มีความลือว่า มิน พิชญา จะฟ้อง บอสณวัฒน์ ?
#บันเทิงหน้าตุ๊ด
#บอสณวัฒน์
#มินพิชญา
#ดิไอคอนกรุ๊ป
#ข่าวบันเทิง
แอดมิน | #มนตรี
1. บอสณวัฒน์ กล่าวว่า กรณีที่มินและแซมได้ออกจากเรือนจำ อัยการไม่ฟ้องและออกมาก็ถือว่าเป็นสิ่งที่โชคดี แต่สำหรับตนรู้สึกเฉยๆ ไม่รู้ว่าต้องแสดงความยินดีหรือไม่ยินดี ตอนนี้หลายคนกำลังหลงประเด็นกันไปเยอะ ทันทีที่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ระบบกฎหมายของเมืองไทยเป็นระบบกล่าวหา ดังนั้นชัดเจนว่าเมื่อถูกข้อกล่าวหา ตำรวจมีสิทธิ์ที่จะฝากขัง เพื่อไม่ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวในช่วงที่หาหลักฐานส่งอัยการ
2.ช่วงระหว่างการกล่าวหายังไม่ได้ถูกพิพากษาว่าเป็นคนผิดหรือถูก เมื่อไม่ถูกสั่งฟ้อง 2 คน หลายคนคิดว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นผู้ที่ไม่เคยกระทำความผิด ซึ่งตนตอบเลยว่าไม่ใช่ คดียังไม่สิ้นสุด ตำรวจไม่สามารถส่งฟ้องเองได้ ต้องให้อัยการเป็นคนสั่งฟ้อง ซึ่งอัยการก็มีอยู่ 2 เลเวล คืออัยการปกติและอัยการสูงสุด เมื่อสั่งไม่ฟ้องก็โยนกลับไปที่ดีเอสไอ เหตุผลคือมีหลักฐานไม่เพียงพอ ซึ่งดีเอสไอมีหน้าที่ไปเพิ่มหลักฐานหรือไปใช้คำอธิบายในจำนวนที่กฎหมายกำหนดและส่งกลับไปที่อัยการสูงสุด เพื่อวินิจฉัยและหาข้อสรุปอีกครั้ง หากข้อสรุปเหมือนกับอัยการก็ถือว่าสิ้นสุด จะไม่มีความผิดใดๆ ทั้งสิ้นในเรื่องของคดีอาญา...
3.“แต่มักจะมีพวกอวตารยุยง ให้มาฟ้องผม ฟ้องกรรชัย กำเนิดพลอย ก็อยากให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งวู่วาม เพราะคดียังไม่สิ้นสุด ผมไม่ได้เดือดร้อน แต่คนที่จะเดือดร้อนคือ คนที่คุณกำลังเชียร์อยู่ คุณต้องรู้ว่าตอนนี้ที่ออกมาได้ถือเป็นบุญ ต้องทำตัวให้นิ่ง คนที่จะเชียร์ ถ้าหากรักอีกฝ่ายจริงต้องใจเย็น เพื่อให้ผ่านพ้นอัยการสูงสุด ถ้าหากให้มาฟ้องผม คดียังไม่สิ้นสุด ถ้าหากฟ้องขึ้นมาปัญหาจะอยู่ที่คนฟ้อง ถ้าฟ้องมาแล้วศาลยกฟ้องก็ถูกฟ้องกลับกลายเป็นคดีอาญา เพราะแจ้งความเท็จ ดังนั้นคนที่แนะนำ ถ้ารักน้องอย่าทำแบบนั้น”...
4.“เคยว่าน้องมินในกรณีที่หลังจากน้องแถลงข่าว แล้วบอกว่าเป็นแค่นี้ แต่ว่ามีคลิปที่พูดว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่พรีเซนเตอร์ ยังเข้ามาเป็นบอส เป็นผู้บริหาร ทุกอย่างเหมือนหนังคนละม้วน แต่คนเดียวกันเล่น ผมเป็นคนยอมไม่ได้กับเรื่องแบบนี้ ถ้าหากแถลงข่าวแล้วบอกว่าเป็นแบบนี้ เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อันนี้น่ารัก แต่ถ้าหากบอกว่าไม่ใช่ แต่คลิปมันวนโลกโซเชียลอยู่”...
5.บอสณวัฒน์ กล่าวว่า การที่ไม่ให้ความร่วมมือในการบอกที่มาของค่าพรีเซนเตอร์ต่างๆ ก็ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ และอีกส่วนหนึ่งคือ วันที่ไปมอบตัว ทุกคนเข้าตามประตูปกติ ผ่านสื่อมวลชนไป แต่มีน้องคนเดียว ไม่รู้ว่าไปเข้าทางไหน ตนพูดในลักษณะที่กฎหมายควรมีไว้สำหรับมาตรฐานเดียวกันกับทุกคน วิธีปฏิบัติต้องมีไว้ ไม่ว่าใครก็ตาม ตนไม่ได้จงเกลียดจงชังน้อง แต่อยากให้กระบวนการยุติธรรมและเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคล จงอย่าละเว้นและให้ความเสมอภาคในการใช้กฎหมายกับทุกคนไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_9584514
มีความลือว่า มิน พิชญา จะฟ้อง บอสณวัฒน์ ?
