จิ่วเฟิน...ไปให้สุด แล้วหยุดที่พุงแตก

สวัสดีค่ะทุกคน เราขอพักเรื่องราวของเกาหลีไว้ก่อนน้า...ขอบินมาที่ไหวันก่อน กลัวจะลืม เราจะเริ่มเล่าการไปเที่ยวอย่างสนุกสนานอย่างจริงจังแล้ว เก็บไว้ให้ตัวเองอ่านด้วย แล้วก็แชร์ให้เพื่อนๆที่กำลังอยากจะเดินทางไปเหมือนกันด้วยค่ะ ช่วงสองปีมานี้เราตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะไปเที่ยวปีละอย่างน้อย 2 ครั้ง ก็ทำได้สำเร็จค่ะ เราเองก็เป็นพนักงานเงินเดือนนี่แหละ ก็มีหวงเงินบ้างนะ แต่จะบอกว่าการไปเจอโลกกว้างมันคุ้มค่ามาก ได้เจอวัฒนธรรมใหม่ๆ เจอคนต่างที่ มันทำให้เรามีแรงฮึดมาทำงานต่อ อยากให้ทุกคนลองตั้งเป้าหมายแล้วลงมือน้าาาา

ปลายปี 2560 เราได้ไปไต้หวัน ประมาณ 7 วัน หลักๆก็อยู่ไทเป โดยส่วนตัวเราเป็นสายชิม ด้วยว่าจำรายละเอียดสายการบินไม่ได้แล้วเลยมาส่งของกินจากจิ่วเฟิ่นก่อนเลยที่กระทู้ไต้หวันแรก

เราจะมาที่ 'จิ่วเฟิ่น' ดินแดนแห่งของกิน 'จิ่วเฟิน' หรือ 九份 เป็นถนนโบราณที่คนนิยมไปกันมาก เพราะด้วยฉากที่มีไฟโคมสีแดงที่ถูกจำลองไว้ในการตูนเรื่องดังจาก Studio Ghibli อย่างเรื่อง Spirited Away และด้วยความสวยงามของหมู่บ้านโบราณที่ถูกอนุรักษ์ รวมทั้งมีร้านอาหาร ร้านขนม และร้านของฝากเรียงรายไว้ตลอดทางเดิน เราเลยขอตั้งชื่อกระทู้นี้ว่า
'จิ่วเฟิน...ไปให้สุดแล้วหยุดที่พุงแตก'


'จิ่วเฟิ่น' สำหรับเรา ไม่ได้เหมาะแค่ไปถ่ายรูปนะ เพราะนอกจากสายชิลอย่างเราจะไปถ่ายรูปกับโคมไฟสวยๆในหมู่บ้านโบราณแล้ว เรายังแวะไปชิมชิลๆ จนพุงจะแตกอีกด้วย หลายคนมีคำถามว่า ‘ไปจิ่วเฟิ่นกินอะไรดี’ หรือ ‘ร้านไหนอร่อย’ คำตอบของเราคือ ‘กินให้หมดทุกอย่างนั่นแหละ’

เพราะอะไร >>> ก็มันอร่อยเกือบทุกร้าน ก็มันไม่เหมือนอาหารที่เมืองไทย จงกิน กิน กิน แล้วก็กิน ใครเป็นสายกินแนะนำให้หาที่พักค้างคืนจะได้กินให้ครบทั้งมื้อเช้า สาย บ่าย เย็น ก่อนนอน

มาเริ่มกันที่ร้านแรกอย่างร้านขายลูกชิ้นคล้ายๆลูกชิ้นกุ้งทอด แต่เค้าผสมส่วนผสมกันสดๆ ปั้นกันสดๆ ทอดกันร้อนๆตรงนั้น ร้านนี้เปิดช่วงบ่ายๆ หนึ่งเสิร์ฟก็จะมี 2 ลูก มากับผักดองแก้เลี่ยน ราดซอสมา ทอดมาร้อน ย้ำว่าร้อนมาก⁉ ด้านในมีกุ้ง หอมหัวใหญ่ ต้นหอม รสชาติใช้ได้ แต่ใครไม่ชอบหอมหัวใหญ่กับต้นหอมอาจไม่ชอบ

