อุปสรรคและความราบรื่นในชีวิตเกิดจากอะไร? เพราะอะไร? ทำไม?
โลกภายนอกคือภาพสะท้อนของโลกภายใน และ โลกภายในก็คือภาพสะท้อนของโลกภายนอก ความอยากได้อยากมีอยากเป็นภายนอกคือเป้าหมายที่กำหนดมาจากความต้องการภายใน
คำถาม: อุปสรรคและความราบรื่นในชีวิตเกิดจากอะไร?
คำตอบ: อุปสรรคและความราบรื่นต่างๆเกิดจากความอยากได้อยากมีอยากเป็นที่มาจากฐานของความไม่สมดุลย์ของพลังงานบวกที่มากหรือน้อยเกินไปหรือพลังงานลบที่มากหรือน้อยเกินไปที่เราทุกคนมีไม่เท่ากัน + ความต้องการอยู่ในขอบเขตของความสะดวกสบายและขอบเขตของความเคยชินเก่าๆ และ ความไม่ต้องการออกจากขอบเขตของความสะดวกสบายและขอบเขตของความเคยชินเก่าๆของเราเอง ทุกสิ่งทุกอย่างจะทำงานขึ้นตรงต่อวัฐจักรของโลกและกฎแห่งธรรมชาติที่ทำงานตลอด 24/7 ไม่มีวันหยุดพักไม่มีผิดเพี้ยนและไม่มีบิดเบี้ยว ทำดีก็มีอุปสรรค ทำไม่ดีก็มีอุปสรรค ทำดีก็ราบรื่น ทำไม่ดีก็ราบรื่น
คำถาม: เพราะอะไร?
คำตอบ: เพราะโลกนี้คือ2in1 ในความสบายจะมีความลำบากซ่อนอยู่ด้วยและในความลำบากก็มีความสบายซ่อนอยู่ด้วยเช่นกัน การที่เรามีความต้องการหรือไม่ต้องการในสิ่งใดก็ตามเราจะมีความต้องการที่จะทำอยู่ภายในขอบเขตของความสะดวกสบายและภายในขอบเขตของความเคยชินเก่าๆ และ ความไม่ต้องการออกนอกขอบเขตของความสะดวกสบายและไม่ต้องการออกนอกขอบเขตของความเคยชินเก่าๆของเราเองอยู่ในความต้องการนั้นๆด้วยเสมอ ดังนั้นอุปสรรคหรือความราบรื่นที่เกิดขึ้นภายนอกจึงมาจากความคิดของความต้องการที่จะทำอยู่ภายในขอบเขตของความสะดวกสบายและภายในขอบเขตของความเคยชินเก่าๆและความไม่ต้องการอกนอกขอบเขตของความสะดวกสบายและไม่ต้องการออกนอกขอบเขตของความเคยชินเก่าๆภายในของเราเอง ยกตัวอย่างเช่น เราต้องการให้ลูกเป็นเด็กดี เมื่อเราเห็นลูกทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเราจึงบอกลูกว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งไม่ดีและไม่ควรทำ ซึ่งผลจากการบอกของเราอาจเป็นไปได้สองทางคือ เด็กยอมรับฟังและทำตามเพราะเราส่งสารที่มีคุณภาพออกไป หรือ เด็กไม่ยอมรับฟังและไม่ยอมทำตามเพราะเราส่งสารที่ไม่มีคุณภาพออกไป เมื่อเด็กไม่รับฟังเด็กก็จะทำสิ่งที่เด็กเคยทำต่อไป เมื่อเราเห็นลูกทำในสิ่งที่เราเคยบอกลูกว่าไม่ดีและไม่ควรทำแล้วแต่ลูกก็ยังทำสิ่งนั้นอยู่ เราจึงคิดว่าลูกดื้อและไม่ยอมเรียนรู้จึงทำให้เรานำเอาอารมณ์และความรุนแรงเข้ามาช่วยในการอบรมสั่งสอนโดยคิดและเข้าใจไปเองว่า การใช้อารมณ์และความรุนแรงจะสามารถหยุดพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูกได้ ซึ่งการใช้อารมณ์และความรุนแรงนอกจากจะไม่สามารถหยุดพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูกได้แล้วอารมณ์และความรุนแรงยังเข้าไปฝังรากลึกอยู่ในความทรงจำของลูก เมื่อลูกเกิดความไม่พอใจในสิ่งใดลูกก็จะนำเอาอารมณ์และความรุนแรงนั้นออกมาใช้โดยลูกจะคิดและเข้าใจไปเองว่า การใช้อารมณ์และความรุนแรงจะสามารถหยุดสิ่งที่ลูกไม่ต้องการได้ จะเห็นได้ว่า เราไม่เพียงเป็นอุปสรรคของตัวเราเอง เรายังส่งต่อแนวทางการสร้างอุปสรรคให้กับผู้อื่นโดยไม่รู้ตัวด้วย
คำถาม: ทำไม?
