4 ปัจจัยหนุนทองเด้งกลับ 1,300$
จับจังหวะลงทุนกอง RMF
http://www.share2trade.com/index.php?route=content/content&path=9&content_id=3520
ราคาทองที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี
ลดลงมาต่ำกว่า 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (หรือ ประมาณบาทละ 18,500 บาท)
...มีคนถามว่ามีโอกาสลดลงอีกมากน้อยแค่ไหน
ตอบยาก!!!
แต่ถ้าถามว่าเป็นจังหวะน่าลงทุนมั๊ย...บอกตรง น่าเข้าเป็นอย่างมาก
เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวววว ที่มีเงิน “เย็น” จริงๆ และที่สำคัญต้องทยอยเข้าซื้อ อย่าเข้าทีเดียว
ไม่เหมาะสำหรับการเก็งกำไรในระยะสั้น
แล้วจะลงทุน...ทองคำแท่ง ทองคำรูปพรรณ หรืออย่างย่างไรดี???
Smart Invest ขอแนะนำลงทุนผ่านกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ที่มีนโยบายลงทุนทอง
....เพราะไหนๆก็แนะนำให้ลงทุน “ยาว” แล้ว มารับแต้มต่อสิทธิพิเศษในการ “ลดหย่อนภาษี” ไม่ดีกว่าหรือ
แต่ต้องทำใจนะ...ว่าออกก่อนอายุ 55 ปี ต้องคืนเงินที่ได้รับยกเว้นภาษีทั้งหมด!!!
จากข้อมูลของ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า ค่าความผันผวนจากการลงทุนทองคำย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 11.64%
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่มีนโยบายลงทุนในทองคำ
จากข้อมูลจะพบว่าการลงทุนทองคำในช่วง 5 ปี ย้อนให้ผลตอบแทนติดลบ 3.25-4.11%
ย้อนหลัง 3 ปี ผลตอบแทนจากการลงทุนทองคำติดลบ 0.03-1.98%
ย้อนหลัง 1 ปี ผลตอบแทนจากการลงทุนทองคำติดลบ 9.34-11.11%
ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี ผลตอบแทนจากการลงทุนทองคำติดลบ 7.15-8.98%
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนผ่าน RMF ถือว่าเป็น “บวก” เพราะได้รับสิทธิพิเศษในการลดหย่อนภาษีเงินได้เป็น “แต้มต่อ”
เห็นมั๊ยละ...ลงทุนทองผ่านกองทุน RMF “ดีต่อใจ” อย่างไร
แถมยังไม่ต้องกังวลว่าจะเก็บทองคำไว้ที่ไหน อย่างไร เพื่อป้องกันขโมย
กูรูด้านทองคำ “พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มองว่า ราคาทองคำที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี หากประเมินจากปัจจัยทางเทคนิคแล้วราคาลงมา Low มากแล้วและพร้อมที่กลับตัวเป็น “ขาขึ้น” เพราะมีปัจจัยบวกกับราคาทองมากกว่าปัจจัยลบ
และในช่วงที่ผ่านมาปริมาณการซื้อจากจีนและอินเดีย ซึ่งถือเป็นผู้ซื้อทองรายใหญ่ของโลก
แต่ถ้าถามว่าราคาทองในปีนี้จะไปทางไหน...บอกเลย “ปีนี้เป็นปีปราบเซียน”
ต้องจับตา 4 ประเด็นหลักคือ
-Dollar Index
-สงครามการค้า
-อัตราดอกเบี้ย
-ดีมานด์จากจีน-อินเดีย
หากทั้ง 4 ปัจจัยออกมาเป็น “บวก” มีความเป็นไปได้ที่ในช่วงปลายปีราคาทองคำจะปรับขึ้นไปที่ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
ถือเป็นจังหวะทยอยสะสม ”ทองคำ”เข้าพอร์ต...เนื่องจากราคาทองคำในปัจจุบันลดลงมาจนถึงระดับที่น่าลงทุน
|
//////////////////////
////////////////////////////////////
ขอบคุณบทความจาก
www.facebook.com/Share2Trade/
www.share2trade.com
4 ปัจจัยหนุนทองเด้งกลับ 1,300$ จับจังหวะลงทุนกอง RMF (โดย Smart Invest เว็บ Share2Trade)
จับจังหวะลงทุนกอง RMF
http://www.share2trade.com/index.php?route=content/content&path=9&content_id=3520
ราคาทองที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี
ลดลงมาต่ำกว่า 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (หรือ ประมาณบาทละ 18,500 บาท)
...มีคนถามว่ามีโอกาสลดลงอีกมากน้อยแค่ไหน
ตอบยาก!!!
