ขอแจ้งก่อนครับ
1. กระทู้นี้ไม่มีรูป อาจจะน่าเบื่อ แต่อยากแชร์ประสบการณ์ เพราะ กำลังอ่านเรื่องประกันการเดินทางในพันทิป ส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีใครได้เคลมระหว่างเดินทางกัน อาจจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ครับ (ที่สำคัญลืมถ่ายรูป เพราะกำลังหน้าสิวหน้าขวาน)
2. ผมไม่ได้ขายประกัน ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรทั้งสิ้นครับ
3. เหตุการณ์เกิดเมื่อต้นปี 2562/2019 ที่ไต้หวัน ประกันของ Cigna แบบไม่ต้องสำรองจ่าย เดินทาง 5 วัน เที่ยวไทเปอย่างเดียว ครับ
เริ่มเลยนะจ๊ะ
ผม ภรรยา และเพื่อนๆ เดินทางไป 4 คน (2 คู่รัก) วันที่ 3 ของการเดินทาง ภรรยาดันป่วย เป็นไข้หวัด ตัวร้อน วิงเวียน มีน้ำมูก เจ็บคอหนักมาก จนไม่สามารถจะเที่ยวต่อ หรือทำอะไรได้เลยครับ มีแต่ต้องไปรพ.เท่านั้น หรือนอนรอวันกลับ ความหฤหรรษ์จึงเกิดขึ้นครับ
ผมจึงโทรปรึกษาประกัน ตามเบอร์ Call Center ที่ Cigna แจ้งรายละเอียด แจ้งปัญหา ตามขั้นตอนไป เพื่อจะเข้ารักษาพยาบาล (ขอไม่อธิบายรายละเอียดระหว่างพูดคุยมาก เพราะลืมครับ)
Call Center (CC) โอเคและแจ้งว่า "เข้าได้เลยครับ ที่ไหนก็ได้ สำรองจ่ายก่อน เบิกตามจริงจ่ายไม่เกินกรมธรรม์ (ตามกรมธรรม์เป็นล้าน คงไม่รักษาขนาดนั้นมั้ง)" รู้สึกอุ่นใจ แต่พึ่งนึกขึ้นได้ว่า
ผมไม่มีเงินถุงเงินถังขนาดนั้น หากค่ารักษา ฟาดมา หลายหมื่น ทำไงวะ ไม่มีสำรองจ่าย แต่ลืมไปว่า มีแบบ ไม่ต้องสำรองจ่าย เลยสอบถาม CC
ปรากฏว่า รพ.ที่ไม่ต้องสำรองจ่าย ซึ่งอยู่ในสัญญาระหว่างบริษัทฯ มีอยู่ที่เดียวในเมืองนั้น คือ โรงพยาบาล Taiwan Adventist Hospital
ซึ่งในระหว่างนั้นค้นหาใน Google Map มีรพ.ของมหาวิทยาลัยคณะแพทย์ ใหญ่มาก อารมณ์ รามา หรือศิริราช (น่าจะเชื่อมั่นได้กว่า) แต่ต้องสำรองจ่ายเองครับ นั้นแหละปัญหา เลยไม่ได้ไป ไหนจะกลัวเรื่องเอกสารที่เคลมไม่ได้อีก
เลยยอมไป Taiwan Adventist Hospital ไม่ซีเรียสกับอีกตัวเลือกหนึ่ง เพราะ ระยะทางพอๆกัน เอาประหยัดไว้ก่อนละกัน ชัวร์ๆ
ระหว่างเดินทาง ผมคุยกับ CC ขอทราบชื่อพนักงาน เขาก้อแจ้งชื่อไว้ เพราะผมต้องวางสาย โทรกลับมาใหม่จะได้สานเรื่องต่อได้ ประกันไฟเขียวครับ
ถึง รพ. แล้ว ปรากฎว่าเป็น รพ. มีมาตรฐาน ทันสมัยมาก ที่สำคัญเน้นรองรับชาวต่างชาติ มีฝรั่งเดินออกจากรพ.พึ่งเสร็จธุระ เป็นรพ.ในเครือของศาสนาคริสต์ในไต้หวันครับ ป้ายบอกนั้นนี้ในรพ.เป็นภาษาอังกฤษคู่กับจีน (ต่างจากอีกรพ.ซึ่งดูจากในภาพแล้ว คงจะยาก เพราะ เน้นภาษาจีนรองรับคนบ้านเขาอะครับ)
