ทุกทริปที่ไป #ญี่ปุ่น 🇯🇵 แอนเช่ารถขับทุกครั้ง วันนี้ขอเล่าเรื่อง #การเช่ารถขับเที่ยวเองในญี่ปุ่น นับเป็นประสบการณ์ที่สนุกมากและเหนื่อยมากๆ
เลยกับหลงเรื่องธรรมดามาก 🤣
เคยขับทั้งในคันไซ และคันโต.... ไปหลายเมือง หลายที่เหมือนกัน อาทิ โอซากา วาคายามา มิเอะ นาโงย่า โทยามา กำแพงหิมะทาเทยามา ชิราคาวาโก โกเบ เกียวโต นาริตะ โตเกียว ทะเลสาบทั้ง 5 แถวฟูจิ นิกโก้ ฮาโกเน่ โอวากุดานิ โอดาวาระ คามาคุระ โยโกฮามา คาวาซากิ 😬
ข้อดีของการขับรถเอง คือ ได้ไปที่ทัวร์ไม่พาไป บางสถานที่จะสวยเป็นเวลาเท่านั้น เช่น ที่ตรงนี้สวยตอน 6 โมงเย็น ไม่มีทัวร์ไหนพาลูกค้าไปนั่งริมทะเลเฝ้าพระอาทิตย์ตกน้ำคาตาแบบนี้นะคะ
บางที่ก็ไกลเกินไป ผลาญน้ำมันรถไปมากมาย เพื่อไปหาเสายักษ์ต้นเดียว มันไม่คุ้มค่าใช้จ่ายทัวร์... แต่ถ้าใครใจรัก ชอบดั้นด้น ชอบลำบาก ชอบปวดหัวในการค้นหาข้อมูลนานล่วงหน้าหลายเดือน ชอบทะเลาะกับ GPS และเพื่อนร่วมทาง แต่สามารถกลับมาดีกันเหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น ก็ขับเถอะค่ะ 😅
อันดับแรก เราต้องมีใบขับขี่สากลค่ะ ทำง่ายนิดเดียว แค่เอาใบขับขี่ไทยไปยื่นพร้อมเงิน 505 บาท และรูป 2 ใบ ที่กรมการขนส่งทางบก ก็ได้แล้ว (ทำใบขับขี่เสร็จเร็วกว่าลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวอีกนะ)
อันดับ 2 ก็ไปเลือกรถว่าจะเอารุ่นไหน เช่ากี่วัน เลือกเอาที่เราพอใจที่สุด แอนแนะนำดูเข้าไปเลือกศึกษาข้อมูลจาก www.rentalcars.com ราคาเค้าคิดเป็นวัน ถ้ารถยนต์ธรรมดาก็ประมาณวันละไม่ถึง 2,000 บาท มากน้อยขึ้นกับรุ่นรถและ season
ราคาตามภาพคือ รถ 8 ที่นั่ง 6 วัน ตกวันละประมาณ 4,000 บาท ถ้าคิดแบบง่ายๆ คือ ค่ารถส่วนตัวประมาณ 500 บาทต่อวัน/ต่อคน ไปถึงทุกที่แบบไม่ต้องเดินเยอะเหมือนนั่งรถไฟกับรถบัส
สิ่งที่สำคัญมาก คือ การซื้อประกันแบบ full protection อย่าขี้เหนียวเรื่องนี้ หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน จะได้ไม่ลำบาก
บริษัทรถเช่าส่วนใหญ่มี counter ในสนามบิน พอลงเครื่องก็ไปที่ counter...... แต่บางบริษัทก็ไม่มี counter ต้องโทรนัดนะเธอ #ทริปโตเกียวแอนได้รู้ว่าBudgetไม่มีcounterต้องโทรตามกันอลหม่าน #ควรเลือกบริษัทรถเช่าที่มีcounterในสนามบิน
Budget ที่นาริตะต้องโทรและไปนัดเจอกันด้านนอกสนามบินแบบนี้ ดีนะที่สีเสื้อเหลืองของแอนมันเด่นมาก เดินไปไหนคนก็ต้องเห็น หากันเจอได้ง่าย 🤣
บางสนามบิน เช่น Kansai มีอู่จอดรถเช่าของบางบริษัทในสนามบินเลย รับส่งง่าย ถ้ามีแบบนี้ก็ควรเลือก เวลารับส่งง่ายดี...... แต่ที่ Narita ไม่มีบริษัทไหนมีที่จอดรถในสนามบินเลยนะฮะ 😅 เมื่อลงเครื่องแล้ว ให้ไปรับรถตามเวลานัดที่ counter แล้วเค้าก็จะพาไปรับรถ ตรวจความเรียบร้อยรอบคัน แล้วก็มอบกุญแจ
