สวัสดีค่ะ ถ้าวันนึงคุณมีโอกาสได้รับราชการซึ่งใครต่อใครหลายคนก็อยากได้โอกาสนั้น อาจจะเพราะความคิดที่ว่าเป็นอาชีพที่มั่นคง กู้ได้ เบิกได้ อะไรต่างๆนาๆ ถ้ามีโอกาสนั้นและครอบครัวก็อยากให้รับราชการเราก็ควรจะต้องดีใจและมีความสุขใช่มั้ยคะที่สามารถทำให้ครอบครัวภูมิใจ ....แต่....เราไม่มีความสุขเลยค่ะ เรามีความฝัน เรามีความต้องการที่วางแผนเอาไว้แล้วกับคนที่เรารัก หลายคนอาจจะสงสัยว่าไม่อยากได้ไม่ใช่ความฝันแล้วไปสอบทำไม เราต้องบอกก่อนว่าเราจำใจแกมโดนบังคับต้องไปสอบเพราะครอบครัวเราต้องการแบบนั้น เค้าจะคอยถามคะยั้นคะยอ ถามเราทุกวัน เกี่ยวกับการสอบ ถ้าเราไม่ไปเค้าก็จะไม่พอใจ เราหมายถึง ป้า เราน่ะคะ เค้าเป็นคนเลี้ยงเรามาตั้งแต่เด็กเปรียบเหมือนแม่คนที่ 2 เลย ซึ่งป้าเราก็เคยรับราชการมาก่อน ป้าเรามีอิทธิพลต่อญาติๆ และลูกหลานทุกคนมาก เป็นคนที่คอยช่วยเหลือญาติๆและลูกหลานทุกคนทุกอย่าง ดังนั้นทุกคนจะเกรงใจและไม่ค่อยกล้าขัด ซึ่งเราก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย เราไปสอบเพราะมันเป็นความหวังและความฝันของป้าที่อยากให้เรารับราชการค่ะ แล้วเราสอบได้ ป้าเราดีใจมาก แบบมากที่สุด ส่วนเราเฉยๆ ไม่รู้สึกอะไรเลย รู้แค่ว่าเรามีปัญหาใหญ่ที่ต้องคิดตามมาจากผลที่เราสอบได้ครั้งนี้......คือ.... เราวางแผนกับแฟนว่าจะแต่งงานกันปีหน้าค่ะ เดือนมกราคมปีหน้าเรากับแฟนแพลนกันว่าจะไปตรวจสุขภาพก่อนมีน้อง เพราะเราทั้งคู่อายุขึ้นเลข 3 กันทั้งคู่ แฟนเราเค้าไม่เคยสนับสนุนให้เราไปสอบ เค้าไม่อยากให้เราสอบติดด้วยซ้ำ เค้ากังวลทุกครั้งที่เราพูดเรื่องสอบ และเค้าก็พูดตลอดเค้าเชื่อว่าเราต้องสอบได้แน่นอน พอเค้ารู้ว่าเราสอบได้เค้าก็พูดแสดงความดีใจกับเรานะ แต่จริงๆแล้วเรารู้ว่าเค้าเสียใจ แต่พูดเพื่อไม่ให้เราคิดมาก เพราะที่ผ่านมาเราพูดเรื่องแต่งงานกันตลอด แฟนเราอยากแต่งงาน และอยากมีน้องมาก เค้ารอคอยมาตลอดหลายปี ซึ่งเราเองก็เหมือนกัน เราอยากมีน้อง เวลาเราแก่เฒ่าเราจะได้ไม่โดดเดี่ยว อย่างน้อยก็มีลูกมีครอบครัวเหมือนคนอื่นๆ คอยดูแล อยากมีครอบครัวที่อบอุ่น อยู่พร้อมหน้าพ่อ แม่ ลูก เราแพลนกันไว้ว่าหลังจากแต่งงานแฟนเราอยากให้เราย้ายไปอยู่กับเค้าที่ต่างประเทศ เราไม่ได้อยากไปอยู่ต่างประเทศ แต่เราอยากไปอยู่ที่ไหนก็ได้ที่หลังจากแต่งงานแล้วต้องได้อยู่ด้วยกันเป็นครอบครัว ไม่ใช่แยกกันอยู่ ต่างคนต่างอยู่ เราและแฟนไม่ต้องการแบบนั้นและเราทำงานอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นงานที่มีหน้ามีตาในสังคมก็ได้ เราไม่เคยเลือก แฟนเราเป็นคนที่ดีมาก เค้ามีความคิดที่ใกล้เคียงกับคนไทยที่เป็นคนดีๆคนนึงเลย เค้าพยายามเข้าใจเราทุกอย่าง ปลอบใจเรา ทั้งๆที่เค้าก็แอบร้องไห้เหมือนกันตั้งหลายครั้ง เมื่อคืนเราคุยกันเค้าเห็นเราร้องไห้เค้าก็ร้องไห้กับเรา ตอนที่เค้ารู้เค้าก็ถามเราว่าเราจะทำงานนี้นานแค่ไหน 6 เดือน 1 ปี เค้าถามว่าแล้วเราจะได้แต่งงานกันมั้ย พวกเราจะได้อยู่ด้วยกันมั้ย ซึ่งเค้าก็ไม่ได้แคร์อยู่แล้วว่าเราจะทำงานอะไร ขอแค่แต่งงานแล้วมีชีวิตครอบครัวด้วยกัน อยู่ด้วยกันทุกวัน กลับมาบ้านแล้วเจอกันทุกวันก็พอ แค่นี้ก็มีความสุขแล้วสำหรับเราและเค้า เราสงสารเค้าบอกเค้าแพลนทุกอย่างเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ยิ่งเราเห็นเค้าพูดถึงสิ่งที่เค้าแพลนว่าวันนี้ๆเค้าทำอะไรบ้าง เรายิ่งเสียใจ แต่อีกทางนึงเราก็ไม่อยากทำให้ป้าเราเสียใจเหมือนกัน ลำพังตัวเรา เราไม่ได้คิดอะไรมากเราไม่ได้ต้องการอะไรมาก พี่เราก็รับราชการแล้ว แม่เราก็สามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ แค่นี้เราก็พอใจแล้ว ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แต่ไปภายภาคหน้าถึงแม้เราจะทำงานอะไรเราก็ต้องส่งเสียแม่เราอยู่ดีไม่มากก็น้อย ซึ่งอันนี้แฟนเราก็เข้าใจและยินดีที่เราทำแบบนี้ เราบอกแฟนเราว่าเราอาจจะทำงานนี้ซัก 5 ปี แล้วค่อยลาออก พอเราแต่งงานกันมีน้อง ถึงตอนนั้นป้าเราอาจจะเข้าใจ เพราะตอนนี้เราไม่สามารถพูดเรื่องนี้กับคนในครอบครัวเราได้เลยโดยเฉพาะป้าเรา เราพูดได้แค่กับแฟนเราเท่านั้น เราอึดอัดเหลือเกิน แต่จริงๆ เราสามารถพูดกับแม่เราได้ พูดกับพี่สาวได้ แต่ทั้งสองคนก็จะลำบากใจเหมือนเราเพราะป้าอีกเหมือนกัน เราเลยไม่อยากทำให้แม่กับพี่เราคิดมากกับเรา นี่เราเขียนไปเราก็ร้องไห้ไป ร้องเสียงดังได้ เพราะตอนนี้อยู่บ้านคนเดียว แต่ตอนกลางคืนต้องร้องเบาๆ ไม่อยากให้เค้าไม่สบายใจ ร้องมาตั้งแต่เมื่อคืนตอนคุยกับแฟน แล้วก็นอนไม่ค่อยหลับเพราะคิดมากมาหลายวันแล้ว รู้สึกอึดอัด เลือกทางไหนก็ไม่ได้ ถ้าเลือกที่ไม่อยากทำให้ป้าเราเสียใจ เราก็ต้องเสียใจ แต่ถ้าเลือกที่เราต้องการ ป้าเราก็เสียใจ.......เราอยากมาระบายสิ่งที่เรารู้สึกคะ เรารู้สึกเหงามาก มันอาจจะฟังดูเป็นเรื่องไม่สำคัญสำหรับคนอื่น แต่สำหรับเรามันอึดอัดจังเลยคะ
ลำบากใจทางหนึ่งก็เป็นทางเลือกที่ครอบครัวต้องการอีกทางก็คือสิ่งที่เราต้องการ