ขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกา ที่สถานทูตอเมริกาในสิงคโปร์ 2018

สวัสดีครับ จขกท เพิ่งไปขอวีซ่าท่องเที่ยวอเมริกามาครับ เนื่องจากทำงานอยู่ที่สิงคโปร์เลยมาขอที่สถานทูตอเมริกาในสิงคโปร์ครับ มาดูขั้นตอนกันเลยครับ น่าจะคล้ายๆกับยื่นที่ไทยนะ

1 กรอกแบบฟอร์มคำร้องขอวีซ่า DS-160 online ข้อแนะนำคือให้กรอกตามจริง จขกท มีน้องซึ่งเป็น citizen อยู่ที่นั่น บางคนบอกว่าอย่าให้ทางสถานทูตรู้ว่ามีญาติหรือคนรู้จักอยู่เพราะจะได้ยาก แต่ จขกท คิดว่าใส่ตามจริงไปจะดีที่สุด

2 ชำระค่าธรรมเนียม Visa ผ่านทางไปรษณีย์หรือว่าใช้ app ของไปรษณีย์ตัดเงินกับทางธนาคารที่เรามีอยู่เลยก็ได้ครับ สะดวกดีที่สิงคโปร์ ค่าธรรมเนียมขอวีซ่าที่นี่ 224 Singapore dollar ครับ ประมาณห้าพันกว่าบาท

3 นัดสัมภาษณ์ทาง Online หลังจากจ่ายเงินค่าวีซ่าแล้วอีวันนึง(หลัง 10AM) ก็สามารถทำการนัดวันสัมภาษณ์ได้ครับ คนสิงคโปร์ถ้าจะไปเที่ยวอเมริกาไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าครับ(ดีจัง) คิววันนัดสัมภาษณ์เลยมีไม่เยอะมาก จองวันนี้สัมภาษณ์พรุ่งนี้ได้เลยก็มีครับ แล้วแต่สะดวก

พอจองคิวเรียบร้อยก็มาถึงขั้นตอนการเตรียมเอกสารวันสัมภาษณ์ครับ เอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้ครับ

1 ใบยืนยันการกรอกแบบฟอร์ม DS-160
2 ใบยืนยันวันนัดสัมภาษณ์
3 Passport เล่มปัจจุบันและเล่มก่อนๆทุกเล่มทีมี
4 ใบยืนยันการจ่ายเงินค่าวีซ่า
5 รูปถ่าย 1 ใบ พื้นหลังสีขาว
6 เอกสาร support ต่างๆเช่น ใบรับรองการทำงาน

พอถึงวันนัดสัมภาษณ์ จขกท นัดไว้ 9.15AM สถานทูตอเมริกาที่สิงคโปร์อยู่ที่ 27Napier road อยู่ใกล้กับ Botanic Garden แต่ว่าคนละฝั่งกะ Botanic Garden mrt นะครับ คนละด้านกัน ถ้าจะมาคิดว่ารถเมล์หรือไม่ก็ Taxi สะดวกกว่ารถไฟฟ้าครับ

ขั้นตอนการเข้าสัมภาษณ์

1 ยื่นใบนัดให้ยามเฝ้าหน้าประตูดู เวลาที่นัดคือเวลาที่มาถึงหน้าประตูนะครับไม่ใช่เวลาสัมภาษณ์ ผมนัดไว้ 9.15 เค้าให้มาก่อนเวลาได้แค่ 15 นาทีไม่งั้นยามจะยังไม่ให้เข้าครับ
2 เมื่อเข้าไปแล้วต้องไปแสกนตรวจอาวุธครับ แล้วค้าจะให้ฝากโทรศัพท์มือถือกับกุญแจไว้กับเค้า
3 ตรวจเอกสารกับรูปถ่ายอีกที
4 แสกนนิ้ว
5 สัมภาษณ์

ช่องสัมภาษณ์จะเป็นช่องคล้ายๆกับช่องซื้อตั๋วหนังมีประมาณ 4 ช่องแต่ตอนที่ จขกท ไปมีเปิดแค่ 2 ช่องครับเวลาพูดคนอื่นก็อาจมีได้ยินกันบ้างครับ

มาถึงช่วงเวลาตื่นเต้นครับช่วงสัมภาษณ์ สัมภาษณ์เป็นภาษาอังกฤษแต่ จขกท ขอเขียนเป็นภาษาไทยให้อ่านง่ายละกันนะครับ

กงสุล: อยู่สิงคโปร์มากี่ปีแล้ว
จขกท: 13ปี ครับ
กงสุล: ทำงานบริษัทอะไร ตำแหน่งอะไร
จขกท: อยู่บริษัท...... ตำแหน่ง......
กงสุล: ขอดู work permit หน่อย
จขกท: ส่ง work permit ให้ดู
กงสุล: ครอบครัวอยู่ที่นี่ด้วยหรือปล่าว
จขกท: ไม่ได้อยู่ครับ อยู่ที่ไทย
กงสุล: แล้วได้กลับไปเยี่ยมครอบครัวบ้างหรือปล่าว
จขกท: กลับครับ กลับอยู่บ่อยๆ
กงสุล: แล้วครอบครัวที่ไปด้วยไปขอวีซ่าที่ไทย?
จขกท: ใช่ครับ
กงสุล: ทำไมถึงจะไปอเมริกา
จขกท: ไปท่องเที่ยวครับ
กงสุล: จะไปประมาณกี่วัน
จขกท: ประมาณ 10วันครับ
กงสุล: เคยไปประเทศไหนมาบ้าง
จขกท: สวีเดน, ฟินแลนด์..
กงสุล: ที่ฟินแลนด์ไปที่ไหนมาบ้าง
จขกท: อ่อ ไป(สะดุด นิดหน่อย คิดว่าไปไหนมาบ้างวะเนี่ย 555) ดูซานตาครอส ไปดูแสงเหนือครับ
กงสุล: โอเค Visa ของคุณ approve
จขกท: ขอบคุณมากครับ

หลังจากนั้น 3วันก็ไปเอา passport กับวีซ่าได้ครับที่จุดรับ passport ที่ทางสถานทูตให้เลือกมามาตอนนัดสัมภาษณ์ครับ

จะเห็นว่ากงสุลเค้าไม่ได้ถามอะไรเกี่ยวกับน้องเราเลยที่เป็นพลเมืองอยู่ที่นั่น คิดว่าถ้าหน้าที่การงานเป็นหลักแหล่งน่าเชื่อถือก็ไม่มีอะไรน่ากังวลครับ พวก statement หรือใบต่างๆก็ไม่ได้ขอดูเลยครับ เหมือนถามเพื่อยืนยันว่าข้อมูลที่เรากรอกไว้ใน DS-160 นั้นตรงกันแค่นั้นครับ

ขอจบกระทู้ไว้เท่านี้ครับ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆไม่มากก็น้อยครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่