ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องเพลงและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
วันนี้เมื่อ 587 ปีที่แล้ว คือ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 1974 (ค.ศ. 1431)
เป็นวันที่ โจนออฟอาร์ค ถูกประหารชีวิตด้วยการเผาทั้งเป็น ณ เมืองรูอ็อง ประเทศฝรั่งเศส
ชีวิตของเธอนับว่ามหัศจรรย์มาก เด็กสาวที่มีช่วงอายุ 14 -19 ปี แต่กลายเป็นผู้กุมหัวใจประชาชน
นำทัพชนะสงคราม และต่อสู้อย่างแสนสาหัส แต่กลับต้องมีจุดจบอย่างไม่เป็นธรรม
โจน ออฟ อาร์ค (Joan Of Arc) ผู้เป็นทั้งเด็กสาวชาวบ้าน วีรสตรี แม่มด และนักบุญ
Jeanne d'Arc (1412 - 1431)
ฌานน์ ดาร์ค หรือโจน ออฟ อาร์ค เกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 1421 ที่หมู่บ้านดองเรมี่ ในแคว้นลอร์เรน ประเทศฝรั่งเศส
ชีวิตของเธออาภัพตั้งแต่ต้นจนจบ เนื่องจากแจ็ค ดาร์ค พ่อของเธอต้องการลูกชาย
พอได้ลูกสาวเขาจึงขัดใจและพาลเกลียดโจนตั้งแต่แรกเห็น ทำให้โจนเป็นเด็กเงียบๆ
ชอบเก็บตัวสวดมนต์อยู่ในโบสถ์ ผิดประหลาดไปจากเด็กวัยเดียวกัน
เธอเป็นเด็กสาวชาวฝรั่งเศสที่ศรัทธาในพระเจ้าอย่างแรงกล้า
เมื่อเธอมีอายุได้ 13 ปี เชื่อว่าตัวเองได้ยินเสียงของพระเจ้าให้กอบกู้บ้านเมือง
โจนลังเลอยู่จนอายุ 14 ปี เธอก็ตัดสินใจออกเดินทางไปตามพระบัญชาของพระเจ้า ตามที่เธอเชื่อ
เธอไปหาขุนนางผู้ทรงอิทธิพลเพื่อขอให้ท่านเคานท์พาเธอไปหาเจ้าชายชาร์ลส์
เด็กสาวอายุแค่นั้นต้องปลอมตัวเป็นชาย เดินทางลัดเลาะเป็นระยะทางยาวไกลเพื่อไปทำตามปณิธาน
เจ้าชายทราบข่าวว่าเธอจะมาพบ ก็ไม่ทรงเชื่อว่าผู้หญิงบ้านนอกคนหนึ่งจะได้ยินเสียงของพระเจ้าจริงๆ
จึงเตรียมบททดสอบไว้ต้อนรับโจนตั้งแต่นาทีแรก ด้วยการให้คนสนิทแต่งตัวเป็นพระองค์
ส่วนตัวเจ้าชายเองกลับทรงฉลองพระองค์ในชุดข้าราชบริพารยืนปะปนอยู่ในหมู่มหาดเล็ก
แต่แล้วเหตุมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น ทันทีที่โจนเหลือบเห็นเจ้าชายชาร์ลส์
เธอก็ตรงเข้ามาถวายบังคมโดยไม่เหลือบแลเจ้าชายกำมะลอเลย
เจ้าชายหนุ่มจึงยอมให้เธอเข้าเฝ้าในห้องเพียงลำพัง
และประกาศให้ข้าราชบริพารทุกคนต้อนรับ "นางผู้นำสาส์น" ของพระเจ้าเป็นอย่างดี
ยุคที่ฝรั่งเศสทำสงครามกับอังกฤษเป็นเวลาร้อยปีนั้น เธอจึงเป็นผู้นำทัพต่อสู้กับอังกฤษ
เธอกุมหัวใจของชาวฝรั่งเศสและสามารถนำทัพเอาชนะกองทัพอังกฤษได้สำเร็จ
โจนขี่ม้าศึกสีขาวปลอด สวมชุดเกราะ ติดกระบี่ที่ได้มาจากพระวิหาร มือข้างหนึ่งถือธงสีขาว
มีสัญลักษณ์แห่งสวรรค์จารึกคำสรรเสริญพระเจ้าว่า "เยซู มารีอา" นำทัพฝรั่งเศสเข้าต่อสู้กับอังกฤษอย่างห้าวหาญ
ทัพของเธอบุกไปขับไล่ทหารอังกฤษออกจากเมืองออร์ลีน และสามารถปล่อยออร์ลีนเป็นอิสระได้ในอีก 7 เดือนให้หลัง
ส่งผลให้ฝรั่งเศสกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ เจ้าชายชาร์ลส์จึงไม่ต้องยอมให้อังกฤษกดหัวอีกต่อไป
ทรงประกาศว่าพระองค์พร้อมแล้วที่จะทำพิธีปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์
แต่แล้วด้วย
ความระแวงของกษัตริย์ฝรั่งเศสว่าเธอจะได้รับการยอมรับจากประชาชนมากกว่าพระองค์
และบวกกับ
