ทำธุรกิจที่สุจริต แม้นทำยาก ถ้าอยากทำก็ทำได้...
เวลาให้คำแนะนำธุรกิจกับสถานประกอบการบางครั้งผู้ประกอบการก็งงว่าทำไมถึงให้ทำธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไปทั้งๆที่มีวิธีการที่รวดเร็วกว่าที่คนอื่นเขาทำกันเช่น โฆษณามากกว่าความเป็นจริง, เอาของเสียส่งให้ลูกค้า, เอาของเกรด C มาขายแล้วบอกว่าเป็นของเกรด A, ไล่บี้ปิดหนทางคู่แข่งไม่ให้ได้เกิด... เป็นต้น...
ซึ่งส่วนใหญ่ ผมจะแนะนำให้ปรับปรุงตนเอง พัฒนาศักยภาพ รวมถึงการมีความพยายาม ความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจ ซึ่งจะทำธุรกิจได้อย่างช้าๆ ไม่เห็นตัวเงินที่ชัดเจน... ซึ่งเด็กรุ่นใหม่มักจะคิดว่าช้าไปไม่ทันใจและหันไปทำธุรกิจแบบฉาบฉวยให้รวยให้มีเงินก่อนค่อยมาเน้นเรื่องความจริงใจ ซึ่งผมได้แต่บอกว่า ถ้าต้องการความมั่นคงระยะยาว เราต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้าและต่อแนวทางการทำธุรกิจของเรา...
การตลาดฝ่ายดำ แม้นจะได้ผลได้เงินอย่างรวดเร็ว แต่จะทำให้ธุรกิจของเรา อยู่ได้ไม่นาน ชื่อเสียงจะเสีย รวมถึงภาพลักษณ์ขององค์กรและแบรนด์จะเสียไปตามไปด้วย... ซึ่งสิ่งเหล่านี้เมื่อเสียไปแล้วการแก้ไขให้กลับมาดีหรือสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นนั้นยากมากๆ นักการตลาดที่มีประสบการณ์และเก่งๆก็ไม่ชอบที่จะกู้ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ เพราะต้อง ReBraning หรือแก้ไขแนวทางการดำเนินงานกันทั้งองค์กร ซึ่งเป็นเรื่องยาก
ให้คำปรึกษาไป บางองค์กรก็เชื่อ บางองต์กรก็ยังคงทำการตลาดด้านมืดอยู่ ทั้งนี้ เมื่อเตือนแล้วยังทำอีก... จึงต้องปล่อยวาง
การตลาดด้านสว่างเป็นการตลาดตามหลักธรรมแค่อยู่ในศีล 5 ในการทำธุรกิจโอกาสที่จะได้ผลกำไรอย่างรวดเร็วก็ค่อนข้างยาก ยกเว้นโชคช่วยหรือฟลุ๊คจริงๆ แต่ถ้าสามารถอดเปรี้ยวไว้กินหวานได้ก็จะทำให้ลูกค้าและคู่ค้าเชื่อมั่นในความเป็นนักธุรกิจที่ซื่อสัตย์ของเรา...
การตลาดด้านมืดไม่ได้ใส่ใจเรื่องศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม มากนัก โกหกได้ก็โกหก กีดกันคนอื่นได้ก็จะทำ เล่นสกปรกทุกรูปแบบ ขโมยสินค้าคู่แข่งบ้าง ขโมยความคิดบ้าง ทำสินค้าของคู่แข่งให้เสียหายบ้าง ปลอมปนสินค้าบ้าง หรือแม้นแต่พาลูกค้าไปเลี้ยงอบายมุข เหล้า ผู้หญิง ฯลฯ...
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักอ้างว่า ใครๆก็ทำกัน แต่ความเป็นจริงเพราะได้ผลที่รวดเร็วกว่าจึงทำเช่นนั้น..
อยากให้ ผู้ประกอบการในประเทศไทยเรามีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม ให้มากๆ สังคมและการใช้ชีวิตของตนเองจะได้มีความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน เพราะคนไทยที่ทำธุรกิจ ไม่ได้คำนึงถึงศีลธรรม คุณธรรม และ จริยธรรม เราเลยมีแต่ความวุ่นวายกันอยู่เหมือน ณ ตอนนี้...
