พอดีมารดาของเราได้เป็นหนี้บัตรเครดิตของสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง (เกือบครึ่งล้าน) แต่ในช่วงที่เกิดวิกฤตโควิด ท่านป่วยและไม่สามารถที่ธุรกรรมทางการเงินเพื่อชำระหนี้บัตรเป็นรายเดือนได้ เราในฐานะบุตร เลยด้านประสานเรื่องนี้ไปที่สถาบันการเงินแห่งนั้น ประกอบกับในช่วงนั้นสถาบันการเงินต่างๆได้มีมาตรการช่วยเหลือเรื่องโควิดเราจึงได้ทำเรื่องและขอเปลี่ยนแปลง ว่าตัวเราจะเป็นคนดูแลรับผิดชอบหนี้สินที่เกิดจากบัตรเครดิตต่างๆของบัญชีนี้ โดยเราทำเอกสารส่งไปที่สถาบันการเงินนั้นเป็นที่เรียบร้อย หลังจากเราทำเอกสารและเป็นผู้ชนะยิ่งแทนได้กลับมา 2-3 งวด สถาบันการเงินอันนี้ได้โดนเทคโอเวอร์จากสถาบันการเงินแห่งใหม่ซึ่งทางสถาบันการเงินพี่เค้กโอเวอร์ไปนั้นไม่ได้มีการติดต่อที่ส่งเอกสารใดๆมาให้กับเราเลยสักฉบับจนกระทั่งเมื่อต้นเดือนธันวาคม 67ได้มีสำนักงานจัดการด้านการเงินของสถาบันการเงินมาติดตามและสอบถามถึงมารดาของเราซึ่งปัจจุบันท่านต้องพบแพทย์เป็นประจำและเราพยายามจะแจ้งกับเจ้าหน้าที่ที่ติดตามแต่เขากล่าวเพียงว่าไม่สามารถแจ้งให้กับเราได้เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ในกรณีแบบนี้เราควรทำอย่างไรดีแล้วหากจับพลัดจับครูเกิดขึ้นลงขึ้นศาลเป็นคดีความเราจะอ้างหรือแถลงต่อศาลแบบไหนได้บ้าง มีสมาชิกท่านใดเคยเกิดสถานการณ์ใกล้เคียงกับสถานการณ์ของข้าพเจ้าหรือไม่รบกวนให้คำแนะนำข้าพเจ้าด้วยจักเป็นพระคุณยิ่ง
ธนาคารเขาส่งข้อมูลให้กับสำนักงานกฎหมายมากแค่ไหนในกรณีหนี้บัตรเครดิต