ฉบับที่ ๕๑ วันอังคารที่ ๗ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๑
เรื่อง ย้ำอย่าค้างเงินเดือน!!! นายจ้างดี ลูกน้องเจ๋ง เป็นอย่างไรตามหลักธรรม?
จากการประกาศของอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยถึงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ว่า ในกรณีที่มีการคำนวณค่าจ้างให้กับลูกจ้างเป็นรายเดือน รายวัน รายชั่วโมง หรือระยะเวลาอื่นที่ไม่เกิน 1 เดือน หรือตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง อย่างไรก็ตามถ้านายจ้างและลูกจ้างได้มีการตกลงกันเป็นอย่างอื่นซึ่งเป็นประโยชน์แก่ลูกจ้าง เช่น กำหนดให้มีการจ่ายค่าจ้างทุก 15 วัน หรือสัปดาห์ละครั้ง ก็ให้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้
สำหรับกรณีที่มีการคำนวณค่าจ้างนอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น ให้จ่ายตามกำหนดเวลาที่นายจ้างและลูกจ้างได้ตกลงกัน กสร. จึงขอให้นายจ้างปฏิบัติให้ถูกต้อง หากฝ่าฝืนจะมีความผิดโดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
หลายๆคนคงสงสัยว่า กฏหมายเรื่องเงินเดือนลงรายละเอียดขนาดนี้ด้วย เป็นเรื่องที่เห็นใจลูกจ้างดีจัง แล้วยังมีวันแรงงานอีก (วันนายจ้างไม่มี) แล้วกฏหมายข้ออื่นๆอีกหละ มีอะไรบ้างเผื่อลูกจ้างไม่ได้ศึกษา จะถูกเอารัดเอาเปรียบ แหม่!!! นายจ้างคงน้อยใจ มีกฏอะไรบังคับลูกจ้างบ้าง (ยังจะถามอีก นายจ้างออกกฏเองได้เลย ห้ามสาย ห้ามป่าย ห้ามลา และห้ามตาย 555)
อย่างไรก็ตาม กฏหมาย กติกานั้นเปลี่ยนแปลงได้เสมอตามผู้คิดกฏ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงและใช้ได้ทุกยุคสมัย คือหลักธรรมที่พระพุทธองค์ทรงมอบให้ มีหลายเรื่อง เรื่องที่น่าสนใจ คือ ทิศ 6 ในสิงคาลกสูตร โดยทิศที่ 6 เป็นเรื่องหน้าที่ ของนายจ้างและลูกจ้าง ดังนี้
6.เหฏฐิมทิส ทิศเบื้องล่าง ได้แก่ ลูกจ้างกับนายจ้าง
นายจ้างพึงบำรุงลูกจ้าง ดังนี้
1. จัดการงานให้ทำตามกำลังความสามารถ
2. ให้ค่าจ้างรางวัลสมควรแก่งานและ ความเป็นอยู่
3. จัดสวัสดิการดีมีช่วยรักษาพยาบาลในยาม
เจ็บไข้ เป็นต้น
4. ได้ของแปลกๆ พิเศษมา ก็แบ่งปันให้
5. ให้มีวันหยุดและพักผ่อนหย่อนใจตามโอกาส อันควร
ลูกจ้างอนุเคราะห์นายจ้าง ดังนี้
1. เริ่มทำงานก่อน
2. เลิกงานทีหลัง
3.เอาแต่ของที่นายให้
4. ทำการงานให้เรียบร้อยและดียิ่งขึ้น
5. นำความดีของนายไปเผยแพร่
สรุป กฏหมายใด ๆ ก็ตาม ไม่สามารถสร้างความยุติธรรม สร้างความสงบสุขได้จริง เนื่องจากมีผู้ออกกฏ บังคับกฎ เลี่ยงกฏ หรือเอากฏมาทำร้ายทำลายผู้คน ตามอำนาจกิเลสที่มีอยู่ในปุถุชน แต่หากนำหลักธรรมมาปฏิบัติ เชื่อมั่นได้ว่า สังคมต้องสงบสุข เพียงเรื่องนายจ้าง ลูกจ้าง ก็แสดงให้เห็นถึงความละเอียดของหลักธรรม ความรักปรารถนาดีของทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่ทำเพราะกลัวหรือเกรงกฏหมาย หากทำเพราะธรรมาภิบาล ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขอให้ศึกษาคำสอนให้ถ่องแท้ เป็นเรื่องที่น่าพิจารณาเป็นอย่างยิ่งในฐานะประเทศไทยคือเมืองพุทธ
ทุกท่านคิดเห็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความรู้กันใน Comment Facebook, YouTube, Blog, Line, IG, Twitter, pantip ...กันนะครับ ขอบคุณครับ
B.S.
7 ส.ค. 2561
ตอน ย้ำอย่าค้างเงินเดือน!!! นายจ้างดี ลูกน้องเจ๋ง เป็นอย่างไรตามหลักธรรม? เวลา 14.00-14.20 น.
https://youtu.be/BFELRXrHkw4
ย้ำ...อย่าค้างเงินเดือน!!! นายจ้างดี ลูกน้องเจ๋ง เป็นอย่างไรตามหลักธรรม?
