คู่เล่ห์เคียงรัก ตอนที่ 9-10

กระทู้สนทนา
9.

เมื่อกลับถึงบ้าน กว่าธีร์วราจะกล่อมปานเรขาให้ยอมเปิดประตูรับก็กินเวลาพักใหญ่ หล่อนเดินเข้าห้องนอนขณะที่หลานสาวปาดน้ำตาแล้วกระแทกเท้าไปนั่งปลายเตียง มองอาสาวอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะแปรเป็นความประหลาดใจยามธีร์วราชี้แจงว่าเพิ่งปรึกษากับสุเมธเรื่องการยอมรับความสัมพันธ์ครั้งนี้ คราแรกปานเรขายังไม่เชื่อ จนกระทั่งพฤกษ์ติดต่อเข้ามาในโทรศัพท์ที่ธีร์วราเพิ่งส่งคืนให้ พูดอย่างดีใจว่าน้าชายอนุญาตให้คบหากับปานเรขาได้

“ขอบคุณนะคะอาแก้ว!” สาวน้อยทิ้งโทรศัพท์กระโดดเข้ากอด ส่งเสียงหัวเราะแม้คราบน้ำตายังเปียกเต็มแก้ม ธีร์วรากดความรู้สึกผิดไว้ในส่วนลึก กำชับเสียงเรียบ

“ถึงอาจะยอมรับแต่คนอื่นอาจคิดไม่เหมือนกัน เพราะงั้นอย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับใครนะ อาอยากรอเวลาเหมาะสม”

ธีร์วราไม่แน่ใจว่าสมาชิกในบ้านจะเห็นด้วยกับวิธีการของหล่อนและสุเมธ และเพื่อป้องกันคนตำหนิหลานสาวจนเตลิดเปิดเปิง เก็บเรื่องนี้เป็นความลับคงดีที่สุด

“ค่ะๆๆ” สาวน้อยรับคำระรัว “ขอแค่อาแก้วไม่ค้านป่านก็โล่งแล้ว เหมือนยกภูเขาจากอก”

หลานสาวเชื่อคำโกหกง่ายจนหล่อนใจหาย นอกเหนือจากนั้นทุกอย่างก็ราบรื่นดี พอธีทัตบินไปต่างประเทศธีร์วราค่อยหายใจคล่องขึ้น เพราะไม่ต้องคอยระวังเรื่องปานเรขาต่อหน้าใคร แล้วใช้วิธีดึงหลานสาวให้อยู่ใกล้ตัว ชวนไปดูของขวัญกับมาร์คถ่ายโฆษณาตัวใหม่บ้าง ชวนไปสำรวจตลาดเครื่องสำอางบ้าง แรกๆ สาวน้อยอิดออดอยากเที่ยวกับแฟน ธีร์วราจึงตีหน้าตายพูดว่า

“รู้ไหมเคล็ดลับการคบใครได้นานๆ น่ะ ฝ่ายหญิงไม่ควรทำตัวเป็นของตายนะ เห็นหน้าทุกวันผู้ชายจะเบื่อง่าย”

ปานเรขาตาโต “จริงหรือคะ”

“จริงสิ” หล่อนมุสาคำเบ้อเร่อ ก็การคบหากันมันมีหลักเกณฑ์ตายตัวเสียที่ไหนเล่า “ผู้หญิงต้องหัดทิ้งระยะห่างบ้างแต่ไม่ใช่ปล่อยคนของเราว่างเกินไป โทร. หากันได้แต่นานๆ เจอทีจะดีกว่า”

ถ้าห้ามไปเสียหมดคงผิดสังเกต ธีร์วราจึงอนุญาตในส่วนที่ไม่เสี่ยงนักเช่นการโทรศัพท์ และเมื่อเกินรั้งค่อยปล่อยเด็กๆ ไปเที่ยวด้วยกันบ้าง แถมทำเป็นใจป้ำยอมให้พฤกษ์มารับถึงบ้าน เพราะขนาดตัวสุเมธเองคนงานในบ้านยังไม่รู้จักเลย สำหรับพฤกษ์ย่อมถูกมองแค่วัยรุ่นคนหนึ่งเท่านั้น

ระหว่างรอปานเรขาแต่งตัวธีร์วราก็ชวนหนุ่มน้อยคุยสัพเพเหระเพื่อสังเกตนิสัย และจำต้องยอมรับว่าพฤกษ์เป็นเด็กดี ใสซื่อผิดกับอาผู้ชายของเขาลิบลับ เสียดาย...ถ้าเพียงแต่พฤกษ์ไม่ใช่คนของอมรา...

