.
ระริน...เป็นชื่อของเธอเอง เธอในที่นี้ หมายถึงผู้หญิงหน้าตาดี แต่ผู้หญิงหน้าตาดีคนนี้ มองเห็นตัวเองถือคบเพลิงที่มีไฟนรกกำลังลุกโชน วิ่งลงนรกอันเร่าร้อน เผาผลาญทั้งตัวเธอเอง และคนรายรอบตัวให้ไหม้เป็นจุลไปด้วย ทำไมปีศาจนรกถึงยื่นคบไฟอเวจีให้เธอ โลกแห่งความมืดต้องการอะไรกันแน่ ความตาย หรือความสิ้นหวัง? หรืออะไรก็ได้ ที่มนุษย์สามารถเอามาเดิมพัน
สามีเธอนอกใจ
นอกใจ..... คำสองคำที่มีความหมายเคี่ยวเข็ญทรมานสาหัส โดยเฉพาะกับคนอย่างระริน ผู้สามารถเข้าไปเดินเล่นในจักรวาลแห่งความคิดฝันของตัวเองได้ ราวกับเดินอยู่ในโลกแห่งความจริง
ความรู้สึกแบบนี้ เธอไม่ใช่ว่าเริ่มคุ้นเคย แต่รู้สึกมานานแล้ว ราวกับรู้สึกคุ้นเคยมาแต่ชาติปางก่อน ตะวัน ใช่...ชื่อสามีของเธอเอง ไม่ใช่หมายถึงดวงตะวันบนฟากฟ้า แต่หมายถึงความร้อนแรงเผาผลาญ เขาลืมแม้กระทั่งวันสำคัญ เธอเกิดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่รู้จักกันในสมัยใหม่ว่า วันเสียสาว ในความรู้สึกและค่านิยมของวัยรุ่น ระรินไม่ได้สนใจคำว่าวันเสียสาว เพราะเธอกำลังจะเสียสามีคนดีที่อยู่ด้วยกันมานานหลายปี
ความคิดรุนแรงของเธอปะทุลั่นอยู่ในสมอง
มันน่าตายไหม......
วันแห่งความรัก แต่สามีตัวดีกำลังถือช่อดอกไม้ราคาแพง ไปให้สาวคนอื่น โดยไม่เห็นหัวของภรรยาแสนดีที่รอคอย ไม่...ที่รัก....ฉันไม่ต้องการดอกไม้บ้าบอคอแตก....ฉันสนใจแค่ความรัก แต่วันแห่งความรัก คุณกับไปสนใจหญิงอื่น
ที่รัก..คุณสมควรตายจริง ๆ...รู้ไหม? ฉันอยากจับคุณมัดกับเสาเหล็ก และจุดไฟเผาแบบคนโบราณลงโทษผู้ร้าย ให้คุณตายทั้งเป็นอย่างช้า ๆ และทรมาน ลมหายใจของคุณจะมีแต่กลิ่นควันและความตายอันน่าสยดสยอง เลือดในตัวของคุณจะเดือดล้นทะลักออกมาจากรอยปริแยก เสียงร้องของคุณจะโหยหวนไม่เป็นภาษาจนกว่าจะขาดใจตาย แล้วฉันจะเดินยิ้มแล้วก้าวเท้าย่ำไปบนซากศพของคุณ ให้สาแก่ใจ บางทีฉันจะคุกเข่าก้มหน้าเก็บกระดูกของคุณขึ้นมาซับน้ำตาอย่างหฤหรรษ์
แต่คุณก็หนีฉันไม่พ้น...ที่รัก คุณต้องกลับมาตายรัง คุณต้องชดใช้ความผิด นรกกำลังรอคอยคนอย่างคุณ แต่ก่อนจะตายบอกฉันสักคำได้ไหม....ว่าฉันผิดตรงไหน ถึงไปเลือกคนไม่สวยอะไรเลยสักนิด มาเคียงข้างคุณ บอกฉันให้หายโง่หน่อยที่รัก ก่อนฉันจะควักตับ ไต ของคุณออกมาจากช่องท้อง และกินให้สาแก่ใจ บางทีอาจจะโรยพริกไทยสักเล็กน้อย บีบน้ำมะนาวลงไปสักนิด เห็นว่าตับคนอร่อย..โดยเฉพาะตับคนหลายใจ
ไม่ล่ะที่รัก..มันโหดร้ายเกินไปสำหรับคนรักกัน
ก่อนคุณจะตาย.....
