แชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนักจาก 120 โล เหลือ 79 ด้วยวิธีผิดถูก จนมาค้นพบ Zumba เต้นระเบิดไขมันกระจุย!

สวัสดีค่ะทุกคน ชื่อส้มโอนะคะ วันนี้ส้มโอก็จะมาแชร์เรื่องลดน้ำหนักกับทุกคนเผื่อว่า เรื่องของส้มโอจะเป็นการสร้างทางเลือกในการดูแลสุขภาพให้กับหลาย ๆ คน หรืออาจจะได้ไอเดียไปไม่มากก็น้อยเนอะ....เริ่มเลยนะ!!!

ก่อนเริ่ม ขอออกตัวก่อนว่า...ตอนนี้ก็ยังพยายามลดต่อไป เพราะมันก็ยังอ้วนอยู่ ยังอยากได้สุขภาพดีกว่านี้ แต่ที่มาแชร์เพราะว่า รู้อะไรดีก็อยากจะแชร์ก่อนค่ะ พูดเลย มาร่วมสุขภาพดีไปด้วยกันนะคะทุกคน...

เอาล่ะ...เริ่มจริง ๆ ละนะ ย้อนความไปตั้งแต่เริ่มแรกเดิมที...ตั้งแต่เด็กจนโต (แก่) ไม่เคยได้สัมผัสว่า "ผอม" คืออะไร นน. ตัวแตะ 80-85 ตลอด ตอนป. 6 ก็ 75 กิโลแล้วนะ พอเข้าเรียนมัธยม คุณแม่นางก็มีสังคม...สังคมแม่บ้านขายตรง ขายทุกสิ่งทุกอย่าง ก็มาแนะนำยาลดน้ำหนักให้ที่บ้าน กินตั้งแต่ม. 1 ยัน ม. 6 กิน ๆ หยุด ๆ โยโย่ไปมา คือเปลี่ยนยี่ห้อไปเรื่อย แล้วแต่ว่าเพื่อนของคุณแม่นางจะมาเสนอยี่ห้อใด ซึ่งเป็นวิธีที่ผิดมาก เพราะแม้จะกินยาแต่น้ำหนักไม่เคยลงเลย จนม. 6 เลยตัดสินใจเลิกกินยา พอกันที ผอมไม่ได้ชาตินี้ก็ไม่เป็นไร แล้วระบบก็รวนมากประจำเดือนไม่มาค่ะ มาเป็นประจำปีบ้าง ประจำ 2 ปีบ้าง วิกฤติมากจริง ๆ สุขภาพย่ำแย่

พอเข้าเรียนมหาลัย กินแหลก บวกกับโยโย่จากยาลดน้ำหนักทั้งหลายทั้งปวงสารพัด นน. พีคไป 108 โล เฉกเช่นรูปดังกล่าว (ใครกินข้าวอยู่ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ)




ว๊ายตายแล้ววว!! ในรูปนี่คิดว่าอืดสุดแล้วนะ แต่ไม่ค่ะ!!! หลังจากเรียนจบป.ตรี ก็ได้ไปเรียนต่อโท ที่อังกฤษ ก่อนไปได้ไปเข้าคอร์สสถาบันลดน้ำหนัก หมดไปเป็นเกือบแสน ลงไป 2 โล ให้เค้าตบ ๆ ตี ๆ ไขมันสะเทือนเท่านั้นเอง 555 พอไปเรียนต่อโทก็ วิถีชีวิตต่างประเทศเนาะ อาหาร นม เนย ขนม ไอติม น้ำอัดลม พูดมาสิคะ กินทุกอย่างที่ขวางหน้า นน. พีคไปถึง 120 กิโล ก็ยังไม่คิดจะลดน้ำหนัก คิดว่าไม่มีวันลดได้หรอก เรามันอ้วนแต่เด็ก ไม่มีวันผอม ก็เอนจอยกับการกิน คนรอบข้างก็ไม่มีใครกล้าพูดไร เพราะกลัวชะนีเหวี่ยงปรี๊ดแตกใส่ เพื่อน ๆ ก็มีเรียบ ๆ เคียง ๆ ว่าแบบ “ส้มโอถ้าผอมแล้วจะสวยมากเลยนะ” เราเป็นชะนีสายไม่มโนโลกสวย คิดแบบมั่นหน้ามั่นสิบไปเลยว่า “ค่ะ ขอบคุณค่ะ แต่ทางเราแฮปปี้แบบนี้ เราพยายามลดละมันไม่ลดละ ไม่มีวันเป็นไปได้” เพื่อนก็หมดปัญญา ที่บ้านก็เอาที่ทางเธอสบายใจเลยจ้ะ


