GAM ISLAND
- ตื่นตั้งแต่ 6:30 น. เพราะต้องรีบเก็บข้าวของ เมื่อคืนฝนตกอีกแล้ว ไอ้ที่ชื้นก็ยิ่งชื้นเข้าไปใหญ่ เสื้อผ้าในกระเป๋าก็ชื้นหมด ภาวนาให้ที่ Gem แดดจัดๆ ขอแบบหลังไหม้ได้ยิ่งดี เพราะไม่งั้นเสื้อผ้าคงเหม็นตายต้องอยู่อีกตั้ง 6 วันเลยนะ
- 7:30 น. เดินทางออกจาก Dugong ตอน เพราะ Musa กลัวช่วงบ่ายน้ำลง และคลื่นแรง จะเดินทางลำบากเพราะระยะทางค่อนข้างไกล ระหว่างทาง Musa ยังคงแนะนำจุดต่างๆตลอดทาง ดูแลดีจนนาทีสุดท้ายจริงๆ
HOMESTAY 4 : ANO HOMESTAY
- เดินทางมาถึง Ano Homestay ตอนประมาณ 8:30 น.
คุณพระ สวยมาก ตัว Homestay จะตั้งอยู่หลังเกาะ เป็นเหมือน Lagoon เล็กๆ มีบ้านปลูกบนน้ำ มีระเบียงหน้าบ้านกว้าง มีบันไดเดินลงทะเลได้เลย น้ำนิ่งละใสมากถามหาแดด หลังไหม้ดังใจ 555
- ห้องน้ำสะอาด เป็นพื้นปูนแล้ว แถมบางห้องก็มีฝักบัวด้วย
ที่พัก สะอาด ผ้าปูที่นอนสีขาว แดดจัดเลยทำห้ไม่มีกลิ่นอับ สบายใจ รีบเอาเสื้อผ้าออกมาตากแดด เพราะชื้นมาก เหมือนผ้าที่ตากไว้ยังไม่แห้งดี
บริเวณที่กินข้าว ทุกคนที่มาพักต้องกินข้าวพร้อมกันที่นี้ อาหารเช้า 7:00 น. กลางวัน 12:00 น. และเย็น 18:30 น.
ที่นี้มีเพื่อนกินข้าวแล้ว ตอนอยู่ที่ Batanta กินข้าวกัน 2 คนทุกมื้อ เพราะไม่มีแขกมาพักเลย ที่นี้มีแขกมาพักประมาณ ถ้ารวมเราเป็น 5 กลุ่ม xประมาณ 10 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนยุโรป เราก็จะเจอพวกเขาในทุกมื้ออาหาร และได้ร่วมพูดคุยกันบ้างเล็กน้อย ไม่ได้หยิ่งนะ แต่ฟังไม่เข้าใจ คอยดูนะถึงกรุงเทพเมื่อไหร จะไปโหลดครูลูกกอล์ฟดู
อาหารที่นี้ กินง่ายมีผลไม้ให้ด้วยทุกมื้อ
ปะการังหน้าหาด
ปะการังที่นี้จะเป็นพวกต้นอ่อนที่พึ่งจะโต ปลาส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกลูกปลาสะมากกว่า แต่หน้าตาก็เหมือนพ่อแม่มันนั้นแหละ แต่ตัวเล็กกว่า เหมือนว่ายน้ำดูปลาจิ๋ว น่ารักดี หน้าบ้านก็จะมีบรรดาสัตว์ที่หากินตามเขตน้ำตื้นว่ายเข้ามาให้ดูตลอด เช่น ลูกปลาฉลามครีมดำ , ปละกระเบน , ปู , ฝูงลูกปลา และ ปลิงที่ตัวเท่าลูกฟักมันใหญ่มาก มากน่าจนขนลุก
- เช้าวันรุ่งขึ้น เรานัดกับเจ้าของบ้านให้พาไปดำน้ำที่ Manta Point , Arborek Jetty , Kobekwan Homestay
