“ให้ตรงนั้นเป็นตัวแทน เพราะเราเกี่ยวข้องแล้ว ต่อไป เกิดอะไรขึ้น เราจะตามไปเห็น ผู้ปกครองบางคนเรียกดั่งนั้น ก็แล้วแต่จะเรียก คือเรียกชื่อพระเราอย่างไม่มีความหมาย ตามที่เราได้เป็นตัวแทนของศาสนา คือให้ความหมายรวม ๆ กันไป คล้าย ๆ ว่า จะว่าให้เห็นว่า ทั้งพระทั้งมาร ถึงจะเรียกเราว่ามาร! หรือจะเรียกว่าพระก็เรียกได้ทั้งหมด พระชั่ว! เปรียบว่า อาตมะไม่ต้องมีรูป อาตมาหนึ่งในพระ เป็นจิตใจที่ดีตั้งอยู่ ก็จงเป็นแค่นั้น
พิลึกจะพูดเกี่ยวให้เป็นอภิวินัยกันทุก ๆ ส่วน จะเล่นบทตามคำอยู่ไหม? ข้อนี้ไม่ใช่มโนสาเร่ อ้างศาลโลกพิเศษกันหมดเลย กระทำพระอัยการคดีอุทลุม! ให้อวดความอกตัญญู อ้างดี ๆ ชั่ว ๆ ต่อกันอย่างไรก็ได้, เริ่มต้นจะโจทก์กันอย่างไรนั้น ก็ให้กระฉ่อนกันอยู่เองแล้ว ว่ากันในวงว่ามีบุคคลมีนามว่า นายพระ! นายชั่ว! ได้เป็นตัวแทนการปกครองบางอย่าง มีตัวเป็นตัวจริง ๆ อยู่ ในทางปกครองบางอย่าง แต่หาให้มีใครเห็น ให้ดำเนินการกับนายพระ! นายชั่ว! อย่างไรได้ไม่, ว่ากลับกันไปกลับกันมา เป็นอุทลุม! ตอบพระพุทธเจ้าเหมือนเก่า
คือ หมายความว่า ก็แค่ว่า อวดว่า คนพวกเรามีสามารถ จะอวด จะโฆษณาตน จะกระทำการอวดอกตัญญู อย่างไรก็ได้ ท่านชั่วเราไม่กตัญญูตามส่วน (ดี) ถึงท่านเป็นพระ เป็นชื่อหมายเหตุแทนคุณแทนประโยชน์โภชผลทางศาสนา เราก็ไม่กตัญญูตามส่วน (ดี), ว่าอย่างเรา ๆ อยู่ในวงคนตัวจริง คนจริง! กระทำอุทลุม!ตามบทควรแก่อาทิพระราชกิจ อาจพูดอย่างไรก็ได้ เพื่อว่าจะให้ประชาชนเหล่านั้นเห็นพวกเรา ว่าเราได้อยู่เหนือปวงคน ทั้งปวง ด้วยการประพฤติมโนอภิสมาจารเองได้ มีอภิวินัยเองได้ โดยที่ตนเองไม่ต้องบวชเป็นพระ!”
จะกระทำการอวดอกตัญญู อย่างไรก็ได้
“ให้ตรงนั้นเป็นตัวแทน เพราะเราเกี่ยวข้องแล้ว ต่อไป เกิดอะไรขึ้น เราจะตามไปเห็น ผู้ปกครองบางคนเรียกดั่งนั้น ก็แล้วแต่จะเรียก คือเรียกชื่อพระเราอย่างไม่มีความหมาย ตามที่เราได้เป็นตัวแทนของศาสนา คือให้ความหมายรวม ๆ กันไป คล้าย ๆ ว่า จะว่าให้เห็นว่า ทั้งพระทั้งมาร ถึงจะเรียกเราว่ามาร! หรือจะเรียกว่าพระก็เรียกได้ทั้งหมด พระชั่ว! เปรียบว่า อาตมะไม่ต้องมีรูป อาตมาหนึ่งในพระ เป็นจิตใจที่ดีตั้งอยู่ ก็จงเป็นแค่นั้น
พิลึกจะพูดเกี่ยวให้เป็นอภิวินัยกันทุก ๆ ส่วน จะเล่นบทตามคำอยู่ไหม? ข้อนี้ไม่ใช่มโนสาเร่ อ้างศาลโลกพิเศษกันหมดเลย กระทำพระอัยการคดีอุทลุม! ให้อวดความอกตัญญู อ้างดี ๆ ชั่ว ๆ ต่อกันอย่างไรก็ได้, เริ่มต้นจะโจทก์กันอย่างไรนั้น ก็ให้กระฉ่อนกันอยู่เองแล้ว ว่ากันในวงว่ามีบุคคลมีนามว่า นายพระ! นายชั่ว! ได้เป็นตัวแทนการปกครองบางอย่าง มีตัวเป็นตัวจริง ๆ อยู่ ในทางปกครองบางอย่าง แต่หาให้มีใครเห็น ให้ดำเนินการกับนายพระ! นายชั่ว! อย่างไรได้ไม่, ว่ากลับกันไปกลับกันมา เป็นอุทลุม! ตอบพระพุทธเจ้าเหมือนเก่า
คือ หมายความว่า ก็แค่ว่า อวดว่า คนพวกเรามีสามารถ จะอวด จะโฆษณาตน จะกระทำการอวดอกตัญญู อย่างไรก็ได้ ท่านชั่วเราไม่กตัญญูตามส่วน (ดี) ถึงท่านเป็นพระ เป็นชื่อหมายเหตุแทนคุณแทนประโยชน์โภชผลทางศาสนา เราก็ไม่กตัญญูตามส่วน (ดี), ว่าอย่างเรา ๆ อยู่ในวงคนตัวจริง คนจริง! กระทำอุทลุม!ตามบทควรแก่อาทิพระราชกิจ อาจพูดอย่างไรก็ได้ เพื่อว่าจะให้ประชาชนเหล่านั้นเห็นพวกเรา ว่าเราได้อยู่เหนือปวงคน ทั้งปวง ด้วยการประพฤติมโนอภิสมาจารเองได้ มีอภิวินัยเองได้ โดยที่ตนเองไม่ต้องบวชเป็นพระ!”