สวัสดีค่ะ ^___^
จนแล้วจนเล่าก็ก้าวสู่ปลายปี 2020 .........
โควิดก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ปีนี้หลาย ๆ คนคงต้องยกเลิกทริปที่จองล่วงหน้าไว้ T___T
หลาย ๆ ความฝันก็ถูกพับลงไป....
หลายคนอาจผิดหวัง...
แต่ชีวิตยังต้องสู้ต่อไป!
วันนี้เลยขอมาแบ่งปันเรื่องราว รูปถ่าย ความทรงจำ ความประทับใจ ในทริปปลายปี 2019 ณ ประเทศไต้หวัน
ซึ่งเราจะพากันไปเดินเล่นในเมืองบนเขา เมืองเล็กๆที่เงียบสงบ ตึกราบ้านช่องถูกประดับประดาไฟด้วยโคมไปสีแดง
ตรอกซอกซอยลัดเลาะขึ้นเนิน ใบไม้ใบหญ้างดงามเขียวขจี... ยินดีต้อนรับสู่จิ่วเฟิ่น ^_^
จิ่วเฟิ่น' หรือ 九份 เป็นถนนโบราณที่นักท่องเที่ยวและคนไต้หวันเองนิยมไปพักผ่อน
ในอดีตดินแดนแห่งนี้ในเคยเป็นที่ทำเหมืองแร่มากก่อน โดยที่จิ่วเฟิ่นจะมีภาพความคึกคักเพราะเป็นที่อยู่ของคนงานเหมือง
เพราะด้วยฉากที่มีไฟโคมสีแดงที่ถูกจำลองไว้ในการตูนเรื่องดังจาก Studio Ghibli อย่างเรื่อง Spirited Away
และด้วยความสวยงามของหมู่บ้านโบราณที่ถูกอนุรักษ์ รวมทั้งมีร้านอาหาร ร้านขนม และร้านของฝากมากมาย
หากมาไต้หวันแล้วยังไม่ได้แวะจิ่วเฟิ่นก็เหมือนมาไม่ถึงไต้หวันนั่นเอง
วิธีเดินทางไปจิ่วเฟิ่น
จาก MRT Zhongxiao Fuxing (BL15 , BR10) , Exit 2 แล้วต่อรถบัสสาย 788 / 1062 ไปจิ่วเฟิ่น (Jiufen)
ยืนรอรถบัสกันค่า
หน้าตารถบัสจะประมาณนี้นะคะ
เมื่อขึ้นรถก็นั่งยาวไปเลย >_< ตื่นเต้นแล้วก็หิวมากด้วย
อย่าคาดหวังจะมีอะไรดูบนรถนะคะ *3* เตรียมหูฟังไปให้พร้อม
เริ่มออกจากเมืองไทเปมาเรื่อยๆ เริ่มเห็นวิวภูเขา สวยงามสบายตา
มาถึงกันแล้ว...เมืองเล็ก ๆ บนยอดเขา > <
แต่เอกลักษณ์ของเมืองเล็กๆบนเขาเมืองนี้คือ มองไปเจอทะเล
แถมด้านล่างยังเห็นวิวทะเล เห็นมั้ย ... จะมีที่ไหนที่ให้เราเห็นได้ทั้งภูเขาและท้องทะเล ได้ในเวลาเดียวกัน
เป็นมุมที่สวยงามมาก
ไม่ใช่แค่อาหารและร้านน้ำชา แต่บรรยากาศตอนกลางคืนที่นี่โรแมนติกมาก
บ้านแต่ละหลังจะถูกประดับตกแต่งด้วยหลอดไฟดวงเล็ก ๆ มองไปแล้วเหมือนสวรรค์น้อย ๆ
รถบัสจะจอดตรงที่เป็นจุดชมวิวนี้เลย
ถนนของกินจะเดินไปจากจุดนี้อีกนิดหน่อย แต่ต้องระวังรถเพราะจะเป็นมุมเลี้ยวหักศอกพอดีค่ะ
ไปตลุยกินกัน!
โคมแดง
โคมแดง!
นี่ก็โคมแดง!!