- ออกเดินทางกันตอน 7:30 น. แต่เรือวิ่งไปไม่ถึง 10 นาที ลุงก็เริ่มชะลอเรือ เราเลยหันกลับไปดูแก ได้ยินแกบอกว่า Manta Manta ยังไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ยังคิดว่าฟังผิด มันง่ายไปปะ Mantaนะ ตาก็มองไปตามมือที่ลุงชี้ไป เห็นเป็นจุดที่น้ำกระเพื่อมอยู่กลางทะเล เหมือนมีอะไรว่ายอยู่บนผิวน้ำ แต่ก็ยังไม่คิดว่าจะใช้ เพราะว่ายอยู่ที่ผิวน้ำเลย จนเริ่มได้เห็นปลายครีบโผล่พ่นน้ำ เริ่มชงัก พอเรือลอยเข้าไปใกล้ๆ ที่นี้ เต็มสองตาเลยจร้า ชัด ชัดเลย ยานแม่มาแล้ว
- ยืนเต้นอยู่บนเรือสักพักด้วยความดีใจ นึกขึ้นมาได้ หันไปถามลุง ลงไปไหมได้คะ อยากลงคะ ลงได้ไหมคะ ( พูดภาษาไทย + ภาษามือ 555 ) พอลุงบอกได้ รีบใส่ชุด ใส่ Fin ลงเลยจร้า รออะไร ตอนลงก็กลัวว่าเค้าจะตกใจ แล้วว่ายหนีไป แต่ที่ไหนได้ ว่ายเข้ามาดูเราใกล้ๆ ใกล้จนเหมือนครีบเค้าเกือบจะโดนตัวเรา หรือ หัวเราจะโดนดูดเข้าไปในปากเค้า แล้วไม่ได้มาแค่ 1 ตัว แต่มากันตั้ง 4 ตัว มี Black Manta 1 ตัว ในกลุ่มนั้นด้วย ว่ายวนเวียนอยู่รอบตัวเรา มันเป็นภาพที่สวยงาม และ สุขใจมาก ที่ได้ว่ายน้ำกับพวกเค้า เค้าสวยงาม สง่างาม ดูใจดี เป็นมิตร เราจดจำพวกเค้าไว้ในใจไม่มีวันลืมวันนี้แน่นอน
- หลังจากว่ายน้ำกับ Manta สักพัก ก็ต้องอำลาพวกเค้าก่อน เพราะไม่อยากรบกวนพวกเค้าจนเกินไป เลยรอขึ้นเรือ ยังขึ้นมาเต้นบนเรือต่อสักพัก ขอบคุณลุงยกใหญ่ที่พาเรามาดู Manta ลุงเห็นเราดีใจขนาดนี้ ก็ยิ้มสะแก้มปริเลย 555
- จุดต่อไป Arborek Jetty เป็นท่าเรือที่เกาะ Arborak เป็นจุดที่มีปะการังน้ำตื้นที่หนาแน่น หลากหลาย แต่ที่สำคัญ มีปลาใหญ่เยอะมากที่ Arborak มีหมู่บ้าน สามารถขึ้นไปเดินเล่น หรือ เดินหาซื้อขนมกินได้ ที่นี้มีน้ำเย็นๆ กับ ขนมคบเคี้ยวขาย ใครอยากเจอ Coke Fanta เย็นๆ เจอได้ที่นี้นะคะ
- จุดต่อไป Kobekwan Homestay ตามรอยคุณ Adil อีกตามเคย Kobekwan Homestay เป็น Homestay เก่าเหมือนไม่มีใครอยู่มานานปะการังหน้าหาดสวยมาก หนาแน่น หลากหลาย ปลาเยอะ เจอฉลามครีมดำแบบตัวต่อตัว ยาวประมาณ 1.50 เมตร ว่ายวนเราเป็นวงกลม ตอนแรกก็เคยคิดว่า เราคงไม่กลัวฉลามหรอก เพราะเจอบ่อย แต่พอเจอใกล้ๆ แล้วยังมาว่ายวนดูเราตลอด เราก็แอบกลัวนะ เลยรีบว่ายไปหาลุงกับแฟนที่ดำอยู่ใกล้ๆ ยังแอบคิดเลยว่า ถ้ายังเข้ามาใกล้อีกจะทำไงดี ถอด Fin ตบได้ปะ ขอไปศึกษาก่อนนะ ว่าต้องทำไงหากเจอฉลามขี้สงสัยแบบนี้อีก
หลังจากกินข้าวเที่ยง พักผ่อนสักพัก ก็ชวนน้องที่ Homestay ให้พาไปหมู่บ้าน Sawinggrai ที่อยู่ใกล้ๆ อยากไปเดินเล่น หาขนมกินด้วย
ที่หมู่บ้าน Sawinggrai หมู่บ้านที่นี้น่าจะคุ้นเคยกับนักท่องเที่ยวดี ถ่ายรูปเด็กเสร็จ เด็กแบมือ เสียใจคะ พี่จะไม่ปลูกฝักค่านิยมผิดๆ ให้เด็กที่คะ
