ผู้สื่อข่าว อีมินจี รายงานเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมาว่า ได้มีโพสต์จากบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นพนักงานของ HYBE ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ โดยบุคคลดังกล่าวที่ถูกระบุว่าเป็น “A” ได้แชร์ภาพถ่ายของอีเมลภายใน ไฟล์เอกสาร และนามบัตรเพื่อยืนยันการเป็นพนักงานของ HYBE พร้อมระบุว่า "ผมได้รวบรวมความกล้าพอที่จะโพสต์นี้ หลังจากที่ต้องเก็บไว้เงียบ ๆ มานาน"
A กล่าวว่า “มันเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับข้อกล่าวอ้างของ HYBE ที่ว่าไม่ได้ดำเนินการตลาดแบบไวรัลย้อนกลับ ฉันต้องการเปิดเผยว่าส่วนต่างๆ มากมายที่กล่าวถึงในรายงานนี้นั้น ได้ดำเนินการตามแผนจริงๆ ซึ่งรายงานเอกสารนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับตัวศิลปินเท่านั้น แต่ยังมีคำพูดเชิงดูถูกเหยียดหยามต่อบุคคลสำคัญในวงการ K-POP มากมาย โดยเน้นย้ำว่า มีคนออกคำสั่งด้วยจุดประสงค์อะไรบางอย่าง และคนอื่นๆ ที่เหลือก็ดำเนินการตามคำสั่งนั้นอย่างไม่มีข้อแม้แต่อย่างใด
ในเอกสารที่ A ปล่อยออกมานั้น ไม่ได้กล่าวถึงเพียงแค่ศิลปินของ HYBE เท่านั้น แต่ยังรวมถึงไอดอลและนักร้องจากค่ายเพลงอื่น ๆ รวมถึงบุคลากรในวงการบันเทิง โปรดิวเซอร์ และแม้แต่รายการโทรทัศน์ที่ระบุชื่อเฉพาะ เอกสารดังกล่าวมีการวิจารณ์อย่างรุนแรงและคำพูดที่ดูหมิ่น ซึ่งสร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรงในสังคมเป็นอย่างมาก
โดยรายงานแนวโน้มอุตสาหกรรมของ HYBE ถูกเปิดเผยครั้งแรกในระหว่างการสอบของคณะกรรมาธิการวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวของสมัชชาแห่งชาติเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมิน ฮยองแบ สมาชิกสมัชชาแห่งชาติจากพรรค Democratic Party ที่ได้อ้างถึงบางส่วนของรายงานนี้ในขณะที่กำลังสอบปากคำ คิม แทโฮ ที่เป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของ HYBE (ปัจจุบันคิม แทโฮ ดำรงตำแหน่งเป็น COO ของ HYBE และ CEO ของค่าย Belift Lab)
หลังจากการเปิดเผยครั้งแรก ส่วนหนึ่งของเอกสารก็แพร่กระจายไปทางออนไลน์จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชน และเนื้อหาเพิ่มเติมถูกเปิดเผยออกมาเรื่อยๆ
และเพื่อเป็นการตอบโต้ต่อเหตุการณ์นี้ CEO ของ HYBE อี แจซัง ได้ออกคำขอโทษอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมผ่านเว็บไซต์ของ HYBE โดยกล่าวว่า “ผมขออภัยอย่างสุดซึ้งในนามของบริษัทต่อศิลปิน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในวงการ และแฟน ๆ สำหรับเนื้อหาในเอกสารการติดตามของเรา”
CEO อีแจซัง ได้ยอมรับว่า "เอกสารนี้มีคำพูดที่เร้าใจและคำวิจารณ์รุนแรงต่อศิลปิน K-pop มุมมองและการประเมินส่วนตัวของผู้เขียน และปัญหาของเนื้อหาดังกล่าวที่ถูกทำให้เป็นทางการในรูปแบบเอกสาร ผมยอมรับความรับผิดชอบในนามของบริษัทอย่างเต็มที่และรับรู้ถึงการขาดความตระหนักจากผู้นำที่ได้รับรายงานเหล่านี้ ในฐานะ CEO ผมได้สั่งให้หยุดการจัดทำเอกสารการติดตามเหล่านี้โดยทันที"
โพสต์ภาษาอังกฤษที่นำมาแปล:
https://x.com/juantokki/status/1852561091961966922?t=Uamh71dNZLEfojrax5P1Kw&s=19
แหล่งข่าวอ้างอิงฉบับภาษาเกาหลี:
https://m.entertain.naver.com/article/609/0000916071