นี่ก็โคมมมมม ! โอเคมาถูกเมืองแล้วแหละ 5555
เนื่องจากเราไปเช้า ร้านค้าต่างๆกำลังทยอยเปิด
เราไปแบบไม่ได้มีข้อมูลอะไรมาก อยากเจออะไรก็แวะกินเลย
และเราเริ่มต้นกันด้วยร้านอาหารจีนร้านน๊็ (ซึ่งเป็นร้านเดียวที่พร้อมขาย55555)
ประเดิมเป็นลูกค้ากลุ่มแรกด้วยรึป่าวไม่รู้ 5555
ราคาน่าคบมากๆ ใครจะถามชื่อร้านอาจจะยากแล้วแหละ
มุมที่นั่งก็น่ารัก เราไปกัน 4 คนเป็นมุมส้วนตัวเลย (ร้านทั้งร้านเป็นของเรา เอางี้ดีกว่า ฮ่าๆ)
อยากกินไรก็สั่งโล้ด
ที่เราวกกันเข้ามาเพราะกลิ่นของผัดหมี่ มันหอมยั่วใจคนหิวมาก
จัดเลย มีเสี่ยวหลงเปาด้วย อร่อยเลย
ข้าวหน้าหมูก็รสชาติดี
เรานั่งในร้านนี้อยู่สักพักหนึ่งเลย รอจนกว่าตลาดจะเริ่มเปิด
เมื่อท้องอิ่ม เท้าก็พร้อมเดินต่อ
อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า จิ่วเฟิ่น เป็นเมืองขนเขา ทางเดินก็จะลาดชันเดินขึ้นเขากันไป
ใครที่ข้อเข่าไม่ดีก็เตรียมใจ เดินระวังๆ กันนะแม่ ทางนี้หอบแล้ว555
ร้านต่างๆเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยว
อันนี้น่าจะเป็นสาเก ขวดสีสวยเชียว
ชิมไหมจ้ะ ชิมไหมจ้ะ
ปลาหมึกตากแห้งก็มานะ
และแล้วเราก็เจอของหวาน
ร้านไล่อาโผ (Lai Ah Po Yu Yuan; Chinese: 賴阿婆芋圓)
เป็นร้านขายบัวลอยสไตล์ไต้หวันที่เรียกว่า ยวี่ หยวน ซึ่งถ้าแปลตรงตัวเลยก็คือ ร้านบัวลอยของคุณยายไล่
ตอนนั้นคงหิวกันแหละ ไม่ทันได้ถ่ายรูปอะไรสักอย่าง
จะบอกว่าไงดี ชอบแบบน่ำกะทิบ้านเรามากกว่าอะ แต่แป้งเค้าอร่อยนะ
ถ้วยละ 50 NT
ไปไต้หวันจะต้องเจอไข่ต้มชา หม้อนี้แอบน่ากลัว
น้องขายอะไรคะ โมจิหรือป่าว แต่น้องน่ารัก น้องโสดรึป่าว แฟนน้องอยู่แถวนี้รึป่าว

คุณลุงขายชานมไข่มุก
จริงๆมีไอติมถั่วตัดด้วยแต่หารูปไม่เจอแล้ว TT
พักการกินมาชมวิวกันสักนิด
สงบ น่าอยู่มาก ไต้หวันเป็นประเทศที่เราชอบในหลายๆ มุม
ทั้งเมืองที่เป็นระเบียบ ประชาชนน่ารัก อาหารอร่อย เมืองต่างจังหวัดก็สวยงาม
ร้านชา Amei Tea House
ร้านดังในตำนาน แต่เราไม่ได้เข้าไปชิมนะคะ มาเก็บบรรยากาศเพลินๆ
มองมุมไหนก็สวยเก๋
ใครเป็นคออนิเมะนี่จะพลาดเมืองนี้ไม่ได้นะคะ ! เราเองก็ชอบดูเรื่องนี้ มาตามรอยเพราะจิฮิโระเลย
พอเริ่มจะเที่ยง นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยมากันแล้ว
บ้านหลังนี้ถูกต้นไม้เถาเลื้อยปกคลุมหน้าต่าง สวยงามมาก
แต่ละบ้านจะมีมุมต้นไม้น่ารักๆ ของใครของมัน
เค้าบอกต้นพริก (เรายืนถ่ายรูปต้นไม้อยู่ละคุณลุงเค้าบอก พริกๆ )
เลยถ่ายภาพให้คุณลุงดีใจซักหน่อย
รู้ตัวอีกทีก็เดินไปย่านนอกโซนร้านค้าและจุดนักท่องเที่ยวแล้ว เลยถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนกันมุมนี้ซะเลย

เมื่อถ่ายรูปกันเสร็จเลยพากันเดินกลับมาไปโซนตลาด
เจอพนักงานต้องรับที่น่ารักมายืนรอต้อนรับซะด้วย
เพลิดเพลินกับการชมวิว ถึงเวลาที่จะเดินทางกลับกันแล้ว
ซึ่งเราจะกลับไปเมืองนี้ใหม่ในช่วงเวลากล่องคืนแน่นอน หากสถานการณ์ดีขึ้น
เชื่อสิ … ถ้าได้มานอนค้างที่นี่สักหนึ่งคืน คงหลงรักจิ่วเฟิ่นเข้าอย่างจัง
จะมีที่ไหนที่ให้เราเห็นได้ทั้งภูเขาและท้องทะเล ได้ในเวลาเดียวกัน
เดินลงไปจุดรอรถบัสกลับไทเปกัน ^___^ ไว้มายามค่ำคืนรอบหน้านะจิ่วเฟิ่น
ละอาหมวยหน้าคมในรูปก็คือเราเองเจ้าค่ะ
แต่งตีมแดงมาให้เข้ากะโคมไฟแดงเลยนะเออ
ระยะเวลาที่เหมาะในการมาเที่ยวจิ่วเฟิ่น คือ ประมาณเดือน พ.ค. - ส.ค.
