พระเจ้าโดยธรรม และ ภาวะก่อนปฐมกาล ตาม คุรุวาณี (พระธรรม) ของ ศาสนาซิกข์

มารู มหะละ 1 (ปหะละ) (ศ.ค.ค.ส. 1035)

สำหรับหลายล้านปีเหลือคณานับ
มีแต่ความมืดสลัว
ไม่มีแผ่นดิน ไม่มีท้องฟ้า
เว้นพระบัญชาชั่วนิรันดรของพระองค์ (พระเจ้า)
ไม่มีกลางวัน ไม่มีกลางคืน
ไม่มีดวงอาทิตย์ ไม่มีดวงจันทร์
มีเพียงพระองค์อยู่ในสมาธิ ความว่างเปล่าของพระองค์เอง ||1||

[คำอธิบาย: พระองค์ไร้รูปลักษณ์ทุกประการ
ไม่มีการปรากฎการณ์ใดๆ การมีรูปลักษณ์
เสมือนกับการมีขอบเขตจำกัด
(to have form is to be finite)
ธาตุแท้ของพระองค์ คือความว่างเปล่า
ส่วน รูปลักษณ์เป็นคุณสมบัติของมายา]

ตอนนั้น ไม่มีแหล่งกำเนิด ไม่มีพลังวจนะ
ไม่มีน้ำ ไม่มีลมอากาศ
ไม่มีการสร้างสรรค์ หรือ การทำลาย
ไม่มีการไป ไม่มีการมา
(ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิด)
ไม่มีขอบเขต ไม่มีบาดาล
ไม่มีทั้งเจ็ดมหาสมุทร ไม่มีสายแม่น้ำใด ||2||

ตอนนั้น ไม่มีสวรรค์ มัชฌิม และ บาดาล
ไม่มีสวรรค์ ไม่มีนรก
ไม่มีความตาย ไม่มีกาลเวลา
ไม่มีสวรรค์ ไม่มีนรก (ตามอิสลาม)
ไม่มีใครเกิด ไม่มีใครตาย
ไม่มีใครมา ไม่มีใครไป
(ไม่มีวัฏจักรใดๆ ทั้งสิ้น) ||3||

ตอนนั้น ไม่มีพระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ
ไม่มีใครเลย เว้นเอกพระองค์เท่านั้น
ไม่มีบุรุษ ไม่มีสตรี
ไม่มีชาติ ชนชั้น วรรณะ
ไม่มีใครประสบความสุข
ไม่มีใครประสบความทุกข์ ||4||

ไม่มีการถือโสดหรือศีล
ไม่มีการถือสันโดษหรืออยู่ในป่า
ไม่มีนักสิทธ์ (ฤษี) หรือ นักศึกษา
ไม่มีใครดำรงชีวิตอย่างสุขสบาย
ไม่มีใครเป็นโยคี ไม่มีใครแสวงหาบุญ
ไม่มีใครแต่งกายตามลัทธิ
ไม่มีใครกล่าวตนเป็นอาจารย์ ||5||

ตอนนั้น ไม่มีมนตร์ให้สวด
ไม่มีตบะให้บำเพ็ญ
ไม่มีระเบียบวินัยให้ฝึกฝน
ไม่มีการอดอาหาร ไม่มีการบูชา
ไม่มีใครพูดถึงความเป็นสอง (มายา)
มีเพียงพระองค์เบิกบาน ร่าเริงอยู่โดยพระองค์เอง
มีเพียงพระองค์ ประเมินคุณค่าของพระองค์เอง ||6||

ตอนนั้น ไม่มีการชำระล้างบาป
ไม่มีศีลวินัย ไม่มีสร้อยลูกประคำ
ไม่มีเหล่าหญิงเลี้ยงโค ไม่มีพระกฤษณะ
ไม่มีเหล่าโคและโคบาล (คนเลี้ยงโค)
ไม่มีตันตระ (Tantra) หรือ มนตร์ (Mantra)
ไม่มีการหลอกลวง ไม่มีใครเป่าขลุ่ย ||7||

ไม่มีพฤติกรรม ไม่มีศาสนา
ไม่มีแมลงวันแห่งมายา
ไม่มีชั้นวรรณะ ไม่มีการเกิด
ไม่มีใครหลงใหลในมายา
ไม่มีความตายลิขิตบนหน้าผากใคร
ไม่มีใครทำสมาธิบนสิ่งใดหรือผู้ใดทั้งสิ้น ||8||