เหมือนจะราบลื่น แต่มีอุปสรรค มาแล้วครับ เคาเตอร์รองรับชาวต่างชาติ ปิด (ตอนนั้นไปเวลาค่ำของวันเสาร์ ก้อไม่แปลก) คนที่นั่งเคาเตอร์ 3 คน มีคนเดียวที่พูดภาษาอังกฤษได้ แต่ไม่คล่อง
และยังบอกให้เราสำรองค่าใช้จ่ายก่อนเถอะ (อารมณ์แบบไม่ถนัดงานต่างประเทศ ขี้เกียจเดินเรื่อง ภาษาก้อไม่ถนัด)
เราเลยถามว่า "ประกันของฉัน เขาบอกที่นี่ไม่ต้องสำรองจ่าย ทำไมฉันต้องจ่าย"
พนักงาน รพ. ตอบ "แผนกต่างประเทศ ปิด คุณจึงต้องสำรองก่อน"
เราไม่มีทางเลือก จึงโทรหา CC ประกัน และได้เล่าปัญหา "เขาให้ผมจ่าย" "ผมไม่สะดวก" "ไม่มีเงินมาเยอะ" "ทำไมต้องจ่ายก่อน" ประเด็นที่เราแจ้ง CC ก็ประมาณนี้ครับ
CC ขอสาย พนักงาน รพ. ครับ เนื้อหาใจความยังไงไม่ทราบ แต่วางสายแล้ว พนักงานของ รพ. แจ้งว่า "โอเค คุณไม่ต้องจ่าย รอสักครู่ ประกันกำลังส่งรายละเอียดมา" อยากกรี๊ด เป็นภาษาอินเดียมาก CC สุดยอดมากครับ ทีเดียว รู้เรื่อง และ CC คนนี้กำลังออกเวร แต่ส่งต่อเรื่องให้อีกคน ประสานต่อกันได้ดีมาก ไม่มีสะดุด ครับ
ระหว่างสื่อสารกันไปมา ทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ ผม ประกัน และ รพ. ด้วยภาษาอังกฤษ อันงูๆปลาๆ โดย เฉพาะ พนักงาน รพ. จะขอ boarding pass ขามาของเรา ยังพูดไม่ได้เลยครับ จึงเปิดเอกสารเดินทางให้เลือก (เออ เลือกเลยจะเอาอันไหน-ไม่ได้พูด แต่บ่นในใจ)
ยังไม่จบจ้า พนักงาน รพ. นางหาอีเมล์จากประกันไม่เจอ ก้อยังขอให้เราจ่ายก่อน เพราะจะเอาหมายเลข Case ไปคีย์ในระบบจะได้ไม่ต้องสำรองจ่าย จากนั้นก็ เหมือนเดิมครับ โทร CC จึงได้หมายเลข Case มา และเป็นการติดต่อกับ CC ครั้งสุดท้าย
พนักงาน รพ. กลับมายิ้ม "โอเคค่ะ เรียบร้อยแล้ว เชิญห้องตรวจเลยค่ะ" จริงๆ นางบริการดีครับ Service Mind และ Mind Set ดีมาก เพียงแต่ไม่อยู่ในหน้าที่รับผิดชอบนั้น เลยไม่ถนัด
เข้าห้องตรวจ เจอ แพทย์หญิงอายุราวๆ 50 ปี แต่พูดภาษาอังกฤษ คล่องและใช้ศัพท์ง่าย เข้าใจมากๆครับ (ก็ยัง รู้สึกขอบคุณประกัน ที่เลือก รพ. นี้ให้เราอยู่ดี) ใจดีมาก เขาก็เคยมาเที่ยวไทย 3-4 ครั้งอีก คุณหมอบอก ชอบประเทศไทย มากๆ
สุดท้าย ได้ยา มีบิลค่าใช้จ่าย คิดเป็นเงินไทย เกือบ 7000 บาทครับ แต่ไม่ต้องจ่าย เลิศศศศศศ
ขอ สรุป ว่า
