สวัสดีค่ะ
ป้าอบเองนะคะ วันนี้ป้าจะมา (พลีชีพ) แชร์เรื่องราวการลดน้ำหนักของตัวเอง
อาจจะยาวหน่อย เพราะใช้เวลาทั้งหมดทั้งสิ้น 3 ปีในการลดครั้งนี้ (และยังดำเนินต่อไป)
แต่ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ ไปดูประมวลภาพเบาๆ กันก่อนแล้วเรามาเข้าเรื่องกันเลยยย
"เคยหนักสุด 95 กิโล ตอนนี้ก็ไม่ได้ผอมแบบผอมมมมม แต่ก็พอใจอยู่มาก"
ขอเท้าความหน่อยว่า
อบเป็นคนที่อวบมาตั้งแต่เด็กๆ โครงใหญ่ กระดูกใหญ่กว่าเด็กทั่วไปในวัยเดียวกัน เนื่องจากเป็นคนติดข้าวมาก สามารถกินข้าวต่อมื้อได้เยอะมากกกกกกโดยไม่ต้องมีกับข้าว ประกอบกับอยู่คนเดียวมาตลอดตั้งแต่ 11 ขวบ เลยทำให้ไม่มีคนคอยกำกับดูแลเรื่องอาหารการกิน การเข้านอน และอื่นๆ
เราจึงเป็นคนนอนดึก นอนน้อยตั้งแต่เด็ก พออยู่ดึกๆ มันก็หิว ตี 1 ตี 2 ก็ยังนั่งกินข้าวสม่ำเสมอมาก 555 เสื้อผ้าใส่ไซส์ใหญ่ตลอด 42-44 ตั้งแต่มัธยมจนเข้ามหาลัย ไม่มีความพยายามจะลดน้ำหนักเลยคือจำไม่ได้เลยว่าชั่งน้ำหนักครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ และหนักเท่าไหร่ พอชั่งก็เจอเลข 7 เลยทีเดียว (ป้าสูง 165 cm)
"ตัวก็ประมาณนี้ นี่คุมบ้างแล้วนะ ตอนนั้นเริ่มหัดแต่งหน้าแล้ว"
ปี 2011-2012 : ลดน้ำหนักครั้งแรกในชีวิต
ตอนนั้นคิดแต่ว่าอยากผอม เลยลดด้วยการไม่กิน คือตื่นไปเรียนโดยไม่กินอะไรเลย ยกเว้นน้ำ จนเรียนเสร็จประมาณบ่าย 3-4 โมง แล้วซื้อยำมา 1 ถุง ซอยกะหล่ำปลีใส่ครึ่งหัว (ครึ่งหัวจริงๆ) กินเท่านั้น แล้วรีบนอนตอน 4 ทุ่ม ถ้าวันไหนอยากกินน้ำหวาน เช่นโกโก้ปั่น ก็จะกินแค่ 1 แก้ว ค่อยๆ จิบ แล้วทั้งวันนั้นจะไม่กินอะไรอีกเลย ตอนนั้นน้ำหนักลงเร็วมาก จำได้ว่า คือ 1เดือน จาก 72 ลงไป 67-65 ถ้าจำไม่ผิด รูปร่างก็ดีขึ้นผิดหูผิดตา เพื่อนทัก ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ โดยรวมๆ ก็เหมือนจะดูดี
แต่มีผลข้างเคียงคือความจำแย่มาก โดยเฉพาะที่เป็นความจำระยะสั้น คือใครบอกอะไรแป๊บๆ ลืม บอกตอนนี้ 3 นาทีลืมอะไรแบบนี้ และประจำเดือนผิดปกติ มาบ้าง ไม่มาบ้าง นานๆ มาที เพราะวิธีกินแบบนี้มันผิด!! เพราะเราจะได้รับพลังงานต่ำมากในแต่ละวัน ทำให้ร่างกายเริ่มปรับตัว และลดการทำงานที่ไม่จำเป็นต่อการมีชีวิตรอดลงเพื่อลดการใช้พลังงาน นานๆ เข้าการกินน้อยๆ จะไม่ได้ผลอีกต่อไป และพอเรากินเข้าไปปุ๊บ ร่างกายจะพยายามเก็บสะสมทุกอย่างไว้ในรูปไขมัน เพราะไม่รู้ว่าเราจะกินเข้าไปอีกเมื่อไหร่
"รูปร่างตอนนั้น กับสิ่งที่ภูมิใจมากคือขา 555"