ถ้าเจอแบบนาริตะ ก็ขึ้นรถตู้กับเค้าไปสัก 10 นาทีเพื่อไปรับรถที่อู่ข้างนอก
ก็จะมีออฟฟิศเล็กๆ แบบนี้... ตอนคืนรถ ก็มาคืนที่นี่ แล้วเค้าก็จะไปส่งที่สนามบิน
ไม่ว่านั่งหน้าหรือหลัง ก็ให้คาดเข็มขัดนะฮะ
#ตั้งสติก่อนสตาร์ท GPS ในรถเป็นภาษาญี่ปุ่น ถ้าเธออ่านญี่ปุ่นไม่ได้ จงพกมือถือที่มี Google maps ไปเอง.... วิธีการใช้ GPS ที่ญี่ปุ่น นอกจากจะพิมพ์ชื่อปลายทางที่อยากไป เธอสามารถพิมพ์เบอร์โทรปลายทางแล้วขับไปได้เลย
ถ้าขับรถไปโดยใช้ GPS ญี่ปุ่นที่ติดรถมาให้ แล้วอยากกดเปลี่ยนเส้นทางหรืออื่นใด มันทำไม่ได้นะเธอ.... ต้องจอดรถให้สนิท เธอถึงจะกด GPS ได้
พวงมาลัยขวา ขับเลนซ้ายเหมือนขับที่กาญจนบุรีแหละ
ริจะขับรถญี่ปุ่น อย่าขี้เหนียวไม่เช่าบัตรทางด่วนอัตโนมัติ #ETC ค่าเช่า 7 วัน ประมาณ 200-300 บาท วิ่งผ่านได้ทุกด่าน ข้อดีคือไม่ต้องหยุดจ่ายเงิน ไม่เสียเวลานับเงิน และก็บางทีเธอก็ไม่มีเงิน 555+++
แล้วพอคืนรถ เค้าจะปริ้นค่าทางด่วนทั้งหมดมาให้ดูและตัดบัตรเครดิต ทริปแรกแอนขับ 2,000 กม. ค่าทางด่วนประมาณ 10,000 บาทจ้า 😂 จากนั้นมาก็ไปได้ทุกที่อย่างสบายใจไร้กังวล เพราะคิดว่ามันคงไม่แพงไปกว่านี้แล้ว 😬
ถ้าไปเที่ยวนอกเมือง หรือบ้านนอก ส่วนใหญ่ที่จอดรถฟรี หรือจ่ายก็ไม่แพง ขับสนุกมากจ้า ที่จอดรถสะอาดปลอดภัย ดีงามทุกที่
แต่ถ้าเธอขับในเมือง เช่น โตเกียว โอซาก้า การหาที่จอดรถได้คือที่สุดของความสำเร็จ #แปลว่าเธอเป็นคนเพี้ยนที่มีความบากบั่นมาก เพราะแต่ละตึกหาที่จอดรถยากมาก และมีการจำกัดขนาดกับความสูงของรถ
ถ้าขึ้นตึกไม่ได้ ก็ต้องส่อง google maps ว่าแถวๆ ที่จะไป มันมีที่จอดรถแบบบนพื้นไม่จำกัดขนาดรถไหม ค่าปรับเรื่องที่จอดรถโหดสัส เป็นหมื่นบาท อย่าจอดซี้ซั้วนะเธอ
ไม่ว่าเธอจะมาถูกเลน หรือของเธอเป็นไฟเขียว ถ้าเจอคนเดิน เธอมีหน้าที่หยุด #อย่างเคร่งครัด.... เลี้ยวซ้ายไม่ได้ผ่านตลอดนะเธอ นอกจากจะมีป้ายบอกเท่านั้น
เวลาเติมน้ำมัน ก็มีแบบให้พนักงานเติมให้ หรือเราหยอดตู้เติมเองก็ได้.... แนะนำให้เติมเอง เพราะนอกจากมันจะถูกกว่า เราจะมีรูปเติมน้ำมันเองอวดเพื่อน 😬
ปั๊มไม่ได้เปิด 24 ชม. นะเธอ กรุณาวางแผนให้ดี น้ำมันหมดกลางคืนไม่รู้ด้วยนะ
ขับๆ ไป ถ้ามัวแต่มองวิวหรือหลับใน แล้วออกนอกเลน มันมีเสียงเตือนปี๊บๆ ให้เธอตื่นจากภวังค์ ไม่ต้องตกใจ แค่หักพวงมาลัยกลับเข้ามาในเลน
Google maps ใช้ได้ดีเกือบทุกที่ ขึ้นเขาก็ไม่ค่อยมีปัญหา #ยกเว้น.....
