ขอเกริ่นย่อๆ ค่ะว่า เราไปเที่ยวที่เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนมาเมื่อตอนกลางเดือนมีนาคม
(เรารีวิวทริปนี้ไว้ที่กระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/37716748 เผื่อสนใจเข้าไปอ่านได้ค่ะ แต่ไม่ได้พูดถึงอุบัติเหตุครั้งนี้เท่าไหร่ รีวิวเรื่องเที่ยวมากกว่า)
ตอนนั้นมีอุบัติเหตุเล็กๆ เกิดขึ้น คือ เรากำลังยืนดูของในร้านวัตสันในห้างใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ แล้วจู่ๆ ก็มีผู้ชายจีนคนหนึ่ง ไม่รู้กระเด็นมาจากไหน พุ่งชนเราอัดก็อปปี้กับชั้นวางของร่วงลงไปกองกับพื้น
ขอให้จินตนาการผู้ชายตัวใหญ่สูงราวๆ ร้อยแปดสิบ น้ำหนักน่าจะเกินร้อยกิโล สันนิษฐานว่าคงเล่นอะไรสักอย่างกับแฟน แล้วผู้หญิงคงผลักแล้วฝ่ายชายทรงตัวไม่อยู่ แรงผลักบวกน้ำหนักของเจ้าตัว อย่างกับโดนพุ่งสเปียร์ใส่กันเลยค่ะ
อาการตอนแรกไม่เป็นอะไรนะคะ ตอนโดนชนเรายังพอเบี่ยงองศาปะทะได้ทันทำให้เซฟจุดอันตรายไปได้ สิ่งที่กระแทกหลักๆ คือ ช่วงแขนต่อสะบักที่ปะทะกำแพง ตอนกองกับพื้นเราก็ลองขยับเช็คร่างกายว่าเป็นอะไรมากน้อยแค่ไหนก็พบว่าไม่มีอะไรร้ายแรงค่ะ จบเรื่องแล้วยังเดินเที่ยวต่อได้อยู่ แต่อาการค่อยมาปรากฏตอนเย็น (เหตุเกิดตอนช่วงบ่าย) ที่เริ่มมีอาการยอกๆ อยู่บ้าง
ชั่งใจว่าจะไปหาหมอดีไหม แต่เหลืออีกแค่สองวันเท่านั้นเอง ไม่อยากไปหาหมอที่เมืองจีน คิดสะระตะแล้วเลยเขียนเมลไปหาทาง MSIG เล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น และถามว่าถ้ากลับมาที่เมืองไทยแล้วพบว่ามีปัญหาประกันนี้จะยังครอบคลุมไหม ต้องทำอย่างไรบ้าง ทางบริษัทก็ดีค่ะ ตอบกลับมาเร็วดี และให้คำแนะนำในกรณีนี้โดยส่งเอกสารเคลม และเงื่อนไขความคุ้มครองมาให้ตามด้านล่างนี้
อ้อ ลืมบอก เราซื้อประกันตัว Max สุดของ MSIG นะคะ
เอกสารที่สำหรับการเบิกสินไหมหมวดค่ารักษาพยาบาล ดังนี้
1. เคลมฟอร์มเรียกร้องสินไหมประกันการเดินทาง
2. ใบเสร็จรับเงิน(ฉบับจริง)
3. ใบรับรองแพทย์
4. สำเนา Passport
5. สำเนา Book Bank และสำเนาบัตรประชาชน (กรณีรับสินไหมโดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร)
พอเห็นเมลนี้ก็สบายใจกลับไทยแลนด์แล้วค่อยไปหาหมอตรวจ แต่ก่อนจะไปโรงพยาบาล โทรหา Call Center อีกทีเพื่อความชัวร์ ทาง CC แนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ให้คุณหมอเขียนในใบเคลมให้ด้วยว่าเหตุเกิดที่ต่างประเทศ แต่ทีนี้หมอบอกว่าหมอเขียนได้แค่มีอาการเอ็นอักเสบแต่เขียนสถานที่เกิดเหตุไม่ได้เพราะหมอไม่ได้ไปเห็นเหตุการณ์ด้วย อืม...ถูกค่ะ หมอเขียนได้แค่ไหนแค่นั้น เดี๋ยวหนูจัดการต่อเอง
