สะพานลอยข้ามฟากกลายเป็นที่หลบจากแสงแดดยามบ่ายแต่ถึงอย่างนั้นอุณหภูมิก็พอที่จะทำให้มีเหงื่อซึมตรงแผ่นหลังของบอมม์ซึ่งมาถึงที่หมายก่อนเวลาอยู่หลายนาที
"รอนานป่าว" เสียงทักจากข้างหลังทำเอาคนที่ยืนนิ่งทอดสายตาเหม่อลอยสะดุ้งตกใจ "ขอโทษที ไม่คิดว่าจะทำให้ตกใจ"
"ไม่เป็นไร พอดีเรากำลังคิดอะไรเพลินๆ ไปหน่อย"
"เหงื่อท่วมตัวเลยเข้าไปตากแอร์ในห้างกันเถอะ" มอคค่ามองรอยเหงื่อที่ซึมออกมาบนเสื้อยืดแล้วรีบคว้าแขนอีกฝ่ายให้เดินตาม
บอมม์เดินตามอีกฝ่ายไปอย่างว่าง่ายสายตามองมือที่เลื่อนลงมาจับประสานกับมือตัวเอง แม้จะมีความเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในห้างแต่บอมม์ก็ยังรู้สึกร้อนผ่าวตามหัวใจที่เต้นแรง คงเป็นเพราะบอมม์ขยับมือซึ่งจับกันไว้ให้แน่นกว่าเดิมมอคค่าจึงเพิ่งจะรู้ตัวว่าเผลอจับมืออีกคนอยู่แต่ถึงอย่างนั้นฝ่ามือของคนตัวเล็กกว่าก็ยังประสานกันอยู่อย่างนั้นไม่คิดจะเลื่อนหรือสลัดหนี
เวลาผ่านไปกว่าชั่วโมงทำให้ความรู้สึกที่เคยหายไประหว่างทั้งคู่กลับมาเติมเต็มอีกครั้งแม้จะยังไม่เหมือนที่เคยเป็นเสียทั้งหมดก็ตาม
"ซื้อเยอะขนาดนี้กะว่าจะไม่ออกจากห้องเลยหรือไง" บอมม์พูดแซวพร้อมรีบหยิบถุงใส่ของมาถือไว้เองเกือบหมด
"ทีแรกกะว่าจะมาซื้อแค่ชั้นวางของแต่ดันหยิบอย่างอื่นมาซะเยอะแยะเลย" มอคค่ามองของใช้มากมายที่ไม่รู้ว่าไปหยิบมาตั้งแต่ตอนไหน
"งั้นเดี๋ยวเราไปส่ง"
"ไม่เป็นไร แค่มาเดินด้วยกันก็เกรงใจจะแย่แล้ว"
"ตัวแค่นี้จะไปขนของหมดนี่ได้ยังไงกัน ให้เราช่วยล่ะดีแล้ว"
"ครับ คนตัวใหญ่" มอคค่าลากเสียงยาวอดอมยิ้มไม่ได้
แกร๊ก
"เข้ามาข้างในก่อนสิ" มอคค่าหันไปเรียกคนที่ยืนเก้กังอยู่นอกประตู
"เข้าไปได้หรอ"
"ได้สิ จะไปคิดมากทำไมผู้ชายเหมือนกันไม่มีอะไรเสียหายหรอก"
บอมม์ยิ้มแห้งเดินเข้าไปในห้องตามคำชวน
'นั่นสิ ผู้ชายเหมือนกันจะไปคิดมากทำไม' เสียงจากความรู้สึกแวบขึ้นในความคิด
เวลาของความสุขมักผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชั้นวางของถูกประกอบเป็นรูปร่างด้วยคนสองคนข้าวของที่รื้อออกมาถูกจัดให้เป็นระเบียบเหลือเพียงของใช้ไม่มากมายนักวางกองในถุงขากห้างสรรพสินค้าตรงมุมห้อง
"เสร็จสักที ขอบคุณที่มาช่วยนะงั้นเย็นนี้ให้เราเลี้ยงข้าวบอมม์นะ"
"ไม่เป็นไร"
"ห้ามปฏิเสธ ขอตัวไปล้างหน้าแป๊ปเดียว" มอคค่าพูดขัดอย่างรู้ทัน
บอมม์พยักหน้ารับพลางขยับตัวเองไปนั่งตรงโซฟาตัวยาวทอดสายตามองออกไปนอกระเบียง จากแดดยามบ่ายกลายเป็นเเสงอ่อนยามเย็มความเหนื่อยเพลียประกอบกับความเย็นของแอร์ทำให้ดวงตาอ่อนล้าเริ่มเคลิ้มปิดลงจนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
