สมาธิ ๓ อย่าง
สมาธิ (concentration) คือ ตั้งใจให้ก่อเกิดขบวนการนั้นๆ
๑. สุญญตสมาธิ (concentration on the void) คือ สมาธิอันพิจารณาเห็นความว่าง ได้แก่ วิปัสสนาที่ให้ถึงความหลุดพ้นด้วยกำหนดอนัตตลักษณะ หมายความว่า อนัตตลักษณะเป็นสิ่งไม่มีรูปแบบ
เราจะพิจารณาความว่างอย่างไร? ก็คือเริ่มจากอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สิ่งเหล่านี้ก็ต้องแปรเปลี่ยนไป ทำไมต้องแปรเปลี่ยนไป เหตุที่ทำไมต้องแปรเปลี่ยนเพราะว่าเป็นไปตามเหตุปัจจัยของผล พอมีเหตุปัจจัยของผลตรงนี้ เราควบคุมไม่ได้ย่อมแปรเปลี่ยนไปตามสภาวะธรรม ซึ่งเรายึดมั่นถือมั่นไม่ได้ เพราะเราควบคุมไม่ได้ นี่แหละ เป็นอนัตตา
๒. อนิมิตตสมาธิ (concentration on the signless) คือ สมาธิอันพิจารณาธรรมไม่มีนิมิต ได้แก่ วิปัสสนาที่ให้ถึงความหลุดพ้นด้วยกำหนดอนิจจลักษณะ หมายความว่า ให้พิจารณาพระไตรลักษณ์ พิจารณาที่ไม่มีนิมิตก็คือ ไม่มีการปรากฏแล้ว เพราะปรากฏแล้วก็สูญ เราไม่ถือว่าสิ่งนั้น "เป็น" แล้ว แม้เป็นปรากฏแต่ว่าเราไม่ถือว่าสิ่งนั้นมันเป็น เช่น "ปากกา" เราจะถือว่าสิ่งนี้เป็นปากกาไม่ได้ เป็นปากกาแล้วก็จะหายจากการเป็นปากกา ปากกานี้ก็จะเสียหายแล้ว กลายเป็นอย่างอื่นไป
๓. อัปปณิหิตสมาธิ (concentration on the desireless or non-hankering) คือ สมาธิอันพิจารณาธรรมไม่มีความตั้งปรารถนา ได้แก่ วิปัสสนาที่ให้ถึงความหลุดพ้นด้วยกำหนดทุกขลักษณะ หมายความว่า ไม่ตั้งมั่นถือมั่น จึงไม่ตั้งความเป็นความหวัง คือ ให้แปรเปลี่ยนไปตามสภาวะแห่งธรรม เราจะไม่ไปยึดว่าจะต้องเป็นผลอย่างนี้ เป็นเหตุอย่างนี้ ปล่อยสิ่งนั้นเป็นไปตามภาวะแห่งธรรม
ยกตัวอย่างภิกษุณีโดนข่มขืนในครั้นพุทธกาล คือ พระอุบลวรรณาเถรี อัครสาวิกาเบื้องซ้าย ผู้เลิศกว่าภิกษุณีทั้งหลาย เก่งทางอิทธิฤทธิ์ นันทมาณพ มีความรักใคร่นางอุบลวรรณามากตั้งแต่สมัยที่นางเป็นฆราวาส แม้นางอุบลวรรณาจะออกบวชแล้วก็ยังหลงรักอยู่ เมื่อนางกลับมาจากบิณฑบาต เปิดประตูกุฏิเข้าไปในห้องกำลังจะเอนกายนอนพักสักครู่ให้หายเหนื่อย ทันใดนั้น นันทมาณพก็ลุกจากใต้เตียงนอนขึ้นมาข่มขืนนาง นางอุบลวรรณาเถรีก็พิจารณาพระไตรลักษณ์ ถึงความไม่ยึดมั่นถือมั่น ปล่อยไปตามภาวะแห่งธรรม แล้วท่านก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์
เพราะว่าท่านเข้าใจข้อนี้ ปล่อยไปตามวาระแห่งกรรม วิบากกรรมภาวะแห่งธรรม เพราะเข้าใจถึงข้อนี้จึงสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ในระหว่างที่ีถูกข่มขืนมีเพศสัมพันธ์ ท่านถือเอาตรงนี้เป็นนิมิต หมายความว่า ถือตรงนี้มาเป็นข้อคิด ทำให้ท่านกระจ่างในธรรมอนัตตา จึงเข้าสู่ภาวะอรหันต์ได้
อย่าไปมองแต่วิกฤติ วิกฤติก็ทำให้เกิดโอกาสได้ เป็นโอกาสให้เราได้กระจ่างในธรรม อ๋อ...จึงเป็นเช่นนี้ ก็เลยเข้าสู่อีกขั้นหนึ่ง
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์
สมาธิ ๓ อย่าง