เรื่อง ย้ำอย่าค้างเงินเดือน!!! นายจ้างดี ลูกน้องเจ๋ง เป็นอย่างไรตามหลักธรรม?
จากการประกาศของอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยถึงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ว่า ในกรณีที่มีการคำนวณค่าจ้างให้กับลูกจ้างเป็นรายเดือน รายวัน รายชั่วโมง หรือระยะเวลาอื่นที่ไม่เกิน 1 เดือน หรือตามผลงานโดยคำนวณเป็นหน่วย นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง อย่างไรก็ตามถ้านายจ้างและลูกจ้างได้มีการตกลงกันเป็นอย่างอื่นซึ่งเป็นประโยชน์แก่ลูกจ้าง เช่น กำหนดให้มีการจ่ายค่าจ้างทุก 15 วัน หรือสัปดาห์ละครั้ง ก็ให้เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้
สำหรับกรณีที่มีการคำนวณค่าจ้างนอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้น ให้จ่ายตามกำหนดเวลาที่นายจ้างและลูกจ้างได้ตกลงกัน กสร. จึงขอให้นายจ้างปฏิบัติให้ถูกต้อง หากฝ่าฝืนจะมีความผิดโดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
หลายๆคนคงสงสัยว่า กฏหมายเรื่องเงินเดือนลงรายละเอียดขนาดนี้ด้วย เป็นเรื่องที่เห็นใจลูกจ้างดีจัง แล้วยังมีวันแรงงานอีก (วันนายจ้างไม่มี) แล้วกฏหมายข้ออื่นๆอีกหละ มีอะไรบ้างเผื่อลูกจ้างไม่ได้ศึกษา จะถูกเอารัดเอาเปรียบ แหม่!!! นายจ้างคงน้อยใจ มีกฏอะไรบังคับลูกจ้างบ้าง (ยังจะถามอีก นายจ้างออกกฏเองได้เลย ห้ามสาย ห้ามป่าย ห้ามลา และห้ามตาย 555)
อย่างไรก็ตาม กฏหมาย กติกานั้นเปลี่ยนแปลงได้เสมอตามผู้คิดกฏ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนแปลงและใช้ได้ทุกยุคสมัย คือหลักธรรมที่พระพุทธองค์ทรงมอบให้ มีหลายเรื่อง เรื่องที่น่าสนใจ คือ ทิศ 6 ในสิงคาลกสูตร โดยทิศที่ 6 เป็นเรื่องหน้าที่ ของนายจ้างและลูกจ้าง ดังนี้
6.เหฏฐิมทิส ทิศเบื้องล่าง ได้แก่ ลูกจ้างกับนายจ้าง
นายจ้างพึงบำรุงลูกจ้าง ดังนี้
1. จัดการงานให้ทำตามกำลังความสามารถ
2. ให้ค่าจ้างรางวัลสมควรแก่งานและ ความเป็นอยู่
3. จัดสวัสดิการดีมีช่วยรักษาพยาบาลในยาม
เจ็บไข้ เป็นต้น
4. ได้ของแปลกๆ พิเศษมา ก็แบ่งปันให้
5. ให้มีวันหยุดและพักผ่อนหย่อนใจตามโอกาส อันควร
ลูกจ้างอนุเคราะห์นายจ้าง ดังนี้
1. เริ่มทำงานก่อน
2. เลิกงานทีหลัง
3.เอาแต่ของที่นายให้
4. ทำการงานให้เรียบร้อยและดียิ่งขึ้น
5. นำความดีของนายไปเผยแพร่
สรุป กฏหมายใด ๆ ก็ตาม ไม่สามารถสร้างความยุติธรรม สร้างความสงบสุขได้จริง เนื่องจากมีผู้ออกกฏ บังคับกฎ เลี่ยงกฏ หรือเอากฏมาทำร้ายทำลายผู้คน ตามอำนาจกิเลสที่มีอยู่ในปุถุชน แต่หากนำหลักธรรมมาปฏิบัติ เชื่อมั่นได้ว่า สังคมต้องสงบสุข เพียงเรื่องนายจ้าง ลูกจ้าง ก็แสดงให้เห็นถึงความละเอียดของหลักธรรม ความรักปรารถนาดีของทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ใช่ทำเพราะกลัวหรือเกรงกฏหมาย หากทำเพราะธรรมาภิบาล ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ขอให้ศึกษาคำสอนให้ถ่องแท้ เป็นเรื่องที่น่าพิจารณาเป็นอย่างยิ่งในฐานะประเทศไทยคือเมืองพุทธ
ทุกท่านคิดเห็นอย่างไร แลกเปลี่ยนความรู้กันใน Comment Facebook, YouTube, Blog, Line, IG, Twitter, pantip ...กันนะครับ ขอบคุณครับ
B.S.
7 ส.ค. 2561
ตอน ย้ำอย่าค้างเงินเดือน!!! นายจ้างดี ลูกน้องเจ๋ง เป็นอย่างไรตามหลักธรรม? เวลา 14.00-14.20 น. https://youtu.be/BFELRXrHkw4