- RDI เป็นแค่ตัวที่บอกว่าในแต่ละวันร่างกายเราต้องการสารอาหารอะไรบ้างปริมาณเท่าไรบ้าง ซึ่งในลิงค์นั้นบอก 34 ตัว ทีนี้ถ้าบอกว่าให้ทุกคนกินอาหารครบ 34 หมู่สารอาหารดูจะเป็นอะไรที่วุ่นวายน่าดู เขาจึงทำการรวมให้เหลือสารอาหารหลัก 5 หมู่ครับประกอบด้วย
>คาร์โบไฮเดรต(แป้ง,ข้าว)
>โปรตีน(เนื้อ,นม,ไข่)
>ไขมัน
> วิตามิน(ผักและผลไม้)
> เกลือแร่(ผักและผลไม้)

- ทีนี้ถ้าถามว่าไอ้เจ้าสารอาหารทั้ง 34 ตัวที่เราต้องการนี้ทำยังไงถึงจะกินได้ครบ คำตอบคือ ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และทานให้หลากหลาย ซึ่งการทานให้หลากหลายนี้เองมีประโยชน์ตรงที่อาหารแต่ละชนิด ยกตัวอย่าง เช่น ผักแต่ละชนิดมีปริมาณสารอาหารทั้งวิตามินและเกลือแร่ที่ไม่เท่ากัน เพราะฉะนั้นหากเราทานแต่ผักชนิดเดิม ๆ ก็จะทำให้ขาดสารอาหารบางตัวได้ เพราะฉะนั้นการทานที่หลากหลายช่วยเติมเต็มให้ร่างกายเราได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนได้

- ส่วนสำหรับประเด็นเรื่องการลดน้ำหนักนั้น เราต้องมองในเรื่องของการลดน้ำหนักคือการลดพลังงานที่ได้รับจากอาหาร หรือ/และ เพิ่มการเผาผลาญพลังงานสะสมในร่างกายจากกิจกรรมต่าง ๆ นั่นหมายความว่าสารอาหารที่มาเกี่ยวข้องกับการลดน้ำหนักคือ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน อ้าวและทีนี้ถ้าคุณอยากลดน้ำหนักแต่คุณต้องกินสารอาหารทั้ง 3 ตัวนี้ต่ำกว่าค่าที่บอกใน RDI ได้ไหม คำตอบคือได้ครับ เพราะ RDI ที่คุณแปะมานั้นพลังงานรวมในแต่ละวันคือ 2,000 kcal ซึ่งถือว่าเป็นพลังงานที่สูงสำหรับบางคน อาจจะปรับลดส่วนนี้ได้ ส่วนเรื่องวิตามินและเกลือแร่นั้นอาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยตรง(มีเกี่ยวบ้างในกระบวนการหายใจระดับเซลล์ที่เดั่ยว
ข้องกับการใช้พลังงานในร่างกาย) แต่ก็ควรที่จะกินให้ครบเพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างปกติครับ

- หากเราได้รับสารอาหารทั้ง 34 ตัวไม่ครบ หรือเกินจะเป็นอย่างไร
    >ในกรณีไม่ครบ ถ้าหากเราขาดสารอาหารที่สำคัญ อาจทำให้ร่างกายทำงานผิดปกติ เกิดโรค ติดเชื้อได้ง่าย เป็นต้น แต่สารอาหารหลาย ๆ ตัวร่างกายสามารถเก็บไว้ใช้ได้ เพราะฉะนั้นต้องอดอาหารจริง ๆ ถึงจะเกิดอาการผิดปกติของร่างกายได้
     >สำหรับการได้รับสารอาหารเกิน หากเป็นสารอาหารที่ให้พลังงาน แน่นอนทำให้อ้วนได้ครับ แต่สำหรับวิตามินหรือเกลือแร่บางตัวหากได้รับมากเกินไปอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่น เป็นพิษต่อตับ ไตทำงานหนักขึ้น หรือหากได้รับเกินจากการทานวิตามินแบบเม็ดนานเกินอาจทำให้เป็นมะเร็งได้ เป็นต้น

- สารพฤษเคมี คือสารที่มีประโยชน์ที่พบอยู่ในพืชครับ แบ่งออกได้เป็นหลาย ๆ กลุ่ม บางกลุ่มทำให้เกิดสีในพืช บางกลุ่มทำให้เกิดกลิ่น ซึ่งประโยชน์พฤษเคมีมีมากมายเช่น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ บางชนิดช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ขัดขวางการทำงานของเอนำซม์บางตัวที่เกี่ยวข้องกับโรค เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีข้อกำหนดว่ามนุษย์ต้องการสารพฤษเคมีวันละเท่าไร ซึ่งเอาจริง ๆ สารพฤษเคมีนั้นมีเยอะมาก ๆ เกินกว่าจะมานั่งกำหนดว่าแต่ละตัวต้องทานเท่าไร และถามว่าจำเป็นหรือไม่ จริง ๆ แล้วสารพฤษเคมีก็มาพร้อมกับตอนที่เราทานผักและผลไม้แหละครับ ซึ่งยังไงเราก็จะได้รับมันอยู่แล้วครับ