ร้านขายของชำที่นี้ หน้าตาจะประมาณนี้แหละ มีหน้าต่างเล็กๆ บริเวณหน้าต่างจะมีตาข่ายขึงปิดหมด แล้วใช้มือชี้เอา ส่งของผ่านทางตาข่ายนั้นแหละ
- ขากลับน้องพาอ้อมเข้ามาที่ Gem Bay ดูป่าโกงกาง สวยไปอีกแบบ บริเวณ Gem Bay ก็มีจุดดำน้ำที่น่าสนใจนะ แต่เรากลัวความเป็นป่าโกงกาง มันดูมืด และสลับซับซ้อนเกินไป รู้สึกไม่ค่อยปลอดภัย อันนี้คิดไปเองล้วนๆ
ลืมเล่าให้ฟัง ที่ Raja Ampat มีจระเข้นะ ชอบอยู่ตามป่าโกงกาง เคยมีข่าวทำร้ายนักท่องเที่ยว และ นักดำน้ำ แต่โชคดีที่เราไม่เจอ
- หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็ต้องกลับมาเก็บของ เพราะพรุ่งนี้ต้องเปลี่ยนที่พักอีกแล้ว
- Ano Homestay เป็น Homestay ที่ชอบมากอีกที่ และ อยากจะกลับมาอีก เนื่องจากทำเลที่ตั้งสวยแปลกกว่าที่อื่นๆ บ้านพักก็สวย สะอาด ห้องน้ำดีที่สุดในบรรดาที่พักทั้งหมด แต่แอบร้อนตอนกลางคืน ( แต่ก็ร้อนทุกที่นะ ) เรายังแอบลุกไปอาบน้ำตอนกลางดึก เพราะนอนไม่หลับ แล้วก็เกิดอาการแสบร้อนกลางหลังมากเพราะอาการหลังไหม้จริงๆ จากการดำน้ำที่หน้าบ้านพัก
อาหารที่นี้ อร่อย กินง่าย มีผลไม้ และ อาหารว่างให้ด้วย เราเป็นคนที่ไม่ชอบกินปลาต้มกับพวกเครื่องเทศกลิ่นแรงๆ ( ไปทุกที่ มีทุกที่ เหมือนเป็นอาหารประจำท้องถิ่น บางที่ก็มีมาให้กินแทบทุกมื้อ ) เลยเอารูปไข่เจียวให้เค้าดู บอกเค้า เราขอแค่ไข่เจียวนะ เค้าจะได้ไม่ต้องทำเมนูปลามาให้เรา เพราะทำมาเราก็ไม่กินอยู่ดี ไม่อยากให้พี่เค้าเสียเวลาและเสียใจที่เราไม่กินมันเลย แต่ปรากฏว่า ก็ยังคงมีเมนูปลาเหมือนเดิมนั้น แต่เพิ่มเมนูไข่ให้เราอีก 1 เมนู กลายเป็นว่าเรากลับไปเพิ่มงานพี่ให้เค้าสะงั้น
RAJA AMPAT 2018 EP.4 : GAM HOMESTAY 4
- 7:30 น. เดินทางออกจาก Dugong ตอน เพราะ Musa กลัวช่วงบ่ายน้ำลง และคลื่นแรง จะเดินทางลำบากเพราะระยะทางค่อนข้างไกล ระหว่างทาง Musa ยังคงแนะนำจุดต่างๆตลอดทาง ดูแลดีจนนาทีสุดท้ายจริงๆ
คุณพระ สวยมาก ตัว Homestay จะตั้งอยู่หลังเกาะ เป็นเหมือน Lagoon เล็กๆ มีบ้านปลูกบนน้ำ มีระเบียงหน้าบ้านกว้าง มีบันไดเดินลงทะเลได้เลย น้ำนิ่งละใสมากถามหาแดด หลังไหม้ดังใจ 555
- ห้องน้ำสะอาด เป็นพื้นปูนแล้ว แถมบางห้องก็มีฝักบัวด้วย
ที่พัก สะอาด ผ้าปูที่นอนสีขาว แดดจัดเลยทำห้ไม่มีกลิ่นอับ สบายใจ รีบเอาเสื้อผ้าออกมาตากแดด เพราะชื้นมาก เหมือนผ้าที่ตากไว้ยังไม่แห้งดี
