💼~มาลาริน~นายกฯแจงงบประมาณปี 62 จำนวน 3 ล้านล้าน โปร่งใส กระจายทั่วถึง พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานรถไฟฟ้า พัฒนาเศรฐกิจ

กระทู้คำถาม

สนช. ถกงบประมาณปี 62 วงเงิน 3 ล้านล้าน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงเปิดการพิจารณาการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 ต่อที่ประชุม สนช. ว่า งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาทนี้ จะทำให้ประเทศเป็นไปตามความมุ่งหวัง ความมั่นคง มั่นคั่งและยั่งยืน และเพื่อให้ส่วนราชการ รัฐวิสากหกิจ และหน่วยงานอื่น นำไปใช้จ่ายเพื่อการบริหารราชการแผ่นดิน และเป็นเครื่องมือของรัฐบาลในการพัฒนาประเทศให้เป็นตามกรอบและแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สอดรับกับสถานการณ์ที่การขยายตัวและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ดีขึ้นจาการขยายตัว การลงทุนเอกชนและการลงทุนภาครัฐที่อยู่ อีกทั้งรัฐบาลให้ความสำคัญในการกระจายรายได้สู่ครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง  ประกอบกับจะสามารถจัดเก็บภาษีที่นโยบายมากขึ้น

นายกรัฐมนตรี ยังย้ำ ๆ การจัดทำร่างงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 นี้ จะเป็นไปตามกฎหมายวินัยการเงินการคลัง 2561  ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่เป็นตัวกำหนดและตัวชีวัดประเทศการพัฒนาประเทศระยะยาว แผนการปฎิรูปประเทศ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสู่ระดับปฎิบัติ  และแนวทางปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และความมั่นคง ดังจะเห็นว่ามีการจัดสรรงบประมาณ ที่มีแบ่งเป็นกลุ่มและยุทธศาสตร์ 6 ด้าน

นายกรัฐมนตรี ยังเน้นย้ำการจัดสรรงบประมาณที่จะต้องได้รับอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง ลดความเหลื่อมล้ำ การลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรี จึงไม่จำเป็นจะต้องมางบประมาณเพิ่ม การให้งบประมาณนั้นจะมุ่งเน้นภาคส่วนภาคหนึ่งมากกว่าพื้นที่อื่นนั้นเท่าไม่ได้ ทุกอย่างมีดัชนีชี้วัดกำหนดความต้องการและต้องพัฒนาอยู่แล้ว

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า งบประมาณรายจ่ายประจำของบุคคลกรทำให้ต้องมีการปฎิรูประบบราชการ ที่ต้องบรรจุบุคคลากร ซึ่งทุกส่วนราชการต่างๆ ต้องปรับโครงสร้างและแผนงานภายในแต่ละกระทรวง เพื่อขจัดและลดปริมาณการใช้จ่ายและไม่กระทบกับข้าราชการที่มีอยู่ในสายงาน เพื่อความพอเพียง เหมาะสม รวมถึงการพัฒนาสังคม รองรับผู้สูงอายุที่ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2557

โดยที่รัฐบาลได้เพิ่มงบประมาณขึ้น นั้น เพราะแก้ไขปัญหาอดีตที่มีความผูกพันมา อาทิ หนี้สาธารณะ และสถานการณ์ปัจจุบัน ดูแลผู้มีรายได้น้อยและการแข่งขันกับต่างประเทศ รวมถึงวางรากฐานเพื่ออนาคตของประเทศ  ซึ่งการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีจึงไม่ไช่เรื่องที่ทำง่ายอีกต่อไป การทำงบประมาณจึงต้องทำให้เกิดความถูกต้อง ไม่ทุจริต ขอให้ไว้ใจ

พร้อมระบุว่า อย่าได้จับจ้องว่าการเพิ่มงบประมาณที่เพิ่มขึ้นจะมีการทุจริต รัฐบาลนี้ มีการตรวจสอบทุกขั้นตอน การทุจริตอยู่ที่คน ที่ต้องมีหลักคิดที่ถูกต้อง ไม่ใช้ความรู้สึก ขอให้ไว้ใจ  เพราะฉะนั้น ต้องไม่ปล่อยให้มีการบิดเบือน ต่อไปนายกรัฐมนตรีต้องซื่อสัตย์ และเป็นนายกรัฐมนตรีของทุกคน