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Fun fact: COO ย่อมาจาก Chief Operating Officer แปลเป็นไทยคือ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท มีหน้าที่แก้ปัญหา และลดแรงเสียดทานของการดำเนินการในเรื่องต่างๆของบริษัท โดย COO จะเป็นตำแหน่งที่ทำงานใกล้ชิดกับ CEO เปรียบเสมือนมือขวาของ CEO
เอกสารประเมินไอดอล HYBE รั่วซ้ำ พนักงานภายในออกมาแฉเอง
A กล่าวว่า “มันเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับข้อกล่าวอ้างของ HYBE ที่ว่าไม่ได้ดำเนินการตลาดแบบไวรัลย้อนกลับ ฉันต้องการเปิดเผยว่าส่วนต่างๆ มากมายที่กล่าวถึงในรายงานนี้นั้น ได้ดำเนินการตามแผนจริงๆ ซึ่งรายงานเอกสารนี้ ไม่ได้มีเพียงแค่ความคิดเห็นเชิงลบเกี่ยวกับตัวศิลปินเท่านั้น แต่ยังมีคำพูดเชิงดูถูกเหยียดหยามต่อบุคคลสำคัญในวงการ K-POP มากมาย โดยเน้นย้ำว่า มีคนออกคำสั่งด้วยจุดประสงค์อะไรบางอย่าง และคนอื่นๆ ที่เหลือก็ดำเนินการตามคำสั่งนั้นอย่างไม่มีข้อแม้แต่อย่างใด
ในเอกสารที่ A ปล่อยออกมานั้น ไม่ได้กล่าวถึงเพียงแค่ศิลปินของ HYBE เท่านั้น แต่ยังรวมถึงไอดอลและนักร้องจากค่ายเพลงอื่น ๆ รวมถึงบุคลากรในวงการบันเทิง โปรดิวเซอร์ และแม้แต่รายการโทรทัศน์ที่ระบุชื่อเฉพาะ เอกสารดังกล่าวมีการวิจารณ์อย่างรุนแรงและคำพูดที่ดูหมิ่น ซึ่งสร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรงในสังคมเป็นอย่างมาก
โดยรายงานแนวโน้มอุตสาหกรรมของ HYBE ถูกเปิดเผยครั้งแรกในระหว่างการสอบของคณะกรรมาธิการวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวของสมัชชาแห่งชาติเมื่อวันที่ 24 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมิน ฮยองแบ สมาชิกสมัชชาแห่งชาติจากพรรค Democratic Party ที่ได้อ้างถึงบางส่วนของรายงานนี้ในขณะที่กำลังสอบปากคำ คิม แทโฮ ที่เป็นหนึ่งในผู้บริหารระดับสูงของ HYBE (ปัจจุบันคิม แทโฮ ดำรงตำแหน่งเป็น COO ของ HYBE และ CEO ของค่าย Belift Lab)
หลังจากการเปิดเผยครั้งแรก ส่วนหนึ่งของเอกสารก็แพร่กระจายไปทางออนไลน์จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของสาธารณชน และเนื้อหาเพิ่มเติมถูกเปิดเผยออกมาเรื่อยๆ
และเพื่อเป็นการตอบโต้ต่อเหตุการณ์นี้ CEO ของ HYBE อี แจซัง ได้ออกคำขอโทษอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 ตุลาคมผ่านเว็บไซต์ของ HYBE โดยกล่าวว่า “ผมขออภัยอย่างสุดซึ้งในนามของบริษัทต่อศิลปิน ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในวงการ และแฟน ๆ สำหรับเนื้อหาในเอกสารการติดตามของเรา”
CEO อีแจซัง ได้ยอมรับว่า "เอกสารนี้มีคำพูดที่เร้าใจและคำวิจารณ์รุนแรงต่อศิลปิน K-pop มุมมองและการประเมินส่วนตัวของผู้เขียน และปัญหาของเนื้อหาดังกล่าวที่ถูกทำให้เป็นทางการในรูปแบบเอกสาร ผมยอมรับความรับผิดชอบในนามของบริษัทอย่างเต็มที่และรับรู้ถึงการขาดความตระหนักจากผู้นำที่ได้รับรายงานเหล่านี้ ในฐานะ CEO ผมได้สั่งให้หยุดการจัดทำเอกสารการติดตามเหล่านี้โดยทันที"
โพสต์ภาษาอังกฤษที่นำมาแปล:
https://x.com/juantokki/status/1852561091961966922?t=Uamh71dNZLEfojrax5P1Kw&s=19
แหล่งข่าวอ้างอิงฉบับภาษาเกาหลี:
https://m.entertain.naver.com/article/609/0000916071
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้