เวลาขับในอุโมงค์ใต้น้ำ ไม่มีอะไรช่วยบอกทางได้เลย ยกเว้นสติและดวง 😂
ริมถนนบางจุดให้จอดรถได้ และต้องเดินหาตู้จ่ายค่าที่จอด อย่าทำเนียนไม่จ่าย เดี๋ยวเสียชื่อคนไทย
ควรมีเสบียงอาหารเครื่องดื่มติดรถนะคะ เลยกับหลงไปไกล หรือหาที่จอดรถไม่ได้ หิวตายนะคะ... แอนเคยได้ทานกลางวันตอนเกือบ 2 ทุ่ม แทบตายเลย 😂
ถ้าฟังแล้วโอเค ก็เชิญไปขับค่ะ... แต่ถ้าฟังแล้วเหนื่อย ก็ไปนั่งรถไฟดีกว่า
หรือไปรถบัสก็สนุกดี #ถ้าไม่ใช่คนอดทนมากหรือดื้อมาก แอนว่าอย่าขับเลยค่ะ มันเหนื่อยมากจริงๆ นะ ...
แต่ทริปหน้าตุลาคมที่ฮอกไกโด แอนก็เช่ารถบ้าน campervan แบบค่ำไหนนอนนั่นไว้แล้วนะ 😬 ลิงค์นี้คือข้อมูลรถบ้านที่เตรียมไว้แล้ว
https://www.facebook.com/286103898500668/posts/687724051671982/
ใครสนใจฝากติดตามเพจด้วยนะคะ FB :
https://www.facebook.com/OneLifeLiveItNow/
ส่วนข้อมูลการท่องเที่ยวอีกมากมายที่แอนได้ไปสัมผัสมาเอง เรียงเป็นหมวดหมู่อยู่ในนี้ค่ะ
https://www.facebook.com/286103898500668/posts/685859215191799/
ถ้าถูกใจ ฝากกดไลค์/ติดตามเพจด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
https://www.facebook.com/OneLifeLiveItNow/
เช่ารถ ขับรถเที่ยวเอง @ญี่ปุ่น
เลยกับหลงเรื่องธรรมดามาก 🤣
เคยขับทั้งในคันไซ และคันโต.... ไปหลายเมือง หลายที่เหมือนกัน อาทิ โอซากา วาคายามา มิเอะ นาโงย่า โทยามา กำแพงหิมะทาเทยามา ชิราคาวาโก โกเบ เกียวโต นาริตะ โตเกียว ทะเลสาบทั้ง 5 แถวฟูจิ นิกโก้ ฮาโกเน่ โอวากุดานิ โอดาวาระ คามาคุระ โยโกฮามา คาวาซากิ 😬
ข้อดีของการขับรถเอง คือ ได้ไปที่ทัวร์ไม่พาไป บางสถานที่จะสวยเป็นเวลาเท่านั้น เช่น ที่ตรงนี้สวยตอน 6 โมงเย็น ไม่มีทัวร์ไหนพาลูกค้าไปนั่งริมทะเลเฝ้าพระอาทิตย์ตกน้ำคาตาแบบนี้นะคะ
บางที่ก็ไกลเกินไป ผลาญน้ำมันรถไปมากมาย เพื่อไปหาเสายักษ์ต้นเดียว มันไม่คุ้มค่าใช้จ่ายทัวร์... แต่ถ้าใครใจรัก ชอบดั้นด้น ชอบลำบาก ชอบปวดหัวในการค้นหาข้อมูลนานล่วงหน้าหลายเดือน ชอบทะเลาะกับ GPS และเพื่อนร่วมทาง แต่สามารถกลับมาดีกันเหมือนไม่มี อะไรเกิดขึ้น ก็ขับเถอะค่ะ 😅
อันดับแรก เราต้องมีใบขับขี่สากลค่ะ ทำง่ายนิดเดียว แค่เอาใบขับขี่ไทยไปยื่นพร้อมเงิน 505 บาท และรูป 2 ใบ ที่กรมการขนส่งทางบก ก็ได้แล้ว (ทำใบขับขี่เสร็จเร็วกว่าลวกเส้นก๋วยเตี๋ยวอีกนะ)
