Gilera Cx125 / กระเบนไฟ

กระทู้สนทนา

เมื่อไม่นานมานี้ในกลุ่ม 2T Thailand ได้แชร์กระทู้ความทรงจำของมอไซค์รุ่นหนึ่ง ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้เลือนลานจางหายไปจากความทรงของผู้เขียนหรือใครหลายคน สำหรับผู้เขียนยังไม่เคยมีโอกาสได้เห็นรถรุ่นนี้ด้วยตาตัวเองสักที โดยมอไซค์ที่กล่าวถึงณ.ที่นี้ได้แก่
Gilera Cx125 หรือ กระเบนไฟ

Gilera cx125 เป็นรถมอไซค์สัญชาติอิตาลี ซึ่งมีการเปิดตัวครั้งแรกในงาน Milan EICMA ประเทศอิตาลีในปี 1989 โดยเวลานั้น Cx125 ยังคงเป็นแค่รถคอนเซป (รถในอนาคต) ซึ่งทางค่าย Gilera ใช้เวลาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้นสามารถนำพา Cx125 จากรถคอนเซปให้ออกมาโลดแล่นอยู่บนท้องถนนในปี 1991 (2534)

สำหรับในประเทศไทย Gilera Cx125 ถูกจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการโดยบริษัทยนตรกิจ โดยมีราคาค่าตัวที่ไม่สามารถระบุได้แน่ชัดอยู่ประมาณที่ 85,000 – 89,000 บาท สำหรับข้อมูลเกี่ยวกับ Cx125 ในไทย ผู้เขียนไม่อาจหาพวกเอกสารต่างๆ เพื่อใช้อ้างอิงข้อมูลได้อย่างแน่ชัด ซึ่งมีเพียงแค่คำบอกเล่าข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับรถตามเว็ปไซค์ต่างๆ ดังนั้นข้อมูลของ Cx125 ที่นำเสนอใช้ของเว็ปไซค์ต่างประเทศอ้างอิงแทน

Gilera Cx125 ถูกออกแบบโดยนักออกแบบรถชื่อดังของอิตาลีมีชื่อว่า Federico Martini ซึ่งการออกแบบ Cx125 ในครั้งนี้ถือเป็นผลงานที่น่าประดับใจอีกชิ้นหนึ่ง เนื่องจากดีไซน์รูปทรงของรถส่งผลให้การออกแบบครั้งนี้มีความล้ำอนาคตเป็นอย่างมาก แม้เวลาจะผ่านมาเกือบจะ 27 ปีแล้ว Cx125 ก็ถือได้ว่ามีความร่วมสมัยอยู่มาก นอกจากการออกแบบแล้วสีสันของ Cx125 ยังชวนให้นึกถึงนก Osmos Rolling Bird อีกด้วย

อ้างอิงจาก www.motorcyclespecs.co.za

เหตุไฉน Cx125 ถึงไม่ประสบความสำเร็จในประเทศไทย เมื่อวิเคราะห์ถึงความล้มเลวของ Cx125 ในประเทศไทย สามารถระบุได้ดังนี้

-Cx125 มีราคาค่าตัวอยู่ที่ 85,000-89,000 โดยปีที่จัดจำหน่ายอยู่ช่วง พ.ศ 2534 (1991) เป็นต้นไป ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับค่ายมอไซค์ญี่ปุ่นทั้ง 4 ค่ายมีรถมอเตอร์ไซค์ขนาด 150cc ออกจัดจำหน่ายครบทุกค่ายและยังมีราคาถูกกว่าเกือบเท่าตัว สำหรับ 150cc ค่ายญี่ปุ่นมีราคาค่าตัวอยู่ที่ 42,500 -60,000 บาทโดยประมาณ (อิงจาก RGV-S 42,500 กับ Nsr150r 55,000 โดยประมาณ)

-ในเมื่อรถ 150cc มีเครื่องที่ใหญ่กว่าและราคาที่ถูกกว่า ซึ่งเหมาะกับการใช้งานหรือในชีวิตประจำวัน แต่สำหรับ Cx125 แม้เทคโนโลยีอาจเหนือกว่าแต่หากไม่ชื่นชอบจริงๆ ก็แทบไม่มีทางที่จะจ่ายรถที่ cc น้อยกว่าและแพงกว่า

-ศูนย์บริการ การเลือกซื้อรถสักคันต้องมีการซ่อมบำรุงตามระยะ หากศูนย์บริการไม่ครอบครุมพื้นที่แล้ว การใช้บริการก็มีความยากลำบาก