ตอนนี้ฉันว่างงานมา 1 ปีแล้วค่ะ หางานทำไม่ได้ ช่วงเวลาที่ผ่านมามีทั้งทุกข์และสุข
ขอเล่าเรื่องชีวิตตั้งแต่พ่อแม่แยกทางกันนะค่ะ ตอนนั้นฉันอายุ 13 ปี เรียนชั้น ม.2 ฉันมีน้องสาว 1 คน ฉันอยู่กับพ่อและน้องสาว พ่อทำงานต่างจังหวัดอาทิตย์นึงจะกลับบ้านแค่เสาร์อาทิตย์ ฉันต้องเป็นหลักให้น้องสาว มีวันนึงตอนอายุ 14 ปี มีโจรเข้าบ้านฉันเกือบโดนข่มขืนน้องสาวโดนข่มขู่ด้วยมีดสปาต้า แต่น้าข้างบ้านเข้ามาช่วยได้ทันถือว่าโชคยังดี จับคนร้ายได้ คดีจบ หลังจากนั้นฉันกับน้องสาวก็ย้ายไปอยู่กับแม่ที่แคมป์คนงานก่อสร้าง ฉันต้องดิ้นรนทำงานหาเงินเพื่อแบ่งเบาภาระของแม่ ตอนนั้นฉันอายุ 16 ปี ฉันทำงาน KFC หลังเลิกเรียนทุกวัน ทำได้ไม่นาน แม่ฉันก็ได้ย้ายงานไปกรีดยางและย้ายที่อยู่ใหม่ ฉันก็ต้องเดินทางไปโรงเรียนที่ไกลกว่าเดิมมากๆ หลังเลิกเรียนฉันก็ต้องช่วยแม่กรีดยาง จนฉันเรียนจบ ม.6 ฉันสอบติด ม.ศิลปากร อยากเรียนมากค่ะ แต่จะทิ้งแม่ให้ลำบากไม่ได้ แม่บอกว่า"แม่ทำงานส่งหนูเรียนไม่ไหวหรอก หนูเรียนแค่ ม.6 ก็พอแล้วมั้งลูก" แต่ฉันไม่ยอมแพ้ ฉันอยากเรียน ฉันจึงลงเรียน ปวส.ภาคพิเศษ ฉันทั้งกรีดยาง ทำงานรายวัน ถางหญ้า ดิ้นรนให้ตัวเองได้เรียน ฉันทำแบบนี้จนจบ ปวส.1 พอขึ้น ปวส.2 ฉันได้ทำงานโรงงานมีโอทีทุกวันเงินดีค่ะ แต่เหนื่อยมากกับการที่ต้องเรียนและทำงาน คือเข้ากะดึกวันเสาร์เช้าวันอาทิตย์ต้องไปเรียน เหนื่อยสุดๆ แต่ฉันก็ทำได้ จนฉันเรียนจบ ใครๆก็อยากทำงานออฟฟิศใช่มั้ยค่ะ ฉันเป็นหนึ่งในนั้นค่ะ พอฉันเรียนจบฉันก็ได้งานที่นึง ฉันมีหน้าที่ทำเอกสารของพนักงานทั้งหมดรวมทั้งทำเงินเดือน วางบิล รับเช็ค หาที่อยู่ให้พนักงาน จัดคิวรถรับส่ง และติดต่อลูกค้าตามโรงงานต่างๆ ฉันทำงานที่นี่ได้แค่ 8 เดือน ฉันผูกพันและรักเจ้านาย แต่เจ้านายของฉันได้ป่วยและเสียชีวิตลง ฉันรู้สึกเสียใจมาก ฉันตกงาน แต่ไม่นานฉันก็ได้งานที่ใหม่ โรงงานนี้ใหญ่มาก ฉันเคยคิดไว้ถ้าได้ที่นี่จะไม่ไปทำงานที่ไหนอีก ฉันทำออฟฟิศ 1 ปีแรก ชีวิตฉันดีมาก พอเข้าปีที่ 2 โรงงานเพิ่มแผนก ฉันถูกย้ายไปแผนกใหม่ ฉันเริ่มไม่โอเครเพราะว่าหัวหน้าใหม่ไม่ชอบฉัน เอาฉันไปพูดในสิ่งที่เป็นเท็จ ฉันก็อดทนตลอดทั้งปี จนกระทั่งวันหนึ่งฉันเป็นอีสุกอีใสต้องลางาน 1 อาทิตย์ หัวหน้าก็เริ่มไม่พอใจ แต่ช่วงนั้นฉันก็หางานใหม่ไว้ด้วย ฉันได้งานที่ใหม่จึงลาออก ทั้งๆที่ลึกๆข้างในไม่อยากออก แต่คับใจมันก็อยู่ยาก ที่ทำงานที่ใหม่ฉันทำในตำแหน่งเจ้าหน้าที่โลจิสติกส์ที่นี่เงินเดือนเยอะค่ะ ฉันทุ่มเทมาก ฉันรักที่นี่เหมือนบ้าน เจ้านายก็รักฉันเช่นกัน ทำงานอย่างราบรื่นได้ 4 เดือนหัวหน้าของฉันลาออก ต้องบอกก่อนนะค่ะ หัวหน้าคนนี้เป็นคนที่ให้โอกาศคนอ้วนอย่างฉันได้ทำงาน ฉันรักเขามากทั้งที่ ผจก.