ว่าแล้วเราก็เลยเอา
1.) เมลที่เราเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่อยู่ที่เมืองจีนซึ่งในนั้นลงวันที่ว่าเราพบอุบัติเหตุในวันไหน และ
2.) Boarding Pass ที่บอกว่าเรากลับเมืองไทยวันไหนแนบตามไปด้วย เพื่อเป็นหลักฐานว่าเราพบอุบัติเหตุตอนอยู่ต่างประเทศจริง และบาดเจ็บจริงตามที่ใบรับรองแพทย์เขียน ส่งไปที่บริษัท MSIG ค่ะ
หลังจากส่งเอกสารไปพร้อมกับใบเสร็จและใบรับรองแพทย์ ประมาณอาทิตย์ก็มี SMS แจ้งว่าจ่ายเงินตามใบเสร็จที่ส่งไปให้เรียบร้อยค่ะ
ทุกอย่างก็ดูจะเรียบร้อยดีนะคะ ค่อนข้างง่ายทีเดียว CC ก็ให้คำแนะนำดีมากเลยค่ะ แต่ทีนี้มันดันติดปัญหาอีกนิดหนึ่งตรงที่เรามีปัญหาที่เอ็น การรักษาเลยค่อนข้างยืดเยื้อ ตัวเราเองก็ลืมดูเงื่อนไขตรงด้านล่างว่ารักษาไม่เกิน 21 วันติดต่อกัน แต่เรารักษาเกินไปแล้วโดยไม่ได้นับวัน เราจึงส่งเอกสารไปที่ MSIG เกิน 21 วันไปค่ะ
ทางเจ้าหน้าที่ของ MSIG โทรมาแจ้งว่า สามารถจ่ายเงินได้จนถึงวันที่ 21 นะ ใบเสร็จที่เกินเวลาจะส่งกลับมาให้ เราก็โอเคค่ะ กะว่าจะนำใบเสร็จที่เกินเวลาไปเคลมกับประกันอุบัติเหตุที่บริษัททำไว้ให้ ครอบคลุมอุบัติเหตุไม่ใช่เฉพาะเมืองไทยแต่เป็นทั่วโลกค่ะ (เราก็เพิ่งรู้ว่าประกันอุบัติเหตุของออฟฟิศคุ้มครองเหตุเกิดที่ต่างประเทศด้วย ใครเป็นพนักงานออฟฟิศแล้วบริษัททำประกันไว้ให้เช็คดูได้นะคะว่าเราได้รับความคุ้มครองแค่ไหน)
แต่ทีนี้พอกลับไปดูเอกสารที่ก็อบไว้ว่าส่งอะไรไปบ้าง เราพบว่าเอกสารวันที่ 21 นั่นเป็นวันที่เราไปพบแพทย์และแพทย์ได้สั่งให้ทำกายภาพบำบัด ใบเสร็จที่เกิน 21 วันไปแล้วนั้นเป็นใบเสร็จที่ทำกายภาพโดยไม่มีใบรับรองแพทย์ เราเลยรีบโทรไปหา MSIG แต่เราไม่ได้ถามชื่อคุณเจ้าหน้าที่โทรหาเรา เลยได้แต่ฝากเรื่องไว้ และเขียนเมลไปให้คนที่เราติดต่อไว้ด้วยเหมือนกันว่าเราไม่ต้องการเคลมของวันที่ 21 แล้ว ขอเอกสารคืนแล้วเราจะไปตั้งต้นกับบริษัทประกันของออฟฟิศจะได้ไม่ต้องมาคุยเรื่องประวัติอะไรให้มากมาย
เข้าใจว่าไม่ทันแล้ว ทาง MSIG ทำเรื่องไปเรียบร้อยแล้ว เรายังต่อรองว่าเราคืนเงินให้ก็ได้ แต่เราอยากได้ชุดนั้นทั้งชุด ทีนี้คงไม่ได้ทาง MSIG เลยแจ้งว่าเดี๋ยวจะส่งใบรังรองแพทย์กลับมาก็แล้วกัน
มีความงงเกิดขึ้นในช่วงนี้เอง เราลำดับเอกสารให้ตามนี้ แต่เป็นแบบย่อเพื่อความเข้าใจเฉยๆ นะคะ เอกสารจริงมันถี่กว่านี้
