ล่องเรือชมบึง "เกาะไผ่สามร้อยยอด-เขาจูบกัน"

      >> สวัสดีครับ รีวิวนี้ก็มาพบกับ หยุดแล้วเที่ยวได้ กันอีกแล้วนะครับ ไหนๆ เราก็มาโซนทะเลกันแล้วเนาะ นั้นเราก็มาต่อกันที่สถานที่ท่องเที่ยวถัดไปของ อ.สามร้อยยอด กันเลย หลังจากครั้งก่อนผมพาขึ้นเขามาแล้ว ครั้งนี้ผมจะเปลี่ยนพามาลงน้ำกันบ้างที่ ล่องเรือชมบึง "เกาะไผ่สามร้อยยอด-เขาจูบกัน" ซึ่งทริปนี้ผมมาใช้บริการเรือที่ เกาะไผ่แคมป์ปิ้ง ครับ ก่อนจะไปชมบรรยากาศกัน เรามาทราบรายละเอียดของสถานที่กันก่อนนะครับ
      >> เกาะไผ่สามร้อยยอด หรือตรงเกาะไผ่แคมป์ปิ้ง ตั้งอยู่ที่ ตำบลไร่ใหม่ อำเภอสามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์ เป็นสถานที่เที่ยวจุดเช็คอินจุดหนึ่งของอุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด ที่สำหรับคนสะสมตราอุทยานสามารถนำสมุดสะสมมาประทับตราสถานที่ได้ โดยแต่ละทิ้งของอุทยานจะประทับชื่อไม่เหมือนกัน
      >> โดยมีค่าเข้า เด็ก 20 บาท ผู้ใหญ่ 40 บาท ค่ายานพาหนะ จักรยานยนต์ 20 บาท รถยนต์ 30 บาท ซึ่งจะชำระจุดไหนของอุทยานสามารถให้บัตรเที่ยวภายในอุทยานได้ 5 วัน โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ถ้ามาถึงค่ำก็ไม่มีเจ้าหน้าที่แล้วนะ เจ้าหน้าที่กลับประมาณสี่โมงเย็น
      >> รายละเอียดพร้อมแล้วลุยได้ มาด้วยเรื่องของการนั่งเรือเนาะ ผมนั่งเรือของเกาะไผ่แคมป์ปิ้งในราคา 600 บาทต่อลำ นั่งได้ 4 คน แต่วันนี้ผมมาคนเดียวซึ่งมาจนเย็นประมาณห้าโมงเย็น พระอาทิตย์เริ่มตกดิน และไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นเลย ก็เหมาลำคนเดียวสิครับ ตอนแรกว่าจะหาคนหารด้วย 
      >> เวลาเปิด: 07.00-17.00 น. อย่างผมมาก็ 5 โมงเย็นแล้ว อันที่จริงเราสามารถโทรติดต่อจองเรือเที่ยวนอกเวลาได้นะจากที่คุยกับลุงคนขับเรือ ได้ตลอดคืนสำหรับคนที่ต้องการมาถ่ายทางช้างเผือก หรือเหมาลำทั้งวันเพื่อตกปลา ค่าใช้จ่ายก็คุยกับเขาได้เลย แล้วแต่ตกลงกันครับ เบอร์โทรนี้ได้เลยครับ 092 514 7461 

      >> หลังจากติดต่อเรือ คุณลุงก็ขับเรือมารับเราที่ท่าเรือทันที ซึ่งเราต้องล่องเรือไป-กลับ ประมาณ 1 ชม. เลย วิวเบื้องหน้าเราสวยงามมากๆ เป็นวิวภูเขาสามร้อยยอดที่มีเงาสะท้อนลงมาที่ผิวน้ำ อยากาศก็ดีไม่ร้อนเย็นสบาย เห็นปลาผุด และมีนกบินไปบินมาตลอดทางเลย

      >> นี่ไงเหล่านักตกปลาเหมาลำมาเลย เห็นเขาได้ปลาชะโดตัวใหญ่ด้วย

      >> ช่วงแรกๆ จะผ่านบึงจุดที่มีบัวขึ้นค่อนข้างเยอะ ซึ่งไม่ใช่บัวหลวงนะครับ บัวจุดนี้จะมีดอกสีขาว ซึ่งจะบานช่วง 6-7 โมงเช้า และหุบช่วงประมาณ 10 โมง ใครที่จะมาชมดอกบัวก็ต้องมาในช่วงเช้าครับ มีเรือกลับสวนเรามา 1 ลำด้วย และก็เป็นลำสุดท้าย

     >> ครู่เดียวเราก็มาถึงจุดหยุดชมวิวจุดแรกกันแล้ว ที่ "เขาแมว" หรือ "ผาแมว" นี่ละครับผมเองก็ลืม ซึ่งคณลุงเล่าให้ฟังว่า ที่ได้ชื่อนี่เพราะ คนสมัยก่อนจะนำหินของที่นี่ไปใส่ไว้ในยุ้งข้าวเพื่อไล่หนู อาจเพราะด้วยลักษณะของหินที่อาจมีโพร่งอากาศด้านใน ทำให้เคาะมีเสียงก้องหรือเปล่าเลยทำให้หนูกลัว อันนี้เป็นเพราะเรื่องเล่า ผมเองก็ไม่ได้พิสูจน์ไม่รู้เป็นจริงไหมนะ อยากไล่หนูก็จัดกาวดักเลยครับ แต่ภูเขาเป็นเขาหินปูนดูสี และรูปทรงลวดลายสวยดีครับ

