ชีวิตการเรียนแพทย์ที่จีน มหาวิทยาลัย Fudan

สวัสดีค่ะ ตอนนี้จขกท ก็กำลังจะจบปีสามแล้วว เกือบครึ่งทางแล้วค่า เย้ๆๆ >< วันนี้เลยอยากจะมา Review เพิ่มเติม เกี่ยวกับการเรียนแพทย์ชั้นปีสามที่ Fudan university และการสอบใบประกอบโรคศิลป์ขั้นที่หนึ่งที่เพิ่งผ่านมาค่ะ
อย่างแรกก็จะขอพูดถึงเกี่ยวกับการเรียนการสอนของFudan university ในปีสามก่อนนะคะ ในปีสามนี้เราจะเรียนกันทั้งหมด 9 วิชา มี Pathology, Microbiology, Microbiology lab, Pathophysiology, Parasitology, Functional lab, Diagnostic, Diagnostic lab, Pharmacology ซึ่งมองๆแล้วก็คล้ายๆกับหลักสูตรที่ไทยค่ะ มาเริ่มกันเลยดีกว่า

1.) Pathology (พยาธิวิทยา)

วิชานี้พูดง่ายๆก็เป็นการเรียนเกี่ยวกับความผิดปกติ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับร่างกายซึ่งเกี่ยวข้องกับโรคที่พบบ่อยๆ วิชานี้สิ่งสำคัญเลยคือต้องจำให้ได้ว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรขึ้นบ้างในแต่ระยะของแต่ละโรค ซึ่งทาง Fudan เค้าจะมี Museum เก็บพวก specimen พวกชิ้นส่วนต่างๆของร่างกายที่ผิดปกติไว้ให้นักเรียนนักศึกษาอย่างเราๆหรือคนนอกที่สนใจได้ดูกันอย่างใกล้ชิดเวอร์ นับว่าเป็นโชคดีอีกอย่างนึงที่ได้มาเรียนที่นี่ บางคนอาจจะคิดว่า เอ้า ที่ไหนๆมันก็ต้องมีสิ จะบอกว่าใช่ค่ะ มีจริง แต่บางโรคที่หาดูยากๆเนี่ย บางที่ก็ไม่มีนะแจ๊ะ วันนี้เลยเอารูปของ Specimen ใน Museum มาอวดให้ได้ดูกันสักหน่อย



2.) Microbiology/lab
วิชานี้จะเป็นวิชาเกี่ยวกับพวก Bacteria Virus ต่างๆ เราก็ต้องมานั่งเรียนรู้วิถีชีวิตของพวกมันกัน ตั้งแต่ตอนมันตื่นนอนกินข้าวและหลับ 555 ไม่ช่ายยย เราต้องรู้ว่ามันเกิด มันแบ่งตัวยังไง มันแฝงเข้ามากับอาหาร หรือ ภาหะชนิดไหน มันเข้ามาในร่างกายเราได้ยังไง แล้วมันทำให้เกิดโรคอะไรได้บ้าง ..ยังค่ะ ยังไม่พอ ต้องรู้อีกด้วยว่าเราจะกำจัดมันได้ด้วยยาตัวไหน โอ มาย ก็อดด แล้วพวกแบคทีเรีย ไวรัส มันมีตัวเดียวซะที่ไหนกันล่ะค่ะ TOT คือแบบต้องรู้ดีจักพวกมันทั้งหมด ยิ่งกว่าปาปาราซี่สอดแนมชีวิตดาราซะอีกกกก
ส่วนแลปเราก็จะทดลองการเพาะแบคทีเรียค่ะ ฟังดูแล้วตลก จะเพาะไปทำไม ก็เพาะให้รู้ว่าสิ่งที่มองไม่เห็นก็มีนะเออ แล้วเราจะไปเอาแบคทีเรียที่ไหนมาเพาะหรอ ก็จากตัวเราแหละค่ะ ในแลปจะมีการแบ่งกลุ่มกันแล้วคนนึงในกลุ่มจะต้องไปเก็บ specimen มา เช่น เก็บขรี้ (อุจาระ)ของตัวเอง ></// มาเพาะแบคทีเรียในห้องให้เพื่อนดู -v- ซึ่งการเพาะนอกจากจะได้เห็นแบคทีเรียแล้ว เรายังสามารถบอกได้ด้วยว่า เพื่อนเรามีสุขภาพที่ดีรึเปล่า มาดูภาพกันดีกว่า555