เหตุการณ์ดำเนินไปเช่นนี้ประมาณสองสัปดาห์ วันหนึ่งปานเรขาก็วิ่งหน้าเริดมาหาอาสาวที่กำลังกินมื้อเช้าอยู่ “ข่าวดีค่ะอาแก้ว ไปเที่ยวทะเลกันเถอะ”

ธีร์วราวางกาแฟถ้วยแรกของวันลง “หือ? ว่าไงนะ”

“ก็รีสอร์ทของเพื่อนน่ะค่ะ จู่ๆ แขกยกเลิกที่พักเดือนหน้าเลยเหลือว่างหลังหนึ่ง ป่านใช้เส้นขอมานะเนี่ย ฟลุ๊คสุดๆ”

ปานเรขาเอ่ยชื่อเพื่อนที่ธีร์วราพอรู้จัก ครอบครัวทางนั้นเป็นเจ้าของเกาะเล็กๆ ชื่อเกาะกงเทียนแล้วสร้างรีสอร์ทไว้ มีบ้านพักเพียงไม่กี่สิบหลังแต่ชื่อเสียงระบือถึงแดนไกล ชาวต่างชาติรอคิวจองแทบไม่มีว่างตลอดฤดูท่องเที่ยว ปานเรขาถึงดีใจนัก

“ไปนะคะ” สาวน้อยเกาะแขนอ้อน “หนูจะชวนพี่พฤกษ์ด้วย ไปกันเยอะๆ สนุกดี”

“นึกว่าชวนอาคนเดียว”

“หนูก็อยากไปกับอาแหละค่ะ พี่พฤกษ์แค่ของแถม”

“ทำเป็นพูดดี จริงๆ คงอยากสลับชื่ออากับพฤกษ์ในประโยคเมื่อกี้ใช่ไหมล่ะ”

ปานเรขากระเง้ากระงอด “ใช่ที่ไหนกันคะ แต่ถ้ามีอาแก้วไปด้วยแม่คงอนุญาตแน่ๆ นะคะ...ใกล้เปิดเทอมแล้ว พอเริ่มเรียนก็ไม่มีเวลาเที่ยว”

ธีร์วรายังไม่ทันตอบกลับสะกิดใจเสียก่อน “ถ้าให้อาเป็นผู้ปกครองป่านตอนไปเที่ยว แล้วฝั่งพฤกษ์ล่ะ”

“อาเมธเพิ่งรับปากไปด้วยเมื่อกี้เองค่ะ พี่พฤกษ์โทร. บอกหนู”

หัวใจกระตุกเฮือก โชคดีหล่อนฝึกเก็บสีหน้ามานานจึงไม่ออกอาการ พร้อมกันนั้นยังลอบสังเกตแววตาแฝงลับลมคมในของหลานสาวไปด้วย

ธีร์วราเอะใจว่าปานเรขาอาจระแคะระคายแผนของหล่อนมาระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาปากธีร์วราก็บอกยอมรับความสัมพันธ์ แต่กลับปล่อยให้หลานอยู่กันสองต่อสองน้อยมาก เจอแบบนี้เป็นใครก็ควรระแวงบ้างแหละ คนที่ยังมองพวกอาๆ ด้วยแววตาเชื่อถือไม่เสื่อมคลายอย่างพฤกษ์ต่างหากที่น่าห่วง

“รีสอร์ทเกาะกงเทียนเนี่ยขนาดจะจองยังยากเลย มีโอกาสทั้งทีอาต้องไปอยู่แล้ว” ธีร์วราจำใจตามน้ำเพื่อไม่ให้หลานสาวสงสัยมากกว่านี้

“แต่อาเมธไปด้วยอาแก้วไม่เป็นไรหรือคะ” ปานเรขาแอบสอดส่ายสายตาจับผิดระหว่างพูด ธีร์วราจึงยิ้มเนือยๆ

“อาบอกหลายครั้งแล้วนี่ ลายหงส์ไม่มีทางญาติดีกับอมรา แต่ความรักของพวกหนูมันคนละเรื่องกับความขัดแย้งทางธุรกิจ ถ้าหนูมีความสุขอายินดีวางความแค้นระหว่างกันลงชั่วคราว”

“หนูแค่อยากแน่ใจน่ะค่ะ ถ้าผู้ร่วมทริปทะเลาะกันคงไม่สนุก” สาวน้อยยิ้มเอาใจ “อีกอย่างอาแก้วทำงานเหนื่อยมาก น่าจะเที่ยวผ่อนคลายปล่อยสมองโล่งๆ บ้าง”

สำหรับธีร์วรา การไปเที่ยวครั้งนี้คงห่างไกลคำว่าสมองปลอดโปร่งแบบสุดโต่งเชียวละ “ตกลงจ้ะ บนเกาะกงเทียนจะไม่มีความแค้นระหว่างลายหงส์กับอมรา เหลือแค่พวกอาๆ ดูแลคู่รักที่ไปเที่ยวกระชับความสัมพันธ์ดีไหม”

“อาแก้ว! พูดอะไรก็ไม่รู้”

ปานเรขาหน้าแดง ธีร์วราแกล้งหลิ่วตาล้อเลียนพลางยกกาแฟขึ้นจิบ...เพื่อกลืนเอาความจริงลงคอไปพร้อมกัน!

