ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า
ไม่เคยเรียนฮ่านหยวี่ พิน’อยิน
แต่กลับมีความสนใจในระบบนี้
จึงพยายามค้นคว้าหาความรู้
เพื่อให้ตนเองที่ไม่รู้เกิดความเข้าใจ
แล้วอยากจะแบ่งปันให้คนที่ยังไม่เข้าใจได้เข้าใจด้วย
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
汉语拼音 (漢語拼音) : Hànyǔ Pīnyīn : ฮ่านหยวี่ พิน’อยิน : สัทอักษรจีน คือ การนำอักษรภาษาอังกฤษ มาใช้กำกับแทนเสียงภาษาจีน เพื่อให้สามารถออกเสียงภาษาจีนกลาง (สำเนียงปักกิ่ง) ได้อย่างถูกต้อง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
การเรียนรู้สัทอักษรจีน มีประโยชน์หลักอยู่ 2 ประการ
1. ใช้กำกับการออกเสียง (สำเนียงการพูด)
2. ใช้พิมพ์ข้อความผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (การพิมพ์ข้อความบนโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น)
ซึ่งจำเป็นต้องเรียนรู้ไว้ แต่ไม่ต้องให้ความใส่ใจมาก เพราะมิเช่นนั้นท่านอาจจะคุ้นชินกับการอ่านพิน’อยิน มากกว่าการอ่านตัวอักษรจีน
โดยแนะนำให้จดจำตัวอักษรจีน จดจำคำอ่าน และจดจำความหมาย ตามลำดับ แล้วหากไม่แน่ใจในการออกเสียงจริงๆ ก็ค่อยกลับไปใช้พิน’อยินอ้างอิง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
*บทความในกระทู้นี้ เป็นการสะท้อนความเข้าใจส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น ซึ่งอาจไม่ตรงตามหลักสูตรการเรียนรู้ภาษาจีนอื่นๆ โดยทุกท่านสามารถแลกเปลี่ยนมุมมองอย่างสุภาพกันได้
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
*คำในภาษาไทยนั้น ไม่สามารถแทนเสียงของภาษาจีนได้ แต่เพื่อการอ่านที่เข้าใจมากยิ่งขึ้น จึงขอใช้คำไทยมาลงกำกับไว้แทนเสียงภาษาจีนด้วย ซึ่งอาจจะไม่ตรงเป๊ะ แต่จะพยายามใช้คำไทยเลียนเสียง ให้ตรงตามความเข้าใจของผู้เขียนมากที่สุด
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
(มีต่อ)
พินอินตามความเข้าใจของฉัน
ไม่เคยเรียนฮ่านหยวี่ พิน’อยิน
แต่กลับมีความสนใจในระบบนี้
จึงพยายามค้นคว้าหาความรู้
เพื่อให้ตนเองที่ไม่รู้เกิดความเข้าใจ
แล้วอยากจะแบ่งปันให้คนที่ยังไม่เข้าใจได้เข้าใจด้วย
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
汉语拼音 (漢語拼音) : Hànyǔ Pīnyīn : ฮ่านหยวี่ พิน’อยิน : สัทอักษรจีน คือ การนำอักษรภาษาอังกฤษ มาใช้กำกับแทนเสียงภาษาจีน เพื่อให้สามารถออกเสียงภาษาจีนกลาง (สำเนียงปักกิ่ง) ได้อย่างถูกต้อง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
การเรียนรู้สัทอักษรจีน มีประโยชน์หลักอยู่ 2 ประการ
1. ใช้กำกับการออกเสียง (สำเนียงการพูด)
2. ใช้พิมพ์ข้อความผ่านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ (การพิมพ์ข้อความบนโทรศัพท์มือถือ เป็นต้น)
ซึ่งจำเป็นต้องเรียนรู้ไว้ แต่ไม่ต้องให้ความใส่ใจมาก เพราะมิเช่นนั้นท่านอาจจะคุ้นชินกับการอ่านพิน’อยิน มากกว่าการอ่านตัวอักษรจีน
โดยแนะนำให้จดจำตัวอักษรจีน จดจำคำอ่าน และจดจำความหมาย ตามลำดับ แล้วหากไม่แน่ใจในการออกเสียงจริงๆ ก็ค่อยกลับไปใช้พิน’อยินอ้างอิง
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
*บทความในกระทู้นี้ เป็นการสะท้อนความเข้าใจส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น ซึ่งอาจไม่ตรงตามหลักสูตรการเรียนรู้ภาษาจีนอื่นๆ โดยทุกท่านสามารถแลกเปลี่ยนมุมมองอย่างสุภาพกันได้
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
*คำในภาษาไทยนั้น ไม่สามารถแทนเสียงของภาษาจีนได้ แต่เพื่อการอ่านที่เข้าใจมากยิ่งขึ้น จึงขอใช้คำไทยมาลงกำกับไว้แทนเสียงภาษาจีนด้วย ซึ่งอาจจะไม่ตรงเป๊ะ แต่จะพยายามใช้คำไทยเลียนเสียง ให้ตรงตามความเข้าใจของผู้เขียนมากที่สุด
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
(มีต่อ)