#บันเทิงหน้าตุ๊ด
#บอสณวัฒน์
#มินพิชญา
#ดิไอคอนกรุ๊ป
#ข่าวบันเทิง
แอดมิน | #มนตรี
1. บอสณวัฒน์ กล่าวว่า กรณีที่มินและแซมได้ออกจากเรือนจำ อัยการไม่ฟ้องและออกมาก็ถือว่าเป็นสิ่งที่โชคดี แต่สำหรับตนรู้สึกเฉยๆ ไม่รู้ว่าต้องแสดงความยินดีหรือไม่ยินดี ตอนนี้หลายคนกำลังหลงประเด็นกันไปเยอะ ทันทีที่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ระบบกฎหมายของเมืองไทยเป็นระบบกล่าวหา ดังนั้นชัดเจนว่าเมื่อถูกข้อกล่าวหา ตำรวจมีสิทธิ์ที่จะฝากขัง เพื่อไม่ก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวในช่วงที่หาหลักฐานส่งอัยการ
2.ช่วงระหว่างการกล่าวหายังไม่ได้ถูกพิพากษาว่าเป็นคนผิดหรือถูก เมื่อไม่ถูกสั่งฟ้อง 2 คน หลายคนคิดว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ เป็นผู้ที่ไม่เคยกระทำความผิด ซึ่งตนตอบเลยว่าไม่ใช่ คดียังไม่สิ้นสุด ตำรวจไม่สามารถส่งฟ้องเองได้ ต้องให้อัยการเป็นคนสั่งฟ้อง ซึ่งอัยการก็มีอยู่ 2 เลเวล คืออัยการปกติและอัยการสูงสุด เมื่อสั่งไม่ฟ้องก็โยนกลับไปที่ดีเอสไอ เหตุผลคือมีหลักฐานไม่เพียงพอ ซึ่งดีเอสไอมีหน้าที่ไปเพิ่มหลักฐานหรือไปใช้คำอธิบายในจำนวนที่กฎหมายกำหนดและส่งกลับไปที่อัยการสูงสุด เพื่อวินิจฉัยและหาข้อสรุปอีกครั้ง หากข้อสรุปเหมือนกับอัยการก็ถือว่าสิ้นสุด จะไม่มีความผิดใดๆ ทั้งสิ้นในเรื่องของคดีอาญา...
3.“แต่มักจะมีพวกอวตารยุยง ให้มาฟ้องผม ฟ้องกรรชัย กำเนิดพลอย ก็อยากให้ใจเย็นๆ อย่าเพิ่งวู่วาม เพราะคดียังไม่สิ้นสุด ผมไม่ได้เดือดร้อน แต่คนที่จะเดือดร้อนคือ คนที่คุณกำลังเชียร์อยู่ คุณต้องรู้ว่าตอนนี้ที่ออกมาได้ถือเป็นบุญ ต้องทำตัวให้นิ่ง คนที่จะเชียร์ ถ้าหากรักอีกฝ่ายจริงต้องใจเย็น เพื่อให้ผ่านพ้นอัยการสูงสุด ถ้าหากให้มาฟ้องผม คดียังไม่สิ้นสุด ถ้าหากฟ้องขึ้นมาปัญหาจะอยู่ที่คนฟ้อง ถ้าฟ้องมาแล้วศาลยกฟ้องก็ถูกฟ้องกลับกลายเป็นคดีอาญา เพราะแจ้งความเท็จ ดังนั้นคนที่แนะนำ ถ้ารักน้องอย่าทำแบบนั้น”...
4.“เคยว่าน้องมินในกรณีที่หลังจากน้องแถลงข่าว แล้วบอกว่าเป็นแค่นี้ แต่ว่ามีคลิปที่พูดว่าไม่ได้เป็นเพียงแค่พรีเซนเตอร์ ยังเข้ามาเป็นบอส เป็นผู้บริหาร ทุกอย่างเหมือนหนังคนละม้วน แต่คนเดียวกันเล่น ผมเป็นคนยอมไม่ได้กับเรื่องแบบนี้ ถ้าหากแถลงข่าวแล้วบอกว่าเป็นแบบนี้ เพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อันนี้น่ารัก แต่ถ้าหากบอกว่าไม่ใช่ แต่คลิปมันวนโลกโซเชียลอยู่”...
5.บอสณวัฒน์ กล่าวว่า การที่ไม่ให้ความร่วมมือในการบอกที่มาของค่าพรีเซนเตอร์ต่างๆ ก็ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ และอีกส่วนหนึ่งคือ วันที่ไปมอบตัว ทุกคนเข้าตามประตูปกติ ผ่านสื่อมวลชนไป แต่มีน้องคนเดียว ไม่รู้ว่าไปเข้าทางไหน ตนพูดในลักษณะที่กฎหมายควรมีไว้สำหรับมาตรฐานเดียวกันกับทุกคน วิธีปฏิบัติต้องมีไว้ ไม่ว่าใครก็ตาม ตนไม่ได้จงเกลียดจงชังน้อง แต่อยากให้กระบวนการยุติธรรมและเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคล จงอย่าละเว้นและให้ความเสมอภาคในการใช้กฎหมายกับทุกคนไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม... อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.khaosod.co.th/entertainment/news_9584514