วันที่ 21 -- ใบเสร็จ + ใบรับรองแพทย์ --> เป็นชุดที่เราต้องการกลับด้วยแต่บริษัททำเรื่องเคลมไปแล้ว และบอกว่าจะส่งใบรับรองแพทย์กลับมาให้
วันที่ 23 -- ใบเสร็จกายภาพ
วันที่ 26 -- ใบเสร็จ + ใบรับรองแพทย์
วันที่ 29 -- ใบเสร็จกายภาพ
ครั้งแรกที่เราคุยกันกับทางเจ้าหน้าที่ เขาทำเรื่องวันที่ 21 ไปแล้ว และส่งใบเสร็จของวันที่ 23 26 29 กลับมาให้ แต่ไม่ได้ส่งใบรับรองแพทย์ของวันที่ 26 มาให้ด้วย (ตัวเราตอนได้รับเอกสารก็ไม่ได้สังเกต หมกตู้ไว้ก่อนเพราะจะรอเอกสารอื่นมาสมทบแล้วค่อยจัดการทีเดียว)
คุยครั้งที่สอง ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า เดี๋ยวส่งใบรับรองแพทย์วันที่ 21 คืนมาให้ แต่ทีนี้เอกสารที่เราได้รับคือ ใบรับรองแพทย์ของวันที่ 26 ซึ่งเป็นใบที่ทางบริษัทปฏิเสธการจ่ายพร้อมทั้งประทับตราว่า "Paid" หรากลับมาให้เราทั้งที่ไม่ได้มีการจ่ายจริงแต่อย่างใด
เราคิดว่าคงเป็นความผิดพลาดเรื่องการสื่อสารในเชิงของเวลา ซึ่งต้องชมว่าทาง MSIG ทำงานรวดเร็วมากค่ะ เราทิ้งเวลาไม่นานกลายเป็นว่าทางบริษัทจัดการเรื่องไปเรียบร้อยแล้ว กลายเป็นว่าเราช้าไปหลายๆ เรื่อง ซึ่งตรงนี้ไม่ว่ากันค่ะ แต่ประเด็นที่เราไม่แฮปปี้ มันเป็นอย่างนี้
คือถ้าเป็นใบรับรองแพทย์วันที่ 21 แล้วประทับตราจะไม่ว่าอะไรเลยเพราะเป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่ประทับเอกสารที่ตัวเองไม่ได้จ่ายแล้วบอกว่าจ่ายนี่มันหมายความว่ายังไง เลยเขียนเฉ่งเลยว่าแบบนี้เราไม่โอเคนะ เราจำเป็นต้องใช้เอกสารนี้ต่อ ถ้ามันเคลมไม่ได้ขึ้นมาใครรับผิดชอบเงินจำนวนนี้? หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็โทรมาอธิบายค่ะว่า ใบรับรองแพทย์ของวันที่ 26 ใช้ประกอบการเคลมของวันที่ 21 จึงประทับตรา ถ้ายังไงเขาจะส่งเอกสารเคลมทั้งหมดที่มีกลับมาให้เรา
พอได้ยินว่าจะส่งเอกสารทั้งหมดกลับมา เราก็โอเคแล้ว ขี้เกียจโต้แย้งว่า การใช้ใบรับรองแพทย์ประกอบการพิจารณา ก็ประทับตราอื่นไปสิ คำว่า "ใช้ประกอบการพิจารณา" กับคำว่า "จ่ายแล้ว" ความหมายมันผิดกันโข เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไร เสียเวลาเปล่าๆ เอาเวลาไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นดีกว่า