ตอนนั้น ไม่มีการนินทา ไม่มีเมล็ด ไม่มีเชื้อ
ไม่มีสิ่งมีชีวิต ไม่มีชีวิตเลย
ไม่มีโยคีโคราฆ (Gorakh) ไม่มีโยคีมาชินทรา
ไม่มีใครเข้าฌาน
ไม่มีสติปัญญา ความรอบรู้ประจักษ์
ไม่มีวงศ์ตระกูลใด
ไม่มีการสร้างสรรค์ใด
ไม่มีบัญชี (กรรม) ใดๆ ให้ชำระ ||9||

ไม่มีชนชั้น ไม่มีการแต่งกายตามลัทธิ
ไม่มีพราหมณ์ ไม่มีกษัตริย์
ไม่มีเหล่าเทพเทวา ไม่มีปูชนิยสถาน
ไม่มีโค ไม่มีเวทมนตร์พระกายาตรี (Gayatri)
ไม่มีโหมกรรม (Homa) ไม่มีงานสมโภช
ไม่มีการชำระล้างบาปที่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ใดๆ
ไม่มีพิธีบูชาใดๆ เลย ||10||

ไม่มีอิหม่าม ไม่มีชีค
ไม่มีใครไปประกอบพิธีฮัจย์
ไม่มีราชา ไม่มีประชา
ไม่มีใครอวดดีทางโลก
ไม่มีใครพูดถึงตัวเอง ||11||

ไม่มีการอุทิศตัว
ไม่มีจิตใจ หรือ ความรู้สึกนึกคิด
ไม่มีสสาร ไม่มีพลังงาน
ไม่มีเพื่อนรัก ไม่มีน้ำอสุจิ ไม่มีโลหิต
มีเพียงพระองค์ผู้เป็นเจ้ามือและผู้แจกจ่าย
เช่นนี้ คือพระประสงค์ของพระองค์ผู้เที่ยงแท้
ณ ตอนนั้น ||12||

ตอนนั้น ไม่มีคัมภีร์พระเวท ไบเบิล หรือ กุรอ่าน
ไม่มีเหล่าคัมภีร์ สมฤติ และ ธรรมศาสตร์ต่างๆ
ไม่มีการท่องบทสวดใด
จากเหล่าคัมภีร์ ปุราณะ เช่นกัน
ตอนนั้น ไม่มีตะวันออก ไม่มีตะวันตก
มีเพียงพระองค์ ผู้ทรงอยู่เหนือประสาทสัมผัส
เป็นพระผู้ชี้แจงอยู่โดยพระองค์เอง
ตอนนั้น มีเพียงพระผู้ ซึ่งไม่มีใครมองเห็นได้
มองเห็นทุกอย่างอยู่โดยพระองค์เอง ||13||

เมื่อพระองค์เกิดพระประสงค์ โลกจึงถูกสร้างขึ้น
ทรงพิทักษ์เอกภพอย่างไร้พลังสนับสนุนใด
ทรงสร้างพระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ
และ ส่งเสริมความหลงใหลในมายา ||14||

ด้วยพระเมตตากรุณาของสัจจะคุรุ (พระเจ้า)
น้อยคนมาก ได้รับฟังพระโองการของพระองค์
ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งมวลและพิทักษ์มัน
ซึ่ง อยู่ภายใต้พระบัญชาของพระองค์ทั้งมวล
ทรงสร้างบริเวณ พรหมาณฑ์ (จักรวาล) บาดาล
และปรากฎสิ่งลี้ลับให้เห็น ||15||

ไม่มีใครสามารถทราบขอบขีดจำกัดของพระองค์
ความเข้าใจนี้ ล้วนได้รับจากพระครูผู้สมบูรณ์เท่านั้น
โอ้ นานัก ผู้ใดปรับตนให้สอดคล้องกับความเที่ยงแท้ของพระองค์ ผู้นั้นดำรงอยู่ในมหัศจรรย์ (ของพระองค์)
เขาเปี่ยมล้นด้วยความมหัศจรรย์ของพระองค์
เวลาขับร้องสดุดีคุณนามความดีของพระองค์ ||16||3||15||

====================================
มารู มหะละ 1 (ปหะละ) (ศ.ค.ค.ส 1037)