ท่านอื่นไม่เห็นด้วย เพราะฉันไม่สวย พอหัวหน้าของฉันลาออก ฉันรู้สึกเคว้งคว้าง พอฉันทำงานได้ 6 เดือน ของในสโตร์หายบ่อยซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันดูแลคลังสินค้า แต่ฉันโดนย้ายในไปนั่งสโตร์ ฉันโอเครนะไม่ได้มีปัญหาอะไร หลังจากนั้นไม่นาน ฉันได้ป่วยแพ้สารเคมี ผื่นแดงขึ้นเต็มคอ แขน และหน้า ฉันจึงไปหาหมอ หมอได้ทำการนัดดูอาการ ฉันจึงแจ้งบริษัท แต่สิ่งที่ฉันได้รับคือ "หนูเขียนใบลาออกให้พี่เถอะ" อึ้งมั้ยค่ะ ฉันก็เขียนให้นะค่ะ เพราะฉันไม่รู้จะทำยังไง คนอยู่ในห้องประชุมเยอะมาก ฉันอาย ฉันกลับบ้านร้องไห้หนักมาก เสียใจสุดๆ จนไม่อยากทำอะไรเลย ฉันมีอาการเจอแสงไม่ได้ ได้ยินเสียงอะไรนิดเดียวก็จะปวดหัวมาก ช่วงนั้นฉันได้แต่อยู่ในห้องคนเดียวบอกใครไม่ได้ เราเป็นพี่ เราอย่าอ่อนแอ ช่วงนั้นไม่มีใครเจอเรา หลังจากนั้นผลที่ตามมาอีกก็คือหนี้สินนั่นเอง ทั้งค่างวดรถ ค่าบัตร ค่าประกัน ค่าทะเบียน ค่ากยศ ค่าโทรศัพท์ ค่าไฟ อีกมากมาย ตอนนี้ฉันอายุ 24 ปี ยังว่างงาน ท้อแท้มากค่ะ ไม่รู้จะเดินไปทางไหน บางครั้งก็อยากตายเราไม่มีอะไรดีเลย ฉันอ้วน ฉันขี้เหร่ ฉันจน สัมภาษณ์งานที่ไหนก็แพ้คนสวย
ฉันควรทำอย่างไร?
ขอเล่าเรื่องชีวิตตั้งแต่พ่อแม่แยกทางกันนะค่ะ ตอนนั้นฉันอายุ 13 ปี เรียนชั้น ม.2 ฉันมีน้องสาว 1 คน ฉันอยู่กับพ่อและน้องสาว พ่อทำงานต่างจังหวัดอาทิตย์นึงจะกลับบ้านแค่เสาร์อาทิตย์ ฉันต้องเป็นหลักให้น้องสาว มีวันนึงตอนอายุ 14 ปี มีโจรเข้าบ้านฉันเกือบโดนข่มขืนน้องสาวโดนข่มขู่ด้วยมีดสปาต้า แต่น้าข้างบ้านเข้ามาช่วยได้ทันถือว่าโชคยังดี จับคนร้ายได้ คดีจบ หลังจากนั้นฉันกับน้องสาวก็ย้ายไปอยู่กับแม่ที่แคมป์คนงานก่อสร้าง ฉันต้องดิ้นรนทำงานหาเงินเพื่อแบ่งเบาภาระของแม่ ตอนนั้นฉันอายุ 16 ปี ฉันทำงาน KFC หลังเลิกเรียนทุกวัน ทำได้ไม่นาน แม่ฉันก็ได้ย้ายงานไปกรีดยางและย้ายที่อยู่ใหม่ ฉันก็ต้องเดินทางไปโรงเรียนที่ไกลกว่าเดิมมากๆ หลังเลิกเรียนฉันก็ต้องช่วยแม่กรีดยาง จนฉันเรียนจบ ม.6 ฉันสอบติด ม.ศิลปากร อยากเรียนมากค่ะ แต่จะทิ้งแม่ให้ลำบากไม่ได้ แม่บอกว่า"แม่ทำงานส่งหนูเรียนไม่ไหวหรอก หนูเรียนแค่ ม.6 ก็พอแล้วมั้งลูก" แต่ฉันไม่ยอมแพ้ ฉันอยากเรียน ฉันจึงลงเรียน ปวส.