ปั่นเดี่ยว EP.10 ตอนพิเศษ ทริปมั่นหน้า ว่ายน้ำไม่แข็ง กระแดะไปลงไตรกีฬา ระยะโอลิมปิก

หลังจากไม่ได้เขียนกระทู้มานานนนนนแสนนาน นานมากๆ ปรกติจะเขียนรีวิวงาน Audax แต่หลังๆมานี้ไม่ได้เขียนเพราะเห็นหลายๆท่านสาย Audax มีคนรีวิวสนามกันเยอะมากแล้ว แต่ละท่านก็เขียนกันสนุกน่าดูเลยขอเป็นผู้อ่านอย่างเดียว จะดีก่า (จริงๆขี้เกียจ 555) จนมารอบนี้ เหมือนได้เจอของเล่นใหม่เพราะว่าดั้นนนนนน  ไปลงงานไตรกีฬา ทั้งๆวิ่งก็ไม่เก่ง ว่ายน้ำนี่เรียกว่าไม่เป็นกันเลยดีกว่าครับ เลยอยากที่จะมาแชร์ประสพการณ์ การลงไตรครั้งแรก ในระยะ โอลิมปิก และที่สำคัญเลยคือ "ผมว่ายน้ำไม่ค่อยได้ครับ" กับรายการ

Sahaviriya-Bangkok Triathlon 2018


คำเตือน บทความนี้เขียนขึ้นโดยผู้ไม่ชํานาญ ไม่เคยข้องเกี่ยว และไม่ค่อยรู้เรืองไตรกีฬานะครับ ขอออกตัวก่อนเลยกันโดนด่าว่ามาบอกมาแนะนำอะไรผิดๆ 555


ความตั้งใจแรกที่เขียนกระทู้นี้เลยคือ ผมเชื่อว่าน่าจะมีหลายท่านที่ สนใจ แต่ยังไม่กล้า อาจจะด้วยว่ายน้ำไม่เป็น(อย่างผม) หรือไม่รู้ว่าต้องซ้อมอะไรยังไง ไปเปิดหาข้อมูลในเนตก็เจอแต่การซ้อมเป็นหลักการเต็มไปหมดอ่านแล้วมึนหัวแล้วก็นึกน้อยเนื้อต่ำใจว่า ก็ชั้นว่ายน้ำไม่เก่งนี่มีแต่แนะนำคนเก่งๆทั้งนั้นเลยมาครับ!! เรามามั่วไปพร้อมๆกันดีกว่าครับ ผมออกตัวเลยนะว่านอกจากปั่นจักรยานได้ถึกอย่างเดียว เน้นว่าถึกอย่างเดียวด้วยนะปั่นเร็วก็ไม่ได้อีก หรือถ้าเรียกกันตามสายจักรยานเค้าเรียกว่าสายซอมบี้ คือปั่นได้ไม่หลับ ไม่นอน ไม่พัก ไม่จอด ไม่เร็ว ไปมันเรื่อยๆทึ่มๆนั้นแหละ 555  แล้วอย่างอื่นนี่ผมไม่ได้เรื่องเลยนะบอกเลย ความรู้เรื่องหลักการว่ายน้ำ ท่าว่ายน้ำที่ถูกต้อง เวลาที่ถูกที่ควรจะต้องเท่าไรอะไรยังไงนี่ก็ไม่รู้เรื่องเลยนะครับมั่วสุดๆ  ส่วนเรื่องวิ่งนี่ ไม่ซีเครียดเท่าไร คือต่อให้หมดแรงยังไงมันก็มาสามารถเดินได้ หรือจะคลานก็ได้ โดยในกฎบอกไว้ว่าอนุญาตให้วิ่ง เดิน หรือ คลานได้เท่านั้น (ว้า...ไม่ยอมให้บินได้) คงเหลือแต่ว่ายน้ำนี่แหละครับที่น่าเป็นห่วงที่สุด เพราะน้ำที่เราจะว่ายนั้น มันคือแม่น้ำเจ้าพระยาที่ขึ้นชื่อเรื่องความสอาดมากกกกกกก


