สอบ5พยานสางปม‘น้องหญิง’ดับปริศนา ‘อัจฉริยะ’ปูดโยงค้ามนุษย์
วันจันทร์ ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2561, 16.19 น.
https://ppantip.com/topic/37912515
เซ่นคดี‘น้องหญิง’! ศรีวราห์สั่งเด้งด่วน‘ผกก.บางปะอิน’
วันจันทร์ ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2561, 16.55 น.
อัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ค้ามนุษย์ ร้องกองปราบ แห่โลง ตำรวจบางปะอิน ตายปริศนา น้องหญิง เด้งด่วน ผกก.สภ.บางปะอิน
ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา “น้องหญิง” อายุ 19 ปี เสียชีวิตอย่างปริศนา เนื่องจากกะโหลกศีรษะแตกและสมองบวม หลังจากเดินทางกลับจากไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาโดยมี นายสุรพล หรืออ๊อฟ ดาราคำ อายุ 23 ปี เป็นผู้อาสาขับรถพาน้องหญิงไปส่งกระทั่งมาเสียชีวิตดังกล่าวระหว่างทาง โดยนายสุรพล อ้างว่าน้องหญิงได้กระโดดลงจากรถเทรลเลอร์ไปเอง ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานในคดีอุบัติเหตุ กระทั่งต่อมาผลชันสูตร กลับระบุว่า “น้องหญิง” เสียชีวิตจากการถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่ท้ายทอย ซึ่งทางญาติเชื่อว่าการเสียชีวิตของ “น้องหญิง” น่าจะเป็นการฆาตกรรมมากกว่า และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เตรียมร้องเรียนต่อ ผบช.ภ.1 ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ เพื่อเอาเรื่องตำรวจ สภ.บางปะอิน ฐานผิดมาตรา 157 ทำรูปคดีเสียหายนั้น
ล่าสุด มีรายงานว่าตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้(30 ก.ค.61) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางไปที่ สภ.บางปะอิน เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว ก่อนจะมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ฤทธิ์ ศิริเทพ ผกก.สภ.บางปะอิน และ ร.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ วงค์ภูผานนท์ รอง สว.สอบสวน สภ.บางปะอิน เจ้าของคดี ไปช่วยราชการที่ ศปก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เป็นเวลา 30 วัน โดยมีผลทันที
http://www.naewna.com/local/354627
ล่าสุดวันนี้(30 ก.ค.61) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ว่า ขณะนี้ขั้นตอนทางคดียังอยู่ระหว่างการสอบปากคำและตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆที่พ่อของน้องหญิงนำมามอบให้ตำรวจกองปราบปราม(บก.ป.) รวมถึงพยานบุคคลที่พามาเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คน คือ น.ส.เจนและน.ส.รุ้ง(นามสมมุติ) ซึ่ง 1 ใน 2 คนนี้ถือเป็นพยานปากสำคัญ เนื่องจาก น.ส.รุ้ง มีความสนิทสนมกับน้องหญิง จะรู้เรื่องราวรายละเอียดเกี่ยวเรื่องทั้งหมดค่อนข้างดี ส่วน น.ส.เจน ถือเป็นพยานบุคคลที่สำคัญอีกคนเช่นเดียวกัน เนื่องจาก น.ส.เจน อ้างว่าเคยถูกเพื่อนคนหนึ่งของน้องหญิงชักชวนไปในลักษณะเดียวกับน้องหญิง โดยวันนี้ บก.ป.ได้สอบปากคำพยานทั้งหมด 5 ราย คือ ตน พ่อและอาของน้องหญิง น.ส.เจน และ น.ส.รุ้ง
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ในส่วนนี้ตนจึงเชื่อว่าทั้ง 3 คนนี้น่าจะมีการวางแผนทำกันเป็นขบวนการและก่อนหน้านี้น่าจะเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามหาตัวพยานบุคคลสำคัญอีก 2 คน ที่เคยถูกทั้ง 3 คนนี้กระทำในลักษณะดังกล่าว มาให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหากพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็จะมีการดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์เพิ่มเติมอีกด้วย
ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ได้รับนั้นทราบว่าเพื่อนคนหนึ่งของน้องหญิง และนายท๊อป ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง มักจะมีพฤติการณ์ทำหน้าที่คล้ายกับแม่เล้าในการล่อลวงหญิงสาวไปให้กับลูกค้ากระทำชำเราเพื่อแลกกับค่าตอบแทนตามแต่ตกลง โดยที่เหยื่อไม่ทราบเรื่อง จากนั้นก็จะชักชวนดื่มเหล้าพอเหยื่อเริ่มเมาได้ที่ก็จะขอตัวแยกกลับไปก่อน แล้วปล่อยให้ลูกค้าเป็นผู้ขับรถไปส่งเหยื่อที่เมาไม่ได้สติแทน ก่อนที่จะพาไปเปิดโรงแรมเพื่อกักขังหน่วงเหนี่ยวและข่มขืน
