เมื่อวานไปสัมภาษณ์มารอบ 9 โมง ปรากฎว่าไม่ผ่าน!
โปรไฟล์ผม อายุ 26 โสด ปี 2016 เคยเปิดร้านอาหาร ต่อมาปี 2017 เลิกแล้วมาช่วยทำงานกับที่บ้าน ธุรกิจ ซื้อ-ขาย ให้เช่า อสังหาริมทรัพย์ และทำฟรีแลนซ์ไปด้วยอยู่พักนึง เป็นการถ่ายรูปอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่า-ขายโพสตามเฟสบุ๊ค (ข้อมูลนี้ไมได้ระบุไปใน ds-160) พาสปอร์ตเคยเดินทาง ฮ่องกง, มาเก๊า, ญี่ปุ่น, เวียดนาม, กัมพูชา, สิงคโปร์, มาเลเซีย, เกาหลีใต้, อังกฤษ (2ครั้ง), สก็อตแลนด์, ฟินแลนด์, เนเธอร์แลนด์ แล้วก็สเปน. ไปกลับตรงกำหนดตลอดไม่เคยอยู่เกิน หรือละเมิดกฎวีซ่าใดๆทั้งนั้น
คราวนี้มีแพลนจะไปเที่ยวนิวยอร์ก 12 วัน พฤศจิกายนนี้ ออกค่าใช้จ่ายเอง ผมกรอกเอกสาร ds-160 ด้วยตัวเองละเอียดทุกอย่าง ตรงช่องอธิบายหน้าที่ก็อธิบายไปละเอียดยังกับเรียงความ เตรียมเอกสารไปเพื่อสัมภาษณ์ ทั้งรูปถ่าย, โฉนด, ใบรับรองการทำงานรายได้เท่าไหร่ ทำอะไร, แพลนเที่ยวกับตารางค่าใช้จ่ายว่าเงินที่จะไปเที่ยวมีงบเท่าไหร่, สมุดบัญชี 2 ธนาคาร เงินหมุนเวียนเดือนละ 2-3 แสน แต่ยอดคงเหลือวันไปขอเหลือ 100,200.- (เป็นการขอวีซ่าที่มียอดเหลือมากสุดละ ขอเชงเก้นกับอังกฤษเหลือไม่มากเท่านี้) เอกสารที่เตรียมไปเรียกว่าพร้อมมาก ทำเหมือนกันกับตอนขอวีซ่าอังกฤษ, เชงเก้น แต่ท่านเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์ไม่เรียกดูแม้แต่ชิ้นเดียว?! ยกเว้นพาสปอร์ตเล่มเก่า
วันสัมภาษณ์ด่านเจ้าหน้าที่คนไทย เค้าบอกพูดใส่ไมค์เลยนะครับ แล้วถามว่า..
1. ชื่ออะไรครับ
= ........ครับ
2. ทำงานอะไรครับ
= ทำ.....ครับ
3. เคยเปลี่ยนชื่อไหมครับ?
= เคยเปลี่ยนจากชื่อ....เป็นชื่อ....ครับ นามสกุลไม่เคยเปลี่ยน.
4. ขอวีซ่าไปไหนครับ
= ไปเที่ยวนิวยอร์ก 1-12 พฤศจิกายน ครับ
5. มีคนรู้จักที่นั่นไหมครับ
= ไม่มีครับ
6. ถามย้ำอีก เพื่อนอะไรที่อยู่นั่นก็ไม่มีเลยหรอครับ
= ไม่มีครับ พูดกรอกใส่ไมค์ไปอีกรอบ
จากนั้นบอกสแกนนิ้วแล้วต่อแถวสัมภาษณ์เลยครับ
ระหว่างรอก็เห็นทั้งคนที่ผ่าน ไม่ผ่าน ปนๆกันไป บางคนโดนถามคำถามเดียว ก็ผ่านไปแบบงงๆ ผมก็ดีใจไปกับเค้าด้วย
พอถึงด่านสัมภาษณ์กับท่านเจ้าหน้าที่ต่างชาติ ผมได้สัมภาษณ์กับท่านเจ้าหน้าที่ผิวสี
โดนถามว่า
1. What do you do?
2. What is your previous job?
3. How long have you been working here?
4. Are you traveling to the us alone?
5. Do you know anyone in the us?
6. Do you have brother/sister?
7.  What is their job?
8. Can I have your old passport please.
หลังจากเปิดๆดู แล้วก็พิมพ์ๆอะไรสักพัก พิมพ์เสร็จบอกผมสแกนนิ้ว เสร็จเธอก็ดึงสติ๊กเกอร์เลขไปรษณีย์ที่แปะในพาสปอร์ตออก คืนเล่มมาพร้อมกระดาษ 214bให้มา แล้วบอกประมาณว่า “I am sorry...you are not qualify today I recommend you wait for 1 year then apply again” !!!!!! ช็อค!!!!
รู้ตัวอีกที อ่าวขับรถกลับบ้านละ!!
ผมงงกับการตัดสินในการออกวีซ่าของสหรัฐอเมริกามากถึงมากที่สุด ขั้นตอนเยอะ หลายด่าน ไหนจะสัมภาษณ์ก่อนให้วีซ่า ไปจนถึงด่าน Border Controls คัดกรอกอีกที ก็ยังมีหลุดรอดไปโดดกันโครมๆ ไม่ทราบว่าใช้หลักเกณฑ์อะไรในการมาพิจารณาว่าคนนี้ให้วีซ่าได้ อ่ะส่วนคนนี้ไม่ให้นะ หรืออารมณ์ของเจ้าหน้าที่สัมภาษณ์กับดวงนี่ก็มีผลต่อการพิจารณา(555555) หรือใช้ระบบสุ่มในการออกวีซ่าแบบหมุนๆวงล้อแบบที่ใช้ในการออกลอตเตอรี่?! หรือยังไง งงมาก! คือมีแพลนการเที่ยวชัดเจน จุดประสงค์ชัดเจน ตอนสัมภาษณ์อาจจะมีอาการตื่นเต้นบ้าง แต่ระหว่างการสนทนา ก็สบตาตลอด และไม่มีเจตนาแอบแฝงอะไรใดๆทั้งสิ้น แต่เจ้าหน้าที่ก็มองกลับแบบแว๊บๆ ตาจะมองไปที่คอมพิวเตอร์มากกว่า แล้วก็ไม่ให้ผ่าน!!
จากการแนะนำว่าให้รอสัก 1 ปีมาค่อยขอใหม่ ผมคงไม่รอ 1 ปีหรอกครับ รอไปสัก 10-20 ปีเลยละกัน ให้อายุสัก 40-50 ค่อยไปขอละกัน ไม่กล้าไปขออีกเร็วๆนี้หรอกครับ เสียเวลา เสียเงิน เสียความรู้สึก ไว้เป็นประเทศท้ายๆที่จะไปเที่ยวละกัน 55555 คิดว่าตอนนี้เราคงไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่เค้าจะให้เข้าประเทศ เพราะอายุน้อย โสด เดินทางคนเดียว(ปกติก็เที่ยวคนเดียวตลอด) งานไม่ค่อยผูกมัด.
ก็ถือเป็นประสบการณ์ครับ ไม่ลองไม่รู้ ต่างคนต่างโปรไฟล์ ยังไงก็ต้องเคารพในการตัดสินใจของท่านเจ้าหน้าที่ครับ....