ความสอพลอของขุนนางที่อิจฉาเธอ ทางการจึงได้หาทางกำจัดเธอด้วยข้อหาว่าเป็นแม่มดหรือพวกนอกรีต
เธอต้องถูกคุมขัง โดนข่มขืนในคุก และท้ายสุดเธอต้องถูกเผาทั้งเป็น ขณะที่เธอมีอายุแค่ 19 ปีเท่านั้นเอง
โทษเผาทั้งเป็นนั้นเป็นการลงโทษที่จัดว่าทารุณทั้งต่อร่างกาย และจิตใจเป็นที่สุดในยามนั้น
นอกจากนี้ เถ้าศพของโจน ออฟ อาร์คยังถูกโปรยลงแม่น้ำเซน
เพื่อให้ร่างของเธอไม่สามารถกลับสู่ดิน เพื่อวันแห่งการพิพากษาได้
นับได้ว่าโทษที่เธอได้รับนั้นเป็นโทษสาหัสอย่างที่สุดสำหรับชาวคริสต์ในสมัยนั้นทีเดียว
ผ่านไปถึง 500 ปี หลังจากการพิพากษาครั้งใหม่ที่ศาลสรุปว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์
ประเทศฝรั่งเศสจึงยกย่องให้เธอเป็นวีรสตรี
พร้อมทั้งทางศาสนาโรมันคาธอลิคก็ได้ยกย่องให้เธอเป็นนักบุญคนหนึ่งด้วย
ขอบคุณที่มาข้อมูลและภาพประกอบ
http://www.anyapedia.com/2013/08/blog-post_28.html
https://board.postjung.com/853862.html
ห้องเรียนคนรากหญ้า
https://ppantip.com/topic/36236480
....................................................................
ในประวัติศาสตร์ มีวีรบุรุษ วีรสตรีหลายคน ที่ทำประโยชน์ใหญ่หลวง
แล้วก็ลงท้ายด้วยการถูกกล่าวหา ถูกไล่ล่า หรือลงโทษ บ้างก็ต้องจบชีวิตอย่างไม่เป็นธรรม
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาทำไว้ เมื่อเวลาผ่านไป ก็จะได้รับการชื่นชมยกย่อง ไม่มีใครไปเปลี่ยนมันได้
Joan of Arc - Jennifer Warnes & Leonard Cohen
https://www.youtube.com/watch?v=gtwUyDPXROQ
ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม...มีแต่เสียง 30/5/2018 (โจน ออฟ อาร์ค วีรสตรีโลกไม่ลืม)
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องเพลงและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน
วันนี้เมื่อ 587 ปีที่แล้ว คือ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 1974 (ค.ศ. 1431)
เป็นวันที่ โจนออฟอาร์ค ถูกประหารชีวิตด้วยการเผาทั้งเป็น ณ เมืองรูอ็อง ประเทศฝรั่งเศส
ชีวิตของเธอนับว่ามหัศจรรย์มาก เด็กสาวที่มีช่วงอายุ 14 -19 ปี แต่กลายเป็นผู้กุมหัวใจประชาชน
นำทัพชนะสงคราม และต่อสู้อย่างแสนสาหัส แต่กลับต้องมีจุดจบอย่างไม่เป็นธรรม
โจน ออฟ อาร์ค (Joan Of Arc) ผู้เป็นทั้งเด็กสาวชาวบ้าน วีรสตรี แม่มด และนักบุญ
Jeanne d'Arc (1412 - 1431)
ฌานน์ ดาร์ค หรือโจน ออฟ อาร์ค เกิดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 1421 ที่หมู่บ้านดองเรมี่ ในแคว้นลอร์เรน ประเทศฝรั่งเศส
ชีวิตของเธออาภัพตั้งแต่ต้นจนจบ เนื่องจากแจ็ค ดาร์ค พ่อของเธอต้องการลูกชาย
พอได้ลูกสาวเขาจึงขัดใจและพาลเกลียดโจนตั้งแต่แรกเห็น ทำให้โจนเป็นเด็กเงียบๆ
ชอบเก็บตัวสวดมนต์อยู่ในโบสถ์ ผิดประหลาดไปจากเด็กวัยเดียวกัน
เธอเป็นเด็กสาวชาวฝรั่งเศสที่ศรัทธาในพระเจ้าอย่างแรงกล้า
เมื่อเธอมีอายุได้ 13 ปี เชื่อว่าตัวเองได้ยินเสียงของพระเจ้าให้กอบกู้บ้านเมือง
โจนลังเลอยู่จนอายุ 14 ปี เธอก็ตัดสินใจออกเดินทางไปตามพระบัญชาของพระเจ้า ตามที่เธอเชื่อ
เธอไปหาขุนนางผู้ทรงอิทธิพลเพื่อขอให้ท่านเคานท์พาเธอไปหาเจ้าชายชาร์ลส์
