RAJA AMPAT EP.5 : GEM - KRI - SORONG - ค่าใช้จ่าย

HOMESTAY 4


- ออกจาก Ano Homestay ตอน 7:30 น.
- 8:00 น. ถึง Kodiris Homestay ที่นี้มีเพื่อนเยอะเลย ไม่เหงา และความเป็นธุรกิจท่องเที่ยวเริ่มเข้ามา ไม่เหมือนกับ Homestay ที่ผ่านๆมา บ้านพักก็โอเคไม่มีกลิ่นอับชื้น ห้องน้ำก็โอเค แต่ที่นี้มีเพื่อนร่วมกินข้าวด้วยเกือบ 10 คน ส่วนใหญ่เปนชาวยุโรปเหมือนเดิม อาหารกินได้




ความพังที่สอง TG5 น้ำเข้า

พังคะ เลยไม่ค่อยมีรูปใต้น้ำให้ดูแล้วนะ เพราะที่เหลือใช้แค่ I Phone ถ่าย ซึ่งเวลาเราออกไปดำน้ำ เราก็ไม่พกไปด้วย กลัวเปียกน้ำ สัญญาณก็ไม่มี เลยไม่รู้จะพกไปทำไม


- คราวนี้ไม่ได้ไปไหนมาไหนกันสองคนเหมือนเดิมแล้ว เพราะได้ร่วม Joy Trip กับกลุ่มสาวๆ 4 คนที่เป็นชาวเนเธอร์แลนด์จะได้ประหยัดค่าเรือ ซึ่งพอหารมาจริงๆ มันถูกมาก การไปพักใน Homestay ที่มีแขกมาพักเยอะก็จะดีตรงที่มีคนช่วยหารค่าเรือเวลาออกไปตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ นั้นแหละ

- จุดแรก Cape Kri บริเวณนี้ น้ำลึก มองไม่ค่อยเห็น น้ำค่อนข้างขุ่น แต่ก็ได้ยังเห็นเต่ากับฉลาม
- จุดที่สอง Hilight Yenbuba Jetty อันนี้สวย มีปะการังน้ำตื้นหนาแน่น บริเวณท่าเรือ แต่ที่โดดเด่นของที่นี้คือ มีปลาใหญ่ให้ดูเยอะมาก ปลาสี  สวย ว่ายดูปลาเพลินเลย

- กลับที่พักมากินข้าวเที่ยง พักร่างแป๊บ ช่วงเย็นลงดำน้ำหน้าหาด หน้าหาดไม่ค่อยมีอะไร มีแต่ปะการังเขากวาง และ ฝูงปลาเล็กน้อย แต่น้ำใส เหมาะแก่
   การเล่นน้ำมากกว่า
- เช้าวันรุ่งขึ้น กินข้าวเสร็จ เดินไปดำน้ำที่หน้า Yendebuba Homestay ตรงท่าเรือไม่ค่อยมีอะไร แต่ช่วงตรงประมาณกลางหาด มีจุดที่ปะการังสวยด้วยอยู่
- เราพักที่ Kodiris Homestay 2 คืน ได้เวลาต้องย้ายไป Homestay สุดท้ายของ Trip นี้