อันดับ 2 ก็ไปเลือกรถว่าจะเอารุ่นไหน เช่ากี่วัน เลือกเอาที่เราพอใจที่สุด แอนแนะนำดูเข้าไปเลือกศึกษาข้อมูลจาก www.rentalcars.com ราคาเค้าคิดเป็นวัน ถ้ารถยนต์ธรรมดาก็ประมาณวันละไม่ถึง 2,000 บาท มากน้อยขึ้นกับรุ่นรถและ season
ราคาตามภาพคือ รถ 8 ที่นั่ง 6 วัน ตกวันละประมาณ 4,000 บาท ถ้าคิดแบบง่ายๆ คือ ค่ารถส่วนตัวประมาณ 500 บาทต่อวัน/ต่อคน ไปถึงทุกที่แบบไม่ต้องเดินเยอะเหมือนนั่งรถไฟกับรถบัส
สิ่งที่สำคัญมาก คือ การซื้อประกันแบบ full protection อย่าขี้เหนียวเรื่องนี้ หากเกิดเหตุไม่คาดฝัน จะได้ไม่ลำบาก
บริษัทรถเช่าส่วนใหญ่มี counter ในสนามบิน พอลงเครื่องก็ไปที่ counter...... แต่บางบริษัทก็ไม่มี counter ต้องโทรนัดนะเธอ #ทริปโตเกียวแอนได้รู้ว่าBudgetไม่มีcounterต้องโทรตามกันอลหม่าน #ควรเลือกบริษัทรถเช่าที่มีcounterในสนามบิน
Budget ที่นาริตะต้องโทรและไปนัดเจอกันด้านนอกสนามบินแบบนี้ ดีนะที่สีเสื้อเหลืองของแอนมันเด่นมาก เดินไปไหนคนก็ต้องเห็น หากันเจอได้ง่าย 🤣
บางสนามบิน เช่น Kansai มีอู่จอดรถเช่าของบางบริษัทในสนามบินเลย รับส่งง่าย ถ้ามีแบบนี้ก็ควรเลือก เวลารับส่งง่ายดี...... แต่ที่ Narita ไม่มีบริษัทไหนมีที่จอดรถในสนามบินเลยนะฮะ 😅 เมื่อลงเครื่องแล้ว ให้ไปรับรถตามเวลานัดที่ counter แล้วเค้าก็จะพาไปรับรถ ตรวจความเรียบร้อยรอบคัน แล้วก็มอบกุญแจ
ถ้าเจอแบบนาริตะ ก็ขึ้นรถตู้กับเค้าไปสัก 10 นาทีเพื่อไปรับรถที่อู่ข้างนอก
ก็จะมีออฟฟิศเล็กๆ แบบนี้... ตอนคืนรถ ก็มาคืนที่นี่ แล้วเค้าก็จะไปส่งที่สนามบิน
ไม่ว่านั่งหน้าหรือหลัง ก็ให้คาดเข็มขัดนะฮะ
#ตั้งสติก่อนสตาร์ท GPS ในรถเป็นภาษาญี่ปุ่น ถ้าเธออ่านญี่ปุ่นไม่ได้ จงพกมือถือที่มี Google maps ไปเอง.... วิธีการใช้ GPS ที่ญี่ปุ่น นอกจากจะพิมพ์ชื่อปลายทางที่อยากไป เธอสามารถพิมพ์เบอร์โทรปลายทางแล้วขับไปได้เลย
ถ้าขับรถไปโดยใช้ GPS ญี่ปุ่นที่ติดรถมาให้ แล้วอยากกดเปลี่ยนเส้นทางหรืออื่นใด มันทำไม่ได้นะเธอ.... ต้องจอดรถให้สนิท เธอถึงจะกด GPS ได้
พวงมาลัยขวา ขับเลนซ้ายเหมือนขับที่กาญจนบุรีแหละ
ริจะขับรถญี่ปุ่น อย่าขี้เหนียวไม่เช่าบัตรทางด่วนอัตโนมัติ #ETC ค่าเช่า 7 วัน ประมาณ 200-300 บาท วิ่งผ่านได้ทุกด่าน ข้อดีคือไม่ต้องหยุดจ่ายเงิน ไม่เสียเวลานับเงิน และก็บางทีเธอก็ไม่มีเงิน 555+++
แล้วพอคืนรถ เค้าจะปริ้นค่าทางด่วนทั้งหมดมาให้ดูและตัดบัตรเครดิต ทริปแรกแอนขับ 2,000 กม. ค่าทางด่วนประมาณ 10,000 บาทจ้า 😂 จากนั้นมาก็ไปได้ทุกที่อย่างสบายใจไร้กังวล เพราะคิดว่ามันคงไม่แพงไปกว่านี้แล้ว 😬