ต่อที่ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านแรก ร้านที่มีลูกค้าแน่นตลอดตั้งแต่ช่วงสายๆ หน้าที่เราคือหาที่นั่งแล้วรีบเดินเข้าไปนั่งประจำที่
มาแล้วเกาเหลาลูกชิ้นร้อนๆ พร้อมลูกชิ้นแคระ ตัวลูกชิ้นเนื้อเหนียวนุ่ม ลูกชิ้นแคระอร่อย กับวุ้นเส้นที่เส้นเหนียว

ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านที่สอง ที่เราตกหลุมรัก เพราะด้านในร้านดูธรรมดามาก สื่อสารภษาอังกฤษก็ไม่ค่อยเข้าใจ ใช้การดูรูปแล้วจิ้มๆเอา ได้มาเป็นบะหมี่ราดซอส รสกลมกล่อม อร่อยๆ พร้อมเกาเหลาลูกขิ้นร้อนๆ ที่นั่งในร้านเป็นเก้าอี้เตี้ยๆ นั่งไม่ถนัดหรอก แต่อร่อยจนยอม

ร้านที่ใครๆก็ต้องแวะ กับร้านไอติมถั่วม้วน ที่ใช้แผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะห่อถั่วตัดกับไอศครีม มีถั่วตัดก่อนใหญ่ๆตั้งอยู่ สำหรับเรารสชาติเฉยๆนะ ก็เหมือนกินเจ้าพวกนั้นรวมกัน

ร้านนี้ก็ดี ร้านขายขนมหวานสไตล์ไต้หวัน ทางร้านกำลังนวดแป้ง ตัดแป้งทำบัวลอยกันอยู่ โฮมเมดจริงๆ มีแพ็คใส่กล่องขายดิบๆ ด้วย
ตัวบัวลอยก็ไว้ใส่กับถั่วต้มหลายชนิด  เหมือนเช็งซิมอี๊บ้านเรา ‘บัวลอยไต้หวัน’ มีสีสันกับความวาวของแป้งชนะเลิศ ตัวบัวลอยเหนียวหนึบหนับหวานๆ เย็นๆ ชื่นใจ

‘หอยย่าง’ ย่างกันร้อนๆ น้ำเดือดปุดๆ ส่วนตัวเราไม่ค่อยชอบ ถึงแม่ตัวหอยจะกรึบดี แต่มันมีไส้ของหอย ทำให้ได้เนื้อสัมผัสแบบแปลกๆ

อีกหนึ่งทีเด็ดที่ไปไต้หวันแล้วต้องกิน ‘กุนเชียง’ เอ้ย! ไม่ใช่ ‘ไส้กรอกไต้หวัน’ ที่มีทั้งหมูล้วน ใส่ไข่ปลา ใส่ดีปลาหมึก คือเนื้อมันแน่นเหมือนกุนเชียง บ้านเราเอามาย่างหรือทอดกินกับข้าว อันนี้เราซื้อของร้านเจ๊ดอกไม้

ร้านสุดท้ายก่อนแล้วกัน ร้านนี้อยู่สุดตลาดแล้วเลี้ยวซ้าย ขายน้ำผลไม้ปั่น ที่เปลี่ยนผลไม้ไปตามฤดูกาล ช่วงที่เราไปเป็นฝรั่งสีชมพู

การเดินทางไปจิ่วเฟิน : จากไทเปใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเริ่มจากนั่งรถไฟใต้ดินสายสีน้ำเงิน Bannan Line หรือ สายสีน้ำตาล Wenhu Line มาลงที่รถไฟใต้ดินสถานี Zhongxiao Fuxing ออกทางออกที่ 1 แล้วมาต่อรถประจำทางสาย 1062 หรือ 788 (Keelung Bus) ไปที่ Jinguashi โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ค่าโดยสารราคา NT $ 102 ลงที่ป้าย Jiufen Old Street (ขอบคุณที่มา : http://www.talontiew)

ร้านในจิ่วเฟิ่นจะเปิดประมาณ 10.00-20.00 น. บางร้านก็จะปิดเร็วหน่อย

ไว้เราจะมาเขียนถึงของกินและการท่องเที่ยวในไต้หวันย่านอื่นอีก ฝากติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่