(จากที่ไม่มีรูปร่าง ตัวตน หรือ ปรากฏการณ์ใด ๆ ของพระองค์ จากที่ไม่สามารถมองเห็นพระองค์ได้)
ด้วยพลังทักษะแห่งความว่างเปล่า (นี้ ซึ่ง เป็นภาวะธาตุแท้) ของพระองค์
ทรงสวมบทบาทในการเป็นเอก พระผู้ไร้ขอบเขต (เป็นพระเจ้า) โดยพระองค์เอง
ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งมวล และสังเกตดูสิ่งที่ทรงสร้าง
จากความว่างเปล่าที่ไม่มีอะไรเลย
(จากที่ไม่มีพื้นที่ว่างเปล่าเช่นกัน)
ทรงสร้างความว่างเปล่าขึ้นมา (อากาศธาตุ / พื้นที่ว่างเปล่า) ||1||

จากความว่างเปล่านี้ ทรงสร้างอากาศ (ลม) และน้ำ
ทรงสฤษฏ์เอกภพและสถาปนา ราชา (จิตใจ / ความรู้สึกนึกคิด) ในปราสาทของร่างกายขึ้นมา
ไฟ น้ำ และ ชีวิต ล้วนเป็นพระโชติของพระองค์
อำนาจแห่งการสร้างสรรค์ของพระองค์
อาศัยศิลป์แห่งความว่างเปล่าของพระองค์ ||2||

จากที่ไม่มีอะไรเลย พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ
ถูกสร้างขึ้น
จากความว่างเปล่า ทุกยุคได้ปรากฏขึ้น
ผู้นั้นรอบรู้สมบูรณ์ ผู้ใดไตร่ตรองถึงภาวะนี้
การพบปะกับผู้นั้น สามารถขจัดความสงสัยออกไปหมดได้ ||3||

จากความว่างเปล่า ทรงสร้างทะเลทั้งเจ็ดมหาสมุทร
ทรงไตร่ตรองในสิ่งที่ทรงสร้าง
มนุษย์ผู้ใด ชำระล้างในสระแห่งสัจธรรม (ในพระองค์)
และกลายมาเป็น คุรุมุค (สาวกของพระองค์)
ไม่ต้องเวียน ว่าย ตาย เกิด อีกต่อไป ||4||

จากความว่างเปล่า ดวงอาทิตย์
และดวงจันทร์ในท้องฟ้า ถูกสร้างขึ้น
แสงสว่างของพระองค์ ขจรไปทั่วทั้งตรีภพ
ไม่สามารถมองเห็นพระแห่งความว่างเปล่าได้
ทรงไร้ขอบเขตและอยู่เหนือผลกระทบใดๆ ของโลก
ทรงเข้าฌานอย่างสุขสำราญในความว่างเปล่าของพระองค์เอง ||5||

จากความว่างเปล่า แผ่นดินและท้องฟ้าถูกสร้างขึ้น
ด้วยพลังทักษะเที่ยงแท้ของพระองค์
ทรงคงมันไว้โดยไร้เสาค้ำใดๆ
ทรงสร้างทั้งตรีภพ และ เชือกแห่งมายา
พระองค์เอง เป็นทั้งพระผู้สร้าง และ ผู้ทำลาย ||6||

จากความว่างเปล่า แหล่งกำเนิด (ทั้งสี่
เช่น จากปากช่องคลอด จากไข่ จากดิน
และจากความชื้น) ถูกสร้างขึ้น
จากความว่างเปล่า พลังวจนะถูกสร้างขึ้น
ทุกอย่าง ซึ่ง อุบัติขึ้นจากความว่างเปล่า
จะสมานสู่ความว่างเปล่าเหมือนเดิม เช่นกัน
พระองค์เป็นผู้สร้างพืชพันธุ์ทั้งมวล (ธรรมชาติ)
ทรงเปิดเผยละครแห่งมหัศจรรย์ของพระองค์
โดยโองการพระคำเดียวของพระองค์ให้ประจักษ์เห็น ||7||

จากความว่างเปล่า ทรงทำให้เกิดกลางวันและกลางคืน
การสร้างสรรค์และการทำลาย
ความสุขและความทุกข์
ซึ่ง สาวกของคุรุ (พระองค์) จะนิ่ง เป็นอมตะ
อยู่เหนือความสุขและความทุกข์เหล่านี้
ในขณะที่ดำรงอยู่ในเรือนร่างของตน ||8||