ภาคพิเศษ ฉันทั้งกรีดยาง ทำงานรายวัน ถางหญ้า ดิ้นรนให้ตัวเองได้เรียน ฉันทำแบบนี้จนจบ ปวส.1 พอขึ้น ปวส.2 ฉันได้ทำงานโรงงานมีโอทีทุกวันเงินดีค่ะ แต่เหนื่อยมากกับการที่ต้องเรียนและทำงาน คือเข้ากะดึกวันเสาร์เช้าวันอาทิตย์ต้องไปเรียน เหนื่อยสุดๆ แต่ฉันก็ทำได้ จนฉันเรียนจบ ใครๆก็อยากทำงานออฟฟิศใช่มั้ยค่ะ ฉันเป็นหนึ่งในนั้นค่ะ พอฉันเรียนจบฉันก็ได้งานที่นึง ฉันมีหน้าที่ทำเอกสารของพนักงานทั้งหมดรวมทั้งทำเงินเดือน วางบิล รับเช็ค หาที่อยู่ให้พนักงาน จัดคิวรถรับส่ง และติดต่อลูกค้าตามโรงงานต่างๆ ฉันทำงานที่นี่ได้แค่ 8 เดือน ฉันผูกพันและรักเจ้านาย แต่เจ้านายของฉันได้ป่วยและเสียชีวิตลง ฉันรู้สึกเสียใจมาก ฉันตกงาน แต่ไม่นานฉันก็ได้งานที่ใหม่ โรงงานนี้ใหญ่มาก ฉันเคยคิดไว้ถ้าได้ที่นี่จะไม่ไปทำงานที่ไหนอีก ฉันทำออฟฟิศ 1 ปีแรก ชีวิตฉันดีมาก พอเข้าปีที่ 2 โรงงานเพิ่มแผนก ฉันถูกย้ายไปแผนกใหม่ ฉันเริ่มไม่โอเครเพราะว่าหัวหน้าใหม่ไม่ชอบฉัน เอาฉันไปพูดในสิ่งที่เป็นเท็จ ฉันก็อดทนตลอดทั้งปี จนกระทั่งวันหนึ่งฉันเป็นอีสุกอีใสต้องลางาน 1 อาทิตย์ หัวหน้าก็เริ่มไม่พอใจ แต่ช่วงนั้นฉันก็หางานใหม่ไว้ด้วย ฉันได้งานที่ใหม่จึงลาออก ทั้งๆที่ลึกๆข้างในไม่อยากออก แต่คับใจมันก็อยู่ยาก ที่ทำงานที่ใหม่ฉันทำในตำแหน่งเจ้าหน้าที่โลจิสติกส์ที่นี่เงินเดือนเยอะค่ะ ฉันทุ่มเทมาก ฉันรักที่นี่เหมือนบ้าน เจ้านายก็รักฉันเช่นกัน ทำงานอย่างราบรื่นได้ 4 เดือนหัวหน้าของฉันลาออก ต้องบอกก่อนนะค่ะ หัวหน้าคนนี้เป็นคนที่ให้โอกาศคนอ้วนอย่างฉันได้ทำงาน ฉันรักเขามากทั้งที่ ผจก.ท่านอื่นไม่เห็นด้วย เพราะฉันไม่สวย พอหัวหน้าของฉันลาออก ฉันรู้สึกเคว้งคว้าง พอฉันทำงานได้ 6 เดือน ของในสโตร์หายบ่อยซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับฉัน ฉันดูแลคลังสินค้า แต่ฉันโดนย้ายในไปนั่งสโตร์ ฉันโอเครนะไม่ได้มีปัญหาอะไร หลังจากนั้นไม่นาน ฉันได้ป่วยแพ้สารเคมี ผื่นแดงขึ้นเต็มคอ แขน และหน้า ฉันจึงไปหาหมอ หมอได้ทำการนัดดูอาการ ฉันจึงแจ้งบริษัท แต่สิ่งที่ฉันได้รับคือ "หนูเขียนใบลาออกให้พี่เถอะ" อึ้งมั้ยค่ะ ฉันก็เขียนให้นะค่ะ เพราะฉันไม่รู้จะทำยังไง คนอยู่ในห้องประชุมเยอะมาก ฉันอาย ฉันกลับบ้านร้องไห้หนักมาก เสียใจสุดๆ จนไม่อยากทำอะไรเลย ฉันมีอาการเจอแสงไม่ได้ ได้ยินเสียงอะไรนิดเดียวก็จะปวดหัวมาก ช่วงนั้นฉันได้แต่อยู่ในห้องคนเดียวบอกใครไม่ได้ เราเป็นพี่ เราอย่าอ่อนแอ ช่วงนั้นไม่มีใครเจอเรา หลังจากนั้นผลที่ตามมาอีกก็คือหนี้สินนั่นเอง ทั้งค่างวดรถ ค่าบัตร ค่าประกัน ค่าทะเบียน ค่ากยศ ค่าโทรศัพท์ ค่าไฟ อีกมากมาย ตอนนี้ฉันอายุ 24 ปี ยังว่างงาน ท้อแท้มากค่ะ ไม่รู้จะเดินไปทางไหน บางครั้งก็อยากตายเราไม่มีอะไรดีเลย ฉันอ้วน ฉันขี้เหร่ ฉันจน สัมภาษณ์งานที่ไหนก็แพ้คนสวย