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่ได้เข้าพูดคุยกับทางตำรวจกองปราบแล้ว ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตก็รู้สึกดีใจและมีความหวังมากขึ้น เชื่อว่าตำรวจกองปราบน่าจะให้ความเป็นธรรมแก่น้องหญิงได้ โดยเฉพาะในวันพรุ่งนี้(31 ก.ค.61) คดีน่าจะมีความชัดเจนเพิ่มมากขึ้น
อีกทั้งทางตำรวจกองปราบก็จะมีการลงพื้นที่หลายจุดเพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการสอบปากคำแพทย์ผู้ที่ชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตของน้องหญิง เพื่อเป็นการยืนยันผล การลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และรอผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์จากค้อนและท่อแป๊บเหล็กที่มีการเก็บตัวอย่างส่งไปตรวจหาดีเอ็นเอแฝงของผู้ตาย ซึ่งตนเชื่อว่าอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุน่าจะเป็นท่อแป๊บเหล็กที่ตรวจพบจากภายในรถมากกว่า นอกจากนี้ตนยังเชื่อว่าเมื่อผลการตรวจออกมาครบถ้วนแล้วนั้นประกอบกับพยานหลักฐานที่มีอยู่ก็น่าจะเพียงพอต่อการขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดได้
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีพยานหลักฐานหลายส่วนแล้ว แต่ขณะนี้เรายังขาดพยานหลักฐานสำคัญอีก 1 ชิ้น คือกางเกงชั้นในของผู้เสียชีวิตที่หายไป ซึ่งหลักฐานชิ้นนี้จะสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงทางคดีได้หลายอย่าง
ด้านพ่อของน้องหญิง กล่าวว่า สำหรับศพของน้องหญิงนั้นจะมีการทำพิธีฌาปนกิจศพได้ก็ต่อเมื่อตำรวจสามารถจับตัวคนร้ายมาลงโทษได้ครบทุกคน ทั้งนี้ตนยืนยันว่าตัวน้องหญิงเองไม่มีสารเสพติดในร่างกายหรือเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด
http://www.naewna.com/local/354613
อาจจะแน่ชัดแล้ว! นักศึกษาสาวสวย เจอล่วงละเมิด จากวางแผนนางนกต่อ ให้คนชั่ว แล้วทำร้ายจนตาย จะอภัยทานได้ไหมเอ่ย
วันจันทร์ ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2561, 16.19 น.
https://ppantip.com/topic/37912515
เซ่นคดี‘น้องหญิง’! ศรีวราห์สั่งเด้งด่วน‘ผกก.บางปะอิน’
วันจันทร์ ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2561, 16.55 น.
อัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ค้ามนุษย์ ร้องกองปราบ แห่โลง ตำรวจบางปะอิน ตายปริศนา น้องหญิง เด้งด่วน ผกก.สภ.บางปะอิน
ความคืบหน้ากรณีเมื่อวันที่ 19 ก.ค.ที่ผ่านมา “น้องหญิง” อายุ 19 ปี เสียชีวิตอย่างปริศนา เนื่องจากกะโหลกศีรษะแตกและสมองบวม หลังจากเดินทางกลับจากไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งใน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยาโดยมี นายสุรพล หรืออ๊อฟ ดาราคำ อายุ 23 ปี เป็นผู้อาสาขับรถพาน้องหญิงไปส่งกระทั่งมาเสียชีวิตดังกล่าวระหว่างทาง โดยนายสุรพล อ้างว่าน้องหญิงได้กระโดดลงจากรถเทรลเลอร์ไปเอง ซึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานในคดีอุบัติเหตุ กระทั่งต่อมาผลชันสูตร กลับระบุว่า “น้องหญิง” เสียชีวิตจากการถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่ท้ายทอย ซึ่งทางญาติเชื่อว่าการเสียชีวิตของ “น้องหญิง” น่าจะเป็นการฆาตกรรมมากกว่า และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เตรียมร้องเรียนต่อ ผบช.ภ.1 ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ เพื่อเอาเรื่องตำรวจ สภ.บางปะอิน ฐานผิดมาตรา 157 ทำรูปคดีเสียหายนั้น