"เสร็จแล้ว บอมม์ไปล้างหน้าหน่อยมั้ยจะได้สดชื่น..." มอคค่าลดเสียงตัวเองลงเพราะเห็นอีกฝ่ายผลอยหลับไป
"เหนื่อยก็ไม่บอก คิดถึงแต่คนอื่นมากกว่าตัวเองไม่เปลี่ยนเลยนะ"
มอคค่าหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปไว้และรู้สึกถึงบรรยากาศที่เคยหายไปกำลังกลับคืนมา
นานแค่ไหนแล้วนะที่ความรู้สึกแบบนี้มันหายไปจากความทรงจำ
มอคค่าเดินเบาๆ ไม่ให้เกิดเสียงรบกวนไปนั่งตรงมุมโซฟาตัวเดียวกันพร้อมนิยายเล่มโปรด
'กว่าบอมม์จะตื่นคงอ่านไปได้หลายหน้า'
มอคค่าคิดแต่เปิดอ่านไปได้ไม่กี่หน้าลำตัวที่พิงในท่านั่งของอีกคนก็ค่อยๆ ไถลลงไปนอนหนุนตักคนที่เพิ่งเข้ามานั่งได้องศาที่พอเหมาะ
ตึก ตัก ตึก ตัก
หัวใจของมอคค่าเต้นถี่รัวแม้สีหน้าจะไม่แสดงอาการออกมา หนังสือเปิดผ่านแบบจับใจความไม่ได้จนต้องตัดสินใจปิดหนังสือแล้วค่อยๆ เลื่อนบอมม์ให้นอนหนุนบนหมอนใบเล็กก่อนจะลุกขึ้นไปคว้ากุญแจห้องแล้วออกจากห้องไป
แกร๊ก
มอคค่าเปิดประตูห้องมาอีกครั้งก็เจอกับบอมม์นั่งกระพริบตาปริบๆ มองตัวเองอยู่บนโซฟา
"ไปไหนมาหรอ"
"ก็ไปซื้อของกินมาให้ไง"
"ขอโทษนะที่เราเผลอหลับแถมยังทำให้มอคค่าต้องลำบากไปซื้อของกินมาให้อีก" น้ำเสียงบอมม์รู้สึกผิด
"ลำบากที่ไหนกัน อีกอย่างเราควรเป็นฝ่ายขอโทษมากกว่าที่ลากบอมม์ไปเหนื่อยจนมาเผลอหลับแบบนี้" มอคค่าว่าพลางจัดแจงของกินที่ซื้อมา
"แต่เรา..."
"ช่างเถอะ ไม่ต้องคิดอะไรมากมากินข้าวกันดีกว่า ลงมานั่งข้างล่างสิจะได้กินพร้อมกัน"
"ครับ" บอมม์เลื่อนตัวลงจากโซฟาไปนั่งบนพื้นตรงข้ามกับมอคค่า
"มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย" มอคค่ามองจานอาหารที่ดูเยอะเกินกว่าคนสองคนจะกินหมด
พรึ่บ
ไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้เริ่มมื้อเย็นไฟก็ดับลงมีเพียงแสงสว่างน้อยนิดจากข้างนอกส่องเข้ามาทางระเบียงให้พอมองเห็น
"ลืมไปเลยว่าวันนี้การไฟฟ้าประกาศจะตัดไฟเพราะมาซ่อมเสาไฟแถวหอ งั้นอยู่กับที่เฉยๆ นะ" มอคค่าลุกไปหยิบเทียนมาจุดวางไว้ตรงกลางโต๊ะ กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยออกจากเปลวไฟของเทียนหอมสีอ่อนละมุน
"สวยดีนะ" บอมม์พูด
"ซื้อมาตั้งนานเพิ่งได้ใช้ประโยชน์ก็วันนี้แหละ ชอบหรอ" มอคค่าหยิบเทียนมาจุดอีกอันแล้วส่งไปให้คนตรงข้าม
"หอมดีจัง" บอมม์ก้มสูดกลิ่นจากเทียนซึ่งวางอยู่กลางฝ่ามือของมอคค่าก่อนจะซ้อนฝ่ามือตัวเองจับมืออีกฝ่ายไว้จากข้าง
มอคค่าได้แต่ยิ้มอ่อนๆ สายตามองไปมาอย่างคนทำตัวไม่ถูกก่อนที่บอมม์จะหยิบเอาเทียนลงไปวางกลางโต๊ะ
