ใครเคยเป็นแบบเราบ้าง เมื่อเราปล่อยใจให้ว่างๆแล้วลองมองอากาศจับดูเล่นๆ จะเห็นหมอกบางๆขาวๆเต็มไปหมดเหมือนหมอกยามเช้า

กระทู้คำถาม
อยากรู้ว่ามีคนเป็นเหมือนกันไหม? เริ่มแรกชอบฝึกสมาธิให้ใจนิ่ง ไม่ให้คิดฟุ้งซ่าน ปล่อยใจให้ว่าง ทำซ้ำๆไปมา.. มีวันนึ่งนั่งคนเดียวเลยอยากรู้ว่าอากาศมันไม่มีตัวตนจริงๆหรอ เลยได้เอาตาไปเพ่งมองอากาศคนเดียวในห้อง ปล่อยใจให้จับที่อากาศไม่ได้คิดฟุ้งซ่านแต่อย่างใด สักแต่จะดูให้เห็นอากาศ ทำแบบนี้ได้ ประมาณหนึ่งอาทิตย์ได้ก็เห็นเป็นจุดๆขึ้นมาก่อนสีเทาสีดำเป็นจุดเล็กๆในอากาศ พอมีเวลาว่างคนเดียวก็มานั่งดูอากาศอีก ใจไม่คิดจ้องที่ความว่างเปล่าในอากาศอย่างเดียว เพราะมันทำให้ใจเรานิ่งได้ หยุดคิดได้เลยชอบทำแบบนั้นมาเรื่อยๆเพ่งจนเห็นเป็นจุดๆอีก แต่จุดเล็กๆกลับมีสีต่างๆเกิดขึ้นมาเยอะมากผสมกันไปมาสีน้ำเงิน สีขาว สีแดง เหลือง ชมพู เขียว ดำ สีเงิน ผสมกันไปมาเป็นจุดๆในอากาศ ทุกครั้งที่นั่งสมาธิเสร็จแล้วจิตมันสงบ เลยปล่อยใจมานั่งดูอากาศปล่อยใจสบาย ตาก็นั่งมอง..จากที่เห็นเป็นจุดหลายๆสีก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเห็นเป็นสีใสๆในอากาศเห็นเป็นแบบวุ้นๆไหวไปมาเหมือนลม ไหวช้าๆในอากาศ พอทำอีกเรื่อยๆจากสีวุ้นใสๆก็เริ่มเป็นหมอกขาวผสมสีวุ้นใสๆ พอมามองอากาศรวมๆได้เกือบจะ 3 เดือนแล้วที่ทำมา พอมานั่งดูเล่นๆอีกก็เกิดเป็นสีหมอกขาวรอบๆตัว เห็นชัดขึ้นรอบๆบริเวณที่เราใช้ตา  มอง บางครั้งมองอากาศเสร็จมามองสิ่งของในห้องก็เหมือนเห็นแสงหรือรัศมีของสิ่งของที่เรามอง เรียกไม่ถูกแต่เห็นแบบนั้นจริงไม่ #ย้ำว่าไม่ได้หลับตาเห็นนะค่ะ แต่เห็นในโลกแห่งความจริง อยากรู้ว่าคนอื่นๆที่เป็น เรียกสิ่งที่เห็นนั้นยังไง แล้วมีผลดีผลเสียในการนำมาใช้ในสมาธิได้ไหม

#ขอบคุณท่านผู้รู้ต่างๆที่จะเข้ามาตอบไว้ล่วงหน้าด้วยนะค่ะ 🙏
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ไม่มีอะไร....

