ตัวเราเองก็โดนบังคับบังคับทุกเรื่องเลย
- สถานที่เรียนประถม มัธยม มหาลัย
- คณะที่เรียน
- หน้าที่การงาน (อยากให้รับราชการมีหน้ามีตา)
- ล่าสุดแต่งงานกับคนที่พึ่งคบแค่ 1 ปี
1. ที่เรียน
บังคับให้เราเรียนโรงเรียนที่เขาพึงพอใจจนเข้ามหาลัยก็บังคับ
2. คณะ
ให้เรียนคณะที่เขาอยากให้เรียน
ในมุมมองของเราเราเองก็ไม่พอใจแหละเพราะการเรียนเป็นการเริ่มต้นของการทำงานในอนาคตถ้าไม่ได้เรียนคณะที่ตรงกับอาชีพที่เราอยากทำ งานในอนาคตก็จะไม่ใช่อาชีพในฝันและก็คงทำออกมาได้ไม่ดีพอเพราะใจไม่รักในการเรียนสิ่งนั้นและอาชีพนั้น แต่ยังไงก็แล้วแต่เราก็ได้แค่คิดเพราะสุดท้ายแล้วก็ต้องเรียนตามใจพ่อแม่อยู่ดี
3. หน้าที่การงาน
เราไม่เข้าใจว่าทำไมต้องอยากให้ทำงานที่มีหน้ามีตานักหนาอยากโชว์คนอื่นไมไม่ถามว่าเรามีความสุขกับงานนั้น ๆ หรือป่าว ? ทุกวันนี้ยังมีประโยคเมื่อไหร่จะเรียนต่อเมื่อไหร่จะไปสอบเข้าข้าราชการ ทั้ง ๆ ที่บอกนับแสนรอบว่าไม่ชอบแต่ยังไงซะเราก็เลือกออกมาทำงานไกลบ้าน (อยากหนีออกจากบ้าน) เงินเดือนน้อยแต่เราอยู่ได้ด้วยความที่ไม่ฟุ่มเฟือยกินง่ายอยู่ง่ายเลยไม่ขัดสนอะไรให้พ่อแม่เห็นจุดด้อยของงานนี้
4. แต่งงาน
จนกระทั้งเหตุการณ์ล่าสุดบังคับเราให้เราไปบอกให้ผู้ชายมาขอแต่งงานได้แล้ว (พึ่งคบกันปีเดียวและเราไม่ได้ท้องจ้ะ) เราไม่ชอบการบังคับแบบนี้มากเลยเราเข้าใจนะว่าบางมุมมันเป็นการให้เกียรติผู้หญิงแต่การแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ มันเป็นการเริ่มต้นครอบครัวใหม่เลย ไม่ใช่จะคบ ๆ เลิก ๆ ยังไงก็ได้ แต่ในคำพูดของพ่อเราแต่งงานเหมือนให้เกียรติไปกันไม่ไหวก็เลิกแต่งใหม่ เห้อออ เราเลยขอเวลาเพื่อศึกษาเรียนรู้กันก่อนเขาก็ไม่พอใจจะให้มาคุยกันให้เร็วที่สุด เหตุผลอะไรของเราไม่เคยเข้าหูเขาเลย
ปล. ตลอดเวลามาจนอายุ 24 พึ่งตัดสินใจก้าวออกจากบ้านมาทำงานให้ไกลจากพ่อแม่ ทำไมเรารู้สึกอยู่ใกล้แล้วไม่มีความสุขก็ไม่รู้ พอได้ลองออกมาทำงานที่ตัวเองเลือกเขาก็โวยวายบังคับจะให้ไปเรียนจบสูง ๆ และทำงานราชการไปด้วย (มันเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบมาก ๆ) เขาอยากให้ทำอย่างนั้นเพราะเขาจะได้มีหน้ามีตาและมั่นคงกู้ยืมเงินได้
