สวัสดีค่ะ “พี่หยอดวัดยาง” มาอีกแล้ว...คราวนี้มี How to มาฝากเพื่อนๆค่ะ
มีเพื่อนๆสอบถามกันหลายคนว่า “จะเช่ารถขับในประเทศญี่ปุ่นนั้นทำอย่างไร?” เพราะเห็นว่าหลายๆทริปที่ผ่านมา เรามักจะใช้วิธีเช่ารถขับเที่ยวอยู่ตลอดๆ ไปเที่ยวญี่ปุ่นมา 8 ครั้ง เช่ารถขับเที่ยวไป 7 ครั้ง (อีกหนึ่งครั้งไม่ได้ขับเพราะว่าไปเที่ยวช่วงหิมะท่วมๆ เราอาจจะไม่ชินกับสภาพท้องถนน ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าค่ะ)
ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าการขับรถเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นนั้นไม่ยาก สะดวกสบาย ได้ชมวิวทิวทัศน์สวยๆตลอดทาง อยากแวะไหนก็แวะได้ และไม่ต้องเร่งรีบเรื่องเวลาเหมือนเที่ยวด้วยรถไฟค่ะ
วันนี้ “พี่หยอดวัดยาง” เลยได้รองรวบรวมเอาขั้นตอนต่างๆในการจองรถขับในประเทศญี่ปุ่น มาให้อ่านกันค่ะ
สรุปรวบๆมาแล้วมี 15 ขั้นตอนง่ายๆ แบบ step by step ลองดูนะคะ ได้แนบภาพประกอบของแต่ละขั้นตอนมาให้ด้วยค่ะ
โดยเราใช้บริการการจองรถผ่านเว็บ tocoo มาโดยตลอด
หากสงสัยตรงไหนเพิ่มเติม หลังไมค์มาถามกันทาง Inbox ได้ที่ Facebook Fanpage : เที่ยวรัวรัว
www.facebook.com/travelruarua นะคะ
มาเริ่มกันเลย
1.พิมพ์ search หาใน google ว่า tocoo แล้วเลือกเวปแรกที่ขึ้นมาได้เลย
2.หน้าตาของเพจ tocoo ซึ่งเป็นเหมือนตัวกลางในการเช่ารถของศูนย์เช่ารถยี่ห้อต่าง ๆ เช่น Toyota, Nissan, Budget เป็นต้น
3. ให้สังเกตที่ pick up menu ซึ่งเป็นจุดเด่นของ tocoo เนื่องจากมี Plan/Promotion ให้เลือกเยอะแยะมากมาย ซึ่งทำให้การเช่ารถของเราราคาถูกลง และเหมาะสมกับการเดินทางของเรา ยกตัวอย่างเช่น Promotion ค่าทางด่วนแบบเหมาจ่าย (fix rate) หรือ Promotion ฟรีค่าเช่า etc card หรือ Promotion เช่า pocket wifi ฟรี เป็นต้น จะมี Banner ขึ้นโชว์โปรต่างๆเพียบ
4. เริ่มต้นการจองโดยเลือกวันที่ และ เวลา ในการรับรถ และ วันเวลาของการคืนรถ
ก่อนทำการจองรถอย่างน้อยแพลนในการท่องเที่ยวต้องค่อนข้างนิ่งแล้ว ทั้งวันและเวลาเดินทางไป-กลับ หรือช่วงของการเดินทางที่แพลนว่าจะเช่ารถขับ
5. เมื่อเลือกวันและเวลารับ-คืนรถเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือเลือกสถานที่ในการรับรถ และ คืนรถ จะมีตัวเลือกให้เลือก เช่น สนามบิน New Chitose หรือ Narita International Airport และตามเมืองอื่น ๆ อีกมากมาย
จากประสบการณ์เคยแต่รับและคืนรถที่สนามบิน ยังไม่เคยรับรถที่นึง แล้วคืนรถอีกที่นึงครับ แต่คิดว่าน่าจะทำได้
6. ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกประเภทของรถ มีให้เลือกตั้งแต่รถเล็ก 660cc รถเก๋ง รถSUV รถ minivan หรือ รถ van ไปเลย
การเลือกรถควรเลือกรถให้มีขนาดที่เหมาะสมกับจำนวนคนร่วมทริปและมีพื้นที่พอกับสัมภาระ
