๑ . คลื่นเลเห่กล่อมโพยมยามโศก สลด
แลผืนฟ้าจรดทะเลเห่ครืน คลื่นน้ำ
ฉ่ำหยาดฝนโปรยริน หาดทรายงาม
เปรียบกับน้ำนัยน์ตาสุดอา วรณ์
๒ . เห็นภาพอดีตในใจพี่สุด จะโศก
ยามลมพลิ้วโบกก็มีแค่เรา คู่กัน
ย่อมรับรู้กลิ่นกับรส ใต้แสงจันทร์
ภาพคืนนั้นราววาดวิมาน แมน
๓ . ...เห่กล่อมด้วยคลื่น คืนนั้น
สุขเกินฉันและเธอ จะเขินเก้อ
ลมรำเพยยังเผลอพร่ำ คำละเมอ
ยากรำพันสรรเพ้อ ถึงเธอครวญ…
๔ . อันจันทร์เฉิดแจ่มแต้มฟ้าบรรเจิด จรัส
หากยังไม่ชัดว่ารักที่ชื่น จะขื่นขม
งามหาดทรายริ้วรอย เคยภิรมย์
กลับคลื่นถม ลบรอยหาดทราย งาม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้** เป็นงานทดลองครับ แต่งคล้ายเพลง ที่ไม่เน้นฉันทลักษ์บังคับแบบกลอน(เช่น สัมผัสต่อบท)
แค่ยังคงคำสัมผัสที่ไม่บังคับตำแหน่งนัก
ไม่มีการบังคับจำนวนคำ ประมาณ ๘ ถึง ๑๑ แล้วแต่ประโยค
บทที่ ๓ เปรียบเสมือน สร้อยของเพลงครับ จำนวนคำและจังหวะอ่าน(ร้อง)จึงต่างกันเล็กน้อยครับ
...เห็นภาพอดีตในใจพี่สุด จะโศก...
๑ . คลื่นเลเห่กล่อมโพยมยามโศก สลด
แลผืนฟ้าจรดทะเลเห่ครืน คลื่นน้ำ
ฉ่ำหยาดฝนโปรยริน หาดทรายงาม
เปรียบกับน้ำนัยน์ตาสุดอา วรณ์
๒ . เห็นภาพอดีตในใจพี่สุด จะโศก
ยามลมพลิ้วโบกก็มีแค่เรา คู่กัน
ย่อมรับรู้กลิ่นกับรส ใต้แสงจันทร์
ภาพคืนนั้นราววาดวิมาน แมน
๓ . ...เห่กล่อมด้วยคลื่น คืนนั้น
สุขเกินฉันและเธอ จะเขินเก้อ
ลมรำเพยยังเผลอพร่ำ คำละเมอ
ยากรำพันสรรเพ้อ ถึงเธอครวญ…
๔ . อันจันทร์เฉิดแจ่มแต้มฟ้าบรรเจิด จรัส
หากยังไม่ชัดว่ารักที่ชื่น จะขื่นขม
งามหาดทรายริ้วรอย เคยภิรมย์
กลับคลื่นถม ลบรอยหาดทราย งาม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้