3.) Pathophysiology
วิชานี้เราจะเรียนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของโรคและร่างกายของเรา ว่าโรคทำให้เกิดความผิดปกติในร่างกายได้ยังไง อะไรเป็นปัจจัยทำใหเกิดอาการผิดปกติต่างๆ เป็นวิชาที่น่าสนใจและยังเป็นวิชาที่สำคัญมากๆวิชานึงสำหรับการสอบใบประกอบโรคศิลป์ วิชานี้จะมีเป็น Lecture อย่างเดียว ก็นั่งอ่านวนไปค่ะ

4.) Parasitology
วิชานี้สำหรับ จขกท เป็นวิชาที่ชอบ และรู้สึก อี๋ ไปพร้อมๆกัน 555 วิชานี้เราจะเรียนเรื่องพยาธิ ปริสิต ต่างๆที่สามารถเข้ามาในร่างกายเราทำให้เกิดโรคประหลาดๆ ต่างๆได้ ซึ่งในคาบที่ฟังบรรยายก็ไม่เท่าไหร่หรอกกก ถึงจะมีภาพน่ากลัวๆบ้างแต่ก็ยังโอเค แต่จะบอกว่าทำแลปนี่สิ แม่เจ้าาาาาาา ส่องพยาธิตัวเป็นๆค่ะ ประหลาดใจ omg สุดๆ ทางมหาลัยจะเตรียม ขี้คนที่ได้รับการติดเชื้อพยาธิมาให้ สิ่งที่เราต้องทำคือเอาอุจาระนั้นไปส่องหาพยาธิเอาค่ะ เห็นพยาธิดิ้นๆ ในกล้องเป็นๆ เป็นที่น่าสะอิดสะเอียน สยดสยอง สยิวกิ้ววว มากสำหรับคนที่กลัวอะไรแบบนี้ และแน่นอนว่ามันสามารถดิ้นเข้าสู่ร่างกายเราได้ ก็ต้องระวังกันเองแหละค่ะ 555 ทำได้ดีที่สุดก็ใส่ถุงมือ ล้างมือให้สะอาด อะไรประมาณนั้นค่ะ นอกจากพยาธิตัวเป็นแล้ว ในแลปนี้เรายังได้ส่องไข่พยาธิด้วย ยิ่งตอนสอบนี่แล้วใหญ่เลย เราต้องมานั่งหาไข่พยาธิแล้วระบุชื่อพยาธิที่คนไข้ติดเชื้อให้ได้ถูกต้อง ซึ่งไม่ใช่ให้หาแค่ไข่ฟองเดียว แต่ให้หาถึงสามฟอง แต่ละฟองก็มาจากพยาธิต่างชนิดกันซึ่งเราไม่รู้มาก่อนว่าคนไข้มีพยาธิตัวไหน ก็ตรวจส่องกันตรงนั้นเลยค่ะ เป็นอะไรที่ท้าทายและสนุกดี