1. ประกันการเดินทางต่างประเทศ Cigna แบบไม่ต้องสำรองจ่าย ดีมากๆ ช่วยเหลือทุกขั้นตอน ทุกเวลา ผมแอบมีดราม่าเล็กๆกับ CC ว่า "อย่าทิ้งผมกับภรรยานะ ไม่รู้จะพึ่งใครแล้ว" CC ตอบแบบหล่อๆว่า "ไม่ต้องห่วงนะครับ ติดต่อมาได้ตลอดเลย ติดตรงไหนก็โทรมาเลยครับ" ไม่ได้โทรไปขอบคุณเลยครับ เพราะไม่รู้จะไปขอบคุณที่ใคร
ขอใช้พื้นที่นี้ ขอบคุณนะครับ
2. ประกันยี่ห้ออื่นก้อมี แบบไม่ต้องสำรองจ่าย และขอแนะนำทุกท่านว่า
ไม่ว่าจะบริษัทอะไรก้อชั่ง เลือกแบบไม่ต้องสำรองจ่ายเถอะครับ จะดีมากๆ ไม่เป็นปัญหาเรื่องเงินระหว่างเดินทางด้วย
3. รพ. ที่ประกันเลือกมาก็ดีมากๆครับ เพียงแต่เราไปผิดเวลา เลยติดอุปสรรคด้านภาษากัน แต่เขาก็ตั้งใจบริการ จนสำเร็จ ไม่งอแง ครับ ได้ฉลากยา เป็นภาษาอังกฤษ ชัดเจน และดีมากๆ หมอย้ำว่า "หากใช้ยาแล้ว หรือกลับไปโรงแรมแล้ว มีอาการฉุกเฉินใดๆ โทรแจ้งได้เลยนะ จะให้รถฉุกเฉินไปรับ ฟรี" ดีมากๆครับ
4. ไม่ค่อยได้พูดถึงภรรยาเลย เพราะ ระหว่างนั้น เขาอาการไม่ดี ไม่รู้เรื่องละครับ เพลีย จะหลับ ตลอดเวลา
5. อาการดีขึ้น วันต่อมา เที่ยวต่อ จนจบทริปครบ 5 วัน ครับ
ขอบคุณครับ จบการแชร์/รีวิว ประสบการณ์การเคลมค่ารักษาพยาบาล ขณะเดินทาง โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ครับ
ขอแชร์ประสบการณ์ การเคลมประกันการเดินทางต่างประเทศ โดยไม่ต้องสำรองเงินครับ
1. กระทู้นี้ไม่มีรูป อาจจะน่าเบื่อ แต่อยากแชร์ประสบการณ์ เพราะ กำลังอ่านเรื่องประกันการเดินทางในพันทิป ส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีใครได้เคลมระหว่างเดินทางกัน อาจจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่าน ครับ (ที่สำคัญลืมถ่ายรูป เพราะกำลังหน้าสิวหน้าขวาน)
2. ผมไม่ได้ขายประกัน ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรทั้งสิ้นครับ
3. เหตุการณ์เกิดเมื่อต้นปี 2562/2019 ที่ไต้หวัน ประกันของ Cigna แบบไม่ต้องสำรองจ่าย เดินทาง 5 วัน เที่ยวไทเปอย่างเดียว ครับ
เริ่มเลยนะจ๊ะ
ผม ภรรยา และเพื่อนๆ เดินทางไป 4 คน (2 คู่รัก) วันที่ 3 ของการเดินทาง ภรรยาดันป่วย เป็นไข้หวัด ตัวร้อน วิงเวียน มีน้ำมูก เจ็บคอหนักมาก จนไม่สามารถจะเที่ยวต่อ หรือทำอะไรได้เลยครับ มีแต่ต้องไปรพ.เท่านั้น หรือนอนรอวันกลับ ความหฤหรรษ์จึงเกิดขึ้นครับ
ผมจึงโทรปรึกษาประกัน ตามเบอร์ Call Center ที่ Cigna แจ้งรายละเอียด แจ้งปัญหา ตามขั้นตอนไป เพื่อจะเข้ารักษาพยาบาล (ขอไม่อธิบายรายละเอียดระหว่างพูดคุยมาก เพราะลืมครับ)
