สวัสดีค่ะ "พี่หยอดวัดยาง" กลับมาอีกแล้ว หลังจากที่เคยได้รีวิว วิธีการเช่ารถขับในญี่ปุ่น กันมาแล้ว
คราวนี้จะมาแนะนำ "ข้อควรรู้" อื่นๆ ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ กันค่ะ
ก่อนอื่นขอฝากแฟนเพจเล็กๆของ
“พี่หยอดวัดยาง” ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ มีรีวิวอื่นๆให้ได้อ่านกันอีกเพียบเลย
จิ้มเข้าไปตามกันที่ Facebook Fanpage
“เที่ยวรัวรัว”
www.facebook.com/travelruarua หรือที่
www.travelruarua.com
สำหรับ "พี่หยอด" แล้ว เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่ละครั้งจะเลือกวิธีการเดินทางโดย การเช่ารถขับด้วยตัวเองค่ะ
เพราะว่าสะดวกสบาย และแพลนการเดินทางมีความยืดหยุ่นได้มากกว่า...
และอีกอย่าง วิวระหว่างทางนั้นสวยงามจนบางทีถึงกับต้องขอจอดรถเพื่อเก็ยภาพเป็นที่ระลึกเลยทีเดียว
กระทู้นี้ "พี่หยอด" จะลองรวบรวม “ข้อควรรู้” ในการขับรถเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น มาฝากนะคะ
- วิธีการเช่ารถผ่าน Tocoo
- การจองบัตร ETC Card / วิธีรับบัตร
- วิธีการรับรถเช่า
- การตั้งค่า GPS หาพิกัดเบื้องต้น
- การจอดรถ และวิธีจ่ายเงิน
- การเติมน้ำมัน
ทั้งหมดนี้มาจากประสบการณ์ตรงนะคะ อาจจะไม่ได้ครบถ้วนแต่น่าจะพอเป็นประโยชน์ค่ะ
การจองรถ
การจองรถเช่าในประเทศญี่ปุ่นนั้น ก็มีหลากหลายเว็บให้เลือกค่ะ
แบบจองตรงกับเว็บของรถแต่ละยี่ห้อก็มี เช่น Toyota Rent A Car หรือ Nissan Rent A Car
หรือจะจองผ่านเว็บที่เป็นเหมือน search engine ในการจองรถก็มีเช่นกัน ซึ่งเว็บลักษณะนี้จะทำการดึงข้อมูลรถจากศูนย์รถต่างๆ มาเปรียบเทียบราคาให้เราได้เลือกตัดสินใจค่ะ
ซึ่งเว็บประจำที่แอดใช้ทุกครั้งที่จะเช่ารถขับเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นก็คือ
https://www2.tocoo.jp/en/ นั้นเองค่ะ
เข้าไปอ่าน วิธีการจองรถเช่าในประเทศญี่ปุ่น ผ่าน tocoo ได้ที่กระทู้นี้เลยค่า "พี่หยอด" เคยรีวิวไว้อย่างละเอียด
https://ppantip.com/topic/36333707/
การจองบัตรทางด่วน ETC Card
เอาล่ะเมื่อทำการจองรถเรียบร้อยแล้ว... เรามาว่ากันต่อด้วยเรื่องทางด่วนที่ญี่ปุ่นกันบ้าง
เวลาขับรถในประเทศญี่ปุ่น หากต้องการใช้บริการทางด่วนหรือ Express Way นั้น เราสามารถจ่ายค่าบริการได้ทั้งแบบเงินสด และผ่านบัตร ETC Card (เหมือนช่อง Easy Pass บ้านเราค่ะ) ซึ่งจะสะดวกมากๆ ไม่ต้องเตรียมเงินสดให้วุ่นวาย
โดยสำหรับคนที่ต้องการจะใช้ ETC Card นั้น เราจะต้องทำการจองบัตร ETC Card พร้อมกันกับตอนจองรถผ่านเว็บของ Tocoo เลยค่ะ
ซึ่งปกติในเว็บจะมี Package Promotion หรือ TEP Plan เป็นแบบเหมาจ่ายค่าทางด่วนแบบ fix rateตามระยะเวลาที่เราเช่ารถ
ซึ่งเราจะทำการจ่ายโดยบัตรเครดิตตั้งแต่ตอนจองรถเลยค่ะ (ไม่ได้มาเรียกเก็บทีหลัง)
ซึ่งเหมาะกับคนที่เช่ารถขับและออกไปนอกเมืองและเปลี่ยนเมืองทุกวันจะคุ้มค่าทางด่วนมาก ๆ เลยค่ะ
