เริ่มต้นจาก ที่ปกติเวลาที่นั่งสมาธิจะเน้นไปทาง "สมถกรรมฐาน" มากกว่า
โดยกำหนด ลมหายใจเข้า-ออก สลับกับยุบ-พองบ้างในบางเวลา (โดยเฉลี่ยคือประมาณ 1 ชั่วโมง)
ในช่วงสุดท้ายของการปฏิบัติส่วนใหญ่ หลังจากที่เกิดสมาธิระดับต้น และกลางไปแล้ว
จะพิจารณาผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ว่าเป็นของที่ไม่สวยงาม มีการเปลี่ยนแปลงไป
แต่ก็ไม่ได้จริงจังไปทางวิปัสสนากรรมฐานมาก
คือ เวลาพิจารณา..สิ่งที่ได้...จะเป็นอาการปิติ สุข เบาสบาย ไม่แตกต่างไปจากอาการของสมถกรรมฐานเท่าไหร่
(คือ ใจมันยังไม่ได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงตามกฎไตรลักษณ์ที่แท้จริง เป็นเพียงการพิจารณาโดยใช้สมองพิจารณา
แล้วใจก็รู้สึกปล่อยวาง แล้วก็เกิดปิติ อย่างขนลุก อาการน้ำตาคลอ เบาสบาย
คล้าย ๆ กับการปาลูกดอกแล้วมันไม่เข้าเป้าจังๆ แต่ไปโดนขอบๆมากกว่า)
แต่มีครั้งหนึ่งที่เกิดเหตุการณ์ที่จิตรู้แจ้งชัดเจนมาก
ก็ทำเหมือนเดิม คือทำสมถะ แล้วต่อด้วยพิจารณาร่างกาย ว่าสุดท้ายมันก็จะกลับไปสู่ธาตุเดิม คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
ร่างกายที่อยู่ ไม่ได้ตั้งอยู่คงทนถาวร แล้วก็พิจารณาต่อไปอีกว่า แม้ร่างกายตัวเองก็มีการเกิดขึ้นมา ตั้งอยู่ และดับไป
บุคคลอื่นก็เป็นเช่นเดียวกัน แม้แต่สัตว์อื่นที่ไม่ใช่คน รวมทั้งต้นไม้ ก็เป็นเช่นเดียวกัน
ในขณะที่พิจารณานั้น มีมันอาการรู้ที่เกิดขึ้นที่ใจ คือ ใจมันรู้ชัดเจนแจ่มแจ้งมาก ว่านั้นคือ การเกิดมา ตั้งอยู่ และดับไป
ซึ่งเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ (ไม่ได้เกิดจากที่สมองรู้เหมือนกับที่ผ่านๆมา) เหมือนกับการปาลูกดอกแล้วตรงเป้าจัง ๆ
จนรู้สึกว่า นี่หรือที่เค้าบอกว่า อาการที่จิตรู้ มันเป็นแบบนี้นิเอง ...มันแจ่มชัดมาก
แตกต่างจากที่รับรู้โดยสมองอย่างหาที่สุดไม่ได้ จนไม่รู้จะหาคำใด ๆมาอธิบายได้เลย
หลังจากที่จิตรู้ก็เกิดอาการวาง คลายความยึดมั่น แล้วก็เกิดปิติ น้ำตาคลอ เบา โล่ง สบาย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองสำเร็จขั้นใด ๆ นะครับ เพราะคิดว่ายังห่างไกลมาก
แต่ก็มาคิดตามเหมือนกันว่า แค่เราได้รับรู้บางเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น เรายังรู้สึกถึงความมหัศจรรย์ ว่ามันมหัศจรรย์ขนาดไหน
แล้วผู้ที่เข้าถึงคำว่า “โสดาบัน สกทาคามี อนาคมี และอรหันต์” จะมีความสุข มีความมหัศจรรย์เกิดขึ้นขนาดไหน
ได้แต่กราบศิโรราบต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างสุดใจ
ขนาดที่พิมพ์เล่ายังมีอาการปิติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย เพราะมันประทับตรึงใจมาก
คราวนี้ อยากจะถามผู้รู้ทั้งหลายว่า แนวที่จะปฏิบัติต่อไป จะต้องทำอะไรยังไง ที่จะให้มันก้าวหน้าไปมากกว่านี้
