จุดหมาย ผมคิดแต่ว่าต้องเดินไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะเจอเมืองสักเมืองแล้วสืบหาเบาะแส น้องสาวของผม
ผมเดินมาจนแทบหมดแรง จนผมมาหยุดที่ไหนสักที่มันดูเหมือนเป็นถนนที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ผมคิดว่ามันคงเป็นถนนที่เชื่อมต่อไปถึงเมืองที่ไหนสักเมือง มันเป็นถนนที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา
“ ชักเดินต่อไม่ไหวแล้วสิ "
ผมล้มลงกับถนนเพราะหมดแรง ตอนนี้ผมหิวน้ำเป็นอย่างมาก ในขณะที่ผมกำลังจะสลบผมรู้สึกเหมือนมีเสียงอะไรสักอย่างตรงมาทางผม
“ เป็นอะไรมากรึป่าว เธอคงจะหิวน้ำมาก รอแปปนะ "
เสียงผู้หญิง ! ผมได้ยินแต่ ไม่สามารถมองเห็นเธอได้ ภาพของเธอเบลอมากอาจเป็นเพราะผมหิวน้ำมาก ผมพยามที่จะมองเธอชัดๆแต่ไม่ทันได้มอง ภาพทุกอย่างก็มืดไป
..........
ปล.จบไปอีกตอน ขอบคุณท่านที่เข้ามาอ่านด้วยนะครับ ผมเขียนแบบพยามขีดหัวสมองตัวเองเลย
เดาการเดินทางต่อไปยังไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร
เพราะเรื่องนี้เขียนสด คิดไปเขียนไป ไม่ใช่ว่าเก่งนะครับ แต่ผมเป็นคนที่ลืมง่ายลองร่างเนื้อเรื่องในหัวไว้ สุดท้ายลืม ต้องมานั้งเริ่มใหม่
สุดท้ายถ้าผิดพลาดอย่างไรต้องขออภัยด้วยครับ ฝากนักเขียนมือใหม่ด้วยนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://ppantip.com/topic/38029017 บทนำ
https://ppantip.com/topic/38031656 บทที่1 จุดเริ่มต้น
https://ppantip.com/topic/38035255 บทที่2 ตื่นจากฝัน
พันธสัญญาปีศาจ
“ ไม่นึกว่าจะได้เจอแกอีกครั้ง "
ผมจำมันได้ดี ร่างดำทมิฬ กรงเล็บที่แหลมคม และหางตรงยาวที่เหมือนดาบเหล็กกล้า
มันเป็นศัตรูตัวแรกที่ทำให้ผมกลัวจนขาสั่น มันช่างยาวนานมากหลังจากการต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอดจากมันครั้งนั้น
ผทคิดว่ามันเองก็คงจำผมได้เป็นอย่างดี พวกเราทั้งคู่ต่างหยุดนิ่งไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ ต่างดูท่าทีของอีกฝ่าย
ผมเองยังไม่มั่นใจว่าจะโค่นมันลงไหว เพราะผมเองยังมีบาดแผลจากการต่อสู้กับเจ้ายักษ์นั้นอยู่
“จ๋อม.!! "
เสียงปลาในน้ำกระโดดขึ้นมาเหมือนเป็นเสียงระฆังให้เปิดฉากการต่อสู้ มันกระโจนข้ามลำธารมาทางผม
ผมหมุนตัวแล้ววิ่งหนีไปทางป่าที่ผมมา เพราะผมจำได้ว่าทิ้งหินแหลมไว้ตรงที่ผมได้ต่อสู้กับเจ้ายักษ์
ผมพยามวิ่งซิกแซกไปมาเพื่อให้มันสับสน แต่ใครจะคิดว่ามันไม่ได้ตามจังหวะผมเลย
มันตัดต้นไม้ทุกต้นที่ขวางทางของมัน สัญชาตญาณนักล่าของมันยังน่ากลัวเหมือนเดิม เหมือนกับครั้งแรกที่เจอ