ถ้าเราจองรถและบัตร ETC Card ผ่าน Tocoo ตัวบัตร ETC Card นี้ จะไม่ได้รับที่ศูนย์รับรถนะคะ แต่จะเป็นการส่งไปรษณีย์มาให้เราแทน
โดยตอนจองผ่านเว็บเราจะสามารถเลือกได้ว่าจะให้ส่งไปไปรษณีย์ที่ไหน โดยปกติแล้วก็แนะนำให้ส่งไปที่ไปรษณีย์ที่อยู่ที่สนามบินที่เราจะรับรถค่ะ
อย่างเช่นทริปของ "พี่หยอด" ที่เพิ่งไปมานี้ บินมาลงที่สนามบิน Narita ก่อนที่ "พีหยอด" จะไปรับรถ "พี่หยอด" ก็ต้องขึ้นไปที่ Post Office ซึ่งอยู่ที่ชั้น Arrival Hall ก่อน โดยเราแค่แจ้งชื่อเรากับหมายเลข reference ที่ส่งมาทางอีเมลจากเว็บ Tocoo กับเจ้าหน้าที่ที่ไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่ก็จะเอาซองจดหมายของ Tocoo ที่มี ETC Card มาให้เราค่ะ
ในซองจดหมายมีอะไรบ้าง ?
- ETC Card 1 ใบ
- เอกสารวิธีการใช้ ETC Card
- ซองจดหมายเปล่า เพื่อไว้ใช้สำหรับส่งคืน ETC Card ตอนกลับ
*** ในวันที่คืนรถนั้น อย่าลืมนำ ETC Card ออกมาจากรถด้วยนะคะ แล้วก็ใส่ซองเปล่าหย่อนคืนที่ตู้ไปรษณีย์ได้เลย ***
"พี่หยอด" ได้เอกสารวิธีใช้ ETC CARD แบบละเอียดมาจากในซองจดหมายค่ะ เลย scan เป็นไฟล์ pdf มาให้ดูกัน
สามารถ download ได้จาก link นี้ค่ะ
https://drive.google.com/open?id=1tiYDslxJh13nuJvaM2tL6raud80KWVL8
เมื่อรับ ETC Card เรียบร้อยแล้ว ทันนี้ก็มาถึงขั้นตอนการรับรถที่ทำการจองไว้กันบ้างค่ะ
การรับรถ
แต่ละสนามบินก็จะมีเคาเตอร์ของบริษัทตั้งอยู่แตกต่างกัน แนะนำว่าลองหา floor plan ของสนามบินที่เราจะไปก่อนก็ดีนะคะ ว่าเคาเตอร์บริษัทเช่ารถนั้นอยู่ชั้นไหน อย่างที่สนามบิน Narita เมื่อเดินออกมาที่ Departure Hall เคาเตอร์รับรถของทุกยี่ห้อจะอยู่ทางด้านขวามือเลยค่ะ
ในการรับรถนี้ เราต้องไปรับตรงจากเคาเตอร์ของยี่ห้อรถนั้นๆ ที่เราทำการจองได้เลยค่ะ (จะไม่ได้มีเคาเตอร์ของ tocoo อยู่นะคะ)
อย่าง "พี่หยอด" นี้เลือกเช่ารถยี่ห้อ Nissan ก็ตรงเข้าไปเคาเตอร์ Nissan เลยค่ะ ยื่นเอกสารการจองที่เรา print มาให้กับเจ้าหน้าที่ พร้อมกับ Passport และใบขับขี่สากล ค่ะ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะมีเอกสารอธิบายเกี่ยวกับเรื่องประกันและการรับรถให้เราเซ็นต์รับทราบและยืนยันรับรถ
โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้น ถ้าเราจองผ่านเว็บ Tocoo ทางเว็บระบุไว้อย่างชัดเจนว่าจะต้องจ่ายค่าเช่ารถด้วยบัตรเครดิตเท่านั้นค่ะ
หลังจากเซ็นต์เอกสารทุกอย่างเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็จะอธิบายกฎระเบียบในการใช้รถใช้ถนนในประเทศญี่ปุ่นเบื้องต้นให้เราได้ทราบค่ะ รวมไปถึงการเติมน้ำมัน และการส่งรถคืนที่ศูนย์รถ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะพาเรามายังรถที่จัดเตรียมไว้ให้ค่ะ คราวนี้เราจองรถ
Nissan Cube ไว้ค่ะ สีขาวน่ารักเชียว...