เราไปช่วงเดือน มิ.ย จะเห็นว่าวิว ท้องฟ้า เป็นใจมาก ไม่มีฝนหรือหมอกมาบังสายตาเลย
เค้าบอกว่า ... ถ้ามาช่วงดังกล่าวสามารถเที่ยวได้ทั้งภูเขาและท้องทะเล
เพราะจากจิ่วเฟิ่นนั่งรถเพียง 15 นาที ก็จะได้เห็นทะเลแล้วค่ะ
เรียกง่าย ๆ ว่า ถ้าอยากจิบชาชมวิวที่จิ่วเฟิ่นหนึ่งวันคงไม่พอ
เชื่อเราสิ … ถ้าใครได้มานอนค้างที่นี่สักหนึ่งคืน คงหลงรักจิ่วเฟิ่นเข้าอย่างจัง
เราชอบจิ่วเฟิ่นค่ะ คิดว่าถ้ามีโอกาสไปไต้หวันอีกครั้งจะไปนอนพักที่นี่อีก
เพราะหลงรักจิ่วเฟิ่นเข้าไปแล้วค่ะ ^_^
เพื่อน ๆ มาแบางปันประสบการณ์ เรื่องราว หรือร้านเด็ดในจิ่วเฟินด้วยกันนะคะ
แล้วหวังว่าเราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันอีก ในเร็ววันนี้เนอะ ^O^
TAIWAN l จิ่วเฟิ่น เดินกินถิ่นโคมแดง
จนแล้วจนเล่าก็ก้าวสู่ปลายปี 2020 .........
โควิดก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ปีนี้หลาย ๆ คนคงต้องยกเลิกทริปที่จองล่วงหน้าไว้ T___T
หลาย ๆ ความฝันก็ถูกพับลงไป....
หลายคนอาจผิดหวัง...
แต่ชีวิตยังต้องสู้ต่อไป!
วันนี้เลยขอมาแบ่งปันเรื่องราว รูปถ่าย ความทรงจำ ความประทับใจ ในทริปปลายปี 2019 ณ ประเทศไต้หวัน
ซึ่งเราจะพากันไปเดินเล่นในเมืองบนเขา เมืองเล็กๆที่เงียบสงบ ตึกราบ้านช่องถูกประดับประดาไฟด้วยโคมไปสีแดง
ตรอกซอกซอยลัดเลาะขึ้นเนิน ใบไม้ใบหญ้างดงามเขียวขจี... ยินดีต้อนรับสู่จิ่วเฟิ่น ^_^
จิ่วเฟิ่น' หรือ 九份 เป็นถนนโบราณที่นักท่องเที่ยวและคนไต้หวันเองนิยมไปพักผ่อน
ในอดีตดินแดนแห่งนี้ในเคยเป็นที่ทำเหมืองแร่มากก่อน โดยที่จิ่วเฟิ่นจะมีภาพความคึกคักเพราะเป็นที่อยู่ของคนงานเหมือง
เพราะด้วยฉากที่มีไฟโคมสีแดงที่ถูกจำลองไว้ในการตูนเรื่องดังจาก Studio Ghibli อย่างเรื่อง Spirited Away
และด้วยความสวยงามของหมู่บ้านโบราณที่ถูกอนุรักษ์ รวมทั้งมีร้านอาหาร ร้านขนม และร้านของฝากมากมาย
หากมาไต้หวันแล้วยังไม่ได้แวะจิ่วเฟิ่นก็เหมือนมาไม่ถึงไต้หวันนั่นเอง
วิธีเดินทางไปจิ่วเฟิ่น
จาก MRT Zhongxiao Fuxing (BL15 , BR10) , Exit 2 แล้วต่อรถบัสสาย 788 / 1062 ไปจิ่วเฟิ่น (Jiufen)
ยืนรอรถบัสกันค่า
หน้าตารถบัสจะประมาณนี้นะคะ
เมื่อขึ้นรถก็นั่งยาวไปเลย >_< ตื่นเต้นแล้วก็หิวมากด้วย
อย่าคาดหวังจะมีอะไรดูบนรถนะคะ *3* เตรียมหูฟังไปให้พร้อม
