สปาเกตติ คาโบนาร่า ไข่เป็ด
คาโบนาร่า กลายเมนูฮิตในเมืองไทยตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ร้านอาหารเกือบทุกระดับ ต้องมีในเมนู มีตั้งหรูหรา เอามาปรุงในเขียงชีสยักษ์ หรือร้านทั่วไปที่ประโคมทั้งครีม ชีส ไข่ นม เสียจนซอสแทบจะกลายเป็นซุป หรือหวังดีด้วยการใส่นานาผักลงไป ล่าสุดผมไปกินข้าวร้านนึง มีเมนู ผัดขี้คาโบนาร่า มันคือก๋วยเตี๋ยวผัดขี้เมา ราดด้วยซ้อสคาโบนาร่า(น่าจะเป็นแบบกระป๋อง) ใส่แฮม คนข้างๆสั่งมาทานแล้วมีท่ากระอักกระอ่วนอยู่ หรือ ผมมีญาติเป็นคนอิตาเลี่ยนแท้ๆ แต่แกไม่กินชีส และกินเผ็ดไม่ได้เลยแม้แต่พริกไทย ตอนแกมาเมืองไทย แกทำ คาโบนาร่า ด้วยกานผัดเส้นพาสต้ากับน้ำมันมะกอก ใส่เกลือ และไข่ไก่ แค่นั้นเลย
เอาเข้าจริง จากที่อ่านๆ มา คำว่า คาโบนาร่า มาจากประเทศ อิตาลี เจ้าของสูตร เข้าใจว่ามาจากคำว่า คาร์บอน หรือ ถ่าน อันตีความได้ว่า เป็นการปรุงจากเตาถ่าน ใช้ความร้อนน้อยๆ ที่มาของสูตร แอดยังไม่แน่ใจ เพียงแต่เคยอ่านว่าเกิดช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนที่ทหารอเมริกันเข้ามาในอิตาลี (ใครมีความรู้อื่น ช่วยแชร์ด้วยครับ)
ซึ่งวิธีการปรุง คาโบนาร่า คือการค่อยเจียว กวนจาเล่ หรือเบค่อนที่ทำจากแก้มหมู มีไขมันมาก ค่อยเจียวจนกรอบ(ใช้เบค่อนธรรมดาก็ได้)กับน้ำมันมะกอก ใส่พริกดำบดลงไปเจียวด้วยจนหอม ตักเส้นพาสต้าที่ต้มได้ที่(อัลเดนเต้ หรือไม่สุกเต็มที่ กัดแล้วยังมีความกรุบนิดๆ ด้านใน) ลงไปผัดในกระทะ ตักน้ำต้มเส้นพาสต้าใส่กระทะเล็กน้อย ไม่ให้กระทะแห้งเกินไป ปรุงด้วยเกลือเล็กน้อย
ซอส ใช้ ไข่ไก่ แยกแต่ไข่แดง กับ พาเมซาสชีสขูด ปริมาณเท่าๆกัน ผสมให้เข้ากัน เมื่อจะใส่ซอสก็ยกกระทะจากเตา(หรือปิดไฟ) ราดซอสลงไป คลุกให้เข้ากัน แล้วตักเสริฟ
สูตรของผม ก็คล้ายกับที่เล่ามาข้างต้น เพียงแค่ไม่ได้ใส่เบค่อนเพราะไม่มี (ควรใส่) และเปลี่ยนไข่ไก่ เป็นไข่เป็ด เพราะไข่เป็ด มีรสชาติเข้มข้นกว่า สีสดกว่า เนื้อเหนียวกว่า
ทำกับข้าวย่อมมีสูตรที่หลากหลาย ต่างกันไปตามรสนิยม เอาที่ถูกใจเราเป็นพอครับ
สปาเกตติ คาโบนาร่า ไข่เป็ด
สปาเกตติ คาโบนาร่า ไข่เป็ด
คาโบนาร่า กลายเมนูฮิตในเมืองไทยตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ แต่ร้านอาหารเกือบทุกระดับ ต้องมีในเมนู มีตั้งหรูหรา เอามาปรุงในเขียงชีสยักษ์ หรือร้านทั่วไปที่ประโคมทั้งครีม ชีส ไข่ นม เสียจนซอสแทบจะกลายเป็นซุป หรือหวังดีด้วยการใส่นานาผักลงไป ล่าสุดผมไปกินข้าวร้านนึง มีเมนู ผัดขี้คาโบนาร่า มันคือก๋วยเตี๋ยวผัดขี้เมา ราดด้วยซ้อสคาโบนาร่า(น่าจะเป็นแบบกระป๋อง) ใส่แฮม คนข้างๆสั่งมาทานแล้วมีท่ากระอักกระอ่วนอยู่ หรือ ผมมีญาติเป็นคนอิตาเลี่ยนแท้ๆ แต่แกไม่กินชีส และกินเผ็ดไม่ได้เลยแม้แต่พริกไทย ตอนแกมาเมืองไทย แกทำ คาโบนาร่า ด้วยกานผัดเส้นพาสต้ากับน้ำมันมะกอก ใส่เกลือ และไข่ไก่ แค่นั้นเลย
เอาเข้าจริง จากที่อ่านๆ มา คำว่า คาโบนาร่า มาจากประเทศ อิตาลี เจ้าของสูตร เข้าใจว่ามาจากคำว่า คาร์บอน หรือ ถ่าน อันตีความได้ว่า เป็นการปรุงจากเตาถ่าน ใช้ความร้อนน้อยๆ ที่มาของสูตร แอดยังไม่แน่ใจ เพียงแต่เคยอ่านว่าเกิดช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนที่ทหารอเมริกันเข้ามาในอิตาลี (ใครมีความรู้อื่น ช่วยแชร์ด้วยครับ)
ซึ่งวิธีการปรุง คาโบนาร่า คือการค่อยเจียว กวนจาเล่ หรือเบค่อนที่ทำจากแก้มหมู มีไขมันมาก ค่อยเจียวจนกรอบ(ใช้เบค่อนธรรมดาก็ได้)กับน้ำมันมะกอก ใส่พริกดำบดลงไปเจียวด้วยจนหอม ตักเส้นพาสต้าที่ต้มได้ที่(อัลเดนเต้ หรือไม่สุกเต็มที่ กัดแล้วยังมีความกรุบนิดๆ ด้านใน) ลงไปผัดในกระทะ ตักน้ำต้มเส้นพาสต้าใส่กระทะเล็กน้อย ไม่ให้กระทะแห้งเกินไป ปรุงด้วยเกลือเล็กน้อย
ซอส ใช้ ไข่ไก่ แยกแต่ไข่แดง กับ พาเมซาสชีสขูด ปริมาณเท่าๆกัน ผสมให้เข้ากัน เมื่อจะใส่ซอสก็ยกกระทะจากเตา(หรือปิดไฟ) ราดซอสลงไป คลุกให้เข้ากัน แล้วตักเสริฟ
สูตรของผม ก็คล้ายกับที่เล่ามาข้างต้น เพียงแค่ไม่ได้ใส่เบค่อนเพราะไม่มี (ควรใส่) และเปลี่ยนไข่ไก่ เป็นไข่เป็ด เพราะไข่เป็ด มีรสชาติเข้มข้นกว่า สีสดกว่า เนื้อเหนียวกว่า
ทำกับข้าวย่อมมีสูตรที่หลากหลาย ต่างกันไปตามรสนิยม เอาที่ถูกใจเราเป็นพอครับ