แต่ถ้าถามว่าเป็นจังหวะน่าลงทุนมั๊ย...บอกตรง น่าเข้าเป็นอย่างมาก
เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวววว ที่มีเงิน “เย็น” จริงๆ และที่สำคัญต้องทยอยเข้าซื้อ อย่าเข้าทีเดียว
ไม่เหมาะสำหรับการเก็งกำไรในระยะสั้น
แล้วจะลงทุน...ทองคำแท่ง ทองคำรูปพรรณ หรืออย่างย่างไรดี???
Smart Invest ขอแนะนำลงทุนผ่านกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ RMF ที่มีนโยบายลงทุนทอง
....เพราะไหนๆก็แนะนำให้ลงทุน “ยาว” แล้ว มารับแต้มต่อสิทธิพิเศษในการ “ลดหย่อนภาษี” ไม่ดีกว่าหรือ
แต่ต้องทำใจนะ...ว่าออกก่อนอายุ 55 ปี ต้องคืนเงินที่ได้รับยกเว้นภาษีทั้งหมด!!!
จากข้อมูลของ บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) จำกัด พบว่า ค่าความผันผวนจากการลงทุนทองคำย้อนหลัง 3 ปีอยู่ที่ 11.64%
กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่มีนโยบายลงทุนในทองคำ
จากข้อมูลจะพบว่าการลงทุนทองคำในช่วง 5 ปี ย้อนให้ผลตอบแทนติดลบ 3.25-4.11%
ย้อนหลัง 3 ปี ผลตอบแทนจากการลงทุนทองคำติดลบ 0.03-1.98%
ย้อนหลัง 1 ปี ผลตอบแทนจากการลงทุนทองคำติดลบ 9.34-11.11%
ย้อนหลังตั้งแต่ต้นปี ผลตอบแทนจากการลงทุนทองคำติดลบ 7.15-8.98%
อย่างไรก็ตาม สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนผ่าน RMF ถือว่าเป็น “บวก” เพราะได้รับสิทธิพิเศษในการลดหย่อนภาษีเงินได้เป็น “แต้มต่อ”
เห็นมั๊ยละ...ลงทุนทองผ่านกองทุน RMF “ดีต่อใจ” อย่างไร
แถมยังไม่ต้องกังวลว่าจะเก็บทองคำไว้ที่ไหน อย่างไร เพื่อป้องกันขโมย
กูรูด้านทองคำ “พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มองว่า ราคาทองคำที่ลดลงต่ำสุดในรอบ 2 ปี หากประเมินจากปัจจัยทางเทคนิคแล้วราคาลงมา Low มากแล้วและพร้อมที่กลับตัวเป็น “ขาขึ้น” เพราะมีปัจจัยบวกกับราคาทองมากกว่าปัจจัยลบ
และในช่วงที่ผ่านมาปริมาณการซื้อจากจีนและอินเดีย ซึ่งถือเป็นผู้ซื้อทองรายใหญ่ของโลก
แต่ถ้าถามว่าราคาทองในปีนี้จะไปทางไหน...บอกเลย “ปีนี้เป็นปีปราบเซียน”
ต้องจับตา 4 ประเด็นหลักคือ
-Dollar Index
-สงครามการค้า
-อัตราดอกเบี้ย
-ดีมานด์จากจีน-อินเดีย
หากทั้ง 4 ปัจจัยออกมาเป็น “บวก” มีความเป็นไปได้ที่ในช่วงปลายปีราคาทองคำจะปรับขึ้นไปที่ 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์
ถือเป็นจังหวะทยอยสะสม ”ทองคำ”เข้าพอร์ต...เนื่องจากราคาทองคำในปัจจุบันลดลงมาจนถึงระดับที่น่าลงทุน
|
//////////////////////
////////////////////////////////////
ขอบคุณบทความจาก
www.facebook.com/Share2Trade/
www.share2trade.com