5.) Functional lab
วิชานี้จะเรียนตอนปีสามเทอมสองค่ะ เกี่ยวกับการทดลองยาต่างๆหรือmechanismที่เกี่ยวกับร่างกายค่ะ วิชานี้เราจะใช้กระต่ายในการทดลองกันจริงๆ ครั้งนึงน้องๆกระต่ายจะถูกสละชีพประมาณห้าตัวค่ะ น่าสงสารมากกกกก T^T ตอนแรกที่เห็นกระต่ายคือมันตัวโตกว่าที่คิดมากค่ะ เท่าท่อนแขนหรือใหญ่กว่าค่ะ ตัวนึงน้ำหนักก็ประมาณ2โลกว่า น่ารักน่าชังมากกก ก่อนอื่นพอได้มาเราจะฉีดยาชาก่อนที่เราจะผ่าหรือทดลองอะไรน้องๆค่ะ ซึ่งจขกท เป็นมือฉมังในการฉีดยาชาให้น้องๆกระต่ายเลยแหละค่ะ อยากเล่ามากว่าตอนฉีดครั้งแรกเนี่ย น้องดิ้นจนเข็มหลุดไปสามเข็มเลยล่ะค่ะ ตอนนั้นด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์ เลือดน้องนี่พุ่งกระจาย น่าสงสารมากกจีๆ เราก็ไม่รู้จะขอโทษนางยังไง แต่ว่าหลังจากนั้นพอค่อยๆชำนาญขึ้นทุกอย่างก็ลื่นไหลไปได้ด้วยดีค่ะ หลังจากฉีดยาชาเสร็จเราก็สามารถผ่าใส่ที่หายใจเข้าหลอดลมน้องหรือผ่าดูกระเพาะปัสสาวะ ผ่าดูxiphoid อะไรต่างๆอีกมายมาก ในบางคาบไม่ใช่แค่น้องๆกระต่ายนะคะ แต่ว่ายังมีน้องกบ น้องหนู มาร่วมเป็นเหยื่อให้ทดลองด้วย


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

6.) Diagnostic/lab
วิชานี้ก็เรียนเทอมสองเหมือนกันค่ะ จะมีเป็น lecture กับ lab ก็จะพูดถึงความผิดปกติและการตรวจวินิจฉัยโรคค่ะ มันก็จะงงๆหน่อยนะสำหรับจขกท มันเป็นวิชาที่แบบ ลูบๆ คล้ำๆ จับๆ ร่างกายคน555 แต่...แต่ย้ำว่าเพื่อวินิจฉัยโรคนะคะ ไม่ใช่มาลูบๆคล้ำๆแบบนั้น วิชานี้นี่ก็เป็นอะไรที่แปลกและทำให้เขินหนักมากค่ะ เพราะเราต้องถอดเสื้อ มีครั้งนึงตรวจปอดค่ะ ถอดแม้กระทั่งเสื้อใน omg แต่ว่าอย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ เพราะว่า เค้าแยกห้องให้สำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ แต่โดยส่วนตัวมันก็ไม่ใช่อะไรที่จะมาเปิด ลูบๆคล้ำๆ กันแบบนั้นอ่ะ 555 จขกท เลยยกให้วิชานี้เป็นวิชาที่ ไม่ค่อยอยากไปคลาสมากที่สุดใน 9 วิชาที่พูดมา ทุกๆครั้งอาจารย์จะขอตัวแทนผู้ชายในห้องไปสาธิตวิธีการให้ดูก่อน และแน่นอนค่ะว่า ต้องถอดเสื้อ wowww ดังนั้นน้องๆผู้ชายที่จะมาเรียนก็เตรียมฟิตหุ่นได้เลยค่ะ และแน่นอนค่ะว่า จขกท ไปเรียนทุกคาบค่ะ 555 ไม่ได้อยากจะไปดู อะไรของใครเลยนะคะ ตั้งใจไปเรียนจริง จริ๊งง อิอิ และอีกเรื่องนึงค่ะที่อยากจะเมาท์ คือวิชานี้ทางมหาวิทยาลัยได้นำเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อใช้ในการสอนด้วยค่ะ เรียกได้ว่ารู้สึกคุ้มค่าเทอมที่จ่ายไปขึ้นมานึดนุง คือทางมหาลัยจะมีหุ่นมาให้ค่ะ ซึ่งในหุ่นเราสามารถตั้งค่าความผิดปกติได้ เวลาเราใช้มือสัมผัสทำการตรวจหุ่นจะสามารถร้อง บอกว่าเจ็บได้ค่ะ คือมันสุดยอดมากค่ะ เราสามารถคล้ำ จับ สิ่งที่ผิดปกติจากในหุ่น ทำให้รู้ว่าความผิดปกติมันเป็นยังไง และสามารถวินิจฉัยแยกแยะโรคต่างๆได้จากเจ้าหุ่นนี่แหละค่ะ


