คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
กรณีนี้ ผมฟังเนื้อหาเพียงฝั่งเดียว จึงต้องระมัดระวังในการให้ความเห็นและขอให้ความเห็นไว้เป็นกลางๆนะครับ เนื่องจากกรณีนี้ต้องฟังความรอบด้าน และหากนายจ้างเป็นมวย กรณีเช่นนี้ พลิกได้ไม่ยาก
ผมแยกเป็นกรณีๆก่อน
1. การที่ลูกจ้างขาดงานเนื่องจากการลาป่วย ก่อนอื่นต้องเข้าใจเสียก่อนว่า ลาป่วยเป็นสิทธิของพนักงานตามกฎหมายแรงงานก็จริง แต่ก็อย่าลืมว่า บริษัท มิใช่องค์กรการกุศลที่จะสามารถให้พนักงานหยุดงานได้ต่อเนื่องยาวๆ ดังนั้น สิทธิต้องมาพร้อมกับหน้าที่ ดังนั้น กรณีนี้ ลูกจ้างมีสิทธิในการลาป่วยตามกฎหมายแรงงานได้ก็จริง แต่หากนายจ้างเห็นว่า หน้าที่การทำงานของลูกจ้างนั้น มีความสำคัญและไม่สามารถหาคนทำงานแทนได้ การที่ลูกจ้างขาดงานเนื่องจากลาป่วยเป็นระยะเวลานาน หรือมีสุขภาพที่ไม่เหมาะสมกับการทำงานในหน้าที่ ส่งผลต่อการทำธุรกิจของนายจ้าง นายจ้างสามารถอ้างเหตุลูกจ้างไร้สมรรถภาพ และทำการเลิกจ้าง หรือโยกย้ายไปทำงานในตำแหน่งหน้าที่อื่นที่ไม่กระทบการทำงานของนายจ้าง และเป็นการโยกย้ายที่เป็นธรรม
2. ดังนั้นแล้ว ต่อคำถามที่ว่า นายจ้างจะออกหนังสือเตือนท่านเจ้าของกระทู้ได้หรือไม่ ก็ต้องถามต่อไปว่า แล้วจะออกหนังสือเตือนในเรื่องอะไร หากเป็นกรณีขาดงานจากการลาป่วย คงไม่สามารถทำได้ แต่ผมเห็นอยู่ 2 ช่องคือ เรื่องแรก กรณีลาต่อเนื่องวันหยุด กรณีที่ลากิจนี้ ลากันถูกต้องไหม ได้รับการอนุมัติหรือไม่ หรืออยู่ดีๆลักไก่ลาต่อเนื่อง เช่นนี้ลงโทษฐานผิดระเบียบการลาได้ อีกกรณีหนึ่งคือ หากนายจ้างมีคำสั่งโยกย้ายการทำงานโดยอ้างเหตุตามข้อ 1 ที่ผมเขียนไปนั้น ก็ต้องพิจารณาว่าเป็นการโยกย้ายที่เป็นธรรมหรือไม่ (ที่นายจ้างเสนอว่าจะย้ายไป QC) หากเป็นคำสั่งอันชอบธรรมของนายจ้างและลูกจ้างฝ่าฝืน เช่นนี้ก็ลงโทษฐานขัดคำสั่งนายจ้างได้เช่นเดียวกัน ส่วนประเด็นหนังสือเตือนนั้น ลูกจ้างโต้แย้งได้ตอนที่นายจ้างเตือน แต่จะเป็นหนังสือเตือนที่เป็นธรรมหรือไม่นั้น ต้องไปว่ากันตอนมีการเลิกจ้างเนื่องจากเหตุหนังสือเตือนไปสู้กันครับ
ดังนั้น กรณีนี้ผมแนะนำให้พูดคุยตกลงหรือทำความเข้าใจกับกับนายจ้างดีกว่าครับ เพราะหากค้าความไป ไม่คุ้ม เพราะดูทรงแล้วหากนายจ้างเป็นมวย สู้กันยาว อีกทั้งอายุงานไม่มาก กรณีเงินชดเชยการเลิกจ้างอาจจะฟ้องชนะได้เงินมา 90 วัน แต่เรื่องเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ด้วยอายุงานเท่านี้ ฟ้องไม่คุ้มแน่นอนครับ
ผมแยกเป็นกรณีๆก่อน
1. การที่ลูกจ้างขาดงานเนื่องจากการลาป่วย ก่อนอื่นต้องเข้าใจเสียก่อนว่า ลาป่วยเป็นสิทธิของพนักงานตามกฎหมายแรงงานก็จริง แต่ก็อย่าลืมว่า บริษัท มิใช่องค์กรการกุศลที่จะสามารถให้พนักงานหยุดงานได้ต่อเนื่องยาวๆ ดังนั้น สิทธิต้องมาพร้อมกับหน้าที่ ดังนั้น กรณีนี้ ลูกจ้างมีสิทธิในการลาป่วยตามกฎหมายแรงงานได้ก็จริง แต่หากนายจ้างเห็นว่า หน้าที่การทำงานของลูกจ้างนั้น มีความสำคัญและไม่สามารถหาคนทำงานแทนได้ การที่ลูกจ้างขาดงานเนื่องจากลาป่วยเป็นระยะเวลานาน หรือมีสุขภาพที่ไม่เหมาะสมกับการทำงานในหน้าที่ ส่งผลต่อการทำธุรกิจของนายจ้าง นายจ้างสามารถอ้างเหตุลูกจ้างไร้สมรรถภาพ และทำการเลิกจ้าง หรือโยกย้ายไปทำงานในตำแหน่งหน้าที่อื่นที่ไม่กระทบการทำงานของนายจ้าง และเป็นการโยกย้ายที่เป็นธรรม
