เชื่อว่าคงมีหลายคนที่อาจจะยังไม่ทราบว่า หลังจากวันที่ 1 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมาได้มีการแก้ไข สัญญาเช่าซื้อรถยนต์ แบบใหม่ เพื่อให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ นั้นได้รับความคุ้มครองที่มากขึ้น แต่ด้วยความที่ยังใหม่นี่เอง อาจจะทำให้หลายๆ คนยังไม่คุ้นเคย หรือเข้าใจสิทธิประโยชน์ของสัญญาได้ครบถ้วน
K-Expert จึงอยากขออธิบายข้อสำคัญในตัวสัญญา ที่น่าจะเป็นสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น ให้กับเพื่อนที่กำลังตัดสินใจออกรถคันใหม่ได้ใช้เป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ
ข้อที่ 1 อัตราดอกเบี้ยปรับลดลง หากคนกู้อย่างเราๆ เกิดผิดนัดชำระหนี้ โดยของเดิมจะอ้างอิงจาก อัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารกรุงไทย และบวกเพิ่มอีก 10% ต่อปี ทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 17-18% ต่อปี ปัจจุบันหากมีการผิดนัดชำระหนี้ ผู้ให้สินเชื่อจะเรียกเก็บดอกเบี้ยสูงสุดได้ไม่เกิน 15% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยที่คิดจะเป็นการคิดแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate)
ข้อที่ 2 วิธีการคิดดอกเบี้ยในการซื้อรถยนต์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยยังคงใช้วิธีเดิมคือ การคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate) แต่จะต้องแสดงการคำนวณเป็นอัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate) ให้ชัดเจนไว้ในสัญญาเช่าซื้อด้วย โดยตารางจะต้องระบุเงินต้น ดอกเบี้ยเช่าซื้อ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และส่วนลดดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ 50% กรณีปิดบัญชีเช่าซื้อก่อนกำหนด (ใช้อัตราดอกเบี้ย Effective Rate ในการคำนวณ)
ข้อที่ 3 สัญญาเช่าซื้อรถยนต์แบบใหม่นี้จะใช้เฉพาะกับบุคคลธรรมดา คือ คนทั่วไปที่ต้องการซื้อรถยนต์มาใช้ส่วนตัวเท่านั้น ไม่รวมนิติบุคคล หรือ บริษัทต่างๆ โดยหากใช้เพื่อการพาณิชย์ เช่น การขนส่ง การค้า ธุรกิจ หรือเพื่อสินจ้าง จะไม่อยู่ภายใต้สัญญาเช่าซื้อฉบับใหม่นี้
ข้อที่ 4 หากต้องนำรถออกประมูลขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ ผู้ให้กู้หรือบริษัทลีสซิ่ง ต้องแจ้งสิทธิให้กับผู้เช่าซื้อหรือผู้ค้ำประกัน ในการซื้อรถคืนล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน
ข้อที่ 5 การจัดเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ในการทวงถามหนี้ค่าเช่าซื้อ ต้องแสดงวิธีการคิดคำนวณอย่างชัดเจนไว้เป็นเอกสารแนบท้ายสัญญาเช่าซื้อ
เพื่อนๆ ที่กำลังมีแผนจะซื้อรถยนต์ในอนาคต ก็อย่าลืมศึกษารายละเอียดในสัญญาเพิ่มเติม ก่อนซื้อรถยนต์ในฝันกันด้วยนะครับ เพื่อป้องกันสิทธิของเราได้อย่างเต็มที่
ข้อควรรู้! กับสัญญาเช่าซื้อรถยนต์แบบใหม่
เชื่อว่าคงมีหลายคนที่อาจจะยังไม่ทราบว่า หลังจากวันที่ 1 ก.ค. 2561 ที่ผ่านมาได้มีการแก้ไข สัญญาเช่าซื้อรถยนต์ แบบใหม่ เพื่อให้ผู้บริโภคอย่างเราๆ นั้นได้รับความคุ้มครองที่มากขึ้น แต่ด้วยความที่ยังใหม่นี่เอง อาจจะทำให้หลายๆ คนยังไม่คุ้นเคย หรือเข้าใจสิทธิประโยชน์ของสัญญาได้ครบถ้วน
K-Expert จึงอยากขออธิบายข้อสำคัญในตัวสัญญา ที่น่าจะเป็นสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น ให้กับเพื่อนที่กำลังตัดสินใจออกรถคันใหม่ได้ใช้เป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ
ข้อที่ 1 อัตราดอกเบี้ยปรับลดลง หากคนกู้อย่างเราๆ เกิดผิดนัดชำระหนี้ โดยของเดิมจะอ้างอิงจาก อัตราดอกเบี้ย MRR ของธนาคารกรุงไทย และบวกเพิ่มอีก 10% ต่อปี ทำให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ที่ 17-18% ต่อปี ปัจจุบันหากมีการผิดนัดชำระหนี้ ผู้ให้สินเชื่อจะเรียกเก็บดอกเบี้ยสูงสุดได้ไม่เกิน 15% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยที่คิดจะเป็นการคิดแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate)
ข้อที่ 2 วิธีการคิดดอกเบี้ยในการซื้อรถยนต์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยยังคงใช้วิธีเดิมคือ การคิดดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate) แต่จะต้องแสดงการคำนวณเป็นอัตราดอกเบี้ยลดต้นลดดอก (Effective Rate) ให้ชัดเจนไว้ในสัญญาเช่าซื้อด้วย โดยตารางจะต้องระบุเงินต้น ดอกเบี้ยเช่าซื้อ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และส่วนลดดอกเบี้ยเช่าซื้อที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระ 50% กรณีปิดบัญชีเช่าซื้อก่อนกำหนด (ใช้อัตราดอกเบี้ย Effective Rate ในการคำนวณ)
ข้อที่ 3 สัญญาเช่าซื้อรถยนต์แบบใหม่นี้จะใช้เฉพาะกับบุคคลธรรมดา คือ คนทั่วไปที่ต้องการซื้อรถยนต์มาใช้ส่วนตัวเท่านั้น ไม่รวมนิติบุคคล หรือ บริษัทต่างๆ โดยหากใช้เพื่อการพาณิชย์ เช่น การขนส่ง การค้า ธุรกิจ หรือเพื่อสินจ้าง จะไม่อยู่ภายใต้สัญญาเช่าซื้อฉบับใหม่นี้
ข้อที่ 4 หากต้องนำรถออกประมูลขายทอดตลาดเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ ผู้ให้กู้หรือบริษัทลีสซิ่ง ต้องแจ้งสิทธิให้กับผู้เช่าซื้อหรือผู้ค้ำประกัน ในการซื้อรถคืนล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน
ข้อที่ 5 การจัดเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายใดๆ ในการทวงถามหนี้ค่าเช่าซื้อ ต้องแสดงวิธีการคิดคำนวณอย่างชัดเจนไว้เป็นเอกสารแนบท้ายสัญญาเช่าซื้อ
เพื่อนๆ ที่กำลังมีแผนจะซื้อรถยนต์ในอนาคต ก็อย่าลืมศึกษารายละเอียดในสัญญาเพิ่มเติม ก่อนซื้อรถยนต์ในฝันกันด้วยนะครับ เพื่อป้องกันสิทธิของเราได้อย่างเต็มที่