หากทำใจร่มๆ เพิกการ รับรู้ของ บัญญัติสัญญาโลกๆ ( การรับรู้เชิงเรื่องราว ภาษาบัญญัติโลกๆ )

ตา จะทำหน้าที่  ของ ประสาทตาล้วนๆ ให้เห็น

จอประสาทตา มี หน่วยทำงานจำนวนมาก  จำชื่อทาง ชีวะวิทยาไม่ได้ แต่ ส่วน ฉากรับภาพนั้น
แสงที่ตกกระทบ ประสาทตา บางส่วน จะทำหน้าที่ คัดกรองแสง แยกแยะสี  ดังนั้น แสงใดกระทบ
ประสาทตาส่วนนั้น เคมีจะสร้างสัญญาทางเม็ดสี ขึ้นใน ระบบประสาท เพื่อ ส่งต่อไป ก้านสมอง

ถ้ากำหนดรู้ เลยออกมานิด มาจาก ส่วนเคมีที่ผสมสี  ก็จะมาที่ เนื้อเยื่อของเรตินา ซึ่งจะมีเส้น
เลือดฝอย ส่วนนี้จะทำให้เห็น ฮีโม กับ โกกลิน วิ่งเล่นในเส้นเลือดฝอย เห็นเป็น จุดวุนวิ่งได้

ถ้าเลยมาอีก อาจจะเห็น ขุ่น หมอกจากๆ ก็เป็นเรื่อง น้ำวุ้นในลูกในตา ซึ่ง จะมี วุ้นในตาเสื่อม
เกิดการระเบิด เป็นแสงแฟลชขาวสว่างไสว หากเพ่งเห็นชัด อาจตกใจ หรือไม่ก็สำคัญว่า
ได้ ฌาณ ได้ ฌาณ อันนี้ก็มี บุคคลบางจำพวก พานั่งเพ่ง บรรลุแล้วบรรลุอีก บรรลุไม่ยั้ง
แล้วก็ มีถอยกลับไปกลับมา นับชั่วโมงการเพ่ง  เตโชกิ๊กกัดกันนา

ถ้าถอยเข้าไปในส่วน ก่อนจะ ส่งสัญญาไป ก้านสมอง จะเห็นเป็น ภาพ จิ๊กซอ คือเห็น
ได้ว่า ตา รับภาพได้ไม่เรียบ มันจะ ไดคัต ตัดต่อ ให้ ภาพนั้นกลายเป็นผืนเดียว จาก
ภาพที่ไม่สมมาตรของผืนผิวตาที่รับแสง ไปประมวลส่งเป็นภาพเดียว

การกำหนดรู้ ยกขึ้นวิปัสสนา ให้ กำหนดรู้ " ตาไม่เที่ยง "   เนื้อลูกตา เกิดจากปัจจัยการ
คือ ผัสสะ แสงที่ส่องเข้า เกิด ปฏิฆะสัญญา ยิ๊บๆยับๆ ภายใน สร้างเป็น สฬายตนะ อายตนะ
รูปลูกตา  หากแสงจ้า ตาก็บอด หากแสงน้อยก็บอดอีก หากแสงพอรับได้ เป็นกลาง อัพยากฤต
ก็ค่อยส่งผ่านไปให้ สมอง

อนึ่ง หากกำหนดรู้ ตา ไม่เที่ยงได้ แยกภาพที่เห็นด้วยตาเนื้อได้  ควรฝึกการกำหนด
หน่วงสัญญาระลึกภาพ ที่เกิดจาก มนายตนะ ( มโนยุกยิก )  ซึ่งจะเห็น ภาพ ที่ไม่ได้
มีที่มาจาก ตา   ...เห็น ภาพอันสำเร็จด้วยใจ ก็มีอยู่  เห็นซ้อนกันกับ ภาพตาเนื้อได้
เพียงแต่ มิติ จะไม่เหมือนกัน ( ตาเนื้อ จะอาศัย สองลูกตา รับภาพ แล้ว สร้างมิติ
ลึกตื้น หนา บาง ใกล้ ไกล )  

เอาเท่านี้ก่อน  ถ้าจิตใจสงบ ไม่อู้ฮู อ้าฮา kuเก่ง ค่อยว่ากันต่อ มโนยุกยิก หรือ มโนมยิธธิ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่