แสงจากเปลวไฟเล็กๆ สร้างบรรยากาศรอบตัวให้ดูอบอุ่นบวกกับกลิ่นละมุนยิ่งสร้างบรรยากาศราวกำลังทานอาหารใต้แสงเทียน
ช่างเป็นบรรยากาศที่โรแมนติคเสียจริงๆ
ยิ่งยามที่ดวงตาเผลอสบกันผ่านแสงเทียนสลัว รอยยิ้มที่ต่างฝ่ายต่างกดเอาไว้ข้างในก็เผยออกมา
"เรา...ดีใจนะที่เราสองคนได้กลับมาคุยกันอีก" มอคค่าพูด
"เรา...เอง...ก็...ดีใจนะที่ได้เจอมอคค่า เรา...ขอโทษนะ"
"ขอโทษทำไม"
"ก็ขอโทษที่ตอนนั้นเราทำตัวแย่ ขอโทษที่เราไม่ทัก ไม่คุย ทำตัวแปลกไปจากเดิม ขอโทษที่เราทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน เราขอโทษนะ" บอมม์พูดขอโทษซ้ำไปซ้ำมา
"เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ปล่อยมันไปเถอะอย่าไปคิดมากเลย แค่ตอนนี้เรารู้ว่ามีบอมม์อยู่ข้างๆ เหมือนที่เคยผ่านมาก็ดีใจแล้ว"
.....
มีเพียงความเงียบเคียงคู่กับแสงไฟสลัว
"หวังว่าคราวนี้คงไม่มีเสียงจากคนรอบข้าง ไม่มีเสียงของใครทำให้เราต้องกลายเป็นคนไม่รู้จักกันอีกนะ" มอคค่าพูดขึ้นทั้งยังก้มหน้า
"ครับ คราวนี้เราจะไม่ให้เป็นเหมือนที่ผ่านมา"
"กินข้าวกันเถอะ" มอคค่าพยายามเก็บอาการไว้แต่รอยยิ้มก็ยังแสดงออกมา
ไม่ต่างไปจากบอมม์ที่เก็บเอารอยยิ้มของความสุขเอาไว้ไม่อยู่
สุดท้ายทั้งคู่ก็ได้แต่ยิ้มออกมาจากความรู้สึกข้างในที่รู้สึกไม่ต่างกันราวเป็นรอยยิ้มของกันและกัน
My Roommate The Series : Friend EP06
"รอนานป่าว" เสียงทักจากข้างหลังทำเอาคนที่ยืนนิ่งทอดสายตาเหม่อลอยสะดุ้งตกใจ "ขอโทษที ไม่คิดว่าจะทำให้ตกใจ"
"ไม่เป็นไร พอดีเรากำลังคิดอะไรเพลินๆ ไปหน่อย"
"เหงื่อท่วมตัวเลยเข้าไปตากแอร์ในห้างกันเถอะ" มอคค่ามองรอยเหงื่อที่ซึมออกมาบนเสื้อยืดแล้วรีบคว้าแขนอีกฝ่ายให้เดินตาม
บอมม์เดินตามอีกฝ่ายไปอย่างว่าง่ายสายตามองมือที่เลื่อนลงมาจับประสานกับมือตัวเอง แม้จะมีความเย็นจากเครื่องปรับอากาศภายในห้างแต่บอมม์ก็ยังรู้สึกร้อนผ่าวตามหัวใจที่เต้นแรง คงเป็นเพราะบอมม์ขยับมือซึ่งจับกันไว้ให้แน่นกว่าเดิมมอคค่าจึงเพิ่งจะรู้ตัวว่าเผลอจับมืออีกคนอยู่แต่ถึงอย่างนั้นฝ่ามือของคนตัวเล็กกว่าก็ยังประสานกันอยู่อย่างนั้นไม่คิดจะเลื่อนหรือสลัดหนี
เวลาผ่านไปกว่าชั่วโมงทำให้ความรู้สึกที่เคยหายไประหว่างทั้งคู่กลับมาเติมเต็มอีกครั้งแม้จะยังไม่เหมือนที่เคยเป็นเสียทั้งหมดก็ตาม
"ซื้อเยอะขนาดนี้กะว่าจะไม่ออกจากห้องเลยหรือไง" บอมม์พูดแซวพร้อมรีบหยิบถุงใส่ของมาถือไว้เองเกือบหมด
"ทีแรกกะว่าจะมาซื้อแค่ชั้นวางของแต่ดันหยิบอย่างอื่นมาซะเยอะแยะเลย" มอคค่ามองของใช้มากมายที่ไม่รู้ว่าไปหยิบมาตั้งแต่ตอนไหน