ก่อนคุณจะตาย....
ระรินยิ้มเยือกเย็นกับความคิดของตัวเอง
ตะวันเบิกตาโพลง ภรรยาของเขาถือมีดอยู่ในมือ และพร้อมจะแทงกระหน่ำลงมาได้ทุกเมื่อ เพราะสายตาของเธอเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและการทำลายล้าง
แต่ท้ายที่สุด คุณปู่ตะวันหลับตาลง วัยแปดสิบกว่าปีอย่างเขาจะเหลือเรี่ยวแรงอะไร หลบหนีจากความตาย พวกหมอพยาบาลผิดเองที่คิดว่า ระริน หายจากอาการโรคทางจิต เปล่าเลย...เธอสามารถซ่อนมันไว้ในส่วนลึกที่สุดของจิตใจต่างหาก นานแค่ไหนแล้วนะ... เธอเลยวันเวลาแห่งความสาวไปนานแล้ว นานเหลือเกิน จนความทรงจำเลือนราง และยังสร้างความทรงจำใหม่ อันน่ากลัวขึ้นมาในความว่างเปล่า เขาไม่เคยนอกใจภรรยา คนที่นอกใจเธอคือสามีคนก่อนต่างหาก!
แทงลงมาเลยที่รัก...ไม่ว่าจะถูกหรือผิดก็ตาม ไม่ต้องอธิบายอะไรกันอีกต่อไป เรื่องบางอย่างการสื่อสารด้วยใจ สำคัญมากกว่าทางคำพูดมากมาย
ตอนที่คุณยายระรินโถมตัวลงมา คุณปู่ตะวันอ้าแขนออกรองรับความตายอย่างเต็มใจ ไม่ว่าถูกหรือผิด ที่รัก.....เราจะไปด้วยกัน... ขอบใจสุดที่รัก!
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณปู่ตะวันลืมตาอย่างอ่อนล้า ระรินหายไปไหน เห็นว่าเดินถือมีดเดินเข้ามาอย่างชัดเจน พยายามลุกขึ้นส่งเสียงร้องเรียกหา แต่แข้งขาอ่อนแรงถลาล้มลง มือคว้าขอบโต๊ะเล็กข้างเตียงจนล้มโครมคราม ทำให้นางพยาบาลคนหนึ่งวิ่งเข้ามาดูด้วยความตกใจ
“ระริน เธอหายไปไหน...” เอ่ยถามด้วยเสียงหอบอย่างเหน็ดเหนื่อย นางพยาบาลประคองขึ้นมานอนบนเตียงด้วยความทุลักทุเล ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงแสดงความเห็นใจ
“คุณระรินเธอเสียไปนานปีแล้วนะคะ จำไม่ได้หรือคะ”
นานพอสมควรกว่าจะเข้าใจความหมาย เขาลืมไปอีกครั้งแล้วว่าระรินเธอตายไปนานแล้ว ทำไมถึงลืมไปได้ เขาเป็นคนลั่นไกยิงเธอเนื่องจากการยื้อยุดปืนต้นเหตุ อันมาจากการทะเลาะกันเรื่องความหึงหวง ไม่ได้ตั้งใจ แต่กระสุนนัดนั้นก็ตัดขั้วหัวใจเธอ หลังพ้นจากการจองจำ เขากลับกลายเป็นคนอ่อนแอ เพราะผลของโรคที่ติดมาจากในคุก
“ตะวันคะ...” หูแว่วเสียงกระซิบ ระรินเดินถือมีดเล่มยาวเข้ามาอีกครั้ง พอความทรงจำกลับมา ก็เริ่มจดจำเรื่องราวได้ ทำไมอาการเห็นภาพหลอนถึงไม่ยอมรามือจากไปเสียที เหตุการณ์ซ้ำซาก วนไปเวียนมาไม่รู้จบ
เดี๋ยวเธอก็จะโถมตัวลงมาแทง พร้อมกับมีดในมือ
และเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
แต่คราวนี้เจ็บจริง
