ที่ผมเขียนกระทู้นี้ขึ้นมาเนื่องจากเคยค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับขับรถตามเส้นทางที่กล่าวข้างต้นจากเวบต่างๆรวมถึงพันทิปด้วย
ทว่าหาเจอได้น้อยมาก แทบไม่ค่อยมีคนมารีวิว เกือบทั้งหมดจะเป็นนั่งรถไฟ JR และซื้อ pass กันครับ
และรีวิวขับรถส่วนใหญ่จะเจอแต่นอกเมือง ฮอกไกโด จริงๆอาจเป็นไปได้ว่ามีบางท่านที่ขับไปเที่ยวเส้นทางประมาณนี้แล้ว
แต่ไม่ได้เขียนรีวิวจริงๆจังๆครับ เลยขออนุญาตบอกเล่าเพื่อเป็นแนวทางให้ท่านใดที่ต้องการขับรถเที่ยวญี่ปุ่น
จากสนามบินนาริตะหรือฮาเนดะ ตามเส้นทางในแผนที่ด้านล่างครับ
ผมจะอธิบายค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการใช้รถเป็นหลักครับ ค่าทางด่วน ค่าผ่านทาง ระยะทางรวม น้ำมันที่เติมใช้ระหว่างทางกับตอนคืนรถ
จุดจอดฟรีและเสียเงิน ตามสถานที่เที่ยวต่างๆ ผมจะพยายามเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุดครับ
ทริปขับรถนี้เหมาะกับใครก็ตามที่ไปเที่ยวแบบมีกระเป๋าสัมภาระ ไปหลายคนจะได้หารเฉลี่ยกัน (3-4คนกำลังดี)
หรือมีผู้สูงอายุหรือพ่อแม่ไปด้วย เนื่องจากไม่ต้องลากกระเป๋า ฝากกระเป๋า หรือต่อรถไฟJR สายต่างๆ
เพราะเราลงเครื่องออกจากเกต ก็นั่ง shuttle bus ของรถเช่าไปที่ outlet ทำการรับรถโยนกระเป๋าเข้าท้ายรถเที่ยวได้เลย
จะหยิบของอะไรที่อยู่ในกระเป๋าก็หยิบได้ไม่ต้องแยกออกมาใส่กระเป๋าใบเล็กก่อน
ที่ผมต้องวางแผนขับรถเที่ยวเพราะโจทย์ของผมคือ คุณพ่อกับคุณแม่ ที่อายุวันเกษียณแล้ว
จะให้มาเดินต่อรถไฟ ลากกระเป๋าเดินทางก็ดูจะลำบากไปนิดนึงครับ สรุปทริปนี้เช่ารถขับ 1 คัน ไปกัน 4 คน
ทำแผนก่อนเดินทาง
แน่นอนว่าการขับรถเที่ยวนั้นต้องมีการวางแผนการขับรถก่อนอย่างคร่าวครับ สำหรับเวลาที่ใช้ขับรถ เวลาเที่ยวที่ต่างๆ
รวมถึงที่พักที่มีที่จอดรถฟรีหรือเปล่า เพื่อจะได้ไม่เป็นการเสียเวลาดูป้ายว่าใช่หรือไม่ใช่ที่ที่ต้องการจะไป
ทริปนี้ของผมเกี่ยวกับการเลือกที่พักหรือจุดจอดรถตามสถานที่เที่ยวต่างๆ เกิดจากการวางแผนของผมเอง
อาจจะไม่ตรงกับท่านที่เคยมาทำทริปขับรถมาก่อน ก็สามารถมาแชร์กันได้ครับ
เอกสารที่จำเป็นสำหรับขับรถเที่ยว
1. พาสปอร์ต อันนี้ต้องพกทุกคนอยู่แล้ว
2. เอกสารใบขับขี่สากล วิธีการขอไปค้นหากระทู้ในพันทิปได้เลยครับ มีคนทำไว้ค่อนข้างละเอียด