เราโทรถามทางโรงพยาบาลว่าถ้าออกใบรับรองแพทย์ใหม่ทำไง เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะต้องมีใบแจ้งความว่าหาย แพทย์ถึงจะออกใบใหม่ได้ เราเลยลองโทรหา Call Center ของประกันที่บริษัททำ เล่าคร่าวๆ ว่ามันมีเอกสารประมาณนี้ๆ แต่ตัวใบเสร็จไม่ได้มีการปั๊มว่าจ่ายแล้วแต่อย่างใด มีแค่ใบรับรองแพทย์เท่านั้น ทาง CC บอกว่าให้ลองส่งเอกสารไปดูก่อน แต่ยังไงก็ขอให้เป็นเอกสารตัวจริงทั้งหมด เราเลยไม่ได้ขอใบรับรองแพทย์ใหม่ ส่งไปทั้งแบบนี้แหละ แล้วเขียนรายละเอียดแนบว่าเราส่งเอกสารอะไรไปให้บ้าง และเเล่าว่ามีคุยกับทาง CC แบบนี้ๆ จากนั้บก็ฝาก HR ส่งเอกสารทั้งหมดไปที่ประกัน
เอกสารที่ทางประกันของบริษัทต้องการก็คล้ายๆ กับของ MSIG แหละค่ะ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่เราไม่ได้ส่งเมลที่เขียนให้ MSIG และ Boarding Pass ให้ไปเพราะไม่จำเป็นค่ะ
หนึ่งอาทิตย์หลังส่งเอกสาร ในที่สุดเราก็ได้เงินค่ารักษามาครบถ้วนสมบูรณ์
สรุปนับตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุจนกระทั่งวันสุดท้ายที่ได้รับเงินมาสิริร่วม 2 เดือน หนึ่งเดือนแรกเป็นเรื่องของการรักษา แต่เดือนหลังทั้งเดือนนี่เป็นเรื่องของการตามเอกสารกันไปกันมาล้วนๆ
โดยรวม ในเชิงของการเคลม เรามองว่า MSIG ไม่วุ่นวายดีนะคะ ถ้ามันอยู่ในเงื่อนไขตามกรมธรรม์ที่เขียนไว้ มันก็เป็นไปตามนั้น ไม่ได้ดูบิดพลิ้วหรือพยายาม Tricky แต่อย่างใด ส่วน Call Center หรือคนที่เป็นด่านหน้าติดต่อลูกค้าก็ให้คำแนะนำดี และคนทำงานก็ทำงานได้รวดเร็วค่ะ เกือบจะให้เต็มสิบแล้วเชียวถ้าไม่เจอปัญหาเรื่องเอกสารนี้เข้าเสียก่อน
ที่จริงเรื่องเอกสารพวกนี้ดูเป็นปัญหาหยุมหยิมมากจนไม่น่าจะพูดถึง แต่พอดีดันไปแตะต้องเอกสารที่บริษัทปฏิเสธการจ่ายเข้า ยังผลให้ลูกค้าอาจไม่สามารถนำมันไปเคลมต่อได้ มันเลยกลายเป็นประเด็นขึ้นมา
ถือว่าเป็นบทเรียนให้กับการจัดการเอกสารของบริษัทไปค่ะ ถือว่าตกม้าตายในเรื่องเล็กน้อยมากจริงๆ
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ มาแชร์ให้ฟังเพื่อตอบแทนท่านอื่นๆ ที่รีวิวเรื่องการเคลมอุบัติเหตุทิ้งไว้ให้ ส่วนหนึ่งเราเคยอ่านประสบการณ์ของท่านเหล่านั้นเหมือนกัน แล้วก็เก็บเป็นข้อมูลไว้ในใจ ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสมาใช้จริงในต่างแดนกับเขา แต่เราโชคดีตรงที่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร เป็นเคสเล็กๆ เท่านั้น ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากเขียนเผื่อไว้หากใคร Search หาเหมือนเรา จะได้มีไอเดียในสิ่งที่ต้องเตรียมน่ะค่ะ