เริ่มออกจากเมืองไทเปมาเรื่อยๆ เริ่มเห็นวิวภูเขา สวยงามสบายตา
มาถึงกันแล้ว...เมืองเล็ก ๆ บนยอดเขา > <
แต่เอกลักษณ์ของเมืองเล็กๆบนเขาเมืองนี้คือ มองไปเจอทะเล
แถมด้านล่างยังเห็นวิวทะเล เห็นมั้ย ... จะมีที่ไหนที่ให้เราเห็นได้ทั้งภูเขาและท้องทะเล ได้ในเวลาเดียวกัน
เป็นมุมที่สวยงามมาก
ไม่ใช่แค่อาหารและร้านน้ำชา แต่บรรยากาศตอนกลางคืนที่นี่โรแมนติกมาก
บ้านแต่ละหลังจะถูกประดับตกแต่งด้วยหลอดไฟดวงเล็ก ๆ มองไปแล้วเหมือนสวรรค์น้อย ๆ
รถบัสจะจอดตรงที่เป็นจุดชมวิวนี้เลย
ถนนของกินจะเดินไปจากจุดนี้อีกนิดหน่อย แต่ต้องระวังรถเพราะจะเป็นมุมเลี้ยวหักศอกพอดีค่ะ
ไปตลุยกินกัน!
โคมแดง
โคมแดง!
นี่ก็โคมแดง!!
นี่ก็โคมมมมม ! โอเคมาถูกเมืองแล้วแหละ 5555
เนื่องจากเราไปเช้า ร้านค้าต่างๆกำลังทยอยเปิด
เราไปแบบไม่ได้มีข้อมูลอะไรมาก อยากเจออะไรก็แวะกินเลย
และเราเริ่มต้นกันด้วยร้านอาหารจีนร้านน๊็ (ซึ่งเป็นร้านเดียวที่พร้อมขาย55555)
ประเดิมเป็นลูกค้ากลุ่มแรกด้วยรึป่าวไม่รู้ 5555
ราคาน่าคบมากๆ ใครจะถามชื่อร้านอาจจะยากแล้วแหละ
มุมที่นั่งก็น่ารัก เราไปกัน 4 คนเป็นมุมส้วนตัวเลย (ร้านทั้งร้านเป็นของเรา เอางี้ดีกว่า ฮ่าๆ)
อยากกินไรก็สั่งโล้ด
ที่เราวกกันเข้ามาเพราะกลิ่นของผัดหมี่ มันหอมยั่วใจคนหิวมาก
จัดเลย มีเสี่ยวหลงเปาด้วย อร่อยเลย
ข้าวหน้าหมูก็รสชาติดี
เรานั่งในร้านนี้อยู่สักพักหนึ่งเลย รอจนกว่าตลาดจะเริ่มเปิด
เมื่อท้องอิ่ม เท้าก็พร้อมเดินต่อ
อย่างที่เกริ่นไปแล้วว่า จิ่วเฟิ่น เป็นเมืองขนเขา ทางเดินก็จะลาดชันเดินขึ้นเขากันไป
ใครที่ข้อเข่าไม่ดีก็เตรียมใจ เดินระวังๆ กันนะแม่ ทางนี้หอบแล้ว555
ร้านต่างๆเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยว
อันนี้น่าจะเป็นสาเก ขวดสีสวยเชียว
ชิมไหมจ้ะ ชิมไหมจ้ะ
ปลาหมึกตากแห้งก็มานะ
และแล้วเราก็เจอของหวาน
ร้านไล่อาโผ (Lai Ah Po Yu Yuan; Chinese: 賴阿婆芋圓)
เป็นร้านขายบัวลอยสไตล์ไต้หวันที่เรียกว่า ยวี่ หยวน ซึ่งถ้าแปลตรงตัวเลยก็คือ ร้านบัวลอยของคุณยายไล่
ตอนนั้นคงหิวกันแหละ ไม่ทันได้ถ่ายรูปอะไรสักอย่าง
จะบอกว่าไงดี ชอบแบบน่ำกะทิบ้านเรามากกว่าอะ แต่แป้งเค้าอร่อยนะ
ถ้วยละ 50 NT
ไปไต้หวันจะต้องเจอไข่ต้มชา หม้อนี้แอบน่ากลัว
น้องขายอะไรคะ โมจิหรือป่าว แต่น้องน่ารัก น้องโสดรึป่าว แฟนน้องอยู่แถวนี้รึป่าว
คุณลุงขายชานมไข่มุก