ทำธุรกิจที่สุจริต แม้นทำยาก ถ้าอยากทำก็ทำได้
เวลาให้คำแนะนำธุรกิจกับสถานประกอบการบางครั้งผู้ประกอบการก็งงว่าทำไมถึงให้ทำธุรกิจแบบค่อยเป็นค่อยไปทั้งๆที่มีวิธีการที่รวดเร็วกว่าที่คนอื่นเขาทำกันเช่น โฆษณามากกว่าความเป็นจริง, เอาของเสียส่งให้ลูกค้า, เอาของเกรด C มาขายแล้วบอกว่าเป็นของเกรด A, ไล่บี้ปิดหนทางคู่แข่งไม่ให้ได้เกิด... เป็นต้น...
ซึ่งส่วนใหญ่ ผมจะแนะนำให้ปรับปรุงตนเอง พัฒนาศักยภาพ รวมถึงการมีความพยายาม ความมุ่งมั่นในการทำธุรกิจ ซึ่งจะทำธุรกิจได้อย่างช้าๆ ไม่เห็นตัวเงินที่ชัดเจน... ซึ่งเด็กรุ่นใหม่มักจะคิดว่าช้าไปไม่ทันใจและหันไปทำธุรกิจแบบฉาบฉวยให้รวยให้มีเงินก่อนค่อยมาเน้นเรื่องความจริงใจ ซึ่งผมได้แต่บอกว่า ถ้าต้องการความมั่นคงระยะยาว เราต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้าและต่อแนวทางการทำธุรกิจของเรา...
การตลาดฝ่ายดำ แม้นจะได้ผลได้เงินอย่างรวดเร็ว แต่จะทำให้ธุรกิจของเรา อยู่ได้ไม่นาน ชื่อเสียงจะเสีย รวมถึงภาพลักษณ์ขององค์กรและแบรนด์จะเสียไปตามไปด้วย... ซึ่งสิ่งเหล่านี้เมื่อเสียไปแล้วการแก้ไขให้กลับมาดีหรือสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้นนั้นยากมากๆ นักการตลาดที่มีประสบการณ์และเก่งๆก็ไม่ชอบที่จะกู้ชื่อเสียงและภาพลักษณ์ เพราะต้อง ReBraning หรือแก้ไขแนวทางการดำเนินงานกันทั้งองค์กร ซึ่งเป็นเรื่องยาก
ให้คำปรึกษาไป บางองค์กรก็เชื่อ บางองต์กรก็ยังคงทำการตลาดด้านมืดอยู่ ทั้งนี้ เมื่อเตือนแล้วยังทำอีก... จึงต้องปล่อยวาง
การตลาดด้านสว่างเป็นการตลาดตามหลักธรรมแค่อยู่ในศีล 5 ในการทำธุรกิจโอกาสที่จะได้ผลกำไรอย่างรวดเร็วก็ค่อนข้างยาก ยกเว้นโชคช่วยหรือฟลุ๊คจริงๆ แต่ถ้าสามารถอดเปรี้ยวไว้กินหวานได้ก็จะทำให้ลูกค้าและคู่ค้าเชื่อมั่นในความเป็นนักธุรกิจที่ซื่อสัตย์ของเรา...
การตลาดด้านมืดไม่ได้ใส่ใจเรื่องศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม มากนัก โกหกได้ก็โกหก กีดกันคนอื่นได้ก็จะทำ เล่นสกปรกทุกรูปแบบ ขโมยสินค้าคู่แข่งบ้าง ขโมยความคิดบ้าง ทำสินค้าของคู่แข่งให้เสียหายบ้าง ปลอมปนสินค้าบ้าง หรือแม้นแต่พาลูกค้าไปเลี้ยงอบายมุข เหล้า ผู้หญิง ฯลฯ...
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักอ้างว่า ใครๆก็ทำกัน แต่ความเป็นจริงเพราะได้ผลที่รวดเร็วกว่าจึงทำเช่นนั้น..
อยากให้ ผู้ประกอบการในประเทศไทยเรามีศีลธรรม คุณธรรม จริยธรรม ให้มากๆ สังคมและการใช้ชีวิตของตนเองจะได้มีความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน เพราะคนไทยที่ทำธุรกิจ ไม่ได้คำนึงถึงศีลธรรม คุณธรรม และ จริยธรรม เราเลยมีแต่ความวุ่นวายกันอยู่เหมือน ณ ตอนนี้...