เด็กสาวอายุแค่นั้นต้องปลอมตัวเป็นชาย เดินทางลัดเลาะเป็นระยะทางยาวไกลเพื่อไปทำตามปณิธาน
เจ้าชายทราบข่าวว่าเธอจะมาพบ ก็ไม่ทรงเชื่อว่าผู้หญิงบ้านนอกคนหนึ่งจะได้ยินเสียงของพระเจ้าจริงๆ
จึงเตรียมบททดสอบไว้ต้อนรับโจนตั้งแต่นาทีแรก ด้วยการให้คนสนิทแต่งตัวเป็นพระองค์
ส่วนตัวเจ้าชายเองกลับทรงฉลองพระองค์ในชุดข้าราชบริพารยืนปะปนอยู่ในหมู่มหาดเล็ก
แต่แล้วเหตุมหัศจรรย์ก็เกิดขึ้น ทันทีที่โจนเหลือบเห็นเจ้าชายชาร์ลส์
เธอก็ตรงเข้ามาถวายบังคมโดยไม่เหลือบแลเจ้าชายกำมะลอเลย
เจ้าชายหนุ่มจึงยอมให้เธอเข้าเฝ้าในห้องเพียงลำพัง
และประกาศให้ข้าราชบริพารทุกคนต้อนรับ "นางผู้นำสาส์น" ของพระเจ้าเป็นอย่างดี
ยุคที่ฝรั่งเศสทำสงครามกับอังกฤษเป็นเวลาร้อยปีนั้น เธอจึงเป็นผู้นำทัพต่อสู้กับอังกฤษ
เธอกุมหัวใจของชาวฝรั่งเศสและสามารถนำทัพเอาชนะกองทัพอังกฤษได้สำเร็จ
โจนขี่ม้าศึกสีขาวปลอด สวมชุดเกราะ ติดกระบี่ที่ได้มาจากพระวิหาร มือข้างหนึ่งถือธงสีขาว
มีสัญลักษณ์แห่งสวรรค์จารึกคำสรรเสริญพระเจ้าว่า "เยซู มารีอา" นำทัพฝรั่งเศสเข้าต่อสู้กับอังกฤษอย่างห้าวหาญ
ทัพของเธอบุกไปขับไล่ทหารอังกฤษออกจากเมืองออร์ลีน และสามารถปล่อยออร์ลีนเป็นอิสระได้ในอีก 7 เดือนให้หลัง
ส่งผลให้ฝรั่งเศสกลายเป็นฝ่ายได้เปรียบ เจ้าชายชาร์ลส์จึงไม่ต้องยอมให้อังกฤษกดหัวอีกต่อไป
ทรงประกาศว่าพระองค์พร้อมแล้วที่จะทำพิธีปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์
แต่แล้วด้วยความระแวงของกษัตริย์ฝรั่งเศสว่าเธอจะได้รับการยอมรับจากประชาชนมากกว่าพระองค์
และบวกกับความสอพลอของขุนนางที่อิจฉาเธอ ทางการจึงได้หาทางกำจัดเธอด้วยข้อหาว่าเป็นแม่มดหรือพวกนอกรีต
เธอต้องถูกคุมขัง โดนข่มขืนในคุก และท้ายสุดเธอต้องถูกเผาทั้งเป็น ขณะที่เธอมีอายุแค่ 19 ปีเท่านั้นเอง
โทษเผาทั้งเป็นนั้นเป็นการลงโทษที่จัดว่าทารุณทั้งต่อร่างกาย และจิตใจเป็นที่สุดในยามนั้น
นอกจากนี้ เถ้าศพของโจน ออฟ อาร์คยังถูกโปรยลงแม่น้ำเซน
เพื่อให้ร่างของเธอไม่สามารถกลับสู่ดิน เพื่อวันแห่งการพิพากษาได้
นับได้ว่าโทษที่เธอได้รับนั้นเป็นโทษสาหัสอย่างที่สุดสำหรับชาวคริสต์ในสมัยนั้นทีเดียว
ผ่านไปถึง 500 ปี หลังจากการพิพากษาครั้งใหม่ที่ศาลสรุปว่าเธอเป็นผู้บริสุทธิ์
ประเทศฝรั่งเศสจึงยกย่องให้เธอเป็นวีรสตรี
พร้อมทั้งทางศาสนาโรมันคาธอลิคก็ได้ยกย่องให้เธอเป็นนักบุญคนหนึ่งด้วย
ขอบคุณที่มาข้อมูลและภาพประกอบ
http://www.anyapedia.com/2013/08/blog-post_28.html
https://board.postjung.com/853862.html
ห้องเรียนคนรากหญ้า https://ppantip.com/topic/36236480
....................................................................
ในประวัติศาสตร์ มีวีรบุรุษ วีรสตรีหลายคน ที่ทำประโยชน์ใหญ่หลวง
แล้วก็ลงท้ายด้วยการถูกกล่าวหา ถูกไล่ล่า หรือลงโทษ บ้างก็ต้องจบชีวิตอย่างไม่เป็นธรรม
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เขาทำไว้ เมื่อเวลาผ่านไป ก็จะได้รับการชื่นชมยกย่อง ไม่มีใครไปเปลี่ยนมันได้
Joan of Arc - Jennifer Warnes & Leonard Cohen
https://www.youtube.com/watch?v=gtwUyDPXROQ