Call Center (CC) โอเคและแจ้งว่า "เข้าได้เลยครับ ที่ไหนก็ได้ สำรองจ่ายก่อน เบิกตามจริงจ่ายไม่เกินกรมธรรม์ (ตามกรมธรรม์เป็นล้าน คงไม่รักษาขนาดนั้นมั้ง)" รู้สึกอุ่นใจ แต่พึ่งนึกขึ้นได้ว่า
ผมไม่มีเงินถุงเงินถังขนาดนั้น หากค่ารักษา ฟาดมา หลายหมื่น ทำไงวะ ไม่มีสำรองจ่าย แต่ลืมไปว่า มีแบบ ไม่ต้องสำรองจ่าย เลยสอบถาม CC
ปรากฏว่า รพ.ที่ไม่ต้องสำรองจ่าย ซึ่งอยู่ในสัญญาระหว่างบริษัทฯ มีอยู่ที่เดียวในเมืองนั้น คือ โรงพยาบาล Taiwan Adventist Hospital
ซึ่งในระหว่างนั้นค้นหาใน Google Map มีรพ.ของมหาวิทยาลัยคณะแพทย์ ใหญ่มาก อารมณ์ รามา หรือศิริราช (น่าจะเชื่อมั่นได้กว่า) แต่ต้องสำรองจ่ายเองครับ นั้นแหละปัญหา เลยไม่ได้ไป ไหนจะกลัวเรื่องเอกสารที่เคลมไม่ได้อีก
เลยยอมไป Taiwan Adventist Hospital ไม่ซีเรียสกับอีกตัวเลือกหนึ่ง เพราะ ระยะทางพอๆกัน เอาประหยัดไว้ก่อนละกัน ชัวร์ๆ
ระหว่างเดินทาง ผมคุยกับ CC ขอทราบชื่อพนักงาน เขาก้อแจ้งชื่อไว้ เพราะผมต้องวางสาย โทรกลับมาใหม่จะได้สานเรื่องต่อได้ ประกันไฟเขียวครับ
ถึง รพ. แล้ว ปรากฎว่าเป็น รพ. มีมาตรฐาน ทันสมัยมาก ที่สำคัญเน้นรองรับชาวต่างชาติ มีฝรั่งเดินออกจากรพ.พึ่งเสร็จธุระ เป็นรพ.ในเครือของศาสนาคริสต์ในไต้หวันครับ ป้ายบอกนั้นนี้ในรพ.เป็นภาษาอังกฤษคู่กับจีน (ต่างจากอีกรพ.ซึ่งดูจากในภาพแล้ว คงจะยาก เพราะ เน้นภาษาจีนรองรับคนบ้านเขาอะครับ)
เหมือนจะราบลื่น แต่มีอุปสรรค มาแล้วครับ เคาเตอร์รองรับชาวต่างชาติ ปิด (ตอนนั้นไปเวลาค่ำของวันเสาร์ ก้อไม่แปลก) คนที่นั่งเคาเตอร์ 3 คน มีคนเดียวที่พูดภาษาอังกฤษได้ แต่ไม่คล่อง
และยังบอกให้เราสำรองค่าใช้จ่ายก่อนเถอะ (อารมณ์แบบไม่ถนัดงานต่างประเทศ ขี้เกียจเดินเรื่อง ภาษาก้อไม่ถนัด)
เราเลยถามว่า "ประกันของฉัน เขาบอกที่นี่ไม่ต้องสำรองจ่าย ทำไมฉันต้องจ่าย"
พนักงาน รพ. ตอบ "แผนกต่างประเทศ ปิด คุณจึงต้องสำรองก่อน"
เราไม่มีทางเลือก จึงโทรหา CC ประกัน และได้เล่าปัญหา "เขาให้ผมจ่าย" "ผมไม่สะดวก" "ไม่มีเงินมาเยอะ" "ทำไมต้องจ่ายก่อน" ประเด็นที่เราแจ้ง CC ก็ประมาณนี้ครับ
CC ขอสาย พนักงาน รพ. ครับ เนื้อหาใจความยังไงไม่ทราบ แต่วางสายแล้ว พนักงานของ รพ. แจ้งว่า "โอเค คุณไม่ต้องจ่าย รอสักครู่ ประกันกำลังส่งรายละเอียดมา" อยากกรี๊ด เป็นภาษาอินเดียมาก CC สุดยอดมากครับ ทีเดียว รู้เรื่อง และ CC คนนี้กำลังออกเวร แต่ส่งต่อเรื่องให้อีกคน ประสานต่อกันได้ดีมาก ไม่มีสะดุด ครับ