       >> อีกเรื่องเล่าจากคุณลุง เล่าให้ผมฟังว่า แต่เดิมที่นี่ไม่ได้เรียกว่า สามร้อยยอด แต่เรียกว่า สามร้อยรอด เนื่องจากสมัยก่อนระดับน้ำที่นี่ยังสูงกว่านี้มาก สังเกตได้จากรอยน้ำกัดเซาะตรงหน้าผาที่เขาแมวได้ครับ ได้มีเรือสำเภาจีนเข้ามาหลบคลื่นลมทะเลอยู่หลังเขาแต่โดนพายุคลื่นทะเลซัดจนเรือสำเภาแตก ลูกเรือหลายคนเสียชีวิตมีเพียง 300 คน ที่รอดปีนขึ้นเขา ต่อมาเรียกเพี้ยนกันมาเรื่อยๆ จนเป็น สามร้อยยอด อ้าวจริงดิ! ตอนแรกผมเข้าใจว่าชื่อมาจาก จำนวนยอดเขาทั้งหมดนะเนี้ย

     >> หยุดชมวิว และฟังเรื่องเล่าจากคุณลุงประมาณ 5 นาที เราก็ออกเดินทางต่อไปยังจุดถัดไปที่อยู่ใกล้ๆ กัน ที่อาจจะเป็นไฮไลท์ของหลายๆ คนที่มาเที่ยวที่นี่เลยละ ที่ "เขาจูบกัน" ไหนลองดูสิจูบกันยังไง

      >> เขาจูบกันแบบนี้นี่เอง คนโสดอย่างเราก็อิจฉาตาร้อนเลย เขายังมีคู่เลยอะ แต่ต้องหามุมดีๆ นะ แบบว่าเหมือนมาก ใช่เลยอะ และยิ่งมีแสงสีแดงส้มของแสงอาทิตย์สะท้อนกับผิวน้ำเบื้องหลังคือแบบว่าสวยสุดๆ เลยครับ

       >> คุณลุงบอกว่าช่วงน้ำเยอะหน้าฝนน้ำจะท่วมสูงกว่านี้ ทำให้สามารถนำเรือเข้ามาด้านในเลย น่าจะช่วงเดือนตุลาคม เราก็จะได้ภาพที่มีเรือเข้ามาลอยในถ้ำ ยืนบนเรือดูเขาจูบกัน พร้อมกับแสงตะวันสวยๆ เบื้องหลังเลย พูดแล้วอยากกลับมาอีกเลย และในถ้ำก็จะมีชั้นหินที่มีเศษซากฟอสซิลของหอยนางรมด้วยนะ

       >> หลังจากได้ภาพสมใจแล้ว เราก็พร้อมเดินทางต่อไปยังจุดถัดไปจุดสุดท้ายของเส้นทางล่องเรือ

       >> จากจุดเขาจูบกันมาประมาณ 15 นาที เราก็มาถึงจุดสุดท้ายที่ เขื่อนกั้นน้ำจืด และน้ำเค็ม โดยบึงที่เราล่องเรือจะเป็นน้ำจืด ซึ่งมีระดับสูงกว่าน้ำเค็มจากทะเล โดยถ้าช่วงหน้าฝนน้ำจืดจากในบึงจะไหลล้นลงสู่ทะเลทางนี้ ซึ่งเป็นบริเวณทางเข้า วัดพุทธอุทยานถ้ำเกาะไผ่ ที่ด้านในวัดมีถ้ำด้วย โดยเราสามารถเดินเข้าไปชมภายในวัดได้ แต่ผมมาถึงจนพระอาทิตย์ตกดิน เลยไปได้เข้าไปด้านใน ได้แค่ยืนชมพระอาทิตย์ตกตรงสันเขื่อน โดยจุดนี้มีถนนเข้ามาด้วยนะ

       >> พระอาทิตย์ตกดิน แสงกำลังสวยเลยครับ หกโมงเย็นแล้ว

       >> บริเวณด้านหน้าทางเข้าวัดครับ

       >> ฟ้าจะมืดแล้ว ได้เวลากลับกัน คุณลุงออกเรือเลยครับ

       >> ตอนนี้ก็คือการชมวิวขากลับแล้วสินะ บรรยากาศดีมากๆ เลยครับ

       >> ผ่านเขาแมวมาแล้ว อยู่ด้านหลังเราไง เส้นทางกลับทางเดิมนะ

      >> แสงสะท้อนยามเย็นสวยงามจริงๆ เลยครับ

      >> กลับมาถึงท่าเรือก็เกือบฟ้ามืดเลยนะ ไม่เหลือใครสักคนแล้ว เหลือรถเราคันเดียว

       >> เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับการล่องเรือชมวิวเขาสามร้อยยอด และเขาจูบกัน สำหรับใครที่สนใจอยากมาเที่ยวผมแนะนำว่ามาช่วงหน้าฝนจะดีมากๆ เพราะจะได้เมฆสวยๆ อาจเจอหมอก ท้องฟ้าใสๆ บัวงามๆ ภูเขามีความเขียวของต้นไม้มากกว่านี้ และช่วงเวลาที่แนะนำคงเป็นตอนเย็นสำหรับใครที่อยากชมพระอาทิตย์ตกดิน และถ่ายภาพตกเขาจูบกันสวยๆ แต่ถ้าอยากชมดอกบัวก็มาตอนเช้านะครับ
       >> สำหรับการเดินทางมาอาจต้องดู GPS ดีๆ นะครับ พาผมหลงไปอีกที่มาแล้ว วิ่งตามแผนที่นี่น่าจะถูกน่าครับ
      >> รับชมทางวิดีโอได้ที่นี่เลยครับ