ผมได้สมัครใช้บริการ fitness สาขาหนึ่งย่านรัชดาภิเษกนะครับ เนื่องจากเห็นว่าให้บริการ 24 ชั่วโมง เครื่องออกกำลังกายที่ทันสมัย อยู่ใกล้รถไฟฟ้า ซึ่งมีค่าบริการแรกเข้าคือ 1.ค่าแรกเข้า 1500฿ 2.ค่าบัตรสมาชิก 1500฿ 3.ค่าบริการรายเดือน 1500฿ รวมเป็นเงิน 4500฿ แต่เนื่องจากพนักงานขายบอกว่าถ้าจ่ายผ่านบัตรเครดิทจะได้เล่นฟรี 1 เดือน ผมเลยคิดว่าเป็นข้อเสนอที่น่าสนใจ เลยได้สมัครไป

แต่สิ่งที่ไม่ชอบมาพากลของ fitness คือ พนักงานได้เอาบัตรเครดิทไปถ่ายเอกสารที่แสดงเลขหน้าบัตรเครดิทเพื่อเข้าระบบตัดเงินสมาชิกรายเดือนแทนที่จะจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิทในเดือนดีงกล่าวโดยไม่ได้แจ้ง

ซึ่งสรุปคือ ผมได้สมัครใช้บริการไป 4500฿ เป็นค่าแรกเข้า 1500฿ ค่าบัตรเข้า 1500฿ และค่าบริการรายเดือน 1500฿  จำนวน 1 เดือน และแถมจากการจ่ายผ่านบัตรเครดิทอีก 1 เดือน รวมเป็น 2 เดือน  ทั้งนี้พนักงานแจ้งลูกค้าว่าสามารถยกเลิกการผูกบัตรได้ก่อน2 อาทิตย์ แล้วสามารถกลับมาจ่ายผ่านบัตรหรือ เงินสดเป็นรายครั้งได้

และล่าสุดผมได้เข้าไปที่ fitness เพื่อขอยกเลิกการผูกบัตรกับ  fitness (ซึ่งเป็นระบบการตัดเงินอัตโนมัติของทางร้าน) เนื่องจากจะครบ 2 เดือนตามที่พนักงานขายบอก และต้องการจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิทด้วยตนเอง เป็นรายครั้งไป แต่กลับได้รับคำตอบว่า “ลูกค้าไม่สามารถยกเลิกการผูกบัตรเครดิทได้ ถ้าจะจ่ายเงินผ่านบัตรเครดิทต้องให้ทางร้านเป็นผู้ตัดเงินเอง  และถ้าจะยกเลิกลูกค้าต้องจ่ายเงินล่วงหน้า 3 เดือน  อ้าวววววววว ไหงเป็นงั้นไป เหมือนโดนมัดมือชก เรื่องเหล่านี้พนักงานไม่ได้แจ้งอะไรกับลูกค้าเลย ไหนบอกว่าสามารถยกเลิกการผูกบัตรเครดิท และจ่ายเองเป็นรายครั้งได้

ผมอยากถามความเห็นว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติไหมครับ ที่ทาง fitness มัดมือชกให้ผูกบัตรเครดิทกับทางร้าน และพอจะยกเลิกก็ให้เปลี่ยนเป็นจ่ายเงินล่วงหน้า 3 เดือนแทนที่จะจ่ายเป็นรายเดือนเหมือนที่แจ้งกับลูกค้า และถือว่าเป็นการเอาเปรียบลูกค้าไหม สคบ. ควรเข้ามาจัดการดูแลไหม ถือว่าเป็นการเอาเปรียบลูกค้าไหม สื่อมวลชนควรเข้ามาดูเรื่องนี้เพื่อให้ความรู้กับประชาชนไหมครับ