2. ดังนั้นแล้ว ต่อคำถามที่ว่า นายจ้างจะออกหนังสือเตือนท่านเจ้าของกระทู้ได้หรือไม่ ก็ต้องถามต่อไปว่า แล้วจะออกหนังสือเตือนในเรื่องอะไร หากเป็นกรณีขาดงานจากการลาป่วย คงไม่สามารถทำได้ แต่ผมเห็นอยู่ 2 ช่องคือ เรื่องแรก กรณีลาต่อเนื่องวันหยุด กรณีที่ลากิจนี้ ลากันถูกต้องไหม ได้รับการอนุมัติหรือไม่ หรืออยู่ดีๆลักไก่ลาต่อเนื่อง เช่นนี้ลงโทษฐานผิดระเบียบการลาได้ อีกกรณีหนึ่งคือ หากนายจ้างมีคำสั่งโยกย้ายการทำงานโดยอ้างเหตุตามข้อ 1 ที่ผมเขียนไปนั้น ก็ต้องพิจารณาว่าเป็นการโยกย้ายที่เป็นธรรมหรือไม่ (ที่นายจ้างเสนอว่าจะย้ายไป QC) หากเป็นคำสั่งอันชอบธรรมของนายจ้างและลูกจ้างฝ่าฝืน เช่นนี้ก็ลงโทษฐานขัดคำสั่งนายจ้างได้เช่นเดียวกัน ส่วนประเด็นหนังสือเตือนนั้น ลูกจ้างโต้แย้งได้ตอนที่นายจ้างเตือน แต่จะเป็นหนังสือเตือนที่เป็นธรรมหรือไม่นั้น ต้องไปว่ากันตอนมีการเลิกจ้างเนื่องจากเหตุหนังสือเตือนไปสู้กันครับ
ดังนั้น กรณีนี้ผมแนะนำให้พูดคุยตกลงหรือทำความเข้าใจกับกับนายจ้างดีกว่าครับ เพราะหากค้าความไป ไม่คุ้ม เพราะดูทรงแล้วหากนายจ้างเป็นมวย สู้กันยาว อีกทั้งอายุงานไม่มาก กรณีเงินชดเชยการเลิกจ้างอาจจะฟ้องชนะได้เงินมา 90 วัน แต่เรื่องเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ด้วยอายุงานเท่านี้ ฟ้องไม่คุ้มแน่นอนครับ
แสดงความคิดเห็น
นายจ้างจะไม่ยอมจ่ายเงินค่าชดเชยและพยายามจะออกใบเตือนค่ะ
ช่วงระยะเวลา วันจันทร์ 19 มีนาคม 2561 - 12 เมษายน 2561 ได้มีอาการขาบวมและมีโรคประจำตัว คือ เบาหวาน ซึ่งมีการเจ็บปวดขั้นรุนแรง ดิฉันจึงได้ไปหาหมออีกครั้ง หมอได้การวินิจฉัยว่า เป็น ฝีที่บริเวณใกล้ข้อเท้าขวาและต้องทำการผ่าตัดในวันนั้น แล้วเมื่อผ่าเสร็จให้ทำการพักฟื้นบาดแผลที่บ้านและต้องมาโรงพยาบาลล้างแผลทุกวัน
ช่วงระยะที่ฉันลาป่วยโดยมีแพทย์ออกใบรับรองแพทย์ 19 มีนาคม 2561 - 12 เมษายนนั้นเนื่องจากเป็นแผลผ่าตัดและที่ทำงานต้องเดินขึ้นบันไดชั้น 3 แต่หัวหน้างานได้ส่งไลน์ข้อความมาวัน พุธ ที่ 28 มีนาคม 2561 เวลา 09.15น.ระบุในข้อความว่า "จะมาทำงานวันไหน...งานค้างรับชำระหนี้มากมาย ...+...ฝากใครไหม-แต่ถ้าจะไม่ทำงานแล้วก็เข้ามาเคลียร์งานในจบ--- และในวันเดียวกันได้ส่งไลน์ส่วนตัวอีกครั้ง เวลา 09.28น. ระบุในข้อความว่า "มาเคลียร์งานให้เสร็จ เราคงทำงานด้วยกันไม่ได้แล้ว ไม่มีความรับผิดชอบ" แต่ในขณะที่ดิฉันลาป่วยดิฉันยังต้องทำงานอยู่ที่บ้าน เพราะหัวหน้าไม่จัดสรรหรือหาคนทำแทนในระยะเวลาป่วยเกือบ 1 เดือน หลังจากนั้นต้องกลับมาเริ่มอีกครั้งหลังจากลาป่วย คือ 17 เมษายน 2561 แต่ดิฉันใช้สิทธิลากิจ 17 และ 18 ลากับ Hr.นเนื่องจากเดินทางกลับจากตจว. แต่วันพุธ เวลาประมาณ 18.20น.