ก็เป็นแบบนี้มาจนกระทั่ง....จบป โท จากอังกฤษแล้วกลับมาเมืองไทย กลับมาสมัครงาน มุ่งมั่นในการสมัครงานมาก อยากจะตั้งใจทำงานเลี้ยงที่บ้าน แต่! ไปสมัครงานที่ไหน ไม่มีใครรับ เพราะให้เหตุผลว่าเราไม่คล่องตัว อ้วนด้วยไรด้วย ปรากฏว่า...ตกงานไป 2 ปีเต็ม ตอนนั้นบอกตรงไม่แน่ใจว่าเป็นประเด็นน้ำหนักหรือเปล่า แต่คิดว่ามีส่วน เพราะไปสัมภาษณ์งานที่ใดก็จะมีการถามประเด็นน้ำหนักตลอด ทุกครั้ง ทุกที่ที่ไปสมัคร แม้กระทั่งสถาบันการศึกษาต่าง ๆ (เพราะส่วนตัวมีความใฝ่ฝันอยากเป็นอาจารย์ มี passion ที่จะทำเพื่อสังคมอ่ะนะ แลดูสวย)


เมื่อเกิดเหตุเยี่ยงนั้น...นอยรับประทาน ทำไงล่ะ น้ำตาแตกกะชีวิต ทำไมเราไม่ได้งาน เลี้ยงที่บ้านไม่ได้ ไม่ได้ทำตามฝัน จนตัดสินใจลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ก็ปี 2014 เริ่มจากการเดินลู่วิ่ง (ลู่วิ่งนี่คุณพ่อเห็นใจลูกสาว นั่งร้องไห้ พ่อเลยซื้อมาไว้ให้เดินในบ้าน) ตอนแรกเดิน 3.5 ไปได้ 10 นาทีก็จะเป็นลมแล้ว ทั้งท้อ ทั้งเหนื่อย ร้องไห้ ซึ่งบอกตรง ตอนที่พีคเบอร์นั้นชะนีนี้ก็มิได้ถ่ายรูปเก็บไว้ เพราะรับมิได้ค่ะเอาเท่าที่หามาได้ละกันเนาะ แถมเรามีข้อเปรียบเทียบ น้องชายเราผอม เวลาไปไหนทุกคนจะแบบ “นี่ ลูกสาวเหรอ?” “โห ตัวใหญ่กว่าพ่อ กว่าแม่อีก” ได้แต่ยิ้มทั้งน้ำตา ทำไมคนเราชอบทักอะไรกันแบบนี้ก็ไม่รู้


(ภาพนี้คือภาพเริ่มแรก ไม่สามารถหารูป 120 โลได้ เพราะคาดว่าคงจะรับตัวเองไม่ได้จนไม่ถ่ายเก็บไว้ 555)


ช่วงแรก ๆ ลดได้จากการเดินลู่วิ่งอย่างเดียว ไม่ได้เวทเลยค่ะ พอเดินได้ยาวขึ้นก็เริ่มวิ่ง แต่ก็จะยังวิ่งไม่ได้ดี เพราะน้ำหนักตัวก็ยังเยอะอยู่ เลยมาค้นพบ Zumba จริง ๆ ก็ค้นพบมาสักพัก แต่ด้วยความที่แบบตอนแรกไม่กล้าไป เพราะอ้วนมาก ไม่กล้าออกกำลังในที่สาธารณะ ไม่รู้เป็นอะไร จริง ๆ ก็ไม่ถูกอ่ะนะ แล้วตอนนั้นคิดว่า ถ้าจะเต้น Zumba ในเมืองไทย ต้องไปเต้นกับครูหนุ่ม กูเกิล หาอย่างจริงจัง ตกหลุมรักคลาสครูตั้งแต่ยังไม่ไป ไม่กล้าไปตอนแรกเห็นมีแต่ดาราไป เราก็แบบ จะไปดีไหม แต่ก็ตัดสินใจ เอาวะ! It’s now or never! เลยจองคลาสไป คลาสแรกจะต้องแจ้งให้ครูทราบก่อน บ้านอยู่บางแสน นั่งรถทัวร์ปอ. จากหนองมนไปเลยค่ะ ไปที่ Rainhill ชั้น 5 The Studio ตั้งแต่วันนั้นยันวันนี้ แทบจะสิงอยู่ที่นั่น ตกหลุมรักการออกกำลังแบบนี้มาก คลาสครูหนุ่มสนุกมากกกกกกกกกกก มันส์มากกกกกกก ครูน่ารักมากกกก ครูสอนดีมากก คือไม่รู้จะอธิบายยังไง คือครูทำให้การออกกำลังไม่เหมือนการออกกำลัง คือแนะนำให้ทุกคนลองไปดู พื้นฐานการเต้นของเรา คือ ศูนย์ เลย  แต่มันลดน้ำหนักจริง ๆ เต้นอยู่กับครู 2 เดือน ลงไป 10 โล ก็จะต้องบินกลับมาอังกฤษ เพราะว่าเค้าเรียนปริญญาเอกอยู่ แต่ถ้าได้กลับไป ก็จะไปสิง The Studio ทุกครั้งเลยค่ะ