จริงๆมีไอติมถั่วตัดด้วยแต่หารูปไม่เจอแล้ว TT
พักการกินมาชมวิวกันสักนิด
สงบ น่าอยู่มาก ไต้หวันเป็นประเทศที่เราชอบในหลายๆ มุม
ทั้งเมืองที่เป็นระเบียบ ประชาชนน่ารัก อาหารอร่อย เมืองต่างจังหวัดก็สวยงาม
ร้านชา Amei Tea House
ร้านดังในตำนาน แต่เราไม่ได้เข้าไปชิมนะคะ มาเก็บบรรยากาศเพลินๆ
มองมุมไหนก็สวยเก๋
ใครเป็นคออนิเมะนี่จะพลาดเมืองนี้ไม่ได้นะคะ ! เราเองก็ชอบดูเรื่องนี้ มาตามรอยเพราะจิฮิโระเลย
พอเริ่มจะเที่ยง นักท่องเที่ยวเริ่มทยอยมากันแล้ว
บ้านหลังนี้ถูกต้นไม้เถาเลื้อยปกคลุมหน้าต่าง สวยงามมาก
แต่ละบ้านจะมีมุมต้นไม้น่ารักๆ ของใครของมัน
เค้าบอกต้นพริก (เรายืนถ่ายรูปต้นไม้อยู่ละคุณลุงเค้าบอก พริกๆ )
เลยถ่ายภาพให้คุณลุงดีใจซักหน่อย
รู้ตัวอีกทีก็เดินไปย่านนอกโซนร้านค้าและจุดนักท่องเที่ยวแล้ว เลยถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนกันมุมนี้ซะเลย
เมื่อถ่ายรูปกันเสร็จเลยพากันเดินกลับมาไปโซนตลาด
เจอพนักงานต้องรับที่น่ารักมายืนรอต้อนรับซะด้วย
เพลิดเพลินกับการชมวิว ถึงเวลาที่จะเดินทางกลับกันแล้ว
ซึ่งเราจะกลับไปเมืองนี้ใหม่ในช่วงเวลากล่องคืนแน่นอน หากสถานการณ์ดีขึ้น
เชื่อสิ … ถ้าได้มานอนค้างที่นี่สักหนึ่งคืน คงหลงรักจิ่วเฟิ่นเข้าอย่างจัง
จะมีที่ไหนที่ให้เราเห็นได้ทั้งภูเขาและท้องทะเล ได้ในเวลาเดียวกัน
เดินลงไปจุดรอรถบัสกลับไทเปกัน ^___^ ไว้มายามค่ำคืนรอบหน้านะจิ่วเฟิ่น
ละอาหมวยหน้าคมในรูปก็คือเราเองเจ้าค่ะ
แต่งตีมแดงมาให้เข้ากะโคมไฟแดงเลยนะเออ
ระยะเวลาที่เหมาะในการมาเที่ยวจิ่วเฟิ่น คือ ประมาณเดือน พ.ค. - ส.ค.
เราไปช่วงเดือน มิ.ย จะเห็นว่าวิว ท้องฟ้า เป็นใจมาก ไม่มีฝนหรือหมอกมาบังสายตาเลย
เค้าบอกว่า ... ถ้ามาช่วงดังกล่าวสามารถเที่ยวได้ทั้งภูเขาและท้องทะเล
เพราะจากจิ่วเฟิ่นนั่งรถเพียง 15 นาที ก็จะได้เห็นทะเลแล้วค่ะ
เรียกง่าย ๆ ว่า ถ้าอยากจิบชาชมวิวที่จิ่วเฟิ่นหนึ่งวันคงไม่พอ
เชื่อเราสิ … ถ้าใครได้มานอนค้างที่นี่สักหนึ่งคืน คงหลงรักจิ่วเฟิ่นเข้าอย่างจัง
เราชอบจิ่วเฟิ่นค่ะ คิดว่าถ้ามีโอกาสไปไต้หวันอีกครั้งจะไปนอนพักที่นี่อีก
เพราะหลงรักจิ่วเฟิ่นเข้าไปแล้วค่ะ ^_^
เพื่อน ๆ มาแบางปันประสบการณ์ เรื่องราว หรือร้านเด็ดในจิ่วเฟินด้วยกันนะคะ
แล้วหวังว่าเราจะได้ไปเที่ยวด้วยกันอีก ในเร็ววันนี้เนอะ ^O^