"งั้นเดี๋ยวเราไปส่ง"
"ไม่เป็นไร แค่มาเดินด้วยกันก็เกรงใจจะแย่แล้ว"
"ตัวแค่นี้จะไปขนของหมดนี่ได้ยังไงกัน ให้เราช่วยล่ะดีแล้ว"
"ครับ คนตัวใหญ่" มอคค่าลากเสียงยาวอดอมยิ้มไม่ได้
แกร๊ก
"เข้ามาข้างในก่อนสิ" มอคค่าหันไปเรียกคนที่ยืนเก้กังอยู่นอกประตู
"เข้าไปได้หรอ"
"ได้สิ จะไปคิดมากทำไมผู้ชายเหมือนกันไม่มีอะไรเสียหายหรอก"
บอมม์ยิ้มแห้งเดินเข้าไปในห้องตามคำชวน
'นั่นสิ ผู้ชายเหมือนกันจะไปคิดมากทำไม' เสียงจากความรู้สึกแวบขึ้นในความคิด
เวลาของความสุขมักผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชั้นวางของถูกประกอบเป็นรูปร่างด้วยคนสองคนข้าวของที่รื้อออกมาถูกจัดให้เป็นระเบียบเหลือเพียงของใช้ไม่มากมายนักวางกองในถุงขากห้างสรรพสินค้าตรงมุมห้อง
"เสร็จสักที ขอบคุณที่มาช่วยนะงั้นเย็นนี้ให้เราเลี้ยงข้าวบอมม์นะ"
"ไม่เป็นไร"
"ห้ามปฏิเสธ ขอตัวไปล้างหน้าแป๊ปเดียว" มอคค่าพูดขัดอย่างรู้ทัน
บอมม์พยักหน้ารับพลางขยับตัวเองไปนั่งตรงโซฟาตัวยาวทอดสายตามองออกไปนอกระเบียง จากแดดยามบ่ายกลายเป็นเเสงอ่อนยามเย็มความเหนื่อยเพลียประกอบกับความเย็นของแอร์ทำให้ดวงตาอ่อนล้าเริ่มเคลิ้มปิดลงจนเผลอหลับไปโดยไม่รู้ตัว
"เสร็จแล้ว บอมม์ไปล้างหน้าหน่อยมั้ยจะได้สดชื่น..." มอคค่าลดเสียงตัวเองลงเพราะเห็นอีกฝ่ายผลอยหลับไป
"เหนื่อยก็ไม่บอก คิดถึงแต่คนอื่นมากกว่าตัวเองไม่เปลี่ยนเลยนะ"
มอคค่าหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปไว้และรู้สึกถึงบรรยากาศที่เคยหายไปกำลังกลับคืนมา
นานแค่ไหนแล้วนะที่ความรู้สึกแบบนี้มันหายไปจากความทรงจำ
มอคค่าเดินเบาๆ ไม่ให้เกิดเสียงรบกวนไปนั่งตรงมุมโซฟาตัวเดียวกันพร้อมนิยายเล่มโปรด
'กว่าบอมม์จะตื่นคงอ่านไปได้หลายหน้า'
มอคค่าคิดแต่เปิดอ่านไปได้ไม่กี่หน้าลำตัวที่พิงในท่านั่งของอีกคนก็ค่อยๆ ไถลลงไปนอนหนุนตักคนที่เพิ่งเข้ามานั่งได้องศาที่พอเหมาะ
ตึก ตัก ตึก ตัก
หัวใจของมอคค่าเต้นถี่รัวแม้สีหน้าจะไม่แสดงอาการออกมา หนังสือเปิดผ่านแบบจับใจความไม่ได้จนต้องตัดสินใจปิดหนังสือแล้วค่อยๆ เลื่อนบอมม์ให้นอนหนุนบนหมอนใบเล็กก่อนจะลุกขึ้นไปคว้ากุญแจห้องแล้วออกจากห้องไป
แกร๊ก
มอคค่าเปิดประตูห้องมาอีกครั้งก็เจอกับบอมม์นั่งกระพริบตาปริบๆ มองตัวเองอยู่บนโซฟา
"ไปไหนมาหรอ"
"ก็ไปซื้อของกินมาให้ไง"
"ขอโทษนะที่เราเผลอหลับแถมยังทำให้มอคค่าต้องลำบากไปซื้อของกินมาให้อีก" น้ำเสียงบอมม์รู้สึกผิด
"ลำบากที่ไหนกัน อีกอย่างเราควรเป็นฝ่ายขอโทษมากกว่าที่ลากบอมม์ไปเหนื่อยจนมาเผลอหลับแบบนี้" มอคค่าว่าพลางจัดแจงของกินที่ซื้อมา
"แต่เรา..."
