ทำไม..ผมเพิ่งจะมาให้ความสนใจ..ใส่ใจการออกกำลังกายเมื่อวัยเกือบจะ 55 ปีแล้ว?

..ผมมีส่วนสูง 168 ซ.ม.  น้ำหนัก 63 กิโลกรัม  วัดรอบเอว(พุง) 35 นิ้ว
อายุจะครบ 55 ปีบริบูรณ์ เดือนมิถุนาที่จะถึงนี้..
ย้อนหลังไปประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว น้ำหนักผมจะอยู่ที่ 59-60 ก.ก.
รอบเอวประมาณ 29-32 นิ้ว   ก็เพิ่มขึ้นมาทั้งน้ำหนักและรอบเอว..

..และเริ่มรู้สึกว่าตนเองหายใจไม่ค่อยเต็มอิ่ม และเหนื่อยเวลาต้องออกแรงมากๆ
หรือเดินขึ้นตึกชั้น 4  แม้ผมจะโชคดีที่ทำงานในส่วนที่ต้องเดินมากกว่านั่งและ
ยังมีโอกาสได้ยกของหนักบ้าง..ลากดึงรถที่บรรทุกของอยู่เกือบทุกวัน
ผมมองว่าการนั่งอยู่ในออฟฟิศ อาจเป็นความไม่โชคดีของใครหลายๆคน..

..คือผมยังมีโอกาสได้ออกกำลังกาย แต่ก็เพียงแค่เหงื่อชุ่ม แต่ไม่ถึงกับเปียกโชก
เพราะมันอยู่ในห้องโถงขนาดใหญ่และเป็นห้องแอร์.. เดินวันละหลายพันก้าว..
เพราะทำงานวันละ 8 ชั่วโมง  เดิน..เดิน..และก็เดิน.. มีนั่งบ้าง.. ถ้ามันเมื่อยมาก

..ความจริง  ก่อนหน้านี้  ผมก็เคยออกกำลังด้วยการวิ่งบ้าง  ปั่นจักรยานบ้าง
แต่ด้วยการงานที่ต้องทำเป็นกะ เลยทำได้ไม่ต่อเนื่อง และการผัดวันประกันพรุ่ง
ที่มาจากจิตใจที่ขี้เกียจ และการติดเทรดหุ้นด้วย  จึงไม่มีเวลาจะมาออกกำลังกาย
ทำให้รอบเอวหรือพุงเพิ่มขึ้นมาหลายเซนต์  แต่ผมเริ่มมาได้กำลังใจและเริ่มออกกำลังกาย
โดยมีเป้าหมายให้ร่างกายแข็งแรงและลดพุงผมลงให้ยุบลงกว่าที่เป็นอยู่นี้..

..ผมได้กำลังใจมาจากไหน?  และมีแนวคิดอย่างไร?  จึงลุกขึ้นมาออกกำลังกายอีกครั้ง
ก่อนที่มันจะสายเกินแก้  มาคิดได้เมื่อไม่มีกำลังกายจะออกแล้ว..
ก็เป็นแบล็คกราวน์ ที่ผมสาธยายมาเพื่อหวังว่าจะมีเพื่อผู้อยู่ในวัยกลางคนถึงสูงวัยหรือจะเป็นรุ่นน้อง
ที่กำลังคิดแต่ตัดสินใจลุกขึ้นมาออกกำลังกายไม่ได้ซักที.. ลองมาพูดคุยกัน..

..หรือท่านที่ได้ทำอยู่แล้ว..  กำลังทำอยู่..  มาแชร์ประสบการณ์เป็นกำลังใจให้กันและกัน
ว่าทุกวันนี้มีแนวทางการออกกำลังกายอย่างไร?  แบบไหนบ้าง?  แบ่งเวลากันยังไง?
และผลดีจากการออกกำลังกายดียังไง?  

..สำหรับผม จะนำเอาสิ่งที่จุดประกายให้ผมลุกขึ้นมาออกกำลังกาย
โดยมีเป้าหมายเพื่อลดพุงและเพื่อสุขภาพร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงทั้งกายและใจ
เพราะสุขภาพจิตที่จะแจ่มใสต้องอยู่ในร่างกายที่แข็งแรง.. ดังที่ท่านได้กล่าวไว้
โดยยึดหลักการ 5 อ. ครับ  ออกกำลังกาย  อาหาร  อุจจาระ  อารมณ์  อากาศ..

..และที่สำคัญคือ การที่ร่างกายไม่มีโรคภัยไข้เจ็บมาเบียดเบียน  เป็นลาภอันประเสริฐ
เราอาจจะมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย  แต่ถ้าเรามีสุขภาพร่ายกายไม่สมบูรณ์แข็งแรง มีแต่โรคมารุมเร้า
ทั้งความดัน  เบาหวาน  หลอดเลือดตีบตัน  ไขมันในเส้นเลือดหัวใจ ฯลฯ  
เราคงจะหาความสุขไม่เจอครับ.. และเงินทองที่มีอยู่ก็จะใช้ประโยชน์ได้แค่เพียงค่ารักษาพยาบาล
ซึ่งเราคงไม่ต้องการอย่างนั้นแน่นอน..  

เพราะฉะนั้น   ถึงเวลาที่เราต้องหันมาออกกำลังกายกันแล้วละครับ.. ยิ้ม
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่