ตะวันสะดุ้งสุดตัว ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด มองใบหน้ายิ้มเล็กน้อยของคนรักอย่างไม่เข้าใจ เธอเป็นเพียงภาพหลอน ไม่มีตัวตน แต่อาการสำลักเลือดจนลมหายใจขาดห้วง และความเจ็บปวดอย่างไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต หมายถึงอะไรกันแน่
ใบหน้าสะบัดด้วยความเจ็บปวด ผวาลุกขึ้นจากเตียงเบิกตาโพลง มองเห็นร่างของใครคนหนึ่ง ล้มตะแคงแน่นิ่งอยู่บนพื้นห้อง ข้างกายมีโต๊ะเล็กล้มกลิ้ง ข้าวของกระจายเกลื่อนพื้นห้อง
“ไปกันได้แล้วที่รัก”
เสียงของระรินอ่อนหวาน ราวกับสมัยหนุ่มสาว เขาหันไปมองและพบว่าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ระรินสวยสะคราญอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แล้วเขาก็เริ่มแปลกใจเมื่ออาการเจ็บปวดจากคมมีดกำลังหายไปทีละน้อย
เข้าใจแล้วล่ะ
นางพยาบาลเป็นเพียงภาพหลอน ไม่มีใครมาช่วย เขาจึงนอนตายอยู่บนพื้น ระรินได้ชำระแค้นของเธอเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปนี้คงจะได้อยู่ด้วยกันเสียที จบปัญหาค้างคามานานแสนนาน
เขายิ้ม เดินไปหาคนรักด้วยร่างกายเบาหวิวราวปุยนุ่นแต่แข็งแรงด้วยวัยหนุ่ม จูงแขนกันและกัน เดินหายไปในความว่างเปล่า
จบแล้วครับ
.
ฆ่า...หลังตาย
ระริน...เป็นชื่อของเธอเอง เธอในที่นี้ หมายถึงผู้หญิงหน้าตาดี แต่ผู้หญิงหน้าตาดีคนนี้ มองเห็นตัวเองถือคบเพลิงที่มีไฟนรกกำลังลุกโชน วิ่งลงนรกอันเร่าร้อน เผาผลาญทั้งตัวเธอเอง และคนรายรอบตัวให้ไหม้เป็นจุลไปด้วย ทำไมปีศาจนรกถึงยื่นคบไฟอเวจีให้เธอ โลกแห่งความมืดต้องการอะไรกันแน่ ความตาย หรือความสิ้นหวัง? หรืออะไรก็ได้ ที่มนุษย์สามารถเอามาเดิมพัน
สามีเธอนอกใจ
นอกใจ..... คำสองคำที่มีความหมายเคี่ยวเข็ญทรมานสาหัส โดยเฉพาะกับคนอย่างระริน ผู้สามารถเข้าไปเดินเล่นในจักรวาลแห่งความคิดฝันของตัวเองได้ ราวกับเดินอยู่ในโลกแห่งความจริง
ความรู้สึกแบบนี้ เธอไม่ใช่ว่าเริ่มคุ้นเคย แต่รู้สึกมานานแล้ว ราวกับรู้สึกคุ้นเคยมาแต่ชาติปางก่อน ตะวัน ใช่...ชื่อสามีของเธอเอง ไม่ใช่หมายถึงดวงตะวันบนฟากฟ้า แต่หมายถึงความร้อนแรงเผาผลาญ เขาลืมแม้กระทั่งวันสำคัญ เธอเกิดวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่รู้จักกันในสมัยใหม่ว่า วันเสียสาว ในความรู้สึกและค่านิยมของวัยรุ่น ระรินไม่ได้สนใจคำว่าวันเสียสาว เพราะเธอกำลังจะเสียสามีคนดีที่อยู่ด้วยกันมานานหลายปี
ความคิดรุนแรงของเธอปะทุลั่นอยู่ในสมอง
มันน่าตายไหม......