เจ้าหน้าที่จะพาเราเดินวนรอบรถเพื่อตรวจสอบรอยรอบรถ และความเรียบร้อยต่างๆ ก่อนออกเดินทางค่ะ
และก็จะสอนวิธีใช้ GPS ในรถด้วย อย่าลืมบอกเจ้าหน้าที่ให้ตั้งค่าเป็นภาษาอังกฤษให้ด้วยนะคะ
อ่อ...แล้วก็อย่าลืมเสียบ ETC Card ที่ได้มาแล้วในช่องเสียบบัตรด้วยนะคะ ปกติจะติดตั้งไว้แถวๆ ที่นั่งข้างคนขับ หรือในลิ้นชักฝั่งข้างคนขับค่ะ และเวลาขับผ่านด่านจ่ายเงินทางด่วน ก็เข้าในช่องที่เขียนว่า ETC ได้เลยนะคะ
อย่างที่บอกไปว่าคราวนี้ เราเลือกเช่ารถของ NISSAN ค่ะ ตอนที่รับรถ ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ Rental Guide คู่มือการขับขี่เบื้องต้นมาให้ด้วยค่ะ
เห็นว่าเป็นประโยชน์ดีและรถทุกๆ ยี่ห้อก็น่าจะมีเหมือนกันๆ เลย scan เป็นไฟล์ pdf มาให้อ่านกันค่ะ
Download ได้จาก link นี้นะคะ
https://drive.google.com/open?id=17DOt6eH84rlBCHZp9ezCz9I4jbnx8sq5
การตั้งค่าพิกัด GPS
การหาพิกัดสถานที่ต่างๆ ใน GPS นั้น เราสามารถใช้ได้ทั้ง เบอร์โทรศัพท์ของสถานที่ที่เราจะไป หรือใช้ Mapcode ค่ะ
จากที่ได้ลองใช้มาทั้งสองแบบ ส่วนตัวแล้วคิดว่าใช้ Mapcode พิกัดจะเป๊ะกว่าการใช้เบอร์โทรศัพท์ค่ะ
โดยเวลาที่เราจะหา Mapcode ของสถานที่ต่างๆ นั้น ให้เข้าไปที่เว็บนี้เลยค่ะ
https://japanmapcode.com/en/
จากนั้นใส่ชื่อสถานที่ที่เราจะไปลงไป ก็จะขึ้นหมายเลข Mapcode มาให้เลย
เราก็แค่ใส่เลขนี้ไปใน GPS ของรถ เท่านี้ก็เป็นที่เรียบร้อย ง่ายมากๆๆๆๆเลยค่ะ
ปล. คลิปสาธิตวิธีการตั้ง GPS อยู่ท้ายกระทู้นี้นะคะ
โดยระหว่างทางที่ชับรถไปบนทาง Expressway จะมีจุดพักรถให้เราได้แวะพักเรื่อยๆ ค่ะ ใน GPS จะแจ้งเราตลอดว่าอีกกี่กิโลเมตรจะถึง PA และ SA
- Parking Area (PA) เป็นจุดแวะพักขนาดเล็ก มีร้านค้า ร้านอาหารขนาดเล็ก มีห้องน้ำบริการ (ห้องน้ำสะอาดทุกที่นะคะ)
- Service Area(SA) เป็นจุดแวะพักขนาดใหญ่ค่ะ ที่จอดรถก็จะมีจำนวนมากกว่า PA ณ จุดนี้เราอาจจะเสียเวลาไปมหาศาลได้เลยนะ เพราะว่ามันใหญ่โตและชิวมากจริงๆ เหมือนมาแวะห้างทำนองนั้นเลย 555 เพราะฉะนั้นอย่าพักเพลินนะคะ ที่ SA นี้จะมีห้องน้ำจำนวนมากค่ะ ร้านขายของฝาก ร้านอาหารที่นี่ก็กว้างขวาง คือนั่งทานกันได้เพลินๆ และก็จะยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ มากมาย อาทิ จุดชาร์ตไฟฟ้าสำหรับ EV Car, ปั๊มน้ำมัน, สนามวิ่งเล่นของน้องหมา หรือแม้แต่สนามเด็กเล่นค่ะ