ขอเท้าความหน่อยนะครับว่าทำไม ว่ายน้ำไม่ได้แล้วดันมาลงไตรทำไม  เรื่องของเรื่องคือ ผมมีความฝันวัยเด็กว่า ซักครั้งในชีวิต อยากที่จะลงไตรให้ได้ แต่ติดปัญหาที่หลายๆท่านน่าจะติดเหมือนกันคือ ว่ายน้ำไม่เป็น ว่ายน้ำไม่ได้นั้นเอง ประกอบกับ มีน้องที่เคยทำงานด้วยกันสมัยก่อน ช่วนไปงานกรุงเทพไตรกีฬา ด้วยความที่อยากลงซักครั้งในชีวิตอยู่แล้วอย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนเล่นอยู่ในสนามเดียวกันด้วย ก็เลยตบปากรับคำไป แต่ที่ไหนได้คุยไม่ละเอียด คือน้องมันลงทวิกีฬา ในงานไตรกีฬา แล้วผมก็ดันกดสมัครไตรโอนเงินเรียบร้อย สบายตัวเดือนร้อนไปแล้วช่วยด้วยแม่จ๋า


เริมต้นจากรุ่นที่ลงก่อนเลยครับ แค่ลงสมัครก็ห้าวแล้ว ลงระยะเต็มเลย คือมันมี 3 ระดับให้เลือกลง ไม่นับทวิกีฬากับแบบทีมพลัดนะครับ คือมีแบบ
แบบที่ 1 รุ่น Bangkok Braveheart ว่าย0.20 km. ปั่น10 km. วิ่ง2.5 km. ให้เวลา 2.30 ชั่วโมง แข่งขันวันเสาร์
แบบที่ 2 รุ่น Bangkok Beast ว่าย0.75 km. ปั่น27 km. วิ่ง5 km. ให้เวลา 2.30 ชั่วโมง แข่งขันวันเสาร์
แบบที่ 3 รุ่น Tough Thai ว่าย1.5 km. ปั่น54 km. วิ่ง10 km. ให้เวลา 5.25 ชั่วโมง แข่งขันวันอาทิตย์


ผมเลือกลง แบบ 3 ด้วยเหตุง่ายๆคือ จ่ายเงินราคาใกล้ๆกัน แต่ได้เล่นนานกว่า คุ้มกว่าเห็นๆ 555  (เอิ่ม แกรเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า) และยิ่งเห็นว่า มีเวลาให้ตั้ง 5.25 ชั่วโมง ถ้าไม่จมน้ำตายไปซะก่อน มันจะต้องจบสิฟร๊ะ  ว่ายน้ำเอารอดๆง่ายๆให้ไปเลยชั่วโมงครึ่ง ปั่นจักรยาน ซักสองชั่วโมง วิ่งอ่ะให้ความเร็วเท่าเดินเลย อีก2ชั่วโมง โอ้ววว ผ่านครบจบสะดวกตามเวลา พอดีเด๊ะ

เพราะงั้นแล้วสิ่งที่ผมพยายาม โฟกัสที่สุดเลยคือ ว่ายน้ำยังไงให้รอด กับระยะทาง 1.5 km สำหรับคนที่ไม่เคยว่ายน้ำจริงจังเลยในชีวิต นึกภาพให้ออกก็ประมาณว่าไปทะเลก็ไปกระโดดเอาหลังชนคลื่นเล่น หรือไปสวนน้ำก็จะว่ายน้ำแค่ตอนลงมาจากสไลด์เดอร์แค่นั้นเลยครับ สกิลว่ายน้ำทั้งหมดของผม และที่กล้าตัดสินใจลง เพราะไปเห็นคริปปีก่อนๆ อย่างน้อยก็เห็นเค้ากั้นทุ่นเอาไว้ ถ้าว่ายไม่ไหว ก็น่าจะไปพักเกาะทุ่นได้ น่าจะรอดตายได้ระดับหนึ่ง


คำเตือนอีกครั้ง การฝึกซ้อมของผมที่จะพิมพ์ต่อจากนี้มั่วเองล้วนๆนะครับ ใช้วิจารณญาณในการอ่านให้เต็มที่นะครับ (จะเตือยบ่อยอะไรนักหนา555)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่