หากเราพลาดหรือตกหล่นอะไรไป หรือใครต้องการเสริมหรือแชร์ประสบการณ์ เรายินดีนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ ^^
แชร์ประสบการณ์เคลมประกันเดินทาง MSIG เคสอุบัติเหตุเล็กๆ ค่ะ
(เรารีวิวทริปนี้ไว้ที่กระทู้นี้ http://ppantip.com/topic/37716748 เผื่อสนใจเข้าไปอ่านได้ค่ะ แต่ไม่ได้พูดถึงอุบัติเหตุครั้งนี้เท่าไหร่ รีวิวเรื่องเที่ยวมากกว่า)
ตอนนั้นมีอุบัติเหตุเล็กๆ เกิดขึ้น คือ เรากำลังยืนดูของในร้านวัตสันในห้างใจกลางเมืองเซี่ยงไฮ้ แล้วจู่ๆ ก็มีผู้ชายจีนคนหนึ่ง ไม่รู้กระเด็นมาจากไหน พุ่งชนเราอัดก็อปปี้กับชั้นวางของร่วงลงไปกองกับพื้น
ขอให้จินตนาการผู้ชายตัวใหญ่สูงราวๆ ร้อยแปดสิบ น้ำหนักน่าจะเกินร้อยกิโล สันนิษฐานว่าคงเล่นอะไรสักอย่างกับแฟน แล้วผู้หญิงคงผลักแล้วฝ่ายชายทรงตัวไม่อยู่ แรงผลักบวกน้ำหนักของเจ้าตัว อย่างกับโดนพุ่งสเปียร์ใส่กันเลยค่ะ
อาการตอนแรกไม่เป็นอะไรนะคะ ตอนโดนชนเรายังพอเบี่ยงองศาปะทะได้ทันทำให้เซฟจุดอันตรายไปได้ สิ่งที่กระแทกหลักๆ คือ ช่วงแขนต่อสะบักที่ปะทะกำแพง ตอนกองกับพื้นเราก็ลองขยับเช็คร่างกายว่าเป็นอะไรมากน้อยแค่ไหนก็พบว่าไม่มีอะไรร้ายแรงค่ะ จบเรื่องแล้วยังเดินเที่ยวต่อได้อยู่ แต่อาการค่อยมาปรากฏตอนเย็น (เหตุเกิดตอนช่วงบ่าย) ที่เริ่มมีอาการยอกๆ อยู่บ้าง
ชั่งใจว่าจะไปหาหมอดีไหม แต่เหลืออีกแค่สองวันเท่านั้นเอง ไม่อยากไปหาหมอที่เมืองจีน คิดสะระตะแล้วเลยเขียนเมลไปหาทาง MSIG เล่าให้ฟังว่าเกิดอะไรขึ้น และถามว่าถ้ากลับมาที่เมืองไทยแล้วพบว่ามีปัญหาประกันนี้จะยังครอบคลุมไหม ต้องทำอย่างไรบ้าง ทางบริษัทก็ดีค่ะ ตอบกลับมาเร็วดี และให้คำแนะนำในกรณีนี้โดยส่งเอกสารเคลม และเงื่อนไขความคุ้มครองมาให้ตามด้านล่างนี้
อ้อ ลืมบอก เราซื้อประกันตัว Max สุดของ MSIG นะคะ
เอกสารที่สำหรับการเบิกสินไหมหมวดค่ารักษาพยาบาล ดังนี้
1. เคลมฟอร์มเรียกร้องสินไหมประกันการเดินทาง
2. ใบเสร็จรับเงิน(ฉบับจริง)
3. ใบรับรองแพทย์
4. สำเนา Passport
5. สำเนา Book Bank และสำเนาบัตรประชาชน (กรณีรับสินไหมโดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคาร)
พอเห็นเมลนี้ก็สบายใจกลับไทยแลนด์แล้วค่อยไปหาหมอตรวจ แต่ก่อนจะไปโรงพยาบาล โทรหา Call Center อีกทีเพื่อความชัวร์ ทาง CC แนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ให้คุณหมอเขียนในใบเคลมให้ด้วยว่าเหตุเกิดที่ต่างประเทศ แต่ทีนี้หมอบอกว่าหมอเขียนได้แค่มีอาการเอ็นอักเสบแต่เขียนสถานที่เกิดเหตุไม่ได้เพราะหมอไม่ได้ไปเห็นเหตุการณ์ด้วย อืม...ถูกค่ะ หมอเขียนได้แค่ไหนแค่นั้น เดี๋ยวหนูจัดการต่อเอง