(พระเวททั้งสี่ เช่น) ฤค สาม ยชุร และ อาถรรพ
ซึ่ง โองการโดยเทพพระพรหม
มักเน้นถึงสามสภาวะหรืออำนาจของมายาเท่านั้น
[1. สัตวะคุณ (ความดี ความสร้างสรรค์ ความกลมกลืน)
2. ราชัสคุณ (ความหลงใหล ความคล่องแคล่ว ความสับสน) และ 3. ตามัสคุณ (ความมืด การทำลาย การขัดขืน ความชั่ว)]
แม้แต่คัมภีร์เดียว (ในทั้งสี่) ไม่สามารถบรรยาย
ถึงคุณค่าของพระองค์ (ผู้สร้างพระพรหม) ได้เลย
(เพราะ) เรา (ทุกคน ไม่เว้นใคร)
เพียงบรรยายเท่าที่พระองค์ทำให้เราพูดเท่านั้น ||9||

จากความว่างเปล่า ทรงสร้างบาดาลทั้งเจ็ดชั้น
จากความว่างเปล่า ทรงสร้างโลกนี้ขึ้นมา
เพื่อให้ใคร่ครวญในความรักของพระองค์
ทรงเป็นพระผู้ไร้ขอบเขต ผู้เป็นมูลเหตุและผู้สร้าง
ทุกคนประพฤติตนตามพระลิขิตของพระองค์ ||10||

พลังของพระองค์แผ่ซ่านอยู่ในทั้งสามสถานะของมายา
เช่น ในสัตวะคุณ (แง่บวก แง่ดี) ราชัสคุณ (อัตตานิยม) และ ตามัสคุณ (แง่ลบ แง่ร้าย)
เพราะความหลงใหลในตัวเอง
จึงต้องทุกข์กับการเกิดและการตาย
หากพระองค์เมตตาปราณีต่อสาวกของพระองค์
ผู้นั้นจะหลุดพ้นจากทั้งสามสภาวะนี้ของมายา
และไปดำรงอยู่ในสภาวะที่สี่ (ของพระองค์) ทันที ||11||

จากความว่างเปล่า
ทรงสร้างเหล่าอวตารทั้ง 10 องค์
ทรงสร้างเอกภพอันกว้างใหญ่
เหล่าเทวดา ภูติผี และ คนธรรพ์ ถูกพระองค์สร้างขึ้น
ต่างประพฤติตนตามกรรมที่พระองค์ได้ลิขิตไว้ ||12||

สาวกของพระองค์ ซึ่ง เข้าใจ
ย่อมปลอดภัยจากโรคภัย (มายา) นี้
น้อยมากที่จะมีใครทราบ
ถึงขั้นบันไดของสัจจะคุรุ (พระองค์)
ตลอดทุกยุคทุกสมัย สาวกของพระองค์อุทิศให้กับ
การหลุดพ้น แล้วก็หลุดพ้นไปอย่างมีเกียรติคุณ ||13||

ทั้ง ห้า ธาตุ ประจักษ์ขึ้นจากความว่างเปล่า
และร่วมกันประกอบร่างกายนี้ขึ้นมา
ซึ่ง ถูกสร้างขึ้นเพื่อพัวพันกับการกระทำ (กรรม)
ทั้งความดีและความชั่ว ลิขิตอยู่บนหน้าผากของทุกคนและ ต่างก็ปลูกบาป กับ บุญ ลงไปตามนั้น ||14||

พระองค์เป็นสัจจะคุรุโดยพระองค์เอง
ทรงสูงส่ง และอยู่เหนือทุกสิ่งทุกอย่าง
ทรงเปี่ยมไปด้วยพระโองการของพระองค์
ทรงเบิกบานด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์เอง
ความร่ำรวย พุทธิปัญญา อภินิหาร และ ญาณ
ล้วนดลบันดาลโดยพระองค์เอง ผู้เป็นสัจจะคุรุ
สำหรับผู้ใด ซึ่ง ชะตากรรมได้ลิขิตเอาไว้ ||15||

จิตใจนี้ หลงรักอยู่แต่ในมายา
เพียงน้อยคนมาก เข้าใจและรู้แจ้งจริง
ความอยาก ความหวัง ความเห็นแก่ตัว ความสงสัย
ในความโลภ มนุษย์ ล้วนก่อกรรมในสิ่งที่เป็นเทจ ||16||

โดยพระครู เท่านั้น จึงจะไตร่ตรองอย่างแท้จริงได้
ถึงจะทำสมาธิในเรือนแห่งความว่างเปล่าเที่ยงแท้ของพระองค์ได้
โอ้ นานัก ผู้ใด ซึ่ง เข้าฌานกลมกลืนสหัชสมานเป็นหนึ่งเดียวอยู่ในภาวะนามแห่งสัจธรรมของพระองค์
เสียงดนตรีบริสุทธิ์ของพระองค์จะก้องไปทั่วในผู้นั้น ||17||

========================================

(ต่อ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่