วันแห่งความรัก แต่สามีตัวดีกำลังถือช่อดอกไม้ราคาแพง ไปให้สาวคนอื่น โดยไม่เห็นหัวของภรรยาแสนดีที่รอคอย ไม่...ที่รัก....ฉันไม่ต้องการดอกไม้บ้าบอคอแตก....ฉันสนใจแค่ความรัก แต่วันแห่งความรัก คุณกับไปสนใจหญิงอื่น
ที่รัก..คุณสมควรตายจริง ๆ...รู้ไหม? ฉันอยากจับคุณมัดกับเสาเหล็ก และจุดไฟเผาแบบคนโบราณลงโทษผู้ร้าย ให้คุณตายทั้งเป็นอย่างช้า ๆ และทรมาน ลมหายใจของคุณจะมีแต่กลิ่นควันและความตายอันน่าสยดสยอง เลือดในตัวของคุณจะเดือดล้นทะลักออกมาจากรอยปริแยก เสียงร้องของคุณจะโหยหวนไม่เป็นภาษาจนกว่าจะขาดใจตาย แล้วฉันจะเดินยิ้มแล้วก้าวเท้าย่ำไปบนซากศพของคุณ ให้สาแก่ใจ บางทีฉันจะคุกเข่าก้มหน้าเก็บกระดูกของคุณขึ้นมาซับน้ำตาอย่างหฤหรรษ์
แต่คุณก็หนีฉันไม่พ้น...ที่รัก คุณต้องกลับมาตายรัง คุณต้องชดใช้ความผิด นรกกำลังรอคอยคนอย่างคุณ แต่ก่อนจะตายบอกฉันสักคำได้ไหม....ว่าฉันผิดตรงไหน ถึงไปเลือกคนไม่สวยอะไรเลยสักนิด มาเคียงข้างคุณ บอกฉันให้หายโง่หน่อยที่รัก ก่อนฉันจะควักตับ ไต ของคุณออกมาจากช่องท้อง และกินให้สาแก่ใจ บางทีอาจจะโรยพริกไทยสักเล็กน้อย บีบน้ำมะนาวลงไปสักนิด เห็นว่าตับคนอร่อย..โดยเฉพาะตับคนหลายใจ
ไม่ล่ะที่รัก..มันโหดร้ายเกินไปสำหรับคนรักกัน
ก่อนคุณจะตาย.....
ก่อนคุณจะตาย....
ระรินยิ้มเยือกเย็นกับความคิดของตัวเอง
ตะวันเบิกตาโพลง ภรรยาของเขาถือมีดอยู่ในมือ และพร้อมจะแทงกระหน่ำลงมาได้ทุกเมื่อ เพราะสายตาของเธอเต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและการทำลายล้าง
แต่ท้ายที่สุด คุณปู่ตะวันหลับตาลง วัยแปดสิบกว่าปีอย่างเขาจะเหลือเรี่ยวแรงอะไร หลบหนีจากความตาย พวกหมอพยาบาลผิดเองที่คิดว่า ระริน หายจากอาการโรคทางจิต เปล่าเลย...เธอสามารถซ่อนมันไว้ในส่วนลึกที่สุดของจิตใจต่างหาก นานแค่ไหนแล้วนะ... เธอเลยวันเวลาแห่งความสาวไปนานแล้ว นานเหลือเกิน จนความทรงจำเลือนราง และยังสร้างความทรงจำใหม่ อันน่ากลัวขึ้นมาในความว่างเปล่า เขาไม่เคยนอกใจภรรยา คนที่นอกใจเธอคือสามีคนก่อนต่างหาก!
แทงลงมาเลยที่รัก...ไม่ว่าจะถูกหรือผิดก็ตาม ไม่ต้องอธิบายอะไรกันอีกต่อไป เรื่องบางอย่างการสื่อสารด้วยใจ สำคัญมากกว่าทางคำพูดมากมาย
ตอนที่คุณยายระรินโถมตัวลงมา คุณปู่ตะวันอ้าแขนออกรองรับความตายอย่างเต็มใจ ไม่ว่าถูกหรือผิด ที่รัก.....เราจะไปด้วยกัน... ขอบใจสุดที่รัก!
ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คุณปู่ตะวันลืมตาอย่างอ่อนล้า ระรินหายไปไหน เห็นว่าเดินถือมีดเดินเข้ามาอย่างชัดเจน พยายามลุกขึ้นส่งเสียงร้องเรียกหา แต่แข้งขาอ่อนแรงถลาล้มลง มือคว้าขอบโต๊ะเล็กข้างเตียงจนล้มโครมคราม ทำให้นางพยาบาลคนหนึ่งวิ่งเข้ามาดูด้วยความตกใจ
“ระริน เธอหายไปไหน...” เอ่ยถามด้วยเสียงหอบอย่างเหน็ดเหนื่อย นางพยาบาลประคองขึ้นมานอนบนเตียงด้วยความทุลักทุเล ก่อนตอบด้วยน้ำเสียงแสดงความเห็นใจ
“คุณระรินเธอเสียไปนานปีแล้วนะคะ จำไม่ได้หรือคะ”
นานพอสมควรกว่าจะเข้าใจความหมาย เขาลืมไปอีกครั้งแล้วว่าระรินเธอตายไปนานแล้ว ทำไมถึงลืมไปได้ เขาเป็นคนลั่นไกยิงเธอเนื่องจากการยื้อยุดปืนต้นเหตุ อันมาจากการทะเลาะกันเรื่องความหึงหวง ไม่ได้ตั้งใจ แต่กระสุนนัดนั้นก็ตัดขั้วหัวใจเธอ หลังพ้นจากการจองจำ เขากลับกลายเป็นคนอ่อนแอ เพราะผลของโรคที่ติดมาจากในคุก
“ตะวันคะ...” หูแว่วเสียงกระซิบ ระรินเดินถือมีดเล่มยาวเข้ามาอีกครั้ง พอความทรงจำกลับมา ก็เริ่มจดจำเรื่องราวได้ ทำไมอาการเห็นภาพหลอนถึงไม่ยอมรามือจากไปเสียที เหตุการณ์ซ้ำซาก วนไปเวียนมาไม่รู้จบ
เดี๋ยวเธอก็จะโถมตัวลงมาแทง พร้อมกับมีดในมือ
และเป็นอย่างนั้นจริง ๆ
แต่คราวนี้เจ็บจริง
ตะวันสะดุ้งสุดตัว ร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด มองใบหน้ายิ้มเล็กน้อยของคนรักอย่างไม่เข้าใจ เธอเป็นเพียงภาพหลอน ไม่มีตัวตน แต่อาการสำลักเลือดจนลมหายใจขาดห้วง และความเจ็บปวดอย่างไม่เคยพบเจอมาก่อนในชีวิต หมายถึงอะไรกันแน่
ใบหน้าสะบัดด้วยความเจ็บปวด ผวาลุกขึ้นจากเตียงเบิกตาโพลง มองเห็นร่างของใครคนหนึ่ง ล้มตะแคงแน่นิ่งอยู่บนพื้นห้อง ข้างกายมีโต๊ะเล็กล้มกลิ้ง ข้าวของกระจายเกลื่อนพื้นห้อง
“ไปกันได้แล้วที่รัก”
เสียงของระรินอ่อนหวาน ราวกับสมัยหนุ่มสาว เขาหันไปมองและพบว่าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ระรินสวยสะคราญอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แล้วเขาก็เริ่มแปลกใจเมื่ออาการเจ็บปวดจากคมมีดกำลังหายไปทีละน้อย
เข้าใจแล้วล่ะ
นางพยาบาลเป็นเพียงภาพหลอน ไม่มีใครมาช่วย เขาจึงนอนตายอยู่บนพื้น ระรินได้ชำระแค้นของเธอเป็นครั้งสุดท้าย ต่อไปนี้คงจะได้อยู่ด้วยกันเสียที จบปัญหาค้างคามานานแสนนาน
เขายิ้ม เดินไปหาคนรักด้วยร่างกายเบาหวิวราวปุยนุ่นแต่แข็งแรงด้วยวัยหนุ่ม จูงแขนกันและกัน เดินหายไปในความว่างเปล่า
จบแล้วครับ
.