โดยให้ดูตรงที่เขียนว่า recommend passenger ว่ารถชนิดนี้ควรนั่งกี่คน จากประสบการณ์เดินทาง 6 คน จะเลือกรถแบบ 8 ที่นั่ง เพื่อให้นั่งกันได้หลวม ๆ เป็นต้น เมื่อเลือกเรียบร้อยก็กดที่ปุ่ม search ได้เลย
7. เมื่อเวปทำการค้นหาให้แล้ว จะมีรายการรถให้เราเลือก โดยในทุกๆตัวเลือกจะมีรายละเอียดที่สำคัญ คือ ยี่ห้อศูนย์เช่ารถ สถานที่รับ-ส่งรถ รายละเอียดของรถ ราคาค่าเช่า
และที่สำคัญมากๆคือให้สังเกตที่มุมบนซ้ายของรายการรถ จะมี Plan/Promotion ต่างๆให้เราเลือก ซึ่งอันที่ค่อนข้างมีประโยชน์สำหรับสายวิ่งออกนอกเมืองที่ใช้ทางด่วนเยอะ ๆ คือ TEP tocoo expressway plan
8. เมื่อกดเข้าไปดูที่ plan ตามข้อ 7 จะมีรายละเอียดของ Plan/Promotion ยกตัวอย่างเช่น TEP tocoo expressway plan ก็คือ tocoo จะให้เช่า etc card ที่คิดอัตราค่าทางด่วนเป็นแบบ fix rate โดยเริ่มต้นขั้นต่ำเป็นแบบ 2 วัน ราคา 5000 เยน (ค่า register fee 3600 เยน + ค่าทางด่วน 1400 เยน) ถ้า 3 วัน ก็จะบวกเพิ่มอีก 1400 เยน , (คือเพิ่มอีก 1400 เยนต่อวันนั่นเอง) คุ้มแสนคุ้ม
แต่ถ้าเป็น Plan/Promotion อื่นๆก็จะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป
เมื่อเลือกรถพร้อม Plan/Promotion ที่ต้องการได้แล้ว กดที่ book now
9. หน้าต่อไปจะเป็นหน้า summary ที่สรุปว่า outlet ที่เราจะไปรับรถอยู่ที่ใด รับรถวันไหน คืนรถวันไหน เวลาเท่าไหร่ รถประเภทอะไร รวมถึงราคาเช่ารถ และ option ของอุปกรณ์เสริมของรถ เช่น baby seat เป็นต้น
ข้อควรระวังคือให้กดเข้าไปดู outlet information ซึ่งภายในจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมของศูนย์เช่ารถ เช่น เวลาเปิด-ปิด ของ office สถานที่รับรถ และช่องทางการติดต่อสอบถาม เพราะบางครั้งแพลนการรับรถหรือคืนรถของเราอาจจะไม่สอดคล้องกับเวลาเปิดปิดของ office ซึ่งควร email ไปถามว่าทาง office ว่ามีวิธีการรับหรือคืนรถนอกเวลา office hour อย่างไร
เมื่อตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ให้กดที่ปุ่ม start booking process
10. หน้าถัดไป จะเป็นหน้าที่ให้กรอกข้อมูลต่าง ๆ เช่น ชื่อผู้เช่ารถ, flight ที่บิน, เลขใบขับขี่สากล เป็นต้น
11. เมื่อกรอกไปเรื่อยจะพบส่วนที่เป็น tocoo additional support ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ tocoo เก็บเงินเพิ่มนอกเหนือจากค่าเช่ารถ
ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะเป็น ค่าประกันรถ แบบ NOC (non-operation charge) ซึ่งเป็นค่าทำประกันรถขั้นต่ำที่สุดที่บังคับให้ทำนั่นเอง
และส่วนที่เป็น addition options สังเกตว่าเมื่อเราเลือก plan เป็นแบบ expressway plan ระบบจะติ๊กถูกให้โดยอัตโนมัตินั่นเอง
และสามารถเลือก option เพิ่มตามที่เราต้องโดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
12. ขั้นตอนต่อมาคือการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต (ซึ่งจำเป็นต้องมี) เมื่อกรอกข้อมูลบัตรเครดิตเรียบร้อย ทำการยืนยันจ่ายเงินได้เลย
โดยเงินที่จะถูกเรียกเก็บไปก่อน คือ ค่าประกันรถ และค่า option เสริมที่เราเลือกเพิ่มเติม ในกรณีที่เลือก expressway plan ก็จะถูกเรียกเก็บค่ามัดจำ etc card และ ค่าทางด่วนตามจำนวนวันที่เราเช่ารถในขั้นตอนนี้เลย ส่วนค่าเช่ารถเราจะไปจ่ายตอนที่เราไปรับรถ
13. หลังจากนั้นจะมี email ที่เรา register ไว้ เป็น mail ยืนยันการจองรถ การจ่ายเงินของเรา และรายละเอียดเอกสารที่ต้องเตรียมตอนไปรับรถ สถานที่รับรถ วันและเวลาในการรับและคืนรถ รวมทั้งราคาค่าเช่ารถที่ต้องจ่ายเมื่อรับรถ
14.ถ้ามีการเช่า etc card จะมี email จากทาง tocoo ระบุว่าสามารถรับ etc card ได้ที่ใด ซึ่งเราจะเป็นผู้ระบุว่าจะให้ tocoo ส่งไปที่ post office ของสนามบินที่เราไปถึง หรือ ส่งไปที่โรงแรมที่เราพักในขั้นตอนที่กรอกรายละเอียดตามข้อ 10 ถ้าเลือกรับ etc card ที่ post office ของสนามบิน ให้ตรวจสอบเวลาเปิด-ปิด และ location ของ post office ของสนามบินไว้ด้วย
15. แค่นี้ก็ขับรถเที่ยวญี่ปุ่นได้รัวรัว
โดยในส่วนของ ECT Card ที่เราได้ทำการจองไว้นั้น เมื่อไปถึง Post Office ที่สนามบิน สิ่งที่ได้มาก็จะมีหน้าตาแบบในรูปด้านล่างนี้
โดยภายในซองก็จะมี ETC Card, วิธีใช้งาน และซองเปล่าสำหรับส่งคืนในวันกลับ
ส่วนการคืน ETC Card ก็เพียงแค่เอาใส่ซองเปล่าที่ให้มา และหย่อนลงตู้ไปรษณีย์ได้เลย ซึ่งปกติจะมีที่สนามบินทุกแห่ง
และในส่วนของการับรถ ในเคสของเรานี้คือไปรับที่สนามบิน Narita Terminal 2 ก็ตรงดิ่งไปที่เคาเตอร์ของ Nissan ได้เลย (เพราะจองรถ Nissan Rent A Car ไว้) โดยเราต้องยื่นเอกสารการจองที่ปริ๊นมา พร้อมกับใบขับขี่สากล ใบขับขี่ไทย และหนังสือเดินทาง ให้กับเจ้าหน้าที่
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะมีเอกสารต่างๆให้เราเซ็นต์ยินยอมข้อตกลงในการเช่ารถ และอธิบายเกี่ยวกับกฏการขับขี่ในประเทศญี่ปุ่นเบื้องต้น ก็เป็นอันเสร็จภารกิจ เริ่มออกเดินทางกันได้
สำหรับการรับและคืนรถนั้น บอกไว้ก่อนว่าแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกันนะ บางที่จะต้องนั่ง Shuttle Bus เพื่อไปรับรถที่ศูนย์ (ที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบิน) บางที่ก็สามารถรับรถที่สนามบินได้เลย อันนี้จะต้องสอบถามจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
แถมให้อีกนิดนึง สำหรับใครที่กำลังจะไปทำใบขับขี่สากล สามารถเข้าไปดูวิธีการง่ายๆได้ตามลิงค์นี้เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://travelruarua.com/2017/03/22/5-steps-%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%82%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A5-%E0%B8%89%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%87/
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆที่วางแผนอยากจะไปเช่ารถขับเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น
หากสงสัยตรงไหนเพิ่มเติม หลังไมค์มาถามกันทาง Inbox ได้ที่ Facebook Fanpage : เที่ยวรัวรัว
www.facebook.com/travelruarua นะคะ
[CR] เที่ยวรัวรัว : HOW TO วิธีเช่ารถขับท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นด้วยตัวเอง
มีเพื่อนๆสอบถามกันหลายคนว่า “จะเช่ารถขับในประเทศญี่ปุ่นนั้นทำอย่างไร?” เพราะเห็นว่าหลายๆทริปที่ผ่านมา เรามักจะใช้วิธีเช่ารถขับเที่ยวอยู่ตลอดๆ ไปเที่ยวญี่ปุ่นมา 8 ครั้ง เช่ารถขับเที่ยวไป 7 ครั้ง (อีกหนึ่งครั้งไม่ได้ขับเพราะว่าไปเที่ยวช่วงหิมะท่วมๆ เราอาจจะไม่ชินกับสภาพท้องถนน ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าค่ะ)
ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าการขับรถเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นนั้นไม่ยาก สะดวกสบาย ได้ชมวิวทิวทัศน์สวยๆตลอดทาง อยากแวะไหนก็แวะได้ และไม่ต้องเร่งรีบเรื่องเวลาเหมือนเที่ยวด้วยรถไฟค่ะ
วันนี้ “พี่หยอดวัดยาง” เลยได้รองรวบรวมเอาขั้นตอนต่างๆในการจองรถขับในประเทศญี่ปุ่น มาให้อ่านกันค่ะ
สรุปรวบๆมาแล้วมี 15 ขั้นตอนง่ายๆ แบบ step by step ลองดูนะคะ ได้แนบภาพประกอบของแต่ละขั้นตอนมาให้ด้วยค่ะ
โดยเราใช้บริการการจองรถผ่านเว็บ tocoo มาโดยตลอด
หากสงสัยตรงไหนเพิ่มเติม หลังไมค์มาถามกันทาง Inbox ได้ที่ Facebook Fanpage : เที่ยวรัวรัว www.facebook.com/travelruarua นะคะ
มาเริ่มกันเลย
1.พิมพ์ search หาใน google ว่า tocoo แล้วเลือกเวปแรกที่ขึ้นมาได้เลย
2.หน้าตาของเพจ tocoo ซึ่งเป็นเหมือนตัวกลางในการเช่ารถของศูนย์เช่ารถยี่ห้อต่าง ๆ เช่น Toyota, Nissan, Budget เป็นต้น
3. ให้สังเกตที่ pick up menu ซึ่งเป็นจุดเด่นของ tocoo เนื่องจากมี Plan/Promotion ให้เลือกเยอะแยะมากมาย ซึ่งทำให้การเช่ารถของเราราคาถูกลง และเหมาะสมกับการเดินทางของเรา ยกตัวอย่างเช่น Promotion ค่าทางด่วนแบบเหมาจ่าย (fix rate) หรือ Promotion ฟรีค่าเช่า etc card หรือ Promotion เช่า pocket wifi ฟรี เป็นต้น จะมี Banner ขึ้นโชว์โปรต่างๆเพียบ
4. เริ่มต้นการจองโดยเลือกวันที่ และ เวลา ในการรับรถ และ วันเวลาของการคืนรถ
ก่อนทำการจองรถอย่างน้อยแพลนในการท่องเที่ยวต้องค่อนข้างนิ่งแล้ว ทั้งวันและเวลาเดินทางไป-กลับ หรือช่วงของการเดินทางที่แพลนว่าจะเช่ารถขับ
5. เมื่อเลือกวันและเวลารับ-คืนรถเรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปคือเลือกสถานที่ในการรับรถ และ คืนรถ จะมีตัวเลือกให้เลือก เช่น สนามบิน New Chitose หรือ Narita International Airport และตามเมืองอื่น ๆ อีกมากมาย
จากประสบการณ์เคยแต่รับและคืนรถที่สนามบิน ยังไม่เคยรับรถที่นึง แล้วคืนรถอีกที่นึงครับ แต่คิดว่าน่าจะทำได้
6. ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกประเภทของรถ มีให้เลือกตั้งแต่รถเล็ก 660cc รถเก๋ง รถSUV รถ minivan หรือ รถ van ไปเลย
การเลือกรถควรเลือกรถให้มีขนาดที่เหมาะสมกับจำนวนคนร่วมทริปและมีพื้นที่พอกับสัมภาระ
โดยให้ดูตรงที่เขียนว่า recommend passenger ว่ารถชนิดนี้ควรนั่งกี่คน จากประสบการณ์เดินทาง 6 คน จะเลือกรถแบบ 8 ที่นั่ง เพื่อให้นั่งกันได้หลวม ๆ เป็นต้น เมื่อเลือกเรียบร้อยก็กดที่ปุ่ม search ได้เลย
7. เมื่อเวปทำการค้นหาให้แล้ว จะมีรายการรถให้เราเลือก โดยในทุกๆตัวเลือกจะมีรายละเอียดที่สำคัญ คือ ยี่ห้อศูนย์เช่ารถ สถานที่รับ-ส่งรถ รายละเอียดของรถ ราคาค่าเช่า
และที่สำคัญมากๆคือให้สังเกตที่มุมบนซ้ายของรายการรถ จะมี Plan/Promotion ต่างๆให้เราเลือก ซึ่งอันที่ค่อนข้างมีประโยชน์สำหรับสายวิ่งออกนอกเมืองที่ใช้ทางด่วนเยอะ ๆ คือ TEP tocoo expressway plan
8. เมื่อกดเข้าไปดูที่ plan ตามข้อ 7 จะมีรายละเอียดของ Plan/Promotion ยกตัวอย่างเช่น TEP tocoo expressway plan ก็คือ tocoo จะให้เช่า etc card ที่คิดอัตราค่าทางด่วนเป็นแบบ fix rate โดยเริ่มต้นขั้นต่ำเป็นแบบ 2 วัน ราคา 5000 เยน (ค่า register fee 3600 เยน + ค่าทางด่วน 1400 เยน) ถ้า 3 วัน ก็จะบวกเพิ่มอีก 1400 เยน , (คือเพิ่มอีก 1400 เยนต่อวันนั่นเอง) คุ้มแสนคุ้ม
แต่ถ้าเป็น Plan/Promotion อื่นๆก็จะมีรายละเอียดแตกต่างกันไป
เมื่อเลือกรถพร้อม Plan/Promotion ที่ต้องการได้แล้ว กดที่ book now
9. หน้าต่อไปจะเป็นหน้า summary ที่สรุปว่า outlet ที่เราจะไปรับรถอยู่ที่ใด รับรถวันไหน คืนรถวันไหน เวลาเท่าไหร่ รถประเภทอะไร รวมถึงราคาเช่ารถ และ option ของอุปกรณ์เสริมของรถ เช่น baby seat เป็นต้น
ข้อควรระวังคือให้กดเข้าไปดู outlet information ซึ่งภายในจะมีรายละเอียดเพิ่มเติมของศูนย์เช่ารถ เช่น เวลาเปิด-ปิด ของ office สถานที่รับรถ และช่องทางการติดต่อสอบถาม เพราะบางครั้งแพลนการรับรถหรือคืนรถของเราอาจจะไม่สอดคล้องกับเวลาเปิดปิดของ office ซึ่งควร email ไปถามว่าทาง office ว่ามีวิธีการรับหรือคืนรถนอกเวลา office hour อย่างไร
เมื่อตรวจสอบความถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ให้กดที่ปุ่ม start booking process
10. หน้าถัดไป จะเป็นหน้าที่ให้กรอกข้อมูลต่าง ๆ เช่น ชื่อผู้เช่ารถ, flight ที่บิน, เลขใบขับขี่สากล เป็นต้น
11. เมื่อกรอกไปเรื่อยจะพบส่วนที่เป็น tocoo additional support ส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ tocoo เก็บเงินเพิ่มนอกเหนือจากค่าเช่ารถ
ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะเป็น ค่าประกันรถ แบบ NOC (non-operation charge) ซึ่งเป็นค่าทำประกันรถขั้นต่ำที่สุดที่บังคับให้ทำนั่นเอง
และส่วนที่เป็น addition options สังเกตว่าเมื่อเราเลือก plan เป็นแบบ expressway plan ระบบจะติ๊กถูกให้โดยอัตโนมัตินั่นเอง
และสามารถเลือก option เพิ่มตามที่เราต้องโดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่ม
12. ขั้นตอนต่อมาคือการจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิต (ซึ่งจำเป็นต้องมี) เมื่อกรอกข้อมูลบัตรเครดิตเรียบร้อย ทำการยืนยันจ่ายเงินได้เลย
โดยเงินที่จะถูกเรียกเก็บไปก่อน คือ ค่าประกันรถ และค่า option เสริมที่เราเลือกเพิ่มเติม ในกรณีที่เลือก expressway plan ก็จะถูกเรียกเก็บค่ามัดจำ etc card และ ค่าทางด่วนตามจำนวนวันที่เราเช่ารถในขั้นตอนนี้เลย ส่วนค่าเช่ารถเราจะไปจ่ายตอนที่เราไปรับรถ
13. หลังจากนั้นจะมี email ที่เรา register ไว้ เป็น mail ยืนยันการจองรถ การจ่ายเงินของเรา และรายละเอียดเอกสารที่ต้องเตรียมตอนไปรับรถ สถานที่รับรถ วันและเวลาในการรับและคืนรถ รวมทั้งราคาค่าเช่ารถที่ต้องจ่ายเมื่อรับรถ
14.ถ้ามีการเช่า etc card จะมี email จากทาง tocoo ระบุว่าสามารถรับ etc card ได้ที่ใด ซึ่งเราจะเป็นผู้ระบุว่าจะให้ tocoo ส่งไปที่ post office ของสนามบินที่เราไปถึง หรือ ส่งไปที่โรงแรมที่เราพักในขั้นตอนที่กรอกรายละเอียดตามข้อ 10 ถ้าเลือกรับ etc card ที่ post office ของสนามบิน ให้ตรวจสอบเวลาเปิด-ปิด และ location ของ post office ของสนามบินไว้ด้วย
15. แค่นี้ก็ขับรถเที่ยวญี่ปุ่นได้รัวรัว
โดยในส่วนของ ECT Card ที่เราได้ทำการจองไว้นั้น เมื่อไปถึง Post Office ที่สนามบิน สิ่งที่ได้มาก็จะมีหน้าตาแบบในรูปด้านล่างนี้
โดยภายในซองก็จะมี ETC Card, วิธีใช้งาน และซองเปล่าสำหรับส่งคืนในวันกลับ
ส่วนการคืน ETC Card ก็เพียงแค่เอาใส่ซองเปล่าที่ให้มา และหย่อนลงตู้ไปรษณีย์ได้เลย ซึ่งปกติจะมีที่สนามบินทุกแห่ง
และในส่วนของการับรถ ในเคสของเรานี้คือไปรับที่สนามบิน Narita Terminal 2 ก็ตรงดิ่งไปที่เคาเตอร์ของ Nissan ได้เลย (เพราะจองรถ Nissan Rent A Car ไว้) โดยเราต้องยื่นเอกสารการจองที่ปริ๊นมา พร้อมกับใบขับขี่สากล ใบขับขี่ไทย และหนังสือเดินทาง ให้กับเจ้าหน้าที่
จากนั้นเจ้าหน้าที่จะมีเอกสารต่างๆให้เราเซ็นต์ยินยอมข้อตกลงในการเช่ารถ และอธิบายเกี่ยวกับกฏการขับขี่ในประเทศญี่ปุ่นเบื้องต้น ก็เป็นอันเสร็จภารกิจ เริ่มออกเดินทางกันได้
สำหรับการรับและคืนรถนั้น บอกไว้ก่อนว่าแต่ละที่ก็ไม่เหมือนกันนะ บางที่จะต้องนั่ง Shuttle Bus เพื่อไปรับรถที่ศูนย์ (ที่อยู่ไม่ไกลจากสนามบิน) บางที่ก็สามารถรับรถที่สนามบินได้เลย อันนี้จะต้องสอบถามจากเจ้าหน้าที่อีกครั้ง
แถมให้อีกนิดนึง สำหรับใครที่กำลังจะไปทำใบขับขี่สากล สามารถเข้าไปดูวิธีการง่ายๆได้ตามลิงค์นี้เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆที่วางแผนอยากจะไปเช่ารถขับเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่น
หากสงสัยตรงไหนเพิ่มเติม หลังไมค์มาถามกันทาง Inbox ได้ที่ Facebook Fanpage : เที่ยวรัวรัว www.facebook.com/travelruarua นะคะ