คำตอบ: เพราะ 1. เราคือวัฐจักรของตัวเราเอง เราคือผู้กำหนดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราด้วยตัวของเราเอง และเราก็คือผู้ที่นำพาความคิดความรู้สึกและการกระทำของเราเข้าไปรองรับความคิดความรู้สึกและการกระทำของผู้อื่นด้วยตัวเองเช่นกัน เรากำหนดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราจากความต้องการและความไม่ต้องการภายในและภายนอกของเราเอง (มนุษย์และจิตวิญญาณ) + เรากำหนดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราจากสิ่งที่เรารู้แต่ไม่รู้และจากสิ่งที่เราไม่รู้แต่รู้ทั้งภายในและภายนอกของเราเอง (มนุษย์และจิตวิญญาณ) ซึ่งทำงานสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกันกับวัฐจักรของโลกและกฎแห่งธรรมชาติ 2. เราคือวัฐจักรของกันและกัน เราคือผู้กำหนดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราด้วยการพึ่งพาอาศัยผู้อื่น และเราก็คือผู้ที่นำพาความคิดความรู้สึกและการกระทำของเราเข้าไปรองรับความคิดความรู้สึกและการกระทำของผู้อื่นด้วยตัวเองเช่นกัน เรากำหนดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราจากความต้องการและความไม่ต้องการภายในและภายนอกของเราและของผู้อื่น (มนุษย์และจิตวิญญาณ) + เรากำหนดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราจากสิ่งที่เรารู้แต่ไม่รู้และจากสิ่งที่เราไม่รู้แต่รู้ทั้งภายในและภายนอกของเราและของผู้อื่น (มนุษย์และจิตวิญญาณ) ซึ่งทำงานสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกันกับวัฐจักรของโลกและกฎแห่งธรรมชาติ
***ความพยายามแก้ไขอุปสรรคภายนอกโดยการชุมนุมเรียกร้องถามหาสิทธิเสรีภาพเรียกร้องความปรองดองเรียกร้องหาประชาธิปไตยความเท่าเทียมโดยไม่คิดที่จะแก้ไขอุปสรรคภายในของตัวเองคือ การใช้ทางสายกลางเพื่อหาประโยชน์จากช่องว่างระหว่างความคิดของตัวเองและของผู้อื่นเพื่อตัวเอง และหาประโยชน์จากช่องว่างระหว่างความคิดของตัวเองและของผู้อื่นเพื่อตัวเองและผู้อื่น
อุปสรรคและความราบรื่นในชีวิตเกิดจากอะไร? เพราะอะไร? ทำไม?
โลกภายนอกคือภาพสะท้อนของโลกภายใน และ โลกภายในก็คือภาพสะท้อนของโลกภายนอก ความอยากได้อยากมีอยากเป็นภายนอกคือเป้าหมายที่กำหนดมาจากความต้องการภายใน
คำถาม: อุปสรรคและความราบรื่นในชีวิตเกิดจากอะไร?
คำตอบ: อุปสรรคและความราบรื่นต่างๆเกิดจากความอยากได้อยากมีอยากเป็นที่มาจากฐานของความไม่สมดุลย์ของพลังงานบวกที่มากหรือน้อยเกินไปหรือพลังงานลบที่มากหรือน้อยเกินไปที่เราทุกคนมีไม่เท่ากัน + ความต้องการอยู่ในขอบเขตของความสะดวกสบายและขอบเขตของความเคยชินเก่าๆ และ ความไม่ต้องการออกจากขอบเขตของความสะดวกสบายและขอบเขตของความเคยชินเก่าๆของเราเอง ทุกสิ่งทุกอย่างจะทำงานขึ้นตรงต่อวัฐจักรของโลกและกฎแห่งธรรมชาติที่ทำงานตลอด 24/7 ไม่มีวันหยุดพักไม่มีผิดเพี้ยนและไม่มีบิดเบี้ยว ทำดีก็มีอุปสรรค ทำไม่ดีก็มีอุปสรรค ทำดีก็ราบรื่น ทำไม่ดีก็ราบรื่น
คำถาม: เพราะอะไร?