ว่าแล้วเราก็เลยเอา 1.) เมลที่เราเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่อยู่ที่เมืองจีนซึ่งในนั้นลงวันที่ว่าเราพบอุบัติเหตุในวันไหน และ 2.) Boarding Pass ที่บอกว่าเรากลับเมืองไทยวันไหนแนบตามไปด้วย เพื่อเป็นหลักฐานว่าเราพบอุบัติเหตุตอนอยู่ต่างประเทศจริง และบาดเจ็บจริงตามที่ใบรับรองแพทย์เขียน ส่งไปที่บริษัท MSIG ค่ะ
หลังจากส่งเอกสารไปพร้อมกับใบเสร็จและใบรับรองแพทย์ ประมาณอาทิตย์ก็มี SMS แจ้งว่าจ่ายเงินตามใบเสร็จที่ส่งไปให้เรียบร้อยค่ะ
ทุกอย่างก็ดูจะเรียบร้อยดีนะคะ ค่อนข้างง่ายทีเดียว CC ก็ให้คำแนะนำดีมากเลยค่ะ แต่ทีนี้มันดันติดปัญหาอีกนิดหนึ่งตรงที่เรามีปัญหาที่เอ็น การรักษาเลยค่อนข้างยืดเยื้อ ตัวเราเองก็ลืมดูเงื่อนไขตรงด้านล่างว่ารักษาไม่เกิน 21 วันติดต่อกัน แต่เรารักษาเกินไปแล้วโดยไม่ได้นับวัน เราจึงส่งเอกสารไปที่ MSIG เกิน 21 วันไปค่ะ
ทางเจ้าหน้าที่ของ MSIG โทรมาแจ้งว่า สามารถจ่ายเงินได้จนถึงวันที่ 21 นะ ใบเสร็จที่เกินเวลาจะส่งกลับมาให้ เราก็โอเคค่ะ กะว่าจะนำใบเสร็จที่เกินเวลาไปเคลมกับประกันอุบัติเหตุที่บริษัททำไว้ให้ ครอบคลุมอุบัติเหตุไม่ใช่เฉพาะเมืองไทยแต่เป็นทั่วโลกค่ะ (เราก็เพิ่งรู้ว่าประกันอุบัติเหตุของออฟฟิศคุ้มครองเหตุเกิดที่ต่างประเทศด้วย ใครเป็นพนักงานออฟฟิศแล้วบริษัททำประกันไว้ให้เช็คดูได้นะคะว่าเราได้รับความคุ้มครองแค่ไหน)
แต่ทีนี้พอกลับไปดูเอกสารที่ก็อบไว้ว่าส่งอะไรไปบ้าง เราพบว่าเอกสารวันที่ 21 นั่นเป็นวันที่เราไปพบแพทย์และแพทย์ได้สั่งให้ทำกายภาพบำบัด ใบเสร็จที่เกิน 21 วันไปแล้วนั้นเป็นใบเสร็จที่ทำกายภาพโดยไม่มีใบรับรองแพทย์ เราเลยรีบโทรไปหา MSIG แต่เราไม่ได้ถามชื่อคุณเจ้าหน้าที่โทรหาเรา เลยได้แต่ฝากเรื่องไว้ และเขียนเมลไปให้คนที่เราติดต่อไว้ด้วยเหมือนกันว่าเราไม่ต้องการเคลมของวันที่ 21 แล้ว ขอเอกสารคืนแล้วเราจะไปตั้งต้นกับบริษัทประกันของออฟฟิศจะได้ไม่ต้องมาคุยเรื่องประวัติอะไรให้มากมาย
เข้าใจว่าไม่ทันแล้ว ทาง MSIG ทำเรื่องไปเรียบร้อยแล้ว เรายังต่อรองว่าเราคืนเงินให้ก็ได้ แต่เราอยากได้ชุดนั้นทั้งชุด ทีนี้คงไม่ได้ทาง MSIG เลยแจ้งว่าเดี๋ยวจะส่งใบรังรองแพทย์กลับมาก็แล้วกัน
มีความงงเกิดขึ้นในช่วงนี้เอง เราลำดับเอกสารให้ตามนี้ แต่เป็นแบบย่อเพื่อความเข้าใจเฉยๆ นะคะ เอกสารจริงมันถี่กว่านี้