เอาตัวอย่างภาพจุดพักรถ SA ที่ Suwako มาฝากค่ะ คือใหญ่โตมากมาย แถมวิวยังสวยมากๆ อีกด้วย... อย่างงี้จะไม่ได้เสียเวลาอยู่นานๆได้ยังไง 555
การจอดรถ
ในประเทศญี่ปุ่นนั้น เรื่องการหาที่จอดรถเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ค่ะ เพราะที่นี่การจอดรถนั้นต้องเป็นที่เป็นทางและเป็นระเบียบ จอดเรื่อยเปื่อยไม่ได้ค่ะ อาจโดนปรับได้นะ ซึ่งจริงๆ แล้วที่จอดรถก็หาไม่ยากนะคะ มีอยู่ทั่วไปแทบจะทุกถนน แต่ว่าอัตราค่าจอดก็จะแตกต่างกันออกไป อย่างถ้าเป็นในเมืองใหญ่อย่าง Tokyo ราคาค่าจอดก็จะโหดหน่อย เมื่อเทียบกับเมืองต่างจังหวัด
ซึ่งที่จอดนั้นก็มีหลายแบบค่ะ ทั้งแบบอาคารจอดรถที่เราขับรถขึ้นไปจอดได้เอง อาคารจอดรถแบบที่เป็นลิฟท์ยกรถขึ้นไปเก็บให้ และลานจอดแบบ outdoor ทีมีทั้งแบบจ่ายเงินกับพนักงาน จ่ายเงินจากช่องทางออก และจ่ายเงินผ่านตู้
โดยส่วนตัวแล้วชอบที่จะหาที่จอดแบบที่เป็นลานจอด outdoor ค่ะ เพราะสะดวกสบายเวลาเข้าออก
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วระบบการจอดรถในลานจอดแบบ outdoor นี้ จะเป็นแบบจอดก่อนจ่ายที่หลังค่ะ
ในบริเวณลานจอดตามเมืองใหญ่ๆ ที่พื้นที่มีหมายเลขเขียนไว้อยู่ เราก็จอดไปตามช่องได้เลย โดยที่พื้นที่เครื่องกั้นล้อรถอัตโนมัติ เราจอดได้ซักพัก ที่กั้นล้อนี้ก็จะเด้งขึ้นมากั้นล้อรถไว้ พอถึงตอนที่เราจะเอารถออก เราต้องไปจ่ายค่าจอดที่ตู้จ่ายก่อนค่ะ กดหมายเลขช่องที่เราจอด แล้วก็จะขึ้นราคาจอดมาให้ เราก็จ่ายไปตามนั้น (บางตู้จะรับแค่แบงค์ 1,000 JPY และเหรียญเท่านั้นนะคะ บางตู้ก็รับถึงแบงค์หมื่นเยน เพราะฉะนั้นลองเช็กและเตรียมเงินไว้ด้วยนะคะ)
ปล. คลิปสาธิตวิธีการจ่ายเงินที่จอดรถอยู่ท้ายกระทู้นี้นะคะ
ยัง...ยังไม่จบ อ่านต่อได้ด้านล่างนะคะ
[CR] เที่ยวรัวรัว : Driving in Japan แบ่งปันประสบการณ์ขับรถเที่ยวเองในญี่ปุ่น
คราวนี้จะมาแนะนำ "ข้อควรรู้" อื่นๆ ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ กันค่ะ
ก่อนอื่นขอฝากแฟนเพจเล็กๆของ “พี่หยอดวัดยาง” ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ มีรีวิวอื่นๆให้ได้อ่านกันอีกเพียบเลย
จิ้มเข้าไปตามกันที่ Facebook Fanpage “เที่ยวรัวรัว”
www.facebook.com/travelruarua หรือที่ www.travelruarua.com
สำหรับ "พี่หยอด" แล้ว เวลาไปเที่ยวญี่ปุ่นแต่ละครั้งจะเลือกวิธีการเดินทางโดย การเช่ารถขับด้วยตัวเองค่ะ
เพราะว่าสะดวกสบาย และแพลนการเดินทางมีความยืดหยุ่นได้มากกว่า...