7.) Pharmacology
วิชาสุดท้ายล่ะเนอะ วิชานี้ก็เป็นวิชาที่เรียนเกี่ยวกับยา ยา ยา และก็ยา ก็จะต้องรู้ตั้งแต่ มันเป็นยาอะไร ไปออกฤทธิ์ที่ไหน ทำให้เกิดอะไร รักษาโรคอะไร และ ผลข้างเคียงของยาคืออะไร ฟังดูง่ายๆ ทั่วๆไป แต่จะบอกว่ายามีเป็นร้อยตัวค่ะ นั่งอ่าน นั่งจำกันสนุกเลยยย <=ประชด = =:; เยอะมากกกกก อดหลับ อดนอนอ่าน กันเลยทีเดียวถ้าไม่ค่อยๆจำตั้งแต่แรก เพราะชื่อยานี่ แฟนตาซีมาก บางตัวก็ชื่อคล้ายๆกันอีก แต่ออกฤทธิ์คนล่ะที่ มีผลข้างเคียงไม่เหมือนกันงี้ จำโลดดดค่ะ ท่องอย่างเดียวเลย แนะนำว่าให้แต่งเรื่องแต่งการ์ตูนเอาค่ะ จำเป็นภาพ ซึ่ง จขกท ใช้ sketchy ค่ะ ป็นหนังสือภาพที่วาดขึ้นมาเป็นการ์ตูนให้จำง่ายๆ ใช้กันแพร่หายในนักเรียนหมอที่นี่ค่ะ ตัวอย่างภาพก็จะประมาณนี้ค่ะ



เอาล่ะค่ะก็หมดแล้วเนอะสำหรับปีสามรวมๆแล้วเหนื่อยน้อยกว่าปีสองเยอะค่ะ ปีสามเทอมสองออกจะชิวด้วยซ้ำ ว่างเลยแหละสำหรับจขกท ดังนั้น จขกทเลย เตรียมตัวไปสอบใบประกอบโรคศิลป์ค่ะ ผลการสอบก็ออกมาว่า แทม ทาดิแด แท๊ม แท่มมมมมมม ˜ ผ่านค่ะ เย้ๆๆๆ แต่ขออุ๊บบบคะแนนนะ ไม่บอกๆ 555 ดังนั้นวันนี้จะขอมารีวิวการไปสอบค่ะ เพราะว่าหลายคนกังวลว่ามาเรียนที่จีนจะกลับไปสอบไม่ผ่านบ้างล่ะ สอบผ่านได้ยากกว่าเพราะคนละหลักสูตรบ้างล่ะ แล้วมันจะเป็นยังไง ต้องอ่านหนังสือขนาดไหน แนวข้อสอบเป็นยังไง มาดูกันต่อโลดดดด
จขกท ขอโพสแยกไว้ในกรทู้ถัดไปนะคะ กลัวมันจะยาวไป

Youtube:https://www.youtube.com/watch?v=Vvqkw6PZvck&list=UUSlav_056hIzOECoDXIHXIw&index=16

ข้างล่างเป็น Contact กับกระทู้รีวิวปีสองกับปีหนึ่ง เผื่อใครอยากอ่านหรือ สอบถามอะไรเพิ่มเติมค่ะ
https://ppantip.com/topic/35498035 (แชร์ประสบการณ์ เรียนต่อแพทย์ที่จีน FDU)
https://ppantip.com/topic/35992870 (เรียนแพทย์ที่จีน Fudan university ชีวิตนักศึกษาปีสองเทอมหนึ่ง)
https://ppantip.com/topic/36647766 (Fudan University MBBS ชีวิตนักศึกษาปีสอง)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
*****Page ใหม่นะคะ https://www.facebook.com/The-Little-Doctor-516813898788791/?modal=admin_todo_tour *****
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่