แต่เราก็ดันที่จะไม่ทำตามที่เขาบอกเพราะเราออกมาแล้วจะตีเราเหมือนที่ผ่านมานั้นคงไม่ได้แล้ว ตลอดเวลาที่ออกจากบ้านมามันมีความสุขมากถึงแม้จะนอนอยู่ในห้องพักเฉย ๆ ก็รู้สึกสบายใจกว่ามากเลย นี้ยังสงสัยเลยชีวิตเป็นของใครกันแน่ ? พอเราอธิบายเหตุผลกลับกลายเป็นว่าด่าเราว่าเราปีกกล้าขาแข็งเก่งแล้วก็ทิ้งพ่อแม่ไป เราไม่เคยทิ้งเรายังคงส่งเงินให้พ่อแม่อยู่ทุกเดือนช่วยเหลือทุกเรื่องเท่าที่จะช่วยได้ เราก็ยังถูกมองว่าไม่โตพออยู่ดี
ปลล. เรามีน้อง 5 ขวบที่ต้องเลี้ยงเหมือนลูกตัวเองมาตลอดตั้งแต่น้องเกิดจน 4 ขวบเพราะหลังจากนั้นเราออกมาทำงาน แต่การเลี้ยงน้องมันไม่ง่ายไง แม่เลี้ยงไปทำงานต่างจังหวัดเราอยู่กับพ่อพ่อก็ช่วยเลี้ยงอะไรไม่ได้เลยและก็ด่าบั่นทอนจิตใจกันอยู่ทุกวัน (เราสงสารน้องอะที่ต้องเกิดมาเจออะไรแบบนี้ )ทุกวันนี้พ่อก็ยังโทรตามให้เรารับน้องไปเลี้ยงทุกเสาร์ อาทิตย์อยู่เลย พ่ออายุ 61 ไม่มีอาชีพเล่นการพนัน แม่เลี้ยงอายุ 44 รับข้าราชการแต่เงินเดือนไม่เคยพอใช้ธุรกิจอย่างอื่นไม่มี (ทุกคนปลูกฝังให้เราเห็นแก่เงินหน้าเงินและชีวิตต้องดำเนินด้วยเงิน)
#เศร้าเนอะชีวิตที่ไม่เหมือนชีวิตตัวเอง
เราเคยคิดจะฆ่าตัวตายหลายรอบมากตั้งแต่อายุ 17 แล้วเราเหนื่อยและไม่มีความสุข ครอบครัวที่ไม่เหมือนครอบครัว 😭
ใครเคยมีพ่อแม่ที่ชอบบังคับบ้างและดำเนินชีวิตกันยังไงให้ไม่เครียด
- สถานที่เรียนประถม มัธยม มหาลัย
- คณะที่เรียน
- หน้าที่การงาน (อยากให้รับราชการมีหน้ามีตา)
- ล่าสุดแต่งงานกับคนที่พึ่งคบแค่ 1 ปี
1. ที่เรียน
บังคับให้เราเรียนโรงเรียนที่เขาพึงพอใจจนเข้ามหาลัยก็บังคับ
2. คณะ
ให้เรียนคณะที่เขาอยากให้เรียน
ในมุมมองของเราเราเองก็ไม่พอใจแหละเพราะการเรียนเป็นการเริ่มต้นของการทำงานในอนาคตถ้าไม่ได้เรียนคณะที่ตรงกับอาชีพที่เราอยากทำ งานในอนาคตก็จะไม่ใช่อาชีพในฝันและก็คงทำออกมาได้ไม่ดีพอเพราะใจไม่รักในการเรียนสิ่งนั้นและอาชีพนั้น แต่ยังไงก็แล้วแต่เราก็ได้แค่คิดเพราะสุดท้ายแล้วก็ต้องเรียนตามใจพ่อแม่อยู่ดี
3. หน้าที่การงาน
เราไม่เข้าใจว่าทำไมต้องอยากให้ทำงานที่มีหน้ามีตานักหนาอยากโชว์คนอื่นไมไม่ถามว่าเรามีความสุขกับงานนั้น ๆ หรือป่าว ? ทุกวันนี้ยังมีประโยคเมื่อไหร่จะเรียนต่อเมื่อไหร่จะไปสอบเข้าข้าราชการ ทั้ง ๆ ที่บอกนับแสนรอบว่าไม่ชอบแต่ยังไงซะเราก็เลือกออกมาทำงานไกลบ้าน (อยากหนีออกจากบ้าน) เงินเดือนน้อยแต่เราอยู่ได้ด้วยความที่ไม่ฟุ่มเฟือยกินง่ายอยู่ง่ายเลยไม่ขัดสนอะไรให้พ่อแม่เห็นจุดด้อยของงานนี้