และอีกอย่าง วิวระหว่างทางนั้นสวยงามจนบางทีถึงกับต้องขอจอดรถเพื่อเก็ยภาพเป็นที่ระลึกเลยทีเดียว
กระทู้นี้ "พี่หยอด" จะลองรวบรวม “ข้อควรรู้” ในการขับรถเที่ยวในประเทศญี่ปุ่น มาฝากนะคะ
- วิธีการเช่ารถผ่าน Tocoo
- การจองบัตร ETC Card / วิธีรับบัตร
- วิธีการรับรถเช่า
- การตั้งค่า GPS หาพิกัดเบื้องต้น
- การจอดรถ และวิธีจ่ายเงิน
- การเติมน้ำมัน
ทั้งหมดนี้มาจากประสบการณ์ตรงนะคะ อาจจะไม่ได้ครบถ้วนแต่น่าจะพอเป็นประโยชน์ค่ะ
การจองรถ
การจองรถเช่าในประเทศญี่ปุ่นนั้น ก็มีหลากหลายเว็บให้เลือกค่ะ
แบบจองตรงกับเว็บของรถแต่ละยี่ห้อก็มี เช่น Toyota Rent A Car หรือ Nissan Rent A Car
หรือจะจองผ่านเว็บที่เป็นเหมือน search engine ในการจองรถก็มีเช่นกัน ซึ่งเว็บลักษณะนี้จะทำการดึงข้อมูลรถจากศูนย์รถต่างๆ มาเปรียบเทียบราคาให้เราได้เลือกตัดสินใจค่ะ
ซึ่งเว็บประจำที่แอดใช้ทุกครั้งที่จะเช่ารถขับเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นก็คือ https://www2.tocoo.jp/en/ นั้นเองค่ะ
เข้าไปอ่าน วิธีการจองรถเช่าในประเทศญี่ปุ่น ผ่าน tocoo ได้ที่กระทู้นี้เลยค่า "พี่หยอด" เคยรีวิวไว้อย่างละเอียด
https://ppantip.com/topic/36333707/
การจองบัตรทางด่วน ETC Card
เอาล่ะเมื่อทำการจองรถเรียบร้อยแล้ว... เรามาว่ากันต่อด้วยเรื่องทางด่วนที่ญี่ปุ่นกันบ้าง
เวลาขับรถในประเทศญี่ปุ่น หากต้องการใช้บริการทางด่วนหรือ Express Way นั้น เราสามารถจ่ายค่าบริการได้ทั้งแบบเงินสด และผ่านบัตร ETC Card (เหมือนช่อง Easy Pass บ้านเราค่ะ) ซึ่งจะสะดวกมากๆ ไม่ต้องเตรียมเงินสดให้วุ่นวาย
โดยสำหรับคนที่ต้องการจะใช้ ETC Card นั้น เราจะต้องทำการจองบัตร ETC Card พร้อมกันกับตอนจองรถผ่านเว็บของ Tocoo เลยค่ะ
ซึ่งปกติในเว็บจะมี Package Promotion หรือ TEP Plan เป็นแบบเหมาจ่ายค่าทางด่วนแบบ fix rateตามระยะเวลาที่เราเช่ารถ
ซึ่งเราจะทำการจ่ายโดยบัตรเครดิตตั้งแต่ตอนจองรถเลยค่ะ (ไม่ได้มาเรียกเก็บทีหลัง)
ซึ่งเหมาะกับคนที่เช่ารถขับและออกไปนอกเมืองและเปลี่ยนเมืองทุกวันจะคุ้มค่าทางด่วนมาก ๆ เลยค่ะ
ถ้าเราจองรถและบัตร ETC Card ผ่าน Tocoo ตัวบัตร ETC Card นี้ จะไม่ได้รับที่ศูนย์รับรถนะคะ แต่จะเป็นการส่งไปรษณีย์มาให้เราแทน
โดยตอนจองผ่านเว็บเราจะสามารถเลือกได้ว่าจะให้ส่งไปไปรษณีย์ที่ไหน โดยปกติแล้วก็แนะนำให้ส่งไปที่ไปรษณีย์ที่อยู่ที่สนามบินที่เราจะรับรถค่ะ