ความพังที่สาม

- เราจอง Homestay ที่ชื่อ Yenbuba Homestay ไว้ แต่พอมาถึง ทางคนดูแลที่ชื่อ Rose นางเป็นคนที่ลบมาก ลบกับทุกสิ่ง ไม่มีจิตใจในรักการบริการ แจ้งว่าเราไม่ Confirm เค้า ไม่ตอบ Mail เค้า เรางงมาก ก่อนเราจะมาถึงเราตอบ E-Mail ทุก Mail ของทุก Homestay เพราะกลัวพลาด แต่ก็ไม่ได้รับ Mail จาก Rose หรือจะส่งหลังจากที่เราเดินทางมาแล้ว แล้วเราก็ไม่มีสัญญาณเลยเช็ค Mail ไม่ได้ เลยแจ้งเค้าไปประมาณนี้ แต่เค้าดูไม่รับฟังและไม่พอใจ พร้อมกับพูดจาประมาณว่า คนไทยก็แบบนี้แหละ ไม่เคยตอบ E-mail เค้าเลย ขึ้นเลยคะ ทำไมต้องเหมาคนไทย ด่าเราคนเดียวก็ได้ อย่าเหมารวมคนไทยสิ ( นางส่ง Mail มาวันที่ 6 ตอนนั้นเราอยู่ที่ Batanta แล้ว ใครจะไปตอบได้วะ สัญญาณโทรศัพท์ยังไม่มีเลย )
- สรุปแล้วนางก็บอกกับเราว่าบ้านริมทะเลเต็มบ้าง กุญแจมีปัญหาบ้าง แต่จะให้ไปนอนที่อื่น เพราะนางปล่อยบ้านเราไปแล้ว เราเริ่มไม่พอใจบวกกลับท่าทางที่ดูไม่เป็นมิตร เราเลยขอพักที่นี้แค่ 1 คืนเท่านั้น ( กะว่าจะไปหาที่นอนใหม่พรุ่งนี้เอา ) เท่านั้นแหละ นางยิ่งโกธรเรายกใหญ่ ให้เราย้ายไปนอนห้องอะไรไม่รู้ มีแต่เตียง ขนาดพื้นยังไม่กวาดให้เลย เหมือนห้องเก็บของที่ไม่มีใครมาพักนานมากแล้ว สุดเซ็ง นั่งทำใจแล้วคิดจะอยู่ว่าจะเอาไงดี ฝนตกก็ตกหนัก จะไปไหนก็ไปไม่ได้ เอาไงดี เศร้าจริง และในระหว่างที่ฝนตกหนัก กำลังจะเดินกลับมาที่นั่งห้อง เพราะไม่รู้จะไปไหนแล้ว เจอกลุ่มแขกที่มาพักนั่งกินข้าวกันอยู่ที่โรงอาหาร เค้าก็ทักทายเราตามปรกติ “ Hello “ ด้วยความที่จิตตกอยู่ เลยตอบไปว่า “ สวัสดีคะ “ เท่านั้นแหละ “ อ่าวววว คนไทยเหรอ “ คุณพระ ดีใจสุดๆ เจอคนไทยด้วย พี่เค้าเลยแนะนำให้ไปพัก Homestay ข้างๆ  ซึ่งก็มีคนไทยพักอยู่ด้วย เราเลยตกลงและย้ายไปพักที่นั้น ลาก่อน
บายยยยย ยายโรส





HOMESTAY 5


- เราได้พักที่ Mangkur Kodon Homestay 2 คืน พบกับพี่คนไทยที่เคยเจอที่หมู่เกาะสุรินทร์ ไปทุกครั้งเราก็จะเจอพี่เค้า ทุกครั้ง มันเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ในช่วงเวลาที่เราลำบาก อยู่ต่างบ้านต่างเมือง ติดต่อใครอะไรก็ไม่ได้ แล้วเจอคนไทย มันอุ่นใจยังไงไม่รู้ ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แค่เคยเห็นหน้าพี่เค้าเท่านั้น แต่พี่เค้าทำให้เรารู้สึกดีมากจริงๆ ขอบคุณนะคะที่ทำให้ Trip นี้จบอย่างสวยงาม
- Mangkur Kodon Homestay วิวสวยมาก มองจากหน้าบ้านคือแบบในรูปเลย ( บ้านในรูป คือ Yenbuba Homestay นะ เรายืนถ่ายจากหน้าบ้านเรา ) เวลาน้ำลงจะมีแนวสันทรายขึ้นยาวกลางทะเล เราสามารถเดินข้ามไปเกาะข้างๆได้เลย น้ำที่นี้ถือว่าใสมากและหาดทรายก็ขาวมาก เหมาะแก่การเล่นน้ำและถ่ายรูป ในส่วนของบ้านพักก็ถือว่าโอเค ห้องน้ำโอเค
- ครอบครัวที่นี้จะเป็นครอบครัวใหญ่ น่าจะประมาณ 10 กว่าคนได้ การจัดการก็แบบชาวบ้าน ไม่ได้ระบบธุรกิจอะไร อาหารการกิน กินได้ รสชาติดี กินง่าย