สมาธิ (concentration) คือ ตั้งใจให้ก่อเกิดขบวนการนั้นๆ
๑. สุญญตสมาธิ (concentration on the void) คือ สมาธิอันพิจารณาเห็นความว่าง ได้แก่ วิปัสสนาที่ให้ถึงความหลุดพ้นด้วยกำหนดอนัตตลักษณะ หมายความว่า อนัตตลักษณะเป็นสิ่งไม่มีรูปแบบ
เราจะพิจารณาความว่างอย่างไร? ก็คือเริ่มจากอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สิ่งเหล่านี้ก็ต้องแปรเปลี่ยนไป ทำไมต้องแปรเปลี่ยนไป เหตุที่ทำไมต้องแปรเปลี่ยนเพราะว่าเป็นไปตามเหตุปัจจัยของผล พอมีเหตุปัจจัยของผลตรงนี้ เราควบคุมไม่ได้ย่อมแปรเปลี่ยนไปตามสภาวะธรรม ซึ่งเรายึดมั่นถือมั่นไม่ได้ เพราะเราควบคุมไม่ได้ นี่แหละ เป็นอนัตตา
๒. อนิมิตตสมาธิ (concentration on the signless) คือ สมาธิอันพิจารณาธรรมไม่มีนิมิต ได้แก่ วิปัสสนาที่ให้ถึงความหลุดพ้นด้วยกำหนดอนิจจลักษณะ หมายความว่า ให้พิจารณาพระไตรลักษณ์ พิจารณาที่ไม่มีนิมิตก็คือ ไม่มีการปรากฏแล้ว เพราะปรากฏแล้วก็สูญ เราไม่ถือว่าสิ่งนั้น "เป็น" แล้ว แม้เป็นปรากฏแต่ว่าเราไม่ถือว่าสิ่งนั้นมันเป็น เช่น "ปากกา" เราจะถือว่าสิ่งนี้เป็นปากกาไม่ได้ เป็นปากกาแล้วก็จะหายจากการเป็นปากกา ปากกานี้ก็จะเสียหายแล้ว กลายเป็นอย่างอื่นไป
๓. อัปปณิหิตสมาธิ (concentration on the desireless or non-hankering) คือ สมาธิอันพิจารณาธรรมไม่มีความตั้งปรารถนา ได้แก่ วิปัสสนาที่ให้ถึงความหลุดพ้นด้วยกำหนดทุกขลักษณะ หมายความว่า ไม่ตั้งมั่นถือมั่น จึงไม่ตั้งความเป็นความหวัง คือ ให้แปรเปลี่ยนไปตามสภาวะแห่งธรรม เราจะไม่ไปยึดว่าจะต้องเป็นผลอย่างนี้ เป็นเหตุอย่างนี้ ปล่อยสิ่งนั้นเป็นไปตามภาวะแห่งธรรม
ยกตัวอย่างภิกษุณีโดนข่มขืนในครั้นพุทธกาล คือ พระอุบลวรรณาเถรี อัครสาวิกาเบื้องซ้าย ผู้เลิศกว่าภิกษุณีทั้งหลาย เก่งทางอิทธิฤทธิ์ นันทมาณพ มีความรักใคร่นางอุบลวรรณามากตั้งแต่สมัยที่นางเป็นฆราวาส แม้นางอุบลวรรณาจะออกบวชแล้วก็ยังหลงรักอยู่ เมื่อนางกลับมาจากบิณฑบาต เปิดประตูกุฏิเข้าไปในห้องกำลังจะเอนกายนอนพักสักครู่ให้หายเหนื่อย ทันใดนั้น นันทมาณพก็ลุกจากใต้เตียงนอนขึ้นมาข่มขืนนาง นางอุบลวรรณาเถรีก็พิจารณาพระไตรลักษณ์ ถึงความไม่ยึดมั่นถือมั่น ปล่อยไปตามภาวะแห่งธรรม แล้วท่านก็สำเร็จเป็นพระอรหันต์
เพราะว่าท่านเข้าใจข้อนี้ ปล่อยไปตามวาระแห่งกรรม วิบากกรรมภาวะแห่งธรรม เพราะเข้าใจถึงข้อนี้จึงสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ในระหว่างที่ีถูกข่มขืนมีเพศสัมพันธ์ ท่านถือเอาตรงนี้เป็นนิมิต หมายความว่า ถือตรงนี้มาเป็นข้อคิด ทำให้ท่านกระจ่างในธรรมอนัตตา จึงเข้าสู่ภาวะอรหันต์ได้
อย่าไปมองแต่วิกฤติ วิกฤติก็ทำให้เกิดโอกาสได้ เป็นโอกาสให้เราได้กระจ่างในธรรม อ๋อ...จึงเป็นเช่นนี้ ก็เลยเข้าสู่อีกขั้นหนึ่ง
ขอความเคารพ หากผู้รู้มีสิ่งชี้แนะ น้อมรับฟังเสมอ และขอความกรุณาแย้ง ชี้แจง ชี้แนะ แม้แต่ต้องการให้เพิ่มเติมสิ่งใด ก็ขอได้บอกมา
อ.พรหมสิทธิ์ ทิพย์ธาดาวงศ์