อย่างเช่นทริปของ "พี่หยอด" ที่เพิ่งไปมานี้ บินมาลงที่สนามบิน Narita ก่อนที่ "พีหยอด" จะไปรับรถ "พี่หยอด" ก็ต้องขึ้นไปที่ Post Office ซึ่งอยู่ที่ชั้น Arrival Hall ก่อน โดยเราแค่แจ้งชื่อเรากับหมายเลข reference ที่ส่งมาทางอีเมลจากเว็บ Tocoo กับเจ้าหน้าที่ที่ไปรษณีย์ เจ้าหน้าที่ก็จะเอาซองจดหมายของ Tocoo ที่มี ETC Card มาให้เราค่ะ
ในซองจดหมายมีอะไรบ้าง ?
- ETC Card 1 ใบ
- เอกสารวิธีการใช้ ETC Card
- ซองจดหมายเปล่า เพื่อไว้ใช้สำหรับส่งคืน ETC Card ตอนกลับ
*** ในวันที่คืนรถนั้น อย่าลืมนำ ETC Card ออกมาจากรถด้วยนะคะ แล้วก็ใส่ซองเปล่าหย่อนคืนที่ตู้ไปรษณีย์ได้เลย ***
"พี่หยอด" ได้เอกสารวิธีใช้ ETC CARD แบบละเอียดมาจากในซองจดหมายค่ะ เลย scan เป็นไฟล์ pdf มาให้ดูกัน
สามารถ download ได้จาก link นี้ค่ะ https://drive.google.com/open?id=1tiYDslxJh13nuJvaM2tL6raud80KWVL8
เมื่อรับ ETC Card เรียบร้อยแล้ว ทันนี้ก็มาถึงขั้นตอนการรับรถที่ทำการจองไว้กันบ้างค่ะ
การรับรถ
แต่ละสนามบินก็จะมีเคาเตอร์ของบริษัทตั้งอยู่แตกต่างกัน แนะนำว่าลองหา floor plan ของสนามบินที่เราจะไปก่อนก็ดีนะคะ ว่าเคาเตอร์บริษัทเช่ารถนั้นอยู่ชั้นไหน อย่างที่สนามบิน Narita เมื่อเดินออกมาที่ Departure Hall เคาเตอร์รับรถของทุกยี่ห้อจะอยู่ทางด้านขวามือเลยค่ะ
ในการรับรถนี้ เราต้องไปรับตรงจากเคาเตอร์ของยี่ห้อรถนั้นๆ ที่เราทำการจองได้เลยค่ะ (จะไม่ได้มีเคาเตอร์ของ tocoo อยู่นะคะ)
อย่าง "พี่หยอด" นี้เลือกเช่ารถยี่ห้อ Nissan ก็ตรงเข้าไปเคาเตอร์ Nissan เลยค่ะ ยื่นเอกสารการจองที่เรา print มาให้กับเจ้าหน้าที่ พร้อมกับ Passport และใบขับขี่สากล ค่ะ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะมีเอกสารอธิบายเกี่ยวกับเรื่องประกันและการรับรถให้เราเซ็นต์รับทราบและยืนยันรับรถ
โดยค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้น ถ้าเราจองผ่านเว็บ Tocoo ทางเว็บระบุไว้อย่างชัดเจนว่าจะต้องจ่ายค่าเช่ารถด้วยบัตรเครดิตเท่านั้นค่ะ
หลังจากเซ็นต์เอกสารทุกอย่างเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ก็จะอธิบายกฎระเบียบในการใช้รถใช้ถนนในประเทศญี่ปุ่นเบื้องต้นให้เราได้ทราบค่ะ รวมไปถึงการเติมน้ำมัน และการส่งรถคืนที่ศูนย์รถ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะพาเรามายังรถที่จัดเตรียมไว้ให้ค่ะ คราวนี้เราจองรถ Nissan Cube ไว้ค่ะ สีขาวน่ารักเชียว...