ผมวิ่งมาจนถึงอาวุธของผมแล้วหมุนตัวคว้าหินแหลมขึ้นมากันอย่างไว เพระาผมพอที่จะเดาการโจมตีแรกของมันได้
ใช่มันกระโจนใส่ผมพร้อมกรงเล็บของมัน ผมใช้หินแหลมเลี่ยงแนวกรงเล็บของมันไปทางขวาแทนที่จะรับตรง ๆ เพราะมันไม่คุ้มเลยที่จะรับการโจมตีของกรงเล็บ มันหนักหน่วงและรวดเร็ว มันใช้กรงเล็บของมันใส่ผมไม่หยุดยั้ง ตัวผมได้แต่ป้องกันการโจมตีของมัน ไม่มีช่องว่างให้สวนกลับเลย มันโจมตีและผมตั้งรับอยู่สักพัก มันคงรู้ว่าผมอ่านทางกรงเล็บมันออก มันเลิกใช่กรงเล็บแล้วเหวี่ยงหางของมันมาทางด้านซ้าย ผมพยามตั้งรับ แต่ก็สู้แรงหางของมันไม่ได้ตัวของผมกระเด็นไปไกล แขนของผมเขียวแสดงให้เห็นถึงรอยช้ำเพราะหางของมัน ถ้าผมโดนหางของมันอีกทีแขนของผมคงหักลงแน่ ๆ ผมคิดไม่ออกเลยว่าจะสู้กับมันยังไง ผมไม่มีอาวุธอะไรที่ยาวพอจะสวนกลับและทนแรงกระแทกหางของมันได้
“ โอ๊ย ๆ แกจะมาตายตรงนี้ได้ไงเนี่ย คุ คุ "
“ ใครหนะ?? "
เสียงดังขึ้นในหัวของผม ผมไม่รู้เสียงนั้นมาจากทางไหน
“ อยากจะไปช่วยน้องของแกไม่ใช่รึ คุ คุ "
“ แล้วจะให้ทำยังไงล่ะไอ้บ้าเอ้ย ผมมีแค่หินแหลมอันเดียวจะไปสู้กับมันได้ไง "
“ พลังของข้าไงล่ะ แกลองนึกภาพอาวุธที่แกอยากได้ในหัวของแกดูสิ ใช้หัวหน่อยสิเจ้าหนู คุ คุ
พลังที่ข้าให้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์หน่อย คุ คุ "
“ พลังอะไร แลัวนึกภาพในหัว พูดง่ายไปแล้ว สถานการณ์แบบนี้ใครจะนึกออก "
“ ข้าบอกให้นึกก็นึกเหอะน่า มั่วแต่เสียเวลา ตายไม่รู้ด้วยนะ คุ คุ "
“ อาวุธที่จะสู้กับมันงั้นหรอ "
“ อาวุธที่สามารถป้องกัน และสามารถสวนการโจมตีในทันที ”
จู่ๆ ก็มีแสงสว่างที่รอยสักของผม มันสว่างจนผมและเจ้าสัตว์ป่านั้นแทบมองไม่เห็น มันกระโดดออกห่างด้วยความตกใจ แขนขวาของผมมันค่อยๆ ร้อนขึ้น หินแหลมที่ใช้ล่าสัตว์ของผมมันค่อยๆละลายหลอมเข้ากับแขนของผม
“ อ๊าก.!! "
ผมร้องเพราะแขนขวาของผมมันร้อนมาก
เมื่อแสงที่แขนขวาหายไป เผยให้เห็นว่าแขนขวาผมมันเปลี่ยนไป ผมล้มลงเพราะตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น มันกลายเป็นโล่ขนาดใหญ่สีดำสนิทและมีดาบแหลมที่ปลายของโล่ มันมีน้ำหนักที่เบามาก ผมสามารถเหวี่ยงมันไปมาได้อย่างสบาย
“ ถ้าเป็นอย่างนี้ผมสู้ได้แน่ "
ยังไม่ทันได้เชยชมอาวุธใหม่ของผม เจ้านั่นก็กระโจนเข้ามาหาผมและเหวี่ยงกรงเล็บของมันใส่ผม ผมยกอาวุธใหม่ของผมขึ้นป้องกัน กรงเล็บของมันแทบจะไม่สามารถสร้างรอยขีดข่วนให้กับโล่ได้เลย มันกระโดดกลับไป มันคงรู้ว่ากรงเล็บคงทำอะไรผมไม่ได้ มันเปลี่ยนมาใช้หางแทน ผมยกแขนขวาผมที่มีอาวุธใหม่ติดอยู่ ป้องกันอีกที หางของมันกระเด็นกลับไป เหมือนกับโดนสะท้อน