อย่างไรก็ตาม ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 นี้ จะอยู่ในขั้นตอนของการจะพิจารณาของ สนช ในวาระ 1 ถึงวาระ 3 เป็นเวลา 105 วัน นับจากวันที่ได้รับร่างเมื่อวันจันทร์ 28 พฤษภาคม และจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่  9 กันยายน

http://news.ch7.com/detail/289612


บิ๊กตู่”แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 3 ล้านล้าน ทุกภาคได้เงินใกล้เคียงกัน ลั่นเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ไม่ได้ให้เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ชี้การทุจริตเกิดจากคนไม่ใช่จากระบบหรือกฎหมาย




บิ๊กตู่”แจงร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 3 ล้านล้าน ทุกภาคได้เงินใกล้เคียงกัน ลั่นเป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ไม่ได้ให้เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ชี้การทุจริตเกิดจากคนไม่ใช่จากระบบหรือกฎหมาย


พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า งบประมาณมีวงเงินสูงขนาดนี้ หลายคนบอกว่าอาจจะมีการทุจริต ถ้าคิดอย่างนี้ก็คงทำอะไรไม่ได้ ต้องมองว่างบประมาณวันนี้ทำครบและเหมาะสมหรือไม่ ทั้งนี้การทุจริตไม่ได้อยู่ที่ระบบหรือกฎหมาย แต่อยู่ที่คน ตนไม่ได้ให้แบบส่งเดชไปเรื่อย ใครขอมาก็ให้ วันหน้าก็ต้องเป็นแบบนี้ นายกฯ ต้องเป็นแบบนี้ ต้องซื่อสัตย์ มีคุณธรรม ต้องดูให้ทั่วถึง ทุกโครงการต้องทำให้สอดคล้องกับความต้องการของประเทศ วันนี้ทุกภาคได้เงินใกล้เคียงกัน เป็นรัฐบาลของคนทั้งประเทศ ไม่ได้ให้เฉพาะกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าวันหน้ารัฐบาลที่พวกท่านคาดหวังกันนั้นต้องทำให้ได้แบบนี้ ก่อนจะไปถึงการเลือกตั้งเรามาคุยกันเรื่องนี้ได้ไหมว่า พรรคการเมืองใดจะเสนอแนวทางการทำงานมากกว่าที่จะบิดเบือนต่อว่ากันไปกันมา เพราะแบบนั้นมันจะกลับไปที่เดิมทั้งหมด สร้างความเกลียดชังจนกระทั่งหาสาระไม่ได้





http://www.newtv.co.th/news/16696


รถไฟ กับงบประมาณ 3 ล้านล้านบาท และ การพัฒนาประเทศ




ในช่วงนี้ทุกคนต่างก็พูดถึง “โครงการ 3 ล้านล้านบาท” ของรัฐบาลประยุทธ 1 เพราะเป็นการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาลที่เป็นความหวังในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ที่ไม่ใช่ฟื้นแค่ในระยะสั้น แต่เป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่เป็นจุดอ่อนของไทยมากว่าศตวรรษ กว่าศตวรรษแล้วที่รถไฟไทยไม่มีการลงทุนขนาดใหญ่ ทั้งการขยายราง ต่อราง เพิ่มสถานี หรือพัฒนาคุณภาพรถไฟ ข้อมูลจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ระบุว่า ต้นทุนขนส่งคิดเป็นร้อยละ 7.4 ของ GDP ซึ่งปัจจุบันต้องพึ่งการขนส่งทางถนนโดยเฉพาะรถบรรทุกเป็นหลัก โดยมีการใช้รางเพียงร้อยละ 0.2 เท่านั้น ซึ่งหากเปลี่ยนเป็นรางต้นทุนขนส่งจะลดลงไปกว่าครึ่ง หรือคำนวณคร่าวๆ กว่า 2 แสนล้านบาท การลงทุนดังกล่าวจึงเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของไทยได้มหาศาล