วันที่ 21 -- ใบเสร็จ + ใบรับรองแพทย์ --> เป็นชุดที่เราต้องการกลับด้วยแต่บริษัททำเรื่องเคลมไปแล้ว และบอกว่าจะส่งใบรับรองแพทย์กลับมาให้
วันที่ 23 -- ใบเสร็จกายภาพ
วันที่ 26 -- ใบเสร็จ + ใบรับรองแพทย์
วันที่ 29 -- ใบเสร็จกายภาพ
ครั้งแรกที่เราคุยกันกับทางเจ้าหน้าที่ เขาทำเรื่องวันที่ 21 ไปแล้ว และส่งใบเสร็จของวันที่ 23 26 29 กลับมาให้ แต่ไม่ได้ส่งใบรับรองแพทย์ของวันที่ 26 มาให้ด้วย (ตัวเราตอนได้รับเอกสารก็ไม่ได้สังเกต หมกตู้ไว้ก่อนเพราะจะรอเอกสารอื่นมาสมทบแล้วค่อยจัดการทีเดียว)
คุยครั้งที่สอง ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า เดี๋ยวส่งใบรับรองแพทย์วันที่ 21 คืนมาให้ แต่ทีนี้เอกสารที่เราได้รับคือ ใบรับรองแพทย์ของวันที่ 26 ซึ่งเป็นใบที่ทางบริษัทปฏิเสธการจ่ายพร้อมทั้งประทับตราว่า "Paid" หรากลับมาให้เราทั้งที่ไม่ได้มีการจ่ายจริงแต่อย่างใด
เราคิดว่าคงเป็นความผิดพลาดเรื่องการสื่อสารในเชิงของเวลา ซึ่งต้องชมว่าทาง MSIG ทำงานรวดเร็วมากค่ะ เราทิ้งเวลาไม่นานกลายเป็นว่าทางบริษัทจัดการเรื่องไปเรียบร้อยแล้ว กลายเป็นว่าเราช้าไปหลายๆ เรื่อง ซึ่งตรงนี้ไม่ว่ากันค่ะ แต่ประเด็นที่เราไม่แฮปปี้ มันเป็นอย่างนี้
คือถ้าเป็นใบรับรองแพทย์วันที่ 21 แล้วประทับตราจะไม่ว่าอะไรเลยเพราะเป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่ประทับเอกสารที่ตัวเองไม่ได้จ่ายแล้วบอกว่าจ่ายนี่มันหมายความว่ายังไง เลยเขียนเฉ่งเลยว่าแบบนี้เราไม่โอเคนะ เราจำเป็นต้องใช้เอกสารนี้ต่อ ถ้ามันเคลมไม่ได้ขึ้นมาใครรับผิดชอบเงินจำนวนนี้? หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็โทรมาอธิบายค่ะว่า ใบรับรองแพทย์ของวันที่ 26 ใช้ประกอบการเคลมของวันที่ 21 จึงประทับตรา ถ้ายังไงเขาจะส่งเอกสารเคลมทั้งหมดที่มีกลับมาให้เรา
พอได้ยินว่าจะส่งเอกสารทั้งหมดกลับมา เราก็โอเคแล้ว ขี้เกียจโต้แย้งว่า การใช้ใบรับรองแพทย์ประกอบการพิจารณา ก็ประทับตราอื่นไปสิ คำว่า "ใช้ประกอบการพิจารณา" กับคำว่า "จ่ายแล้ว" ความหมายมันผิดกันโข เพราะมันไม่มีประโยชน์อะไร เสียเวลาเปล่าๆ เอาเวลาไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นดีกว่า