เจ้าหน้าที่จะพาเราเดินวนรอบรถเพื่อตรวจสอบรอยรอบรถ และความเรียบร้อยต่างๆ ก่อนออกเดินทางค่ะ
และก็จะสอนวิธีใช้ GPS ในรถด้วย อย่าลืมบอกเจ้าหน้าที่ให้ตั้งค่าเป็นภาษาอังกฤษให้ด้วยนะคะ
อ่อ...แล้วก็อย่าลืมเสียบ ETC Card ที่ได้มาแล้วในช่องเสียบบัตรด้วยนะคะ ปกติจะติดตั้งไว้แถวๆ ที่นั่งข้างคนขับ หรือในลิ้นชักฝั่งข้างคนขับค่ะ และเวลาขับผ่านด่านจ่ายเงินทางด่วน ก็เข้าในช่องที่เขียนว่า ETC ได้เลยนะคะ
อย่างที่บอกไปว่าคราวนี้ เราเลือกเช่ารถของ NISSAN ค่ะ ตอนที่รับรถ ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้ Rental Guide คู่มือการขับขี่เบื้องต้นมาให้ด้วยค่ะ
เห็นว่าเป็นประโยชน์ดีและรถทุกๆ ยี่ห้อก็น่าจะมีเหมือนกันๆ เลย scan เป็นไฟล์ pdf มาให้อ่านกันค่ะ
Download ได้จาก link นี้นะคะ https://drive.google.com/open?id=17DOt6eH84rlBCHZp9ezCz9I4jbnx8sq5
การตั้งค่าพิกัด GPS
การหาพิกัดสถานที่ต่างๆ ใน GPS นั้น เราสามารถใช้ได้ทั้ง เบอร์โทรศัพท์ของสถานที่ที่เราจะไป หรือใช้ Mapcode ค่ะ
จากที่ได้ลองใช้มาทั้งสองแบบ ส่วนตัวแล้วคิดว่าใช้ Mapcode พิกัดจะเป๊ะกว่าการใช้เบอร์โทรศัพท์ค่ะ
โดยเวลาที่เราจะหา Mapcode ของสถานที่ต่างๆ นั้น ให้เข้าไปที่เว็บนี้เลยค่ะ https://japanmapcode.com/en/
จากนั้นใส่ชื่อสถานที่ที่เราจะไปลงไป ก็จะขึ้นหมายเลข Mapcode มาให้เลย
เราก็แค่ใส่เลขนี้ไปใน GPS ของรถ เท่านี้ก็เป็นที่เรียบร้อย ง่ายมากๆๆๆๆเลยค่ะ
ปล. คลิปสาธิตวิธีการตั้ง GPS อยู่ท้ายกระทู้นี้นะคะ
โดยระหว่างทางที่ชับรถไปบนทาง Expressway จะมีจุดพักรถให้เราได้แวะพักเรื่อยๆ ค่ะ ใน GPS จะแจ้งเราตลอดว่าอีกกี่กิโลเมตรจะถึง PA และ SA
- Parking Area (PA) เป็นจุดแวะพักขนาดเล็ก มีร้านค้า ร้านอาหารขนาดเล็ก มีห้องน้ำบริการ (ห้องน้ำสะอาดทุกที่นะคะ)