- กิจกรรมของคนที่นี้คือ การตกปลา ตกกันทั้งวัน 555
- แล้วเราก็ได้เห็น ตัว Cuscus ที่อยู่ตามธรรมชาติจริงๆ ที่นี้ด้วยดีใจ อิ อิ  
- ในส่วนของปะการัง เนื่องจากที่ Homestay นี้จะอยู่ตรงข้ามกับ Yenbuba Jetty แล้วเค้าก็แนะนำให้เราว่ายน้ำข้ามเกาะไปที่ท่าเรือ เพราะระหว่างทางสวย
มาก เอาก็เอาวะ ข้ามก็ข้าม สรุป สวยจริงคะ เจอเต่าแบบใกล้มาก ในช่วงที่ใกล้ถึงท่าเรือ เป็นช่วงที่เหมือนขอบเหว บริเวณนั้นจะมีปะการัง และ ฝูงปลา
ใหญ่ เน้น ใหญ่ และ ใหญ่ ใหญ่จนน่ากลัว กลัวมันจะชน เพราะมันใหญ่ไปไหม ตัวจะเท่าเราแล้วนะ เคยเห็นปลาตัวใหญ่ๆตาม Aquarium ไหมแบบนั้นเลย
- ระหว่างที่อยู่ที่นั้น ก็ได้ Joy Trip กับกลุ่มคนไทย ไปที่ Manta Point กับ Aborek Jetty อีก แต่คราวนี้กลับไม่เจอ Manta เลย แอบผิดหวัง
- อยู่ครบ 2 คืน ได้เวลาต้องกลับบ้านแล้ว แอบเศร้า เพราะยังไม่อยากกลับเลย แต่ชีวิตต้องเดินต่อ กลับไปหาเงินมาเที่ยวใหม่ 555


ลาก่อนนะ Raja Ampat แล้วจะมาหาใหม่นะ





- นั่งเรือออกจาก Waisai รอบ 14:00 น. ถึงท่าเรือ Sorong ประมาณ 15:30 น.
- ออกจากท่าเรือ Sorong มาจะมี Taxi มารอรับเลือกได้ตามใจชอบ โรงแรมที่เราพักอยู่ที่หน้าสนามบินเลย ค่า Taxi 100,000 IDR เท่าเดิม


- เราเลือก โรงแรมเจ เมอริเดียน (Je Meridien Hotel) เพราะอยู่หน้าสนามบินเลย เดินข้ามถนนไปก็ถึง เพราะต้องบินเช้า กลัวหารถมาสนามบินยาก ห้องพักที่นี้อยู่ในระดับปานกลาง แต่อุปกรณ์ต่างๆ ใช้งานได้ตามปรกติดี มี Wifi เครื่องทำน้ำอุ่น น้ำแรง ได้อาบน้ำแบบสะใจสักที


ตกเย็น เดินหาอะไรกิน พี่คนไทยแนะนำเมนูไก่ทอด เลยจัดไป รสชาดอร่อยนะ เหมือนไก่ทอดหาดใหญ่ กับน้ำซอสที่คลายแจ่วบ้านเรา แต่หวานกว่า



หน้าตาร้านอาหารแถวนี้

หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็เดินเล่นสักพัก เจอเมนูหน้าสนใจ เป็นปลาเผา คนท้องถิ่นนิยมกันมาก ดูจากคนในร้าน เต็มเกือบทุกร้าน หน้าตาร้านก็เหมือนร้านเมี่ยงปลาเผาบ้านเรานี่แหละ แต่มีน้ำจิ้ม กับ ผักให้ตักเองเหมือน ร้านขนมจีน น่าสนมาก แต่อิ่มไก่ กินไม่ ไหวแล้ว ไว้คราวหน้านะ เจอกัน