โครงการ 3 ล้านล้านจึงเป็นการจุดความหวังในการฟื้นเศรษฐกิจของไทยทั้งในระยะสั้นและยาว อันที่จริงในปัจจุบันไทยมีเส้นทางรถไฟยาวถึงกว่า 4 พันกิโลเมตร สัดส่วนความยาวรางรถไฟต่อพื้นที่ก็อยู่ในลำดับต้นของอาเซียน สูงกว่ามาเลเซียเสียอีก ยิ่งเมื่อได้โครงการ 3 ล้านล้านนี้ จะทำให้มีรางรถไฟเพิ่มขึ้นอีกกว่า 5 พันกิโลเมตร เป็น 9,258 กิโลเมตร ก็จะยิ่งสูงล้ำเหนือชาติใดๆในอาเซียน แต่นั้นไม่น่าสนใจเท่าผลประโยชน์ที่จังหวัดต่างๆจะได้รับ ในปัจจุบันมีอยู่หลายจังหวัดในประเทศที่รถไฟไม่วิ่งผ่าน หรือถึงผ่านก็น้อยมากจนอัตราทางรถไฟต่อพื้นที่จังหวัดต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอาเซียนเสียอีก  จังหวัดเหล่านี้ก็คือจังหวัดทางแถบภาคอีสาน (จากภาพคือจังหวัดที่เป็นสีแดง) ซึ่งเมื่อมีโครงการ 3 ล้านล้านจะก้าวกระโดดเป็นจังหวัดที่เจริญกว่า มาเลเซีย (ด้านความหนาแน่นของรางรถไฟ) ด้วย ในขณะที่อีกหลายจังหวัด เช่น นครราชสีมา จะกลายเป็นจังหวัดที่ดีกว่าสหรัฐฯ หรืออย่างเพชรบุรี ก็ดีกว่าเกาหลี เสียอีก

แต่คำถามสำคัญก็คือ “มีรางมากขึ้น แล้วจะดีขึ้น เจริญขึ้น จริงหรือ ?ช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา เกาหลี มีโครงการชั้นปฏิวัติการรถไฟในประเทศ 2 ครั้ง ครั้งแรกเริ่มปี 1992 แต่กว่าจะเปิดใช้ก็ปี 2004 ส่วนครั้งที่ 2 เริ่มปี 1998 ไปแล้วเสร็จปี 2010 โดยทั้ง 2 ครั้ง เป็นรถไฟความเร็วสูง มาเลเซีย มี 2 โครงการเช่นกัน คือ 1995 ปฏิวัติจากดีเซลเป็นระบบไฟฟ้าแต่ยังเป็นความเร็วธรรมดาอยู่ แต่พอถึงปี 2002 ก็เปิดใช้รถไฟความเร็วสูงทันที อย่างไรก็ตามความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ตรงว่า เกาหลี กับ มาเลเซีย ทำอะไร แต่น่าสนใจตรงที่ ทุกเหตุการณ์นำพาไปสู่การเพิ่มขึ้น ของรายได้เฉลี่ยต่อประชากร ของทั้ง 2 ประเทศ (ดูรูปประกอบ)



นั่นจึงหมายความว่า มีโอกาสสูงที่ “โครงการ 3 ล้านล้านจะยกระดับเศรษฐกิจ และความสามารถในการแข่งขันของประเทศ” ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ประเทศไทยพึงต้องระลึกว่า การพัฒนาการรถไฟ ไม่ใช่มีแค่รางมาก แต่ต้องรวมไปถึงบริการที่ดี ความสะดวกรวดเร็ว และตรงต่อเวลาของการรถไฟยิ่งสำคัญ ตัวอย่างเช่น เกาหลีนั้น ประกาศชัดเจนว่า “รถไฟเกาหลีไม่เคยผิดเวลา” ไม่เท่านั้น ความเร็วสูงของเกาหลี คือ 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือไม่ถึง 3 ชั่วโมงจากกรุงเทพก็ถึงเชียงใหม่แล้ว (ถ้าไม่แวะจอดพัก) ดังนั้น “หากไทยจะยกระดับศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ ไทยต้องพัฒนาระบบราง ที่ต้องทำทั้งปริมาณ (จำนวนราง) และคุณภาพควบคู่กัน ซึ่งนั่นคือความคาดหวังจากคนไทยทั้งประเทศ”