คำตอบ: เพราะโลกนี้คือ2in1 ในความสบายจะมีความลำบากซ่อนอยู่ด้วยและในความลำบากก็มีความสบายซ่อนอยู่ด้วยเช่นกัน การที่เรามีความต้องการหรือไม่ต้องการในสิ่งใดก็ตามเราจะมีความต้องการที่จะทำอยู่ภายในขอบเขตของความสะดวกสบายและภายในขอบเขตของความเคยชินเก่าๆ และ ความไม่ต้องการออกนอกขอบเขตของความสะดวกสบายและไม่ต้องการออกนอกขอบเขตของความเคยชินเก่าๆของเราเองอยู่ในความต้องการนั้นๆด้วยเสมอ ดังนั้นอุปสรรคหรือความราบรื่นที่เกิดขึ้นภายนอกจึงมาจากความคิดของความต้องการที่จะทำอยู่ภายในขอบเขตของความสะดวกสบายและภายในขอบเขตของความเคยชินเก่าๆและความไม่ต้องการอกนอกขอบเขตของความสะดวกสบายและไม่ต้องการออกนอกขอบเขตของความเคยชินเก่าๆภายในของเราเอง ยกตัวอย่างเช่น เราต้องการให้ลูกเป็นเด็กดี เมื่อเราเห็นลูกทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องเราจึงบอกลูกว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งไม่ดีและไม่ควรทำ ซึ่งผลจากการบอกของเราอาจเป็นไปได้สองทางคือ เด็กยอมรับฟังและทำตามเพราะเราส่งสารที่มีคุณภาพออกไป หรือ เด็กไม่ยอมรับฟังและไม่ยอมทำตามเพราะเราส่งสารที่ไม่มีคุณภาพออกไป เมื่อเด็กไม่รับฟังเด็กก็จะทำสิ่งที่เด็กเคยทำต่อไป เมื่อเราเห็นลูกทำในสิ่งที่เราเคยบอกลูกว่าไม่ดีและไม่ควรทำแล้วแต่ลูกก็ยังทำสิ่งนั้นอยู่ เราจึงคิดว่าลูกดื้อและไม่ยอมเรียนรู้จึงทำให้เรานำเอาอารมณ์และความรุนแรงเข้ามาช่วยในการอบรมสั่งสอนโดยคิดและเข้าใจไปเองว่า การใช้อารมณ์และความรุนแรงจะสามารถหยุดพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูกได้ ซึ่งการใช้อารมณ์และความรุนแรงนอกจากจะไม่สามารถหยุดพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูกได้แล้วอารมณ์และความรุนแรงยังเข้าไปฝังรากลึกอยู่ในความทรงจำของลูก เมื่อลูกเกิดความไม่พอใจในสิ่งใดลูกก็จะนำเอาอารมณ์และความรุนแรงนั้นออกมาใช้โดยลูกจะคิดและเข้าใจไปเองว่า การใช้อารมณ์และความรุนแรงจะสามารถหยุดสิ่งที่ลูกไม่ต้องการได้ จะเห็นได้ว่า เราไม่เพียงเป็นอุปสรรคของตัวเราเอง เรายังส่งต่อแนวทางการสร้างอุปสรรคให้กับผู้อื่นโดยไม่รู้ตัวด้วย
คำถาม: ทำไม?
คำตอบ: เพราะ 1. เราคือวัฐจักรของตัวเราเอง เราคือผู้กำหนดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราด้วยตัวของเราเอง และเราก็คือผู้ที่นำพาความคิดความรู้สึกและการกระทำของเราเข้าไปรองรับความคิดความรู้สึกและการกระทำของผู้อื่นด้วยตัวเองเช่นกัน เรากำหนดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราจากความต้องการและความไม่ต้องการภายในและภายนอกของเราเอง (มนุษย์และจิตวิญญาณ) + เรากำหนดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราจากสิ่งที่เรารู้แต่ไม่รู้และจากสิ่งที่เราไม่รู้แต่รู้ทั้งภายในและภายนอกของเราเอง (มนุษย์และจิตวิญญาณ) ซึ่งทำงานสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกันกับวัฐจักรของโลกและกฎแห่งธรรมชาติ 2. เราคือวัฐจักรของกันและกัน เราคือผู้กำหนดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราด้วยการพึ่งพาอาศัยผู้อื่น และเราก็คือผู้ที่นำพาความคิดความรู้สึกและการกระทำของเราเข้าไปรองรับความคิดความรู้สึกและการกระทำของผู้อื่นด้วยตัวเองเช่นกัน เรากำหนดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราจากความต้องการและความไม่ต้องการภายในและภายนอกของเราและของผู้อื่น (มนุษย์และจิตวิญญาณ) + เรากำหนดทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตของเราจากสิ่งที่เรารู้แต่ไม่รู้และจากสิ่งที่เราไม่รู้แต่รู้ทั้งภายในและภายนอกของเราและของผู้อื่น (มนุษย์และจิตวิญญาณ) ซึ่งทำงานสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกันกับวัฐจักรของโลกและกฎแห่งธรรมชาติ
***ความพยายามแก้ไขอุปสรรคภายนอกโดยการชุมนุมเรียกร้องถามหาสิทธิเสรีภาพเรียกร้องความปรองดองเรียกร้องหาประชาธิปไตยความเท่าเทียมโดยไม่คิดที่จะแก้ไขอุปสรรคภายในของตัวเองคือ การใช้ทางสายกลางเพื่อหาประโยชน์จากช่องว่างระหว่างความคิดของตัวเองและของผู้อื่นเพื่อตัวเอง และหาประโยชน์จากช่องว่างระหว่างความคิดของตัวเองและของผู้อื่นเพื่อตัวเองและผู้อื่น