กินยังไงให้น้ำหนักหายไป 30+ กิโล ฉบับสาววัย 30
อาจจะยาวหน่อย เพราะใช้เวลาทั้งหมดทั้งสิ้น 3 ปีในการลดครั้งนี้ (และยังดำเนินต่อไป)
แต่ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ ไปดูประมวลภาพเบาๆ กันก่อนแล้วเรามาเข้าเรื่องกันเลยยย
"เคยหนักสุด 95 กิโล ตอนนี้ก็ไม่ได้ผอมแบบผอมมมมม แต่ก็พอใจอยู่มาก"
ขอเท้าความหน่อยว่า อบเป็นคนที่อวบมาตั้งแต่เด็กๆ โครงใหญ่ กระดูกใหญ่กว่าเด็กทั่วไปในวัยเดียวกัน เนื่องจากเป็นคนติดข้าวมาก สามารถกินข้าวต่อมื้อได้เยอะมากกกกกกโดยไม่ต้องมีกับข้าว ประกอบกับอยู่คนเดียวมาตลอดตั้งแต่ 11 ขวบ เลยทำให้ไม่มีคนคอยกำกับดูแลเรื่องอาหารการกิน การเข้านอน และอื่นๆ เราจึงเป็นคนนอนดึก นอนน้อยตั้งแต่เด็ก พออยู่ดึกๆ มันก็หิว ตี 1 ตี 2 ก็ยังนั่งกินข้าวสม่ำเสมอมาก 555 เสื้อผ้าใส่ไซส์ใหญ่ตลอด 42-44 ตั้งแต่มัธยมจนเข้ามหาลัย ไม่มีความพยายามจะลดน้ำหนักเลยคือจำไม่ได้เลยว่าชั่งน้ำหนักครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ และหนักเท่าไหร่ พอชั่งก็เจอเลข 7 เลยทีเดียว (ป้าสูง 165 cm)
"ตัวก็ประมาณนี้ นี่คุมบ้างแล้วนะ ตอนนั้นเริ่มหัดแต่งหน้าแล้ว"
ปี 2011-2012 : ลดน้ำหนักครั้งแรกในชีวิต
ตอนนั้นคิดแต่ว่าอยากผอม เลยลดด้วยการไม่กิน คือตื่นไปเรียนโดยไม่กินอะไรเลย ยกเว้นน้ำ จนเรียนเสร็จประมาณบ่าย 3-4 โมง แล้วซื้อยำมา 1 ถุง ซอยกะหล่ำปลีใส่ครึ่งหัว (ครึ่งหัวจริงๆ) กินเท่านั้น แล้วรีบนอนตอน 4 ทุ่ม ถ้าวันไหนอยากกินน้ำหวาน เช่นโกโก้ปั่น ก็จะกินแค่ 1 แก้ว ค่อยๆ จิบ แล้วทั้งวันนั้นจะไม่กินอะไรอีกเลย ตอนนั้นน้ำหนักลงเร็วมาก จำได้ว่า คือ 1เดือน จาก 72 ลงไป 67-65 ถ้าจำไม่ผิด รูปร่างก็ดีขึ้นผิดหูผิดตา เพื่อนทัก ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่ โดยรวมๆ ก็เหมือนจะดูดี แต่มีผลข้างเคียงคือความจำแย่มาก โดยเฉพาะที่เป็นความจำระยะสั้น คือใครบอกอะไรแป๊บๆ ลืม บอกตอนนี้ 3 นาทีลืมอะไรแบบนี้ และประจำเดือนผิดปกติ มาบ้าง ไม่มาบ้าง นานๆ มาที เพราะวิธีกินแบบนี้มันผิด!! เพราะเราจะได้รับพลังงานต่ำมากในแต่ละวัน ทำให้ร่างกายเริ่มปรับตัว และลดการทำงานที่ไม่จำเป็นต่อการมีชีวิตรอดลงเพื่อลดการใช้พลังงาน นานๆ เข้าการกินน้อยๆ จะไม่ได้ผลอีกต่อไป และพอเรากินเข้าไปปุ๊บ ร่างกายจะพยายามเก็บสะสมทุกอย่างไว้ในรูปไขมัน เพราะไม่รู้ว่าเราจะกินเข้าไปอีกเมื่อไหร่
"รูปร่างตอนนั้น กับสิ่งที่ภูมิใจมากคือขา 555"