ปรึกษาเรื่องคดีความแพ่ง(เช่าซื้อรถยนต์) แต่เป็นกรณีผมมีชื่อ และ นามสกุล เหมือนคนที่ถูกศาลพิพากษา

กระทู้คำถาม
เนื่องจากผมทำธุรกรรมกับสถาบันการเงิน แล้วทางสถาบันการเงินแจ้งว่าผมมีประวัติติดคดีที่ศาลแพ่ง โดยหลังจากทราบผมก็ไปดำเนินการเพื่อจะขอคัดเอกสารประกอบสำนวนฟ้องที่ศาล แต่ปรากฎว่า เอกสารประกอบคำฟ้องต่างๆที่จะมีรายละเอียดตัวตนคนที่เป็นผู้ถูกฟ้องตัวจริงถูกทำลายทิ้งหมดไปแล้วเพราะอายุความเกิน 10 ปี เหลือเพียงแต่เอกสารคำพิพากษาที่ไม่ระบุเลขที่บัตรประชาชน   ผมอึ้งไปพักนึง. แล้วได้รับคำแนะนำว่าให้ลองไปค้นเอกสารสำนวนต่างๆที่กรมบังคับคดี. ซึ่งผมก็ไปยื่นคำร้องขอคัดเอกสารทันที แต่ปรากฎว่า เอกสารถูกทำลายเช่นกันเพราะการบังคับคดีจบแล้ว. ผมยิ่งอึ้งหนักเข้าไปอีก. และยังพยายาม อยากจะเครียร์ตัวเอง จึงไปขอตรวจสอบการฟ้องล้มละลาย ก็ไม่ปรากฎว่าฟ้องล้มละลายหรือถูกพิทักษ์ทรัพย์แต่อย่างใด. เท่านั้นไม่พอ ผมยังไปตรวจสอบเครดิตบูโรที่เครดิตบูโรแห่งชาติ ก็ไม่ปรากฎหนี้สิน หรือหนี้เสีย หรือ ประวัติเสียแต่อย่างใด

ซึ่งผมเกิด พ.ศ. 2517
คดีที่เกิดพิพากษาเมื่อ 2544
ซึ่ง ณ ตอนนั้นผมต้องอายุ 27 ปี
แต่ประเด็นคือ กว่าจะเป็นคดีความฟ้องและพิพากษาเสร็จ ทรัพย์ที่เช่าซื้อคือ รถยนต์ น่าจะต้องมีการเช่าซื้อกันก่อน และคดีต้องฟ้องก่อนเป็นอย่างน้อย 1 - 2 ปี ซึ่งผมน่าจะอายุ 25 ปี และจากการสืบทรัพย์ของกรมบังคับคดี เจ้าคนที่ชื่อและสกุลเดียวกับผมมันมีธุรกรรมกับแบงค์. ทางการสืบทรัพย์จึงสืบเพื่อจะอายัด หรือ ยึดทรัพย์ แต่ติดที่ยังเป็นธุรกรรมที่ดินของแบงค์ จึงถอนการยึดที่ดิน(มีเลขที่ของที่ดินให้ผมดูด้วย)
ซึ่งประเด็นที่ดินนั้นผมจะบอกว่า ผมอายุประมาณ 24-25 ปีผมมีศักยภาพในการกู้ซื้อ หรือ จดจำนองที่ดินแล้วหรือ. เพราะผมจบการศึกษามาแล้วทำงานที่แรกเมื่อปี 2539 เงินเดือนไม่ถึงหมื่น.
ส่วนเรื่องสืบว่าใครเป็นผู้ครอบครอง หรือ จดจำนองที่ดินที่มามีส่วนเกี่ยวข้องที่ขาดว่าเป็นชื่อของคนที่ชื่อกับสกุลเหมือนผมนั้น ผมได้ไปติดต่อธนาคารแล้วแต่ได้รับการปฎิเสธ.  และมีผู้ใหญ่ใจดีช่วยตรวจสอบในระบบให้ จึงทราบว่าคนที่ชื่อนาย...... (ชื่อกับสกุลเหมือนผม) มี 5 คนทั้งประเทศ ซึ่งมีคนที่เกิด พ.ศ. 2480 จำนวน 1 คนและ พ.ศ. 2488 จำนวน 1 คน / อีก 2 คนเกิดใน พ.ศ. 2508 / ส่วนตัวผมเกิด พ.ศ.2517.  จากการไล่อายุคนที่ชื่อสกุลเดียวกันเทียบเคียงจะสันนิฐานเบื้องต้นได้ว่า คนที่เกิด 2508 มีโอกาสทำธุรกรรมเช่าซื้อรถ และ มีธุรกรรมที่ดินกับแบงค์ได้มากที่สุดเพราะช่วงนั้นคนที่เกิดปี 2508 จะมีอายุประมาณ 35-36 ปี. ซึ่งกลุ่มที่เกิด 2480 กับ 2488 ตอนนั้นอายุเกือบ 60 ปีแล้ว ไม่น่าทำธุรกรรมแบงค์ได้. และในมุมของอายุผม ณ ตอนนั้นประมาณ 24-26 ซึ่งผมรู้ตัวเองดีว่าเงินเดือนเท่าไร รายได้เท่าไร จะสามารถทำธุรกรรมนั้น หรือครอบครอง หรือ เช่าซื้อที่ดินได้หรือ

จนตอนนี้ก็ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรเพื่อจะขอให้ศาลยืนยันตัวตน หรือ แสดงตัวตนว่าผมไม่ใช่บุคคลที่ติดคดีนั้น.  มันมีแต่คำถามในใจว่าทำไม???
1. ในคำพิพากษาทำไมไม่ระบุหมายเลขบัตรประชาชน
2. ถ้าเป็นระเบียบที่จะต้องปฎิบัติของขั้นตอนของศาลว่า ไม่ต้องระบุหมายเลขบัตร ปชช. แล้วเมื่อเจอกรณีคนชื่อและสกุลเหมือนทำไมไม่มีคำตอบ หรือ ทางออกในการพิสูจน์ทราบ เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้ที่เสียโอกาส

หมายเหตุ: ตอนนี้โลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว หน่วยงานใหญ่โต จะทำลายเอกสารตามอายุความแต่แทนที่จะเก็บข้อมูลไว้ในระบบคอมพิวเตอร์. เรื่องแค่นี้คิดกันไม่เป็น ผมก็งงกับความคิดและวิสัยทัสน์จริงๆ. แถมไม่มีขั้นตอนรองรับอีก ยิ่งน่าสงสารคนที่พร่ำบอกว่าเราจะไปสู่ยุค 4.0 ยุคดิจิตอล.

ท้ายที่สุดนี้ต้องขอเรียนปรึกษาผู้รู้ และ ผู้มีประสบการณ์ช่วยแนะนำผมด้วยครับว่ามีช่องทางใดที่จะทำให้ผมหลุดพ้นจากคดีที่ผมม่ได้ก่อ และ ได้รับความเป็นธรรมที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากทางกระบวนการยุติธรรมเพื่อรองรับหรือยืนยันว่าผมซึ่งมีเลขบัตรประชาชนติดตัวตลอดเวลาไม่ใช่บุคคลที่ถูกพิพากษาโดยไม่ระบุเลขบัตรประชาชน.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่