ระหว่างสื่อสารกันไปมา ทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ ผม ประกัน และ รพ. ด้วยภาษาอังกฤษ อันงูๆปลาๆ โดย เฉพาะ พนักงาน รพ. จะขอ boarding pass ขามาของเรา ยังพูดไม่ได้เลยครับ จึงเปิดเอกสารเดินทางให้เลือก (เออ เลือกเลยจะเอาอันไหน-ไม่ได้พูด แต่บ่นในใจ)
ยังไม่จบจ้า พนักงาน รพ. นางหาอีเมล์จากประกันไม่เจอ ก้อยังขอให้เราจ่ายก่อน เพราะจะเอาหมายเลข Case ไปคีย์ในระบบจะได้ไม่ต้องสำรองจ่าย จากนั้นก็ เหมือนเดิมครับ โทร CC จึงได้หมายเลข Case มา และเป็นการติดต่อกับ CC ครั้งสุดท้าย
พนักงาน รพ. กลับมายิ้ม "โอเคค่ะ เรียบร้อยแล้ว เชิญห้องตรวจเลยค่ะ" จริงๆ นางบริการดีครับ Service Mind และ Mind Set ดีมาก เพียงแต่ไม่อยู่ในหน้าที่รับผิดชอบนั้น เลยไม่ถนัด
เข้าห้องตรวจ เจอ แพทย์หญิงอายุราวๆ 50 ปี แต่พูดภาษาอังกฤษ คล่องและใช้ศัพท์ง่าย เข้าใจมากๆครับ (ก็ยัง รู้สึกขอบคุณประกัน ที่เลือก รพ. นี้ให้เราอยู่ดี) ใจดีมาก เขาก็เคยมาเที่ยวไทย 3-4 ครั้งอีก คุณหมอบอก ชอบประเทศไทย มากๆ
สุดท้าย ได้ยา มีบิลค่าใช้จ่าย คิดเป็นเงินไทย เกือบ 7000 บาทครับ แต่ไม่ต้องจ่าย เลิศศศศศศ
ขอ สรุป ว่า
1. ประกันการเดินทางต่างประเทศ Cigna แบบไม่ต้องสำรองจ่าย ดีมากๆ ช่วยเหลือทุกขั้นตอน ทุกเวลา ผมแอบมีดราม่าเล็กๆกับ CC ว่า "อย่าทิ้งผมกับภรรยานะ ไม่รู้จะพึ่งใครแล้ว" CC ตอบแบบหล่อๆว่า "ไม่ต้องห่วงนะครับ ติดต่อมาได้ตลอดเลย ติดตรงไหนก็โทรมาเลยครับ" ไม่ได้โทรไปขอบคุณเลยครับ เพราะไม่รู้จะไปขอบคุณที่ใคร ขอใช้พื้นที่นี้ ขอบคุณนะครับ
2. ประกันยี่ห้ออื่นก้อมี แบบไม่ต้องสำรองจ่าย และขอแนะนำทุกท่านว่า ไม่ว่าจะบริษัทอะไรก้อชั่ง เลือกแบบไม่ต้องสำรองจ่ายเถอะครับ จะดีมากๆ ไม่เป็นปัญหาเรื่องเงินระหว่างเดินทางด้วย
3. รพ. ที่ประกันเลือกมาก็ดีมากๆครับ เพียงแต่เราไปผิดเวลา เลยติดอุปสรรคด้านภาษากัน แต่เขาก็ตั้งใจบริการ จนสำเร็จ ไม่งอแง ครับ ได้ฉลากยา เป็นภาษาอังกฤษ ชัดเจน และดีมากๆ หมอย้ำว่า "หากใช้ยาแล้ว หรือกลับไปโรงแรมแล้ว มีอาการฉุกเฉินใดๆ โทรแจ้งได้เลยนะ จะให้รถฉุกเฉินไปรับ ฟรี" ดีมากๆครับ
4. ไม่ค่อยได้พูดถึงภรรยาเลย เพราะ ระหว่างนั้น เขาอาการไม่ดี ไม่รู้เรื่องละครับ เพลีย จะหลับ ตลอดเวลา
5. อาการดีขึ้น วันต่อมา เที่ยวต่อ จนจบทริปครบ 5 วัน ครับ
ขอบคุณครับ จบการแชร์/รีวิว ประสบการณ์การเคลมค่ารักษาพยาบาล ขณะเดินทาง โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ครับ