ที่กล่าวมาทั้งหมด น้ำหนักลงมาจากคาร์ดิโอล้วน ๆ เริ่มจากเดิน มาวิ่ง แต่ลงจริง ๆ และเห็นผลจริง ๆ คือการเต้น Zumba เพราะมันบอดี้เวททั้งตัว แล้วคลาสครูหนุ่มนี่ มันได้ผลมากจริง ๆ เหมือนจะทำกระทู้อวยครู แต่ว่าประเด็นที่ส้มโอจะสื่อก็คือ...เราทุกคนอ่ะ รู้อยู่แล้วค่ะว่า ทำอย่างไรถึงจะสุขภาพดี น้ำหนักลงพอเหมาะพอสม นั่นก็คือ คุมอาหารและออกกำลังกาย การออกกำลังกาย ควรมาจากสิ่งที่เราชอบ และทำให้เราอยากไปออก กลายเป็นกิจวัตรประจำวัน สิ่งที่เราต้องทำทุกวัน ตอนที่เดินลู่วิ่ง นี่จะลงช้ามาก ๆ เพราะโดยส่วนตัวคิดว่ามันน่าเบื่อมาก พอเจออะไรที่เราชอบ อย่างการเต้นที่ส้มโอบอกนั้น มันจะไปเองเลยจริง ๆ



คำแนะนำที่อยากจะมอบให้กับทุกคนก็คือ...จงค้นหาตนเอง หาสิ่งที่ตนรัก แล้วทำมันเลย ลองผิด ลองถูก เพราะถ้าไม่ลอง เราก็จะไม่รู้ว่า จริง ๆ แล้ว อะไรคือสิ่งที่ใช่ สำหรับเรากันแน่

สำหรับส้มโอ...คือ เต้น Zumba กับครูหนุ่ม เปลี่ยนชีวิตมาก ทั้งทัศนคติ และหลาย ๆ อย่าง

เรื่องอาหาร...ก็สำคัญมาก ก็อย่างที่บอกว่า ทุกคนรู้ว่าสิ่งไหนดี และไม่ดีกับเรา อาหารบางอย่าง ร่างกายเราจะไม่เหมือนคนอื่นนะ บางทีคนอื่นบอก กินอันนี้ดี กินแล้วผอม เรากินแล้วอาจจะไม่ได้ผลอย่างนั้นก็ได้ เลยควรลองผิด ลองถูก ที่สำคัญฟังร่างกายตัวเองเยอะ ๆ ลองทุกอย่าง อย่างมีสติ แล้วเลือกกิจกรรมหรือการออกกำลังที่ชอบ แล้วการที่น้ำหนักลงมันคือผลพลอยได้ค่ะ มีความสุขทุกวัน แค่นั้นพอเลย ขอเป็นกำลังใจให้คนรักสุขภาพทุกคน ให้มีสุขภาพกายและใจแข็งแรงนะคะ

อย่างที่บอกว่า...เค้าไม่ได้บอกว่า เค้าผอมแล้ว เค้าก็ยังพยายามเพื่อสุขภาพที่ดีต่อไป ก็แค่อยากจะมาแชร์ให้ฟังเท่านี้แหละคร้าบบบบ

คือ...ถ้ามีคำถาม หรือความเห็นโพสได้เลย บางทีส้มโอก็เล่า ๆ ไป มันรายละเอียดยิบย่อยมันเยอะกว่านี้ แต่ว่า เค้าเรียนค่อนข้างยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลา เลยรีบเขียน รีบเล่า จะพยายามตอบทุกข้อความนะคะ

หรือจะส่งมาคุยกะเค้าในเพจเค้าได้นะคะ ^_^
https://www.facebook.com/somophdleeds/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่