ถ้าไปเที่ยวนอกเมือง หรือบ้านนอก ส่วนใหญ่ที่จอดรถฟรี หรือจ่ายก็ไม่แพง ขับสนุกมากจ้า ที่จอดรถสะอาดปลอดภัย ดีงามทุกที่
แต่ถ้าเธอขับในเมือง เช่น โตเกียว โอซาก้า การหาที่จอดรถได้คือที่สุดของความสำเร็จ #แปลว่าเธอเป็นคนเพี้ยนที่มีความบากบั่นมาก เพราะแต่ละตึกหาที่จอดรถยากมาก และมีการจำกัดขนาดกับความสูงของรถ
ถ้าขึ้นตึกไม่ได้ ก็ต้องส่อง google maps ว่าแถวๆ ที่จะไป มันมีที่จอดรถแบบบนพื้นไม่จำกัดขนาดรถไหม ค่าปรับเรื่องที่จอดรถโหดสัส เป็นหมื่นบาท อย่าจอดซี้ซั้วนะเธอ
ไม่ว่าเธอจะมาถูกเลน หรือของเธอเป็นไฟเขียว ถ้าเจอคนเดิน เธอมีหน้าที่หยุด #อย่างเคร่งครัด.... เลี้ยวซ้ายไม่ได้ผ่านตลอดนะเธอ นอกจากจะมีป้ายบอกเท่านั้น
เวลาเติมน้ำมัน ก็มีแบบให้พนักงานเติมให้ หรือเราหยอดตู้เติมเองก็ได้.... แนะนำให้เติมเอง เพราะนอกจากมันจะถูกกว่า เราจะมีรูปเติมน้ำมันเองอวดเพื่อน 😬
ปั๊มไม่ได้เปิด 24 ชม. นะเธอ กรุณาวางแผนให้ดี น้ำมันหมดกลางคืนไม่รู้ด้วยนะ
ขับๆ ไป ถ้ามัวแต่มองวิวหรือหลับใน แล้วออกนอกเลน มันมีเสียงเตือนปี๊บๆ ให้เธอตื่นจากภวังค์ ไม่ต้องตกใจ แค่หักพวงมาลัยกลับเข้ามาในเลน
Google maps ใช้ได้ดีเกือบทุกที่ ขึ้นเขาก็ไม่ค่อยมีปัญหา #ยกเว้น.....
เวลาขับในอุโมงค์ใต้น้ำ ไม่มีอะไรช่วยบอกทางได้เลย ยกเว้นสติและดวง 😂
ริมถนนบางจุดให้จอดรถได้ และต้องเดินหาตู้จ่ายค่าที่จอด อย่าทำเนียนไม่จ่าย เดี๋ยวเสียชื่อคนไทย
ควรมีเสบียงอาหารเครื่องดื่มติดรถนะคะ เลยกับหลงไปไกล หรือหาที่จอดรถไม่ได้ หิวตายนะคะ... แอนเคยได้ทานกลางวันตอนเกือบ 2 ทุ่ม แทบตายเลย 😂
ถ้าฟังแล้วโอเค ก็เชิญไปขับค่ะ... แต่ถ้าฟังแล้วเหนื่อย ก็ไปนั่งรถไฟดีกว่า
หรือไปรถบัสก็สนุกดี #ถ้าไม่ใช่คนอดทนมากหรือดื้อมาก แอนว่าอย่าขับเลยค่ะ มันเหนื่อยมากจริงๆ นะ ...
แต่ทริปหน้าตุลาคมที่ฮอกไกโด แอนก็เช่ารถบ้าน campervan แบบค่ำไหนนอนนั่นไว้แล้วนะ 😬 ลิงค์นี้คือข้อมูลรถบ้านที่เตรียมไว้แล้ว https://www.facebook.com/286103898500668/posts/687724051671982/
ใครสนใจฝากติดตามเพจด้วยนะคะ FB : https://www.facebook.com/OneLifeLiveItNow/
ส่วนข้อมูลการท่องเที่ยวอีกมากมายที่แอนได้ไปสัมผัสมาเอง เรียงเป็นหมวดหมู่อยู่ในนี้ค่ะ https://www.facebook.com/286103898500668/posts/685859215191799/
ถ้าถูกใจ ฝากกดไลค์/ติดตามเพจด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ https://www.facebook.com/OneLifeLiveItNow/