ทางHR.กโทรมาหาดิฉัน โดยใช้ข้อความในการพูดว่า ดิฉันลาต่อจากช่วงสงกรานต์ คือ 17และ 18 ซึ่งจากบริษัทไม่โอเคร จนดิฉันบอกว่าจะลาออก เนื่องจากมีความรุ้สึกกดดันและอารมชั่ววูบ แต่เมื่อวางสาย ดิฉันได้ไลน์กลับไปหา 18.25น. ว่าไม่ลาออกและจะกลับไปทำงานในวันพรุ่งนี้ ซึ่งดิฉันคิดว่าตามกฎของบริษัทกำหนดไว้ว่า หากลาต่อเนื่องจากนักขัตฤกษ์จะโดนหัก 50% ดิฉันก็ยอมให้หัก แต่เมื่อกลับไปทำงานในวันที่ 19 เมษายน 2561 หัวหน้าพูดในชั้นที่ทำงานต่อหน้าคนทั้งชั้น ว่าให้ถอดงานของบ.ฝั่ง1ออกทั้งหมดและให้สอนงานน้องที่จะมารับงานต่อจากดิฉัน แต่ดิฉันไม่สอนงาน แต่ทำตามคำสั่งโดยไม่ทำงานของฝั่ง1 เพราะดิฉันคิดว่า ถ้าจะไม่ให้ทำงานก็ควรจ้างออกและจ่ายค่าชดเชย แต่ดิฉันยังนั่งทำงานขอฝั่ง2 อยู่ในปัจจุบัน
ณ วันพฤหัสบดี ที่ 17 พฤษภาคม 2561 ทางHr.เรียกลงไปคุยที่ห้องประชุม สอบถามเรื่องงานค้างที่หัวหน้าให้เคลียร์ และมาใช้คำพูดออกแนวเตือนดิฉันเรื่อง เรื่องงานซึ่งกล่าวหาว่าดิฉันทำให้บริษัทเสียหาย ดิฉันจึงกล่าวกลับไปว่า ในระยะเวลาที่ฉันลาป่วย ดิฉันไม่จำเป็นต้องทำด้วยซ้ำ แต่ถ้าดิฉันไม่ทำจะมีใครทำไหมค่ะ ซึ่งดิฉันคิดว่าเค้าไม่สามารถกล่าวอ้างในข้อนี้ได้และจะให้ฉันย้ายสายงานไปทำงานที่โรงงานในตำแหน่ง QC แต่ดิฉันตอบว่าไม่ไปค่ะ เพราะดิฉันสมัครและทำงานในบริษัทนี้ในตำแหน่งบัญชี เค้าใช้วิธีในการบีบบังคับในทางอ้อม ทางHr.พูดว่า เคยบอกจะลาออกแล้วอยู่ทำไมไม่ลาออก ดิฉันจึงตอบเค้าไปว่า ใช่คะตอนนั้นจะลาออกแต่ตอนนี้ไม่ลาออกค่ะ ปัจจุบันทำงานฝั่ง 2 ทำบริษัทเดียวค่ะ แต่เขาจะไม่ให้ทำพยามเรียกพี่อีกคนคุยเพื่อมารับงานเพิ่ม แต่พี่เขาไม่รับถ่ายงาน เพราะดิฉันยังไม่ได้ลาออกและโดนจ้างออกค่ะ
คำถามที่อยากทราบค่ะ
1.บริษัทจะออกใบเตือนย้อนหลังเกี่ยวกับการทำงานได้ไหมค่ะ บริษัทจะมีความผิดทางกฏหมายหรือไหม ตามมาตราเท่าไหร่ค่ะ
2.ถ้าทางบริษัท ออกใบเตือน เราสามารถแย้งณ ปัจจุบันหรือตามหาข้อมูล เก็บไว้เพื่อส่งกรมแรงงานตอนบริษัทไม่จ่ายค่าชดเชยดีกว่าไหมค่ะและถ้าเราไม่เซ็นลงนามในใบเตือนจะมีผลตามหลังมาไหมค่ะ
3.ถ้าบริษัทจะแจ้งให้พ้นสภาพพนังงาน โดยไม่จ่ายค่าชดเชย เราสามารถขอให้บริษัททำจดหมายเชิญออกให้เรา เพื่อเราจะเอาไปส่งฟ้องกรมแรงงานได้ไหมค่ะ
4.ถ้ากรณี ไปฟ้องที่กรมแรงงาน ลูกจ้างจะชนะความไหมค่ะ โดยที่ทางบริษัทออกใบเตือน
ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