หมายเหตุ: โครงการลงทุน 3 ล้านล้านบาท ไม่ได้มีแต่เรื่องรถไฟ แต่รถไฟเป็นโครงการใหญ่ภายใต้โครงการนี้ ผู้เขียนจึงได้หยิบยกมาเป็นประเด็นสำคัญ

http://www.fpri.or.th/wp/?p=1141#.Wxz2btVtff9



นายกฯ แจง สนช. ยันงบปี 62 วงเงิน 3ล้านล้าน โปร่งใส เน้นกระจายรายได้



นายกรัฐมนตรี แจง สนช.ทำงบประมาณปี 62 ขับเคลื่อนประเทศ เน้นกระจายรายได้ ยัน โปร่งใส คาด GDP โต3.9-4.9%
รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (7 มิ.ย. 2561) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้แถลงชี้แจงงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2562 ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  วงเงิน 3 ล้านล้านบาทแล้ว ว่า พระราชบัญญัติงบประมาณฯ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศเพื่อไปสู่เป้าหมายของความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ตามกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ความมั่นคงทั้งภายในและภายนอกประเทศ

พร้อมกันนี้ รัฐบาลยังได้จัดทำร่างยุทธศาสตร์ชาติเพื่อกำหนดเป้าหมายการพัฒนาของประเทศ ซึ่งแต่ละกระทรวง และหน่วยงานต่างๆ ของรัฐจะต้องให้ความสำคัญกับการทำงานตามกรอบยุทธศาสตร์ รวมถึงการน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้เป็นหลักในการจัดทำงบประมาณ ส่วนการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ ก็ต้องครอบคลุมและทั่วถึงโดยคำนึงถึงหลักเกณฑ์ของวินัยการเงินการคลัง และความต้องการของประชาชนเป็นสำคัญ

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังหวังว่า การจัดทำงบประมาณตาม ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ จะเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นเจตนารมณ์ของรัฐบาลที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆ ของประเทศ พร้อมขออย่ามองว่าจะเกิดการทุจริต แต่ให้ช่วยกันตรวจสอบว่าได้มีการใช้จ่ายงบประมาณตามที่ขอมาหรือไม่ และขออย่าให้ใครนำไปบิดเบือน

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยืนยันจะบริหารงบประมาณ ด้วยความโปร่งใส่สามารถตรวจสอบได้และเป็นไปตาม พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ.2561 ทั้งนี้ งบประมาณทั้งหมดได้มีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจนเพื่อให้สอดคล้องกับแผนปฏิรูปประเทศและแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี

สำหรับงบประมาณปี 2562 วงเงิน 3 ล้านล้านบาทนี้ เป็นงบประมาณเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 100,000 ล้านบาท ตั้งเป็นงบกลาง 468,032,000,000 บาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 73,705,939,000 บาท โดยกระทรวงที่ได้รับงบประมาณสูงที่สุด 5 กระทรวง ประกอบด้วย

– กระทรวงศึกษาธิการ 489,789,574,500 บาท ลดลงจากปีที่แล้ว 21,172,238,100บาท

– กระทรวงมหาดไทย 373,519,664,700 บาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 17,524,322,700 บาท

– กระทรวงการคลัง 242,845,984,600 บาท บาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 4,489,934,300 บาท

– กระทรวงกลาโหม 227,671,419,500 บาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 5,234,822,000

– กระทรวงคมนาคม 183,732,535,100 บาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10,856,255,600 บาท

https://news.mthai.com/politics-news/648022.html

งบประมาณปี 62 ในปีนี้มีอะไรมากมายที่ต้องใช้เงินงบประมาณนะคะ

เพื่อสร้างโครงการพื้นฐานต่างๆ  ช่วยเหลือกระจายเงินไปสู่จังหวัดที่ต้องพัฒนา

สร้างพื้นฐานการคมนาคม  มีการเลือกตั้งที่ต้องมีรายจ่าย

เข้าใจดีค่ะ ว่าต้องมีรายจ่ายเพิ่มขึ้น

ใช้อย่างโปร่งใส ประชาชนเข้าใจค่ะ  เห็นชอบด้วยนะคะ....👍👍👍👍👍👍👍

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่