จะต้องเจอกับอะไรบ้าง มันจะก้าวหน้ามากไปกว่านี้ได้อีกไหม // ขอบคุณครับ
จะปฏิบัติวิปัสสนาให้ก้าวหน้าต่อไปยังไง
โดยกำหนด ลมหายใจเข้า-ออก สลับกับยุบ-พองบ้างในบางเวลา (โดยเฉลี่ยคือประมาณ 1 ชั่วโมง)
ในช่วงสุดท้ายของการปฏิบัติส่วนใหญ่ หลังจากที่เกิดสมาธิระดับต้น และกลางไปแล้ว
จะพิจารณาผม ขน เล็บ ฟัน หนัง ว่าเป็นของที่ไม่สวยงาม มีการเปลี่ยนแปลงไป
แต่ก็ไม่ได้จริงจังไปทางวิปัสสนากรรมฐานมาก
คือ เวลาพิจารณา..สิ่งที่ได้...จะเป็นอาการปิติ สุข เบาสบาย ไม่แตกต่างไปจากอาการของสมถกรรมฐานเท่าไหร่
(คือ ใจมันยังไม่ได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงตามกฎไตรลักษณ์ที่แท้จริง เป็นเพียงการพิจารณาโดยใช้สมองพิจารณา
แล้วใจก็รู้สึกปล่อยวาง แล้วก็เกิดปิติ อย่างขนลุก อาการน้ำตาคลอ เบาสบาย
คล้าย ๆ กับการปาลูกดอกแล้วมันไม่เข้าเป้าจังๆ แต่ไปโดนขอบๆมากกว่า)
แต่มีครั้งหนึ่งที่เกิดเหตุการณ์ที่จิตรู้แจ้งชัดเจนมาก
ก็ทำเหมือนเดิม คือทำสมถะ แล้วต่อด้วยพิจารณาร่างกาย ว่าสุดท้ายมันก็จะกลับไปสู่ธาตุเดิม คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ
ร่างกายที่อยู่ ไม่ได้ตั้งอยู่คงทนถาวร แล้วก็พิจารณาต่อไปอีกว่า แม้ร่างกายตัวเองก็มีการเกิดขึ้นมา ตั้งอยู่ และดับไป
บุคคลอื่นก็เป็นเช่นเดียวกัน แม้แต่สัตว์อื่นที่ไม่ใช่คน รวมทั้งต้นไม้ ก็เป็นเช่นเดียวกัน
ในขณะที่พิจารณานั้น มีมันอาการรู้ที่เกิดขึ้นที่ใจ คือ ใจมันรู้ชัดเจนแจ่มแจ้งมาก ว่านั้นคือ การเกิดมา ตั้งอยู่ และดับไป
ซึ่งเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์ (ไม่ได้เกิดจากที่สมองรู้เหมือนกับที่ผ่านๆมา) เหมือนกับการปาลูกดอกแล้วตรงเป้าจัง ๆ
จนรู้สึกว่า นี่หรือที่เค้าบอกว่า อาการที่จิตรู้ มันเป็นแบบนี้นิเอง ...มันแจ่มชัดมาก
แตกต่างจากที่รับรู้โดยสมองอย่างหาที่สุดไม่ได้ จนไม่รู้จะหาคำใด ๆมาอธิบายได้เลย
หลังจากที่จิตรู้ก็เกิดอาการวาง คลายความยึดมั่น แล้วก็เกิดปิติ น้ำตาคลอ เบา โล่ง สบาย
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็ไม่ได้บอกว่าตัวเองสำเร็จขั้นใด ๆ นะครับ เพราะคิดว่ายังห่างไกลมาก
แต่ก็มาคิดตามเหมือนกันว่า แค่เราได้รับรู้บางเสี้ยวหนึ่งเท่านั้น เรายังรู้สึกถึงความมหัศจรรย์ ว่ามันมหัศจรรย์ขนาดไหน
แล้วผู้ที่เข้าถึงคำว่า “โสดาบัน สกทาคามี อนาคมี และอรหันต์” จะมีความสุข มีความมหัศจรรย์เกิดขึ้นขนาดไหน
ได้แต่กราบศิโรราบต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อย่างสุดใจ
ขนาดที่พิมพ์เล่ายังมีอาการปิติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย เพราะมันประทับตรึงใจมาก
คราวนี้ อยากจะถามผู้รู้ทั้งหลายว่า แนวที่จะปฏิบัติต่อไป จะต้องทำอะไรยังไง ที่จะให้มันก้าวหน้าไปมากกว่านี้
จะต้องเจอกับอะไรบ้าง มันจะก้าวหน้ามากไปกว่านี้ได้อีกไหม // ขอบคุณครับ