"ช่างเถอะ ไม่ต้องคิดอะไรมากมากินข้าวกันดีกว่า ลงมานั่งข้างล่างสิจะได้กินพร้อมกัน"
"ครับ" บอมม์เลื่อนตัวลงจากโซฟาไปนั่งบนพื้นตรงข้ามกับมอคค่า
"มีแต่ของน่ากินทั้งนั้นเลย" มอคค่ามองจานอาหารที่ดูเยอะเกินกว่าคนสองคนจะกินหมด
พรึ่บ
ไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้เริ่มมื้อเย็นไฟก็ดับลงมีเพียงแสงสว่างน้อยนิดจากข้างนอกส่องเข้ามาทางระเบียงให้พอมองเห็น
"ลืมไปเลยว่าวันนี้การไฟฟ้าประกาศจะตัดไฟเพราะมาซ่อมเสาไฟแถวหอ งั้นอยู่กับที่เฉยๆ นะ" มอคค่าลุกไปหยิบเทียนมาจุดวางไว้ตรงกลางโต๊ะ กลิ่นหอมอ่อนๆ โชยออกจากเปลวไฟของเทียนหอมสีอ่อนละมุน
"สวยดีนะ" บอมม์พูด
"ซื้อมาตั้งนานเพิ่งได้ใช้ประโยชน์ก็วันนี้แหละ ชอบหรอ" มอคค่าหยิบเทียนมาจุดอีกอันแล้วส่งไปให้คนตรงข้าม
"หอมดีจัง" บอมม์ก้มสูดกลิ่นจากเทียนซึ่งวางอยู่กลางฝ่ามือของมอคค่าก่อนจะซ้อนฝ่ามือตัวเองจับมืออีกฝ่ายไว้จากข้าง
มอคค่าได้แต่ยิ้มอ่อนๆ สายตามองไปมาอย่างคนทำตัวไม่ถูกก่อนที่บอมม์จะหยิบเอาเทียนลงไปวางกลางโต๊ะ
แสงจากเปลวไฟเล็กๆ สร้างบรรยากาศรอบตัวให้ดูอบอุ่นบวกกับกลิ่นละมุนยิ่งสร้างบรรยากาศราวกำลังทานอาหารใต้แสงเทียน
ช่างเป็นบรรยากาศที่โรแมนติคเสียจริงๆ
ยิ่งยามที่ดวงตาเผลอสบกันผ่านแสงเทียนสลัว รอยยิ้มที่ต่างฝ่ายต่างกดเอาไว้ข้างในก็เผยออกมา
"เรา...ดีใจนะที่เราสองคนได้กลับมาคุยกันอีก" มอคค่าพูด
"เรา...เอง...ก็...ดีใจนะที่ได้เจอมอคค่า เรา...ขอโทษนะ"
"ขอโทษทำไม"
"ก็ขอโทษที่ตอนนั้นเราทำตัวแย่ ขอโทษที่เราไม่ทัก ไม่คุย ทำตัวแปลกไปจากเดิม ขอโทษที่เราทำเหมือนคนไม่รู้จักกัน เราขอโทษนะ" บอมม์พูดขอโทษซ้ำไปซ้ำมา
"เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ปล่อยมันไปเถอะอย่าไปคิดมากเลย แค่ตอนนี้เรารู้ว่ามีบอมม์อยู่ข้างๆ เหมือนที่เคยผ่านมาก็ดีใจแล้ว"
.....
มีเพียงความเงียบเคียงคู่กับแสงไฟสลัว
"หวังว่าคราวนี้คงไม่มีเสียงจากคนรอบข้าง ไม่มีเสียงของใครทำให้เราต้องกลายเป็นคนไม่รู้จักกันอีกนะ" มอคค่าพูดขึ้นทั้งยังก้มหน้า
"ครับ คราวนี้เราจะไม่ให้เป็นเหมือนที่ผ่านมา"
"กินข้าวกันเถอะ" มอคค่าพยายามเก็บอาการไว้แต่รอยยิ้มก็ยังแสดงออกมา
ไม่ต่างไปจากบอมม์ที่เก็บเอารอยยิ้มของความสุขเอาไว้ไม่อยู่
สุดท้ายทั้งคู่ก็ได้แต่ยิ้มออกมาจากความรู้สึกข้างในที่รู้สึกไม่ต่างกันราวเป็นรอยยิ้มของกันและกัน