เราโทรถามทางโรงพยาบาลว่าถ้าออกใบรับรองแพทย์ใหม่ทำไง เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะต้องมีใบแจ้งความว่าหาย แพทย์ถึงจะออกใบใหม่ได้ เราเลยลองโทรหา Call Center ของประกันที่บริษัททำ เล่าคร่าวๆ ว่ามันมีเอกสารประมาณนี้ๆ แต่ตัวใบเสร็จไม่ได้มีการปั๊มว่าจ่ายแล้วแต่อย่างใด มีแค่ใบรับรองแพทย์เท่านั้น ทาง CC บอกว่าให้ลองส่งเอกสารไปดูก่อน แต่ยังไงก็ขอให้เป็นเอกสารตัวจริงทั้งหมด เราเลยไม่ได้ขอใบรับรองแพทย์ใหม่ ส่งไปทั้งแบบนี้แหละ แล้วเขียนรายละเอียดแนบว่าเราส่งเอกสารอะไรไปให้บ้าง และเเล่าว่ามีคุยกับทาง CC แบบนี้ๆ จากนั้บก็ฝาก HR ส่งเอกสารทั้งหมดไปที่ประกัน
เอกสารที่ทางประกันของบริษัทต้องการก็คล้ายๆ กับของ MSIG แหละค่ะ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ แต่เราไม่ได้ส่งเมลที่เขียนให้ MSIG และ Boarding Pass ให้ไปเพราะไม่จำเป็นค่ะ
หนึ่งอาทิตย์หลังส่งเอกสาร ในที่สุดเราก็ได้เงินค่ารักษามาครบถ้วนสมบูรณ์
สรุปนับตั้งแต่วันที่เกิดอุบัติเหตุจนกระทั่งวันสุดท้ายที่ได้รับเงินมาสิริร่วม 2 เดือน หนึ่งเดือนแรกเป็นเรื่องของการรักษา แต่เดือนหลังทั้งเดือนนี่เป็นเรื่องของการตามเอกสารกันไปกันมาล้วนๆ
โดยรวม ในเชิงของการเคลม เรามองว่า MSIG ไม่วุ่นวายดีนะคะ ถ้ามันอยู่ในเงื่อนไขตามกรมธรรม์ที่เขียนไว้ มันก็เป็นไปตามนั้น ไม่ได้ดูบิดพลิ้วหรือพยายาม Tricky แต่อย่างใด ส่วน Call Center หรือคนที่เป็นด่านหน้าติดต่อลูกค้าก็ให้คำแนะนำดี และคนทำงานก็ทำงานได้รวดเร็วค่ะ เกือบจะให้เต็มสิบแล้วเชียวถ้าไม่เจอปัญหาเรื่องเอกสารนี้เข้าเสียก่อน
ที่จริงเรื่องเอกสารพวกนี้ดูเป็นปัญหาหยุมหยิมมากจนไม่น่าจะพูดถึง แต่พอดีดันไปแตะต้องเอกสารที่บริษัทปฏิเสธการจ่ายเข้า ยังผลให้ลูกค้าอาจไม่สามารถนำมันไปเคลมต่อได้ มันเลยกลายเป็นประเด็นขึ้นมา
ถือว่าเป็นบทเรียนให้กับการจัดการเอกสารของบริษัทไปค่ะ ถือว่าตกม้าตายในเรื่องเล็กน้อยมากจริงๆ
หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ มาแชร์ให้ฟังเพื่อตอบแทนท่านอื่นๆ ที่รีวิวเรื่องการเคลมอุบัติเหตุทิ้งไว้ให้ ส่วนหนึ่งเราเคยอ่านประสบการณ์ของท่านเหล่านั้นเหมือนกัน แล้วก็เก็บเป็นข้อมูลไว้ในใจ ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสมาใช้จริงในต่างแดนกับเขา แต่เราโชคดีตรงที่ไม่ได้ร้ายแรงอะไร เป็นเคสเล็กๆ เท่านั้น ถึงอย่างนั้นก็ยังอยากเขียนเผื่อไว้หากใคร Search หาเหมือนเรา จะได้มีไอเดียในสิ่งที่ต้องเตรียมน่ะค่ะ
หากเราพลาดหรือตกหล่นอะไรไป หรือใครต้องการเสริมหรือแชร์ประสบการณ์ เรายินดีนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านค่ะ ^^