4. แต่งงาน
จนกระทั้งเหตุการณ์ล่าสุดบังคับเราให้เราไปบอกให้ผู้ชายมาขอแต่งงานได้แล้ว (พึ่งคบกันปีเดียวและเราไม่ได้ท้องจ้ะ) เราไม่ชอบการบังคับแบบนี้มากเลยเราเข้าใจนะว่าบางมุมมันเป็นการให้เกียรติผู้หญิงแต่การแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ มันเป็นการเริ่มต้นครอบครัวใหม่เลย ไม่ใช่จะคบ ๆ เลิก ๆ ยังไงก็ได้ แต่ในคำพูดของพ่อเราแต่งงานเหมือนให้เกียรติไปกันไม่ไหวก็เลิกแต่งใหม่ เห้อออ เราเลยขอเวลาเพื่อศึกษาเรียนรู้กันก่อนเขาก็ไม่พอใจจะให้มาคุยกันให้เร็วที่สุด เหตุผลอะไรของเราไม่เคยเข้าหูเขาเลย
ปล. ตลอดเวลามาจนอายุ 24 พึ่งตัดสินใจก้าวออกจากบ้านมาทำงานให้ไกลจากพ่อแม่ ทำไมเรารู้สึกอยู่ใกล้แล้วไม่มีความสุขก็ไม่รู้ พอได้ลองออกมาทำงานที่ตัวเองเลือกเขาก็โวยวายบังคับจะให้ไปเรียนจบสูง ๆ และทำงานราชการไปด้วย (มันเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบมาก ๆ) เขาอยากให้ทำอย่างนั้นเพราะเขาจะได้มีหน้ามีตาและมั่นคงกู้ยืมเงินได้
แต่เราก็ดันที่จะไม่ทำตามที่เขาบอกเพราะเราออกมาแล้วจะตีเราเหมือนที่ผ่านมานั้นคงไม่ได้แล้ว ตลอดเวลาที่ออกจากบ้านมามันมีความสุขมากถึงแม้จะนอนอยู่ในห้องพักเฉย ๆ ก็รู้สึกสบายใจกว่ามากเลย นี้ยังสงสัยเลยชีวิตเป็นของใครกันแน่ ? พอเราอธิบายเหตุผลกลับกลายเป็นว่าด่าเราว่าเราปีกกล้าขาแข็งเก่งแล้วก็ทิ้งพ่อแม่ไป เราไม่เคยทิ้งเรายังคงส่งเงินให้พ่อแม่อยู่ทุกเดือนช่วยเหลือทุกเรื่องเท่าที่จะช่วยได้ เราก็ยังถูกมองว่าไม่โตพออยู่ดี
ปลล. เรามีน้อง 5 ขวบที่ต้องเลี้ยงเหมือนลูกตัวเองมาตลอดตั้งแต่น้องเกิดจน 4 ขวบเพราะหลังจากนั้นเราออกมาทำงาน แต่การเลี้ยงน้องมันไม่ง่ายไง แม่เลี้ยงไปทำงานต่างจังหวัดเราอยู่กับพ่อพ่อก็ช่วยเลี้ยงอะไรไม่ได้เลยและก็ด่าบั่นทอนจิตใจกันอยู่ทุกวัน (เราสงสารน้องอะที่ต้องเกิดมาเจออะไรแบบนี้ )ทุกวันนี้พ่อก็ยังโทรตามให้เรารับน้องไปเลี้ยงทุกเสาร์ อาทิตย์อยู่เลย พ่ออายุ 61 ไม่มีอาชีพเล่นการพนัน แม่เลี้ยงอายุ 44 รับข้าราชการแต่เงินเดือนไม่เคยพอใช้ธุรกิจอย่างอื่นไม่มี (ทุกคนปลูกฝังให้เราเห็นแก่เงินหน้าเงินและชีวิตต้องดำเนินด้วยเงิน)
#เศร้าเนอะชีวิตที่ไม่เหมือนชีวิตตัวเอง
เราเคยคิดจะฆ่าตัวตายหลายรอบมากตั้งแต่อายุ 17 แล้วเราเหนื่อยและไม่มีความสุข ครอบครัวที่ไม่เหมือนครอบครัว 😭