*****
ถ้าจะให้สรุปคร่าวๆ ถึงเหตุการณ์ในช่วงสองเดือนที่ธีร์วรากลับมาคุมลายหงส์ การขายบีบีครีมไปเม็กซิโกนับว่าราบรื่นดี ธีทัตจึงจบภารกิจพลางเดินทางไปดูแลพ่อแม่อย่างสะดวก ส่วนสินค้าใหม่ของอมราเป็นที่พูดถึงพอสมควร แต่ยังพ่ายกระแสความแรงของ Cool Couple ธีร์วราจึงค่อนข้างวางใจเมื่อต้องทิ้งบริษัทไปพักผ่อนหนึ่งสัปดาห์

อันที่จริงมีเวลาตั้งอาทิตย์ หล่อนอยากบินไปเยี่ยมพ่อแม่แล้วอยู่เป็นเพื่อนน้องชายเสียมากกว่า แต่พอเกริ่นให้แม่ฟังทางนั้นกลับดุว่า

“อุตส่าห์ได้พักทั้งทียังจะมาคอยดูแลพ่อแม่เหมือนเดิมอีก ไปๆๆ เที่ยวให้สนุกเลยนะ”

“แต่...แก้วกลับมาทำงานโดยพละการ ไม่รู้พ่อโกรธไหม”

ธีทัตเคยโทร. แจ้งว่าคุยกับบุพการีแล้ว ไม่มีใครติดใจที่หล่อนขัดขืนความต้องการของถนิต ถึงกระนั้นธีร์วราก็ยังอยากสารภาพความผิดต่อหน้าบิดาอยู่ดี

“พูดตรงๆ ตอนแรกพ่อเขาก็โกรธนะ แต่พอกายเล่าความจริงทั้งหมดว่าเป็นเพราะเขา แล้วชิดชอบยังช่วยกล่อมอีกแรงพ่อเขาเลยเบาขึ้นเยอะ ยิ่งมีกายอยู่ใกล้ตัวพ่อก็อารมณ์ดี แก้วอย่าห่วงเลย”

ไต่ถามสารทุกข์สุกดิบต่อสักพักบุตรสาวก็วางสายไป อนงค์จึงเดินออกจากโซนพาวเดอร์รูมสำหรับแต่งหน้าในห้องน้ำ เพียงเปิดประตูเสียงจอแจภายในคาสิโนพลันดังขึ้นอีกครั้ง อนงค์เริ่มชินกับมันจนไม่รู้สึกรำคาญเหมือนทีแรก หล่อนเดินลัดเลาะโต๊ะเกมต่างๆ มาหาสามีผู้กำลังเพลินกับเกมรูเล็ต การผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจผ่านมาเกินครึ่งปีแล้ว ยามนี้สุขภาพถนิตแข็งแรงกว่าก่อนมาก เมื่อสามีเอ่ยปากอยากเที่ยวคาสิโนในเครือของโรงแรมที่พักเพื่อคลายเครียด หล่อนย่อมตามใจ

“กาย” หล่อนเรียกลูกชายผู้ยืนเป็นเพื่อนทางด้านหลังบิดา “แม่มาแล้วไปพักก่อนไหม”

“ผมไม่เหนื่อยหรอกครับ”

“แต่คงเบื่อนะอยู่เป็นเพื่อนคนแก่ ไปเดินเล่นบ้างเถอะ หาซื้อของฝากให้พี่แก้วกับป่านซะหน่อย หรือเผื่อสาวๆ ก็ดีนะ คนที่กายคบตอนนี้เป็นไง”

ธีทัตยิ้มแฉ่ง “แกล้งหลอกถามผมเหรอ ไม่มีหรอกครับสาวๆ น่ะ แต่ซื้อของฝากพี่แก้วก็ดี”

ชายหนุ่มยังนึกขำตอนก้าวเท้าออกจากคาสิโนไปสู่บริเวณร้านค้า ระหว่างนั้นพลันมีเสียงเอะอะดังขึ้น อันที่จริงในคาสิโนก็เกิดเสียงวุ่นวายตลอดทั้งวันอยู่แล้ว ทว่าที่ธีทัตเอะใจเพราะได้ยินภาษาไทยเต็มสองหู เมื่อหันมองจึงต้องแปลกใจซ้ำ ใครจะคิดว่าในเมืองใหญ่โตเช่นนี้ยังบังเอิญพบคนรู้จักเข้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่