สุดยอดมันสามารถรับแรงกระแทก และสามารถสะท้อนการโจมตีได้ด้วย
“ คราวนี้ถึงตาผมสวนกลับแล้วละไอ้หมาโง่ "
ผมกระโจนและใช้ดาบเหล็กปลายโล่มุงตรงไปทางตัวมัน มันหมุนตัวแล้วพยามใช้หางปัดการโจมตี ผมใช้เท้าของผมเตะพื้นแล้วกระโดดลอยตัวขึ้น ไปกลางอากาศเลยไปข้างหลังของมันแล้วกระโดดเข้าหามันอีกที มันไม่ทันตั้งตัว ผมใช้ดาบปลายโล่ของผมฟันเข้าที่ขาของมันเข้าเต็มๆ ขาของมันขาดลง เลือดไหลออกจากขาทั้งสี่ข้างไม่หยุด มันไม่สามารถลุกหนีไปไหนได้แล้ว มันพยามใช้หางของมันพยุงตัวหนี
แต่ผมไม่ลังเลที่จะฆ่ามัน ใช้ดาบปลายโล่ฟันเข้าไปที่กลางคอของมัน กระเด็นออกไป เลือดของมันไหลพุ่งไปทั่วบริเวณโดยรอบ
หลังจบการต่อสู้อาวุธของผมก็ค่อย ๆ หดลงกลับกลายเป็นหินแหลมเหมือนเดิม
“ จบสักที ฮันน่าพี่แข็งแกร่งพอที่จะไปช่วยเธอหรือยัง "
แทนที่ผมจะดีใจกับชัยชนะครั้งนี้ ผมกับร้องไห้ที่ไม่สามารถช่วยน้องสาวผมให้ไวกว่านี้ ถ้าผมมีพลังนี้ก่อนที่ทุกอย่างจะเกิด
ผมค่อยๆ เดินจากไป ผมไม่มีเวลามานั่งพัก น้องของผมยังรอให้ผมไปช่วยอยู่
ผมเดินไปเรื่อย ๆ พร้อมกับร่างกายที่เหนื่อยล้าและมีแต่รอยเลือดของเจ้าสัตว์ป่านั่น ผมเดินไปโดยไม่รู้จุดหมาย ผมคิดแต่ว่าต้องเดินไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะเจอเมืองสักเมืองแล้วสืบหาเบาะแส น้องสาวของผม
ผมเดินมาจนแทบหมดแรง จนผมมาหยุดที่ไหนสักที่มันดูเหมือนเป็นถนนที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ผมคิดว่ามันคงเป็นถนนที่เชื่อมต่อไปถึงเมืองที่ไหนสักเมือง มันเป็นถนนที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา
“ ชักเดินต่อไม่ไหวแล้วสิ "
ผมล้มลงกับถนนเพราะหมดแรง ตอนนี้ผมหิวน้ำเป็นอย่างมาก ในขณะที่ผมกำลังจะสลบผมรู้สึกเหมือนมีเสียงอะไรสักอย่างตรงมาทางผม
“ เป็นอะไรมากรึป่าว เธอคงจะหิวน้ำมาก รอแปปนะ "
เสียงผู้หญิง ! ผมได้ยินแต่ ไม่สามารถมองเห็นเธอได้ ภาพของเธอเบลอมากอาจเป็นเพราะผมหิวน้ำมาก ผมพยามที่จะมองเธอชัดๆแต่ไม่ทันได้มอง ภาพทุกอย่างก็มืดไป
เดาการเดินทางต่อไปยังไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร
เพราะเรื่องนี้เขียนสด คิดไปเขียนไป ไม่ใช่ว่าเก่งนะครับ แต่ผมเป็นคนที่ลืมง่ายลองร่างเนื้อเรื่องในหัวไว้ สุดท้ายลืม ต้องมานั้งเริ่มใหม่
สุดท้ายถ้าผิดพลาดอย่างไรต้องขออภัยด้วยครับ ฝากนักเขียนมือใหม่ด้วยนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้