ล่าสุด มีรายงานว่าตั้งแต่ช่วงบ่ายวันนี้(30 ก.ค.61) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางไปที่ สภ.บางปะอิน เพื่อประชุมติดตามความคืบหน้าคดีดังกล่าว ก่อนจะมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ฤทธิ์ ศิริเทพ ผกก.สภ.บางปะอิน และ ร.ต.อ.ประเสริฐศักดิ์ วงค์ภูผานนท์ รอง สว.สอบสวน สภ.บางปะอิน เจ้าของคดี ไปช่วยราชการที่ ศปก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา เป็นเวลา 30 วัน โดยมีผลทันที
http://www.naewna.com/local/354627
ล่าสุดวันนี้(30 ก.ค.61) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับคดีดังกล่าว ว่า ขณะนี้ขั้นตอนทางคดียังอยู่ระหว่างการสอบปากคำและตรวจสอบพยานหลักฐานต่างๆที่พ่อของน้องหญิงนำมามอบให้ตำรวจกองปราบปราม(บก.ป.) รวมถึงพยานบุคคลที่พามาเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 คน คือ น.ส.เจนและน.ส.รุ้ง(นามสมมุติ) ซึ่ง 1 ใน 2 คนนี้ถือเป็นพยานปากสำคัญ เนื่องจาก น.ส.รุ้ง มีความสนิทสนมกับน้องหญิง จะรู้เรื่องราวรายละเอียดเกี่ยวเรื่องทั้งหมดค่อนข้างดี ส่วน น.ส.เจน ถือเป็นพยานบุคคลที่สำคัญอีกคนเช่นเดียวกัน เนื่องจาก น.ส.เจน อ้างว่าเคยถูกเพื่อนคนหนึ่งของน้องหญิงชักชวนไปในลักษณะเดียวกับน้องหญิง โดยวันนี้ บก.ป.ได้สอบปากคำพยานทั้งหมด 5 ราย คือ ตน พ่อและอาของน้องหญิง น.ส.เจน และ น.ส.รุ้ง
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า ในส่วนนี้ตนจึงเชื่อว่าทั้ง 3 คนนี้น่าจะมีการวางแผนทำกันเป็นขบวนการและก่อนหน้านี้น่าจะเคยก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามหาตัวพยานบุคคลสำคัญอีก 2 คน ที่เคยถูกทั้ง 3 คนนี้กระทำในลักษณะดังกล่าว มาให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหากพบว่ามีการกระทำผิดจริงก็จะมีการดำเนินคดีในข้อหาค้ามนุษย์เพิ่มเติมอีกด้วย
ทั้งนี้ จากข้อมูลที่ได้รับนั้นทราบว่าเพื่อนคนหนึ่งของน้องหญิง และนายท๊อป ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง มักจะมีพฤติการณ์ทำหน้าที่คล้ายกับแม่เล้าในการล่อลวงหญิงสาวไปให้กับลูกค้ากระทำชำเราเพื่อแลกกับค่าตอบแทนตามแต่ตกลง โดยที่เหยื่อไม่ทราบเรื่อง จากนั้นก็จะชักชวนดื่มเหล้าพอเหยื่อเริ่มเมาได้ที่ก็จะขอตัวแยกกลับไปก่อน แล้วปล่อยให้ลูกค้าเป็นผู้ขับรถไปส่งเหยื่อที่เมาไม่ได้สติแทน ก่อนที่จะพาไปเปิดโรงแรมเพื่อกักขังหน่วงเหนี่ยวและข่มขืน
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่ได้เข้าพูดคุยกับทางตำรวจกองปราบแล้ว ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตก็รู้สึกดีใจและมีความหวังมากขึ้น เชื่อว่าตำรวจกองปราบน่าจะให้ความเป็นธรรมแก่น้องหญิงได้ โดยเฉพาะในวันพรุ่งนี้(31 ก.ค.61) คดีน่าจะมีความชัดเจนเพิ่มมากขึ้น
อีกทั้งทางตำรวจกองปราบก็จะมีการลงพื้นที่หลายจุดเพื่อตรวจสอบพยานหลักฐานอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการสอบปากคำแพทย์ผู้ที่ชันสูตรสาเหตุการเสียชีวิตของน้องหญิง เพื่อเป็นการยืนยันผล การลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และรอผลตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์จากค้อนและท่อแป๊บเหล็กที่มีการเก็บตัวอย่างส่งไปตรวจหาดีเอ็นเอแฝงของผู้ตาย ซึ่งตนเชื่อว่าอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุน่าจะเป็นท่อแป๊บเหล็กที่ตรวจพบจากภายในรถมากกว่า นอกจากนี้ตนยังเชื่อว่าเมื่อผลการตรวจออกมาครบถ้วนแล้วนั้นประกอบกับพยานหลักฐานที่มีอยู่ก็น่าจะเพียงพอต่อการขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดได้
อย่างไรก็ตามถึงแม้จะมีพยานหลักฐานหลายส่วนแล้ว แต่ขณะนี้เรายังขาดพยานหลักฐานสำคัญอีก 1 ชิ้น คือกางเกงชั้นในของผู้เสียชีวิตที่หายไป ซึ่งหลักฐานชิ้นนี้จะสามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงทางคดีได้หลายอย่าง
ด้านพ่อของน้องหญิง กล่าวว่า สำหรับศพของน้องหญิงนั้นจะมีการทำพิธีฌาปนกิจศพได้ก็ต่อเมื่อตำรวจสามารถจับตัวคนร้ายมาลงโทษได้ครบทุกคน ทั้งนี้ตนยืนยันว่าตัวน้องหญิงเองไม่มีสารเสพติดในร่างกายหรือเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแต่อย่างใด
http://www.naewna.com/local/354613