- Service Area(SA) เป็นจุดแวะพักขนาดใหญ่ค่ะ ที่จอดรถก็จะมีจำนวนมากกว่า PA ณ จุดนี้เราอาจจะเสียเวลาไปมหาศาลได้เลยนะ เพราะว่ามันใหญ่โตและชิวมากจริงๆ เหมือนมาแวะห้างทำนองนั้นเลย 555 เพราะฉะนั้นอย่าพักเพลินนะคะ ที่ SA นี้จะมีห้องน้ำจำนวนมากค่ะ ร้านขายของฝาก ร้านอาหารที่นี่ก็กว้างขวาง คือนั่งทานกันได้เพลินๆ และก็จะยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ มากมาย อาทิ จุดชาร์ตไฟฟ้าสำหรับ EV Car, ปั๊มน้ำมัน, สนามวิ่งเล่นของน้องหมา หรือแม้แต่สนามเด็กเล่นค่ะ
เอาตัวอย่างภาพจุดพักรถ SA ที่ Suwako มาฝากค่ะ คือใหญ่โตมากมาย แถมวิวยังสวยมากๆ อีกด้วย... อย่างงี้จะไม่ได้เสียเวลาอยู่นานๆได้ยังไง 555
การจอดรถ
ในประเทศญี่ปุ่นนั้น เรื่องการหาที่จอดรถเป็นเรื่องสำคัญมากๆ ค่ะ เพราะที่นี่การจอดรถนั้นต้องเป็นที่เป็นทางและเป็นระเบียบ จอดเรื่อยเปื่อยไม่ได้ค่ะ อาจโดนปรับได้นะ ซึ่งจริงๆ แล้วที่จอดรถก็หาไม่ยากนะคะ มีอยู่ทั่วไปแทบจะทุกถนน แต่ว่าอัตราค่าจอดก็จะแตกต่างกันออกไป อย่างถ้าเป็นในเมืองใหญ่อย่าง Tokyo ราคาค่าจอดก็จะโหดหน่อย เมื่อเทียบกับเมืองต่างจังหวัด
ซึ่งที่จอดนั้นก็มีหลายแบบค่ะ ทั้งแบบอาคารจอดรถที่เราขับรถขึ้นไปจอดได้เอง อาคารจอดรถแบบที่เป็นลิฟท์ยกรถขึ้นไปเก็บให้ และลานจอดแบบ outdoor ทีมีทั้งแบบจ่ายเงินกับพนักงาน จ่ายเงินจากช่องทางออก และจ่ายเงินผ่านตู้
โดยส่วนตัวแล้วชอบที่จะหาที่จอดแบบที่เป็นลานจอด outdoor ค่ะ เพราะสะดวกสบายเวลาเข้าออก
ซึ่งส่วนใหญ่แล้วระบบการจอดรถในลานจอดแบบ outdoor นี้ จะเป็นแบบจอดก่อนจ่ายที่หลังค่ะ
ในบริเวณลานจอดตามเมืองใหญ่ๆ ที่พื้นที่มีหมายเลขเขียนไว้อยู่ เราก็จอดไปตามช่องได้เลย โดยที่พื้นที่เครื่องกั้นล้อรถอัตโนมัติ เราจอดได้ซักพัก ที่กั้นล้อนี้ก็จะเด้งขึ้นมากั้นล้อรถไว้ พอถึงตอนที่เราจะเอารถออก เราต้องไปจ่ายค่าจอดที่ตู้จ่ายก่อนค่ะ กดหมายเลขช่องที่เราจอด แล้วก็จะขึ้นราคาจอดมาให้ เราก็จ่ายไปตามนั้น (บางตู้จะรับแค่แบงค์ 1,000 JPY และเหรียญเท่านั้นนะคะ บางตู้ก็รับถึงแบงค์หมื่นเยน เพราะฉะนั้นลองเช็กและเตรียมเงินไว้ด้วยนะคะ)
ปล. คลิปสาธิตวิธีการจ่ายเงินที่จอดรถอยู่ท้ายกระทู้นี้นะคะ
ยัง...ยังไม่จบ อ่านต่อได้ด้านล่างนะคะ