ที่นี้มีเพื่อนกินข้าวแล้ว ตอนอยู่ที่ Batanta กินข้าวกัน 2 คนทุกมื้อ เพราะไม่มีแขกมาพักเลย ที่นี้มีแขกมาพักประมาณ ถ้ารวมเราเป็น 5 กลุ่ม xประมาณ 10 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นคนยุโรป เราก็จะเจอพวกเขาในทุกมื้ออาหาร และได้ร่วมพูดคุยกันบ้างเล็กน้อย ไม่ได้หยิ่งนะ แต่ฟังไม่เข้าใจ คอยดูนะถึงกรุงเทพเมื่อไหร จะไปโหลดครูลูกกอล์ฟดู
- ออกเดินทางกันตอน 7:30 น. แต่เรือวิ่งไปไม่ถึง 10 นาที ลุงก็เริ่มชะลอเรือ เราเลยหันกลับไปดูแก ได้ยินแกบอกว่า Manta Manta ยังไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน ยังคิดว่าฟังผิด มันง่ายไปปะ Mantaนะ ตาก็มองไปตามมือที่ลุงชี้ไป เห็นเป็นจุดที่น้ำกระเพื่อมอยู่กลางทะเล เหมือนมีอะไรว่ายอยู่บนผิวน้ำ แต่ก็ยังไม่คิดว่าจะใช้ เพราะว่ายอยู่ที่ผิวน้ำเลย จนเริ่มได้เห็นปลายครีบโผล่พ่นน้ำ เริ่มชงัก พอเรือลอยเข้าไปใกล้ๆ ที่นี้ เต็มสองตาเลยจร้า ชัด ชัดเลย ยานแม่มาแล้ว
- จุดต่อไป Arborek Jetty เป็นท่าเรือที่เกาะ Arborak เป็นจุดที่มีปะการังน้ำตื้นที่หนาแน่น หลากหลาย แต่ที่สำคัญ มีปลาใหญ่เยอะมากที่ Arborak มีหมู่บ้าน สามารถขึ้นไปเดินเล่น หรือ เดินหาซื้อขนมกินได้ ที่นี้มีน้ำเย็นๆ กับ ขนมคบเคี้ยวขาย ใครอยากเจอ Coke Fanta เย็นๆ เจอได้ที่นี้นะคะ
ลืมเล่าให้ฟัง ที่ Raja Ampat มีจระเข้นะ ชอบอยู่ตามป่าโกงกาง เคยมีข่าวทำร้ายนักท่องเที่ยว และ นักดำน้ำ แต่โชคดีที่เราไม่เจอ
- Ano Homestay เป็น Homestay ที่ชอบมากอีกที่ และ อยากจะกลับมาอีก เนื่องจากทำเลที่ตั้งสวยแปลกกว่าที่อื่นๆ บ้านพักก็สวย สะอาด ห้องน้ำดีที่สุดในบรรดาที่พักทั้งหมด แต่แอบร้อนตอนกลางคืน ( แต่ก็ร้อนทุกที่นะ ) เรายังแอบลุกไปอาบน้ำตอนกลางดึก เพราะนอนไม่หลับ แล้วก็เกิดอาการแสบร้อนกลางหลังมากเพราะอาการหลังไหม้จริงๆ จากการดำน้ำที่หน้าบ้านพัก
อาหารที่นี้ อร่อย กินง่าย มีผลไม้ และ อาหารว่างให้ด้วย เราเป็นคนที่ไม่ชอบกินปลาต้มกับพวกเครื่องเทศกลิ่นแรงๆ ( ไปทุกที่ มีทุกที่ เหมือนเป็นอาหารประจำท้องถิ่น บางที่ก็มีมาให้กินแทบทุกมื้อ ) เลยเอารูปไข่เจียวให้เค้าดู บอกเค้า เราขอแค่ไข่เจียวนะ เค้าจะได้ไม่ต้องทำเมนูปลามาให้เรา เพราะทำมาเราก็ไม่กินอยู่ดี ไม่อยากให้พี่เค้าเสียเวลาและเสียใจที่เราไม่กินมันเลย แต่ปรากฏว่า ก็ยังคงมีเมนูปลาเหมือนเดิมนั้น แต่เพิ่มเมนูไข่ให้เราอีก 1 เมนู กลายเป็นว่าเรากลับไปเพิ่มงานพี่ให้เค้าสะงั้น