- ตื่นมาตั้งแต่ ตี 4:30 อาบน้ำอาบท่า เตรียมไปสนามบิน เพราะบินตอน 7:30 น. กะจะไปถึงสัก 5:30 น. เผื่อเวลาสัก 2 ชม. แต่สนามบินยังไม่เปิดคะ เปิด 6:00 น. จะรีบมาทำไมเนี๊ยะ


- ถึงสนามบินที่ Jakarta ( เครื่องลงที่ Terminal 1 ) ต่อเครื่องไปกรุงเทพที่ ( Terminal 3 ) ถึงประเทศไทย 17:30 น.
จบ Trip ลงอย่างสวยงาม และ ปลอดภัยทุกประการ





ค่าใช้จ่ายโดยประมาณในการเดินทาง

1. ค่าเครื่องบิน กรุงเทพ – จาร์กาตาร์  2,800 – 3,300 บาท / คน / เที่ยว
2. ค่าเครื่องบิน จาร์กาตาร์ – ซอรอง 1,600,000 – 2,000,000 IDR / คน / เที่ยว

3. ค่า Taxi ไปค่าเรือ 100,000 IDR ราคาเหมา
4. ค่าเรือไป Waisai 100,000 IDR / คน / เที่ยว
5. ค่าเข้าอุทยาน ( Entrance Fee ) 1,000,000 IDR / คน

6. ค่าเรือมารับ จาก Batanta-Waisai 2,000,000 IDR ราคาเหมา
7. ค่าใช้จ่ายที่ Kriss Iba Homestay

- ค่าที่พัก 350,000 IDR / คน / คืน
- ค่า Trip ไป เกาะ Wai 700,000 IDR ราคาเหมา
- ค่าเรือไปส่งที่ Dugong Homestay 700,000 IDR ราคาเหมา

8. ค่าใช้จ่ายที่ Dugong Homestay
- ค่าที่พัก 350,000 IDR / คน / คืน
- ค่า Trip ไป เกาะ Urun 400,000 IDR ราคาเหมา
- ค่าเรือไปส่งที่ Ano Homestay 1,500,000 IDR ราคาเหมา

9. ค่าใช้จ่ายที่ Ano Homestay
- ค่าที่พัก 400,000IDR / คน / คืน  
- ค่า Trip ไป Manta Point + Aborek Jetty + Kobekwan Homestay 700,000 IDR ราคาเหมา
- ค่า Trip Sawinggrai Village 300,000 IDR ราคาเหมา
- ค่าเรือไปส่งที่ Kodis Homestay 500,000 IDR ราคาเหมา

10. ค่าใช้จ่ายที่ Kodiris Homestay
- ค่าที่พัก 350,000 IDR / คน / คืน
- ค่า Trip ไป Cape Kri + Yenbuba Jetty ( Joy Trip ) 100,000 IDR / คน
- ค่าเรือไปส่งที่ Yenbuba Homestay 300,000 IDR ราคาเหมา
- ค่าใช้จ่ายที่ Mangkur kodong Homestay

11. ค่าที่พัก Yenbuba Homestay 700,000 IDR ( ไม่ได้นอน )

12. ค่าใช้จ่ายที่ Mangkur kodong Homestay
-  ค่าที่พัก 350,000 IDR / คน / คืน
-  ค่า Trip ไป Manta Point + Aborek ( Joy Trip ) 113,000 IDR / คน
- ค่าเรือไปส่งที่ Waisai 500,000 IDR ราคาเหมา

13. ค่า Taxi ไปโรงแรม Je Meridien Hotel
13. ค่าใช้จ่ายที่ Je Meridien Hotel
- ค่าที่พัก 1517 บาท รวม 2 คน / คืน
- ค่าไก่ทอด 90,000 / 2 คน

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
ค่า Sim True
ค่าประกันการเดินทาง
ค่าขนม และ น้ำหวานๆ ตามหมู่บ้านต่างๆ ( Coke กระป๋องละ 8,000 IDR )
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่