แนะนำว่าทำไว้หลายๆคนเผื่อพลัดเปลี่ยนกันขับคนละวันได้ครับ การเลือกบริษัทรถเช่าผมเลยเลือกเจ้าที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
สำหรับคนขับที่ 2 และ 3 ซึ่งผมใช้บริการของ Times car rental ครับ จากนั้นก็มาวางแผนที่เที่ยว และเวลาลงเครื่องให้สัมพันธ์กัน
เพี่อจะได้ไม่เสียเวลามานั่งหาเส้นทางหรือรอเวลารับรถ ฉะนั้นต้องมีตั๋วเครื่องบินที่รู้เวลาเครื่องลงที่สนามบิน จะได้วางแผนถูก
แผนของผมก็ตามตารางด้านล่างเลยครับ
แผนนี้ปรับเปลี่ยนได้เนื่องจากเรามีรถอยู่กับตัว กระทู้นี้จะพูดถึงเฉพาะวันที่ขับรถเท่านั้น จะตัดออกหรือเพิ่มที่เที่ยวแล้วแต่เราครับ
เรื่อง pocket wifi อยากบอกว่าค่อนข้างสำคัญครับ นอกจากไว้ใช้โซเชียลแล้ว ยังได้ใช้เวลาหาข้อมูลต่างๆเผื่อมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง
และจะได้มีเนตไว้นำทางครับ ถึงจะมี gps ให้มาในรถก็เถอะเผื่อไว้ก่อนครับ ส่วน pocket wifi เลือกเจ้าไหนก็แล้วแต่สะดวกเลยครับ
ของผมเลือกที่เค้ามีบริการส่งให้ที่สนามบินครับ รับและคืนที่สนามบินสะดวกที่สุด
การนำทางผมใช้แอพ google maps ร่วมกับ Maps.me ครับ เราสามารถปักหมุดที่เราจะไปเที่ยวล่วงหน้าจากประเทศไทยในแอพได้ด้วย
การจองรถ
จากการค้นหารีวิวหลายๆท่าน ผมเลือกใช้เจ้าที่น่าจะถูกที่สุดคือ
https://www2.tocoo.jp/en/
1. เมื่อเข้าหน้าเวบ เลือก pick up date&time ก็กะเอาเวลาลงเครื่อง กับ return date&time ขอให้เลือกคืนรถที่เดียวกับตอนเช่า
กับคืนเวลาเดียวกันไปเลยครับ เช่นรับรถเช้า คืนรถเช้าของอีกวัน เพราะยังไงเค้าก็คิดเต็มวันอยู่ดีในกรณีที่เกินวันเต็มๆมา
2. เลือกสถานที่รับรถ ก็เป็นสนามบินที่เครื่องเราลง จากนั้นเลือก size รถ กับ campaign ก็เลือกขนาดรถที่เราต้องการ
เที่ยวตามเส้นทางนี้ไม่จำเป็นต้องใช้รถสมรรถนะสูงครับ ผมเช่าขนาด compact ก็เพียงพอแล้ว
กับเลือกแคมเปญ ToCoo! ETC card plan ไปด้วยเลย ที่ให้เลือกแคมเปญ ETC card plan นั้นเพราะสะดวกมากจริงๆ
เหมือน easy pass บ้านเรา ไม่ต้องเสียเวลาคอยจ่ายเงินรับเงินทอนเดี๋ยวเค้าชาร์จบัตรเครดิตเราเอง แล้วก็มีส่วนลดด้วยถ้าใช้บัตร ETC
3. เลือก option ให้ติ๊กช่อง multilingual gps ด้วย จากนั้นกด search ที่นี้ตัวเลือกที่ปรากฎขึ้นมาก็จะเป็น
English GPS + ToCoo! ETC card Plan ก็เลือกรถเลือกยี่ห้อรถเช่าตามต้องการครับ รายละเอียดการกรอกข้อมูลต่อจากนั้นน่าจะทำกันได้
ปล จำเป็นต้องมีใบขับขี่สากลก่อนทำการจอง เพราะเค้าให้กรอกเลขใบขับขี่สากลด้วย ก็เอาเลขมุมบนขวามากรอกตอนจองรถนี่แหละ
เมลตอบรับจากสองบริษัท
หนึ่งคือ เมลจากบริษัทที่เราเช่ารถ ในกรณีผมเป็น Times car rentalก็ปริ๊นหรือจดเลขอ้างอิงเอาไว้ตอนไปยื่นเคาเตอร์รับรถ
สองคือ เมลจาก Tocoo! ที่เราเช่า ETC card พอเราลงเครื่อง ออกจาก ตม ให้ไปรับ ETC card ก่อน
ตามสถานที่ที่เราระบุตอนจองที่ให้กรอกรายละเอียดตอนเช่ารถนั่นแหละครับ
ให้เราเลือกว่าเราจะรับ ETC card ที่สนามบินเลย จะได้เอาไปใช้กับรถได้เลย
กรณีนี้ผมลงที่นาริตะ เค้าจะส่งพัสดุไปรษณีย์มาฝากไว้ที่ทำการไปรษณีย์ชั้น 3 ของสนามบิน ก่อนผมเดินทาง 1 วัน
พอออกจาก ตม. รับกระเป๋า เราก็เอาเลขอ้างอิงที่ได้จากเมล Tocoo! ไปบอกเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ แล้วรับซองนั้นมาครับ
ข้างในจะมี ETC card วิธีการใช้ และซองไปรษณีย์ระบุที่อยู่ส่งกลับ เอาไว้ส่งคืนการ์ดทางตู้ไปรษณีย์ครับ
ถ้ากลับสนามบินเดิมก็เอาการ์ดใส่ซองที่เค้าให้มา ปิดผนึกแล้วหยอดตู้ไปรษณีย์ก่อนขึ้นเครื่องกลับนั่นแหละครับ
เพราะที่ทำการไปรษณีย์อยู่ชั้นเดียวกับ departure hall เลย
การรับรถ (กรณีนี้พูดถึงเฉพาะที่นาริตะ)
หลังจากลงเครื่อง ผ่านตรวจคนเข้าเมือง ออกจากช่องรับกระเป๋า ขึ้นไปเอาพัสดุไปรษณีย์ที่ชั้น 3 ของสนามบินก่อนนะครับ
เพื่อไปเอา ETC card ยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ดู เค้าก็จะไปหาพัสดุที่จ่าหน้าถึงเรา รับเสร็จแล้วก็ไปเคาเตอร์รถเช่าจะอยู่ที่ terminal2
จริงๆออกจากโซนรับกระเป๋าที่ terminal2 เคาเตอร์รถเช่าจะอยู่ขวามือ เดินไปไม่ถึง 50 เมตร
แต่ที่ต้องไปเอา ETC card ก่อนเพราะถ้าไปเคาเตอร์รับรถแล้วเค้าจัด shuttle bus มารับพอดี จะไม่มีเวลาไปรับ ETC card
ส่วนเรื่องประกันอุบัติเหตุ ตั้งแต่จองที่ไทยจะมีประกันพื้นฐานอยู่แล้ว แต่เค้าจะถามว่าจะทำเพิ่มความคุ้มครองไหม อันนี้แล้วแต่เรา
ของผมเลือกเพิ่มไปอีกขั้นนึง ไม่ได้เลือกคุ้มครองสูงสุด
จากนั้นเค้าก็แจ้งยอด จะจ่ายสดหรือรูดบัตรก็ได้ตามสะดวกครับ แล้วเค้าจะให้เรานั่งรอรถตู้รับส่ง
สักครู่ก็มารับเราไปรับรถที่ outlet เช็คสภาพรถ อย่าลืมเอาการ์ด ETC ส่งให้เค้าใส่กับเครื่องส่งสัญญาณในรถให้ด้วยนะครับ
เพราะถ้าเสียบเองเราจะไม่รู้ว่าใส่ถูกหรือผิดด้านและพร้อมใช้งานหรือไม่ และเครื่องมันจะพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นออกมาซึ่งเราฟังไม่ออก
จากนั้นเค้าก็สอนการใช้ gps นิดหน่อย มันพีคตรงที่สอนไปก็จำไม่ได้เพราะตัวอักษรใน gps ก็เป็นภาษาญี่ปุ่น
ถึงแม้ว่าเสียงนำทางเป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย 555 เงิบเลย อ่านไม่ออก
ดีที่เราทำการบ้านมาดี เปิด google maps ให้ดูว่าจะไปตรงนี้ แล้วให้เค้าเซตไว้ให้เฉพาะจุดแรกจุดเดียวพอ จะได้ไม่เสียเวลาเดินทางครับ
ส่วนจุดอื่นๆ เราก็ค่อยงมหาเอา จะใช้ google map นำทางเลยก็ได้ จากนั้นก็ออกเดินทางได้เลย
ตลอดทริปให้ใช้ express way ไม่งั้นเสียเวลามากๆ มี ETC card แล้ว ใช้ไปเลยค่อยกลับมาเคลียร์บิลทีหลัง 555
แอบอึ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นค่าทางด่วนหักผ่านบัตรเครดิตทั้งที่เตรียมใจไว้แล้วว่าแพง เค้าจะหักมัดจำค่าทางด่วนกับบัตรไว้ที่ 15,000 เยน ครับ
ถ้าใช้ไม่ถึงก็หักคืนตามใช้จริง
ต่อไปจะเป็นการอธิบายการขับรถไปในแต่ละที่เที่ยวครับ
ขับรถเที่ยวญี่ปุ่น เส้นทาง Narita - Hakone - Omachi(JapanAlps) - Kawaguchiko
ทว่าหาเจอได้น้อยมาก แทบไม่ค่อยมีคนมารีวิว เกือบทั้งหมดจะเป็นนั่งรถไฟ JR และซื้อ pass กันครับ
และรีวิวขับรถส่วนใหญ่จะเจอแต่นอกเมือง ฮอกไกโด จริงๆอาจเป็นไปได้ว่ามีบางท่านที่ขับไปเที่ยวเส้นทางประมาณนี้แล้ว
แต่ไม่ได้เขียนรีวิวจริงๆจังๆครับ เลยขออนุญาตบอกเล่าเพื่อเป็นแนวทางให้ท่านใดที่ต้องการขับรถเที่ยวญี่ปุ่น
จากสนามบินนาริตะหรือฮาเนดะ ตามเส้นทางในแผนที่ด้านล่างครับ
ผมจะอธิบายค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการใช้รถเป็นหลักครับ ค่าทางด่วน ค่าผ่านทาง ระยะทางรวม น้ำมันที่เติมใช้ระหว่างทางกับตอนคืนรถ
จุดจอดฟรีและเสียเงิน ตามสถานที่เที่ยวต่างๆ ผมจะพยายามเก็บรายละเอียดให้ได้มากที่สุดครับ
ทริปขับรถนี้เหมาะกับใครก็ตามที่ไปเที่ยวแบบมีกระเป๋าสัมภาระ ไปหลายคนจะได้หารเฉลี่ยกัน (3-4คนกำลังดี)
หรือมีผู้สูงอายุหรือพ่อแม่ไปด้วย เนื่องจากไม่ต้องลากกระเป๋า ฝากกระเป๋า หรือต่อรถไฟJR สายต่างๆ
เพราะเราลงเครื่องออกจากเกต ก็นั่ง shuttle bus ของรถเช่าไปที่ outlet ทำการรับรถโยนกระเป๋าเข้าท้ายรถเที่ยวได้เลย
จะหยิบของอะไรที่อยู่ในกระเป๋าก็หยิบได้ไม่ต้องแยกออกมาใส่กระเป๋าใบเล็กก่อน
ที่ผมต้องวางแผนขับรถเที่ยวเพราะโจทย์ของผมคือ คุณพ่อกับคุณแม่ ที่อายุวันเกษียณแล้ว
จะให้มาเดินต่อรถไฟ ลากกระเป๋าเดินทางก็ดูจะลำบากไปนิดนึงครับ สรุปทริปนี้เช่ารถขับ 1 คัน ไปกัน 4 คน
ทำแผนก่อนเดินทาง
แน่นอนว่าการขับรถเที่ยวนั้นต้องมีการวางแผนการขับรถก่อนอย่างคร่าวครับ สำหรับเวลาที่ใช้ขับรถ เวลาเที่ยวที่ต่างๆ
รวมถึงที่พักที่มีที่จอดรถฟรีหรือเปล่า เพื่อจะได้ไม่เป็นการเสียเวลาดูป้ายว่าใช่หรือไม่ใช่ที่ที่ต้องการจะไป
ทริปนี้ของผมเกี่ยวกับการเลือกที่พักหรือจุดจอดรถตามสถานที่เที่ยวต่างๆ เกิดจากการวางแผนของผมเอง
อาจจะไม่ตรงกับท่านที่เคยมาทำทริปขับรถมาก่อน ก็สามารถมาแชร์กันได้ครับ
เอกสารที่จำเป็นสำหรับขับรถเที่ยว
1. พาสปอร์ต อันนี้ต้องพกทุกคนอยู่แล้ว
2. เอกสารใบขับขี่สากล วิธีการขอไปค้นหากระทู้ในพันทิปได้เลยครับ มีคนทำไว้ค่อนข้างละเอียด
แนะนำว่าทำไว้หลายๆคนเผื่อพลัดเปลี่ยนกันขับคนละวันได้ครับ การเลือกบริษัทรถเช่าผมเลยเลือกเจ้าที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม
สำหรับคนขับที่ 2 และ 3 ซึ่งผมใช้บริการของ Times car rental ครับ จากนั้นก็มาวางแผนที่เที่ยว และเวลาลงเครื่องให้สัมพันธ์กัน
เพี่อจะได้ไม่เสียเวลามานั่งหาเส้นทางหรือรอเวลารับรถ ฉะนั้นต้องมีตั๋วเครื่องบินที่รู้เวลาเครื่องลงที่สนามบิน จะได้วางแผนถูก
แผนของผมก็ตามตารางด้านล่างเลยครับ
แผนนี้ปรับเปลี่ยนได้เนื่องจากเรามีรถอยู่กับตัว กระทู้นี้จะพูดถึงเฉพาะวันที่ขับรถเท่านั้น จะตัดออกหรือเพิ่มที่เที่ยวแล้วแต่เราครับ
เรื่อง pocket wifi อยากบอกว่าค่อนข้างสำคัญครับ นอกจากไว้ใช้โซเชียลแล้ว ยังได้ใช้เวลาหาข้อมูลต่างๆเผื่อมีการเปลี่ยนแปลงเส้นทาง
และจะได้มีเนตไว้นำทางครับ ถึงจะมี gps ให้มาในรถก็เถอะเผื่อไว้ก่อนครับ ส่วน pocket wifi เลือกเจ้าไหนก็แล้วแต่สะดวกเลยครับ
ของผมเลือกที่เค้ามีบริการส่งให้ที่สนามบินครับ รับและคืนที่สนามบินสะดวกที่สุด
การนำทางผมใช้แอพ google maps ร่วมกับ Maps.me ครับ เราสามารถปักหมุดที่เราจะไปเที่ยวล่วงหน้าจากประเทศไทยในแอพได้ด้วย
การจองรถ
จากการค้นหารีวิวหลายๆท่าน ผมเลือกใช้เจ้าที่น่าจะถูกที่สุดคือ https://www2.tocoo.jp/en/
1. เมื่อเข้าหน้าเวบ เลือก pick up date&time ก็กะเอาเวลาลงเครื่อง กับ return date&time ขอให้เลือกคืนรถที่เดียวกับตอนเช่า
กับคืนเวลาเดียวกันไปเลยครับ เช่นรับรถเช้า คืนรถเช้าของอีกวัน เพราะยังไงเค้าก็คิดเต็มวันอยู่ดีในกรณีที่เกินวันเต็มๆมา
2. เลือกสถานที่รับรถ ก็เป็นสนามบินที่เครื่องเราลง จากนั้นเลือก size รถ กับ campaign ก็เลือกขนาดรถที่เราต้องการ
เที่ยวตามเส้นทางนี้ไม่จำเป็นต้องใช้รถสมรรถนะสูงครับ ผมเช่าขนาด compact ก็เพียงพอแล้ว
กับเลือกแคมเปญ ToCoo! ETC card plan ไปด้วยเลย ที่ให้เลือกแคมเปญ ETC card plan นั้นเพราะสะดวกมากจริงๆ
เหมือน easy pass บ้านเรา ไม่ต้องเสียเวลาคอยจ่ายเงินรับเงินทอนเดี๋ยวเค้าชาร์จบัตรเครดิตเราเอง แล้วก็มีส่วนลดด้วยถ้าใช้บัตร ETC
3. เลือก option ให้ติ๊กช่อง multilingual gps ด้วย จากนั้นกด search ที่นี้ตัวเลือกที่ปรากฎขึ้นมาก็จะเป็น
English GPS + ToCoo! ETC card Plan ก็เลือกรถเลือกยี่ห้อรถเช่าตามต้องการครับ รายละเอียดการกรอกข้อมูลต่อจากนั้นน่าจะทำกันได้
ปล จำเป็นต้องมีใบขับขี่สากลก่อนทำการจอง เพราะเค้าให้กรอกเลขใบขับขี่สากลด้วย ก็เอาเลขมุมบนขวามากรอกตอนจองรถนี่แหละ
เมลตอบรับจากสองบริษัท
หนึ่งคือ เมลจากบริษัทที่เราเช่ารถ ในกรณีผมเป็น Times car rentalก็ปริ๊นหรือจดเลขอ้างอิงเอาไว้ตอนไปยื่นเคาเตอร์รับรถ
สองคือ เมลจาก Tocoo! ที่เราเช่า ETC card พอเราลงเครื่อง ออกจาก ตม ให้ไปรับ ETC card ก่อน
ตามสถานที่ที่เราระบุตอนจองที่ให้กรอกรายละเอียดตอนเช่ารถนั่นแหละครับ
ให้เราเลือกว่าเราจะรับ ETC card ที่สนามบินเลย จะได้เอาไปใช้กับรถได้เลย
กรณีนี้ผมลงที่นาริตะ เค้าจะส่งพัสดุไปรษณีย์มาฝากไว้ที่ทำการไปรษณีย์ชั้น 3 ของสนามบิน ก่อนผมเดินทาง 1 วัน
พอออกจาก ตม. รับกระเป๋า เราก็เอาเลขอ้างอิงที่ได้จากเมล Tocoo! ไปบอกเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ แล้วรับซองนั้นมาครับ
ข้างในจะมี ETC card วิธีการใช้ และซองไปรษณีย์ระบุที่อยู่ส่งกลับ เอาไว้ส่งคืนการ์ดทางตู้ไปรษณีย์ครับ
ถ้ากลับสนามบินเดิมก็เอาการ์ดใส่ซองที่เค้าให้มา ปิดผนึกแล้วหยอดตู้ไปรษณีย์ก่อนขึ้นเครื่องกลับนั่นแหละครับ
เพราะที่ทำการไปรษณีย์อยู่ชั้นเดียวกับ departure hall เลย
การรับรถ (กรณีนี้พูดถึงเฉพาะที่นาริตะ)
หลังจากลงเครื่อง ผ่านตรวจคนเข้าเมือง ออกจากช่องรับกระเป๋า ขึ้นไปเอาพัสดุไปรษณีย์ที่ชั้น 3 ของสนามบินก่อนนะครับ
เพื่อไปเอา ETC card ยื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ดู เค้าก็จะไปหาพัสดุที่จ่าหน้าถึงเรา รับเสร็จแล้วก็ไปเคาเตอร์รถเช่าจะอยู่ที่ terminal2
จริงๆออกจากโซนรับกระเป๋าที่ terminal2 เคาเตอร์รถเช่าจะอยู่ขวามือ เดินไปไม่ถึง 50 เมตร
แต่ที่ต้องไปเอา ETC card ก่อนเพราะถ้าไปเคาเตอร์รับรถแล้วเค้าจัด shuttle bus มารับพอดี จะไม่มีเวลาไปรับ ETC card
ส่วนเรื่องประกันอุบัติเหตุ ตั้งแต่จองที่ไทยจะมีประกันพื้นฐานอยู่แล้ว แต่เค้าจะถามว่าจะทำเพิ่มความคุ้มครองไหม อันนี้แล้วแต่เรา
ของผมเลือกเพิ่มไปอีกขั้นนึง ไม่ได้เลือกคุ้มครองสูงสุด
จากนั้นเค้าก็แจ้งยอด จะจ่ายสดหรือรูดบัตรก็ได้ตามสะดวกครับ แล้วเค้าจะให้เรานั่งรอรถตู้รับส่ง
สักครู่ก็มารับเราไปรับรถที่ outlet เช็คสภาพรถ อย่าลืมเอาการ์ด ETC ส่งให้เค้าใส่กับเครื่องส่งสัญญาณในรถให้ด้วยนะครับ
เพราะถ้าเสียบเองเราจะไม่รู้ว่าใส่ถูกหรือผิดด้านและพร้อมใช้งานหรือไม่ และเครื่องมันจะพูดเป็นภาษาญี่ปุ่นออกมาซึ่งเราฟังไม่ออก
จากนั้นเค้าก็สอนการใช้ gps นิดหน่อย มันพีคตรงที่สอนไปก็จำไม่ได้เพราะตัวอักษรใน gps ก็เป็นภาษาญี่ปุ่น
ถึงแม้ว่าเสียงนำทางเป็นภาษาอังกฤษ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลย 555 เงิบเลย อ่านไม่ออก
ดีที่เราทำการบ้านมาดี เปิด google maps ให้ดูว่าจะไปตรงนี้ แล้วให้เค้าเซตไว้ให้เฉพาะจุดแรกจุดเดียวพอ จะได้ไม่เสียเวลาเดินทางครับ
ส่วนจุดอื่นๆ เราก็ค่อยงมหาเอา จะใช้ google map นำทางเลยก็ได้ จากนั้นก็ออกเดินทางได้เลย
ตลอดทริปให้ใช้ express way ไม่งั้นเสียเวลามากๆ มี ETC card แล้ว ใช้ไปเลยค่อยกลับมาเคลียร์บิลทีหลัง 555
แอบอึ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นค่าทางด่วนหักผ่านบัตรเครดิตทั้งที่เตรียมใจไว้แล้วว่าแพง เค้าจะหักมัดจำค่าทางด่วนกับบัตรไว้ที่ 15,000 เยน ครับ
ถ้าใช้ไม่ถึงก็หักคืนตามใช้จริง
ต